Knowledge Center

ร้านค้าที่มีออเดอร์เยอะ ๆ เขามีระบบจัดการหลังบ้านอะไรมาช่วย ?

ขายของดี ออเดอร์เยอะ แต่จัดการไม่ไหว ทำไงดี ?

เคยสงสัยกันไหมครับว่าร้านดัง ๆ ออเดอร์เยอะ ๆ เขาจัดการกันยังไง ให้ส่งของถึงลูกค้าทุกคนโดยไม่ผิดพลาดและไม่ตกหล่น แน่นอนครับว่าหากใช้แรงงานคนในการทำงาน ย่อมมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ครับ อาจเพราะหลงลืม หรือเพราะการติดต่อสื่อสารที่คลาดเคลื่อนต่าง ๆ วันนี้ผมมีเทคนิคที่องค์กรส่วนใหญ่ใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาจัดการออเดอร์ไม่ไหว มาบอกเพื่อน ๆ นักธุรกิจครับ

Order Management คืออะไร

Order Management คือ การบริหารจัดการการสั่งซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งครอบคลุมทุกขั้นตอนในการสั่งซื้อ ตั้งแต่ลูกค้ากดสั่งสินค้า จนไปถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการส่งของให้ถึงมือลูกค้า ซึ่งมีความซับซ้อนมาก เพราะในแต่ละขั้นตอนก็มีรายละเอียดและปัญหาแตกต่างกัน กระบวนการทำงานของแต่ละองค์กร อาจจะแตกต่างกัน โดยกระบวนการจัดการคำสั่งซื้อประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ๆ ได้แก่

          1. Placement

          2. Fulfillment

          3. Inventory Management

เมื่อทำธุรกิจ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะพบกับปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในการรับคำสั่งซื้อที่ตกหล่น ข้อมูลหรือสต๊อกสินค้าที่ผิดพลาดในคลังสินค้า หรือ การส่งสินค้าผิดให้ลูกค้า เรื่องเหล่านี้เหมือนจะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร แต่สิ่งเหล่านี้ก็สามารถสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าและอาจจะทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงได้ เพื่อลดปัญหาต่าง ๆ ของการจัดการการสั่งซื้อสินค้า จึงเกิดระบบเพื่อช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น และผิดพลาดน้อยลง อย่างระบบ Order Management System ที่หลายท่านอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว

Order Management System คืออะไร? 

ระบบจัดการคำสั่งซื้อ (Order Management System: OMS) คือ ระบบซอฟต์แวร์ที่ช่วยบริหารจัดการเกี่ยวกับการขายและรายการสั่งซื้อสินค้า ให้สามารถติดตามรายการสั่งซื้อต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในระบบเดียว ซึ่งการทำงานของระบบจะเริ่มต้นเมื่อมีการกรอกคำสั่งซื้อประเภทต่าง ๆ ระบบจะจัดกลุ่มคำสั่งซื้อตามลูกค้า ลำดับความสำคัญ แจกจ่ายสต๊อกสินค้าตามคลังสินค้า และสร้างวันกำหนดส่งตามสัญญา 

โดยปัจจุบันระบบ OMS สามารถเชื่อมต่อกับระบบ API ทำให้สามารถรับออเดอร์จากลูกค้าได้จากหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการรับออเดอร์เอง หรือส่งข้อมูลมาจาก API Marketplace ต่าง ๆ อาทิเช่น Lazada Shopee หรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ที่ผู้ขายลงขายไว้ รวมถึงมีช่องทางการชำระเงินมากมาย ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันนี้สำหรับธุรกิจที่ไม่มีระบบหรือหน้าเว็บเป็นของตัวเอง ก็สามารถหาเว็บไซต์ออนไลน์ที่ให้บริการ ระบบ OMS สำเร็จรูป เพื่อมาช่วยในด้านการจัดการออเดอร์เหล่านี้ได้ หรือหากคุณต้องการมีผู้ช่วยในการเก็บสต๊อกสินค้า จัดออเดอร์สินค้า รวมไปถึงการให้บริการแพ็ค และการจัดส่งสินค้าก็สามารถมองหาบริการ Fulfillment ดี ๆ เพื่อมาช่วยตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้ เพราะนั่นเป็นจุดประสงค์หลักของผู้ให้บริการ Fulfillment ในปัจจุบัน

ข้อดีของ Order Management System (OMS)

เมื่อมีระบบจัดการคำสั่งซื้อที่มีประสิทธิภาพเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการจัดการคำสั่งซื้อและขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการขาย ย่อมเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าและคำสั่งซื้อทั้งหมดไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างทั่วถึง ครบถ้วน และแม่นยำ ซึ่งส่งผลดีต่อการปรับปรุงการจัดการสินค้าคงคลัง การขายสินค้า และการตลาดเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อระบบจัดการเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น จัดการฐานข้อมูล ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ เป็นต้น และการที่ระบบมีการบันทึกข้อมูลคำสั่งซื้อ สามารถเรียกดูประวัติคำสั่งซื้อของลูกค้าได้นั้นช่วยให้ผู้ประกอบการมองเห็นและเข้าใจลูกค้าได้ลึกมากยิ่งขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะใช้ข้อมูลเหล่านี้วิเคราะห์พฤติกรรมหรือความสนใจของลูกค้า เพื่อให้สามารถตอบสนองให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้า สิ่งเหล่านี้ช่วยผู้ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีขึ้น และยังสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์การซื้อที่ดีจากผู้ให้บริการ นี่จะเป็นการสร้างความประทับใจและนำไปสู่การสร้าง Brand loyalty ได้อีกด้วย การใช้ระบบจัดการคำสั่งซื้อ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าการจัดการรายการซื้อขายของธุรกิจของคุณ จะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น

นอกจากการจัดการออเดอร์จะมีระบบ OMS เป็นสำคัญแล้ว ยังมีการเชื่อมโยงกับระบบ TMS อีกด้วย 

Transportation Management System (TMS) ระบบการจัดการการขนส่ง

คือระบบจัดการการขนส่ง ที่จะช่วยบริหารและจัดการการขนส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อถือได้ โดยจะครอบคลุมตั้งแต่การรับออเดอร์ จัดตารางการขนส่ง ส่งรายละเอียดให้กับคนขับ ไม่เพียงเท่านั้นทั้งบริษัทและลูกค้ายังสามารถติดตามสถานะการขนส่งได้แบบเรียลไทม์ ตั้งแต่การจัดส่งต้นทางไปยังปลายทาง และยังสามารถเชื่อมต่อกับ GPS ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยจะรวมไปถึงการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้า และทุกทางในการขนส่งไม่ว่าจะเป็นทางรถบรรทุก เครื่องบิน หรือเรือก็ตาม ทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบต่าง ๆ ได้ เช่น ระบบบาร์โค้ด (Barcode system) หรือ ระบบ RFID เป็นต้น 

ข้อดีของ Transportation Management System (TMS)

TMS นอกจากจะลดความซับซ้อนในการทำงานในเรื่องของการจัดการการขนส่งแล้ว ยังช่วยในเรื่องการประหยัดเวลา และลดค่าใช้จ่าย เพราะ TMS จะช่วยลดขั้นตอนการทำงานได้ เพราะทางระบบจะเก็บข้อมูลที่เป็น Big Data ที่สามารถเรียกดูได้ตลอดเวลา เช่น ข้อมูลลูกค้า สินค้า เส้นทางการขนส่ง ข้อมูลพนักงาน หรือข้อมูลของรถขนส่ง ทำให้ลดต้นทุนและเวลาในเรื่องเหล่านี้ไปได้ อีกทั้งทางบริษัทไม่ต้องมาจัดการในเรื่อง รถ บุคคลากร และเอกสารต่าง ๆ ด้วยตนเอง นอกจากนี้การทำงานของระบบ TMS จะจัดสรรตารางการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อทำงานผ่านระบบแล้วจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ยาก เพราะจะมีการบันทึกข้อมูลทุกขั้นตอน ซึ่งถ้าหากเกิดความผิดพลาดก็จะมีหลักฐานในการตรวจสอบเสมอ

จะเห็นได้ว่าระบบ TMS นั้นมีข้อดีในเรื่องการประหยัดเวลา ต้นทุน และเกิดข้อผิดพลาดได้น้อยกว่าระบบเอกสาร (Manual) ซึ่งในการทำธุรกิจนั้นการเลือกระบบการขนส่งให้เหมาะสมกับขนาดของธุรกิจก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน

การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ให้เราช่วยตอบโจทย์ธุรกิจคุณ ด้วยบริการอำนวยความสะดวกหลังบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการออเดอร์ที่ยุ่งยาก MycloudFulfillment จัดการด้วยระบบการจัดการออเดอร์ของ MyCloud ที่เชื่อมต่อกับ API Marketplace หรือ เว็บไซต์ของคุณ สามารถรวบรวมทุกออเดอร์ทุกช่องทางไว้ในระบบเราที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น Lazada Shopee หรือ JD.com และอีกมากมาย เราอัพเดทสต๊อกตรงกันทุก ๆ MarketPlace แบบ Real-Time อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับ Seller Center และกด Ready to ship ให้อัตโนมัติ มั่นใจได้เลยว่าคุณจะไม่พลาดออเดอร์สำคัญ ๆ และยังเพิ่มโอกาสในการขายอีกด้วย นอกจากนี้เรามีบริการ เก็บ แพ็ค ส่ง ที่พร้อมช่วยธุรกิจของคุณให้ดำเนินไปอย่างไม่มีสะดุด!

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742, 02-138-9920
อีเมล: [email protected]
line: @mycloudgroup
MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก
บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

SLA คืออะไร กับ 3 ตัวชี้วัด Marketplace ที่คนขายออนไลน์จะต้องรู้

ถ้าให้พูดถึงการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ก็คงเป็นช่องทาง Marketplace ที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่างช่องทางการขาย Lazada, Shopee, TikTok Shop ซึ่งแน่นอนว่าการที่ได้รับความสนใจสิ่งที่เพิ่มมากขึ้นตามมาด้วยก็คือการแข่งขันของร้านค้าออนไลน์ใน Marketplace เพราะประเภทสินค้าที่เหมือนกันหรือมีความคล้ายกันก็จะทำให้ผู้ซื้อเกิดการเปรียบเทียบก่อนซื้อ และเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ร้านค้าออนไลน์ควรต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้และทำให้แบรนด์เติบโตได้ในระยะยาว  SLA คือข้อตกลงระดับการให้บริการที่ผู้ขายต้องปฏิบัติตาม ดังนั้น บทความนี้เราจะมาพูดถึงปัจจัยที่เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ร้านค้ามีเรตติ้งคะแนนร้านค้าที่ดีและเป็นส่วนช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อีกด้วยนั้นก็คือ SLA (Service Level Agreement) แน่นอนว่าการมีเรตติ้งร้านค้าที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากความคาดหวังของลูกค้ามีสูงขึ้นเรื่อย ๆ การรักษามาตรฐาน SLA ที่ดีจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ทั้งในเรื่องของความรวดเร็วในการจัดการออเดอร์ไปจนถึงจัดส่ง คุณภาพของสินค้าที่ตรงตามที่ระบุ และการให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จและความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว  SLA คืออะไร?  Service Level Agreement หรือ SLA คือข้อตกลงในการให้บริการระหว่างร้านค้าและแพลตฟอร์มการขาย ซึ่งก็จะเป็นในส่วนข้อตกลงในการให้บริการเพื่อวัดคุณภาพการจัดส่งของร้านค้า การที่ร้านค้าปฏิบัติตามข้อตกลง SLA ของแพลตฟอร์มจะช่วยให้ร้านค้า ไม่โดนคะแนนบทลงโทษ สามารถเข้าร่วมแคมเปญใหญ่ ๆ เพิ่มโอกาสในการขาย และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า SLA ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง  การทำธุรกิจออนไลน์บน Marketplace […]

โลจิสติกส์กุญแจสู่ความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ (Logistics & Online Business)

โลจิสติกส์สำหรับธุรกิจออนไลน์           โลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานมีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจออนไลน์เป็นอย่างมากในยุคที่เทคโนโลยี disrupt ให้พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ธุรกิจต่าง ๆ ต้องมีการปรับตัวอย่างมาก และต้องมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจอยู่เสมอ มีการใช้เทคโนโลยี และการจัดการโลจิสติกส์ ห่วงโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรให้สามารถเเข่งขัน หรืออยู่เหนือคู่แข่งทางธุรกิจ เพื่อเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในอดีตและปัจจุบัน           อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปพร้อม ๆ กับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ ในยุคที่มี Technology มา disrupt ทำให้ธุรกิจออฟไลน์ เปลี่ยนมาลงทุนและแข่งขันบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น กลายเป็น ธุรกิจ E-Commerce ดังนั้นอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์จึงมีการพัฒนาตามไปด้วยอยู่เสมอ เมื่อตลาด E-Commerce เติบโตขึ้น ธุรกิจโลจิสติกส์ต่างแข่งขันกันพัฒนา ด้วยการเพิ่มบริการที่เข้าไปช่วยธุรกิจได้มากขึ้น ทั้งการนำข้อมูลด้านโลจิสติกส์และ supply chain เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาบริการ อาทิ การวางแผนเส้นทางการเดินรถ การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านขนส่ง กระจายสินค้า การใช้ GPS การปรับราคาบริการเพื่อลดต้นทุนให้ธุรกิจได้มากที่สุด หรือจุดเด่นด้านการขนส่ง จึงเน้นความเร็วเป็นหลักอีกด้วย […]

10 สัญญาณ! ถึงเวลาที่ธุรกิจของคุณต้องใช้บริการ “Fulfillment”

10 สัญญาณ! ถึงเวลาที่ธุรกิจของคุณต้องใช้บริการ “Fulfillment”           ขายของออนไลน์จำเป็นต้องใช้บริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าด้วยหรอ ทั้ง ๆ ที่ทำเอง หรือจ้างพนักงานเพื่อแพ็คได้? ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจออนไลน์ที่กำลังขายดีสุด ๆ หรือร้านค้าออฟไลน์ที่ต้องการเพิ่มช่องทางการขายทางออนไลน์มากขึ้น เช็คด่วน! ถ้าธุรกิจกำลังเจอปัญหาเหล่านี้ ควรมองหาบริการ Fulfillment ผู้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจ E-Commerce ในเรื่องของ พื้นที่จัดเก็บสินค้า (คลังสินค้า) การแพ็คสินค้า และการจัดส่งสินค้า เพื่อรองรับสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้นตามยอดขาย รวมถึงมีออเดอร์ที่ต้องแพ็คและส่งมากขึ้นค่ะ 1. มีปัญหาแพ็คผิด ส่งผิดอยู่บ่อยครั้ง            แพ็คผิด ส่งผิด นอกจากจะทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจแล้ว คุณเองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นมูลค่าสินค้า หรือค่าขนส่งวุ่นวายไปอีก ใช้บริการ Fulfillment ให้ช่วยแพ็ค และจัดส่งและสินค้าให้ ด้วยระบบการหยิบแพ็ค และกล้องวงจรปิด รวมถึงความเชี่ยวชาญของพนักงานที่มีประสบการณ์ มั่นใจได้เลยว่าปัญหาแพ็คสินค้าผิดจะหมดไป มีการการันตีไร้ปัญหาส่งของไม่ทัน […]

SLA คืออะไร กับ 3 ตัวชี้วัด Marketplace ที่คนขายออนไลน์จะต้องรู้

ถ้าให้พูดถึงการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ก็คงเป็นช่องทาง Marketplace ที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่างช่องทางการขาย Lazada, Shopee, TikTok Shop ซึ่งแน่นอนว่าการที่ได้รับความสนใจสิ่งที่เพิ่มมากขึ้นตามมาด้วยก็คือการแข่งขันของร้านค้าออนไลน์ใน Marketplace เพราะประเภทสินค้าที่เหมือนกันหรือมีความคล้ายกันก็จะทำให้ผู้ซื้อเกิดการเปรียบเทียบก่อนซื้อ และเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ร้านค้าออนไลน์ควรต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้และทำให้แบรนด์เติบโตได้ในระยะยาว  SLA คือข้อตกลงระดับการให้บริการที่ผู้ขายต้องปฏิบัติตาม ดังนั้น บทความนี้เราจะมาพูดถึงปัจจัยที่เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ร้านค้ามีเรตติ้งคะแนนร้านค้าที่ดีและเป็นส่วนช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อีกด้วยนั้นก็คือ SLA (Service Level Agreement) แน่นอนว่าการมีเรตติ้งร้านค้าที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากความคาดหวังของลูกค้ามีสูงขึ้นเรื่อย ๆ การรักษามาตรฐาน SLA ที่ดีจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ทั้งในเรื่องของความรวดเร็วในการจัดการออเดอร์ไปจนถึงจัดส่ง คุณภาพของสินค้าที่ตรงตามที่ระบุ และการให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จและความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว  SLA คืออะไร?  Service Level Agreement หรือ SLA คือข้อตกลงในการให้บริการระหว่างร้านค้าและแพลตฟอร์มการขาย ซึ่งก็จะเป็นในส่วนข้อตกลงในการให้บริการเพื่อวัดคุณภาพการจัดส่งของร้านค้า การที่ร้านค้าปฏิบัติตามข้อตกลง SLA ของแพลตฟอร์มจะช่วยให้ร้านค้า ไม่โดนคะแนนบทลงโทษ สามารถเข้าร่วมแคมเปญใหญ่ ๆ เพิ่มโอกาสในการขาย และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า SLA ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง  การทำธุรกิจออนไลน์บน Marketplace […]

โลจิสติกส์กุญแจสู่ความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ (Logistics & Online Business)

โลจิสติกส์สำหรับธุรกิจออนไลน์           โลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานมีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจออนไลน์เป็นอย่างมากในยุคที่เทคโนโลยี disrupt ให้พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ธุรกิจต่าง ๆ ต้องมีการปรับตัวอย่างมาก และต้องมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจอยู่เสมอ มีการใช้เทคโนโลยี และการจัดการโลจิสติกส์ ห่วงโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรให้สามารถเเข่งขัน หรืออยู่เหนือคู่แข่งทางธุรกิจ เพื่อเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในอดีตและปัจจุบัน           อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปพร้อม ๆ กับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ ในยุคที่มี Technology มา disrupt ทำให้ธุรกิจออฟไลน์ เปลี่ยนมาลงทุนและแข่งขันบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น กลายเป็น ธุรกิจ E-Commerce ดังนั้นอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์จึงมีการพัฒนาตามไปด้วยอยู่เสมอ เมื่อตลาด E-Commerce เติบโตขึ้น ธุรกิจโลจิสติกส์ต่างแข่งขันกันพัฒนา ด้วยการเพิ่มบริการที่เข้าไปช่วยธุรกิจได้มากขึ้น ทั้งการนำข้อมูลด้านโลจิสติกส์และ supply chain เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาบริการ อาทิ การวางแผนเส้นทางการเดินรถ การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านขนส่ง กระจายสินค้า การใช้ GPS การปรับราคาบริการเพื่อลดต้นทุนให้ธุรกิจได้มากที่สุด หรือจุดเด่นด้านการขนส่ง จึงเน้นความเร็วเป็นหลักอีกด้วย […]

10 สัญญาณ! ถึงเวลาที่ธุรกิจของคุณต้องใช้บริการ “Fulfillment”

10 สัญญาณ! ถึงเวลาที่ธุรกิจของคุณต้องใช้บริการ “Fulfillment”           ขายของออนไลน์จำเป็นต้องใช้บริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าด้วยหรอ ทั้ง ๆ ที่ทำเอง หรือจ้างพนักงานเพื่อแพ็คได้? ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจออนไลน์ที่กำลังขายดีสุด ๆ หรือร้านค้าออฟไลน์ที่ต้องการเพิ่มช่องทางการขายทางออนไลน์มากขึ้น เช็คด่วน! ถ้าธุรกิจกำลังเจอปัญหาเหล่านี้ ควรมองหาบริการ Fulfillment ผู้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจ E-Commerce ในเรื่องของ พื้นที่จัดเก็บสินค้า (คลังสินค้า) การแพ็คสินค้า และการจัดส่งสินค้า เพื่อรองรับสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้นตามยอดขาย รวมถึงมีออเดอร์ที่ต้องแพ็คและส่งมากขึ้นค่ะ 1. มีปัญหาแพ็คผิด ส่งผิดอยู่บ่อยครั้ง            แพ็คผิด ส่งผิด นอกจากจะทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจแล้ว คุณเองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นมูลค่าสินค้า หรือค่าขนส่งวุ่นวายไปอีก ใช้บริการ Fulfillment ให้ช่วยแพ็ค และจัดส่งและสินค้าให้ ด้วยระบบการหยิบแพ็ค และกล้องวงจรปิด รวมถึงความเชี่ยวชาญของพนักงานที่มีประสบการณ์ มั่นใจได้เลยว่าปัญหาแพ็คสินค้าผิดจะหมดไป มีการการันตีไร้ปัญหาส่งของไม่ทัน […]