Knowledge Center

5 ขั้นตอนการเปิดร้านกับ LINE MyShop ผ่าน LINE Shopping Seller 

เริ่มต้นขายของออนไลน์

การขายของออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม LINE ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 50 ล้านคนในประเทศไทย LINE Shopping Seller จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ ด้วยจุดเด่นที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน ระบบการจัดการร้านค้าที่ใช้งานง่ายและฟีเจอร์ที่หลากหลาย ทำให้ผู้ขายสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้ MyCloud จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ LINE MyShop และขั้นตอนการเปิดร้านค้าแบบละเอียด เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นขายสินค้าออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ 

ทำความรู้จักกับ LINE Shopping Seller คืออะไร 

LINE Shopping Seller เป็นระบบร้านค้าออนไลน์ภายใต้แพลตฟอร์ม LINE MyShop ที่ช่วยให้ผู้ขายสามารถเข้าถึงผู้ซื้อบน LINE ได้โดยตรง โดยผู้ขายจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น การใช้งานฟีเจอร์ LINE OA ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือนและเครื่องมือวิเคราะห์ยอดขายแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังมีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัยผ่าน LINE Pay และบัตรเครดิต รวมถึงการจัดส่งสินค้าที่ร่วมมือกับบริษัทขนส่งชั้นนำ ทำให้การซื้อขายเป็นไปอย่างสะดวกและน่าเชื่อถือสำหรับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย 

ขั้นตอนการเปิดร้านค้ากับ LINE SHOPPING 

สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ที่กำลังมองหาช่องทางในการขายของออนไลน์บน แต่ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นเปิดร้านบน LINE Shopping Seller อย่างไร เรามี 5 ขั้นตอนที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้ 

ขั้นตอนการเปิดร้านค้าบน LINE Shopping Seller

1. สมัครและเชื่อมต่อบัญชี LINE OA

สำหรับวิธีสมัครและเชื่อมต่อบัญชี LINE OA ให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน MyShop ก่อน จากนั้นทำตามขั้นตอนดังนี้ได้เลย 

  1. ไปที่แอป MyShop จากนั้นกดสร้างบัญชีทางการ และใส่ข้อมูลรายละเอียดให้ครบถ้วน จากนั้นกดยินยอมข้อตกลงในการใช้บริการ และอ่านรายละเอียดการใช้บัญชี LINE OA 
  2. หลังจากสร้างบัญชี LINE OA เสร็จเรียบร้อย ให้กดเชื่อมต่อบัญชีทางการกับ MyShop จากนั้นระบบจะพาให้เข้าสู่ระบบบัญชี LINE ส่วนตัว จากนั้นให้กดที่เมนู ‘ไปบัญชีทางการ’ เพียงเท่านี้ก็สมัครและเชื่อมต่อบัญชีเสร็จเรียบร้อย

2. ยืนยันตัวตน 

หลังจากเชื่อมต่อ LINE OA เรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะเป็นขั้นตอนในการยืนยันตัวตน เพื่อเริ่มขายของ สามารถทำตามขั้นตอนได้ ดังนี้

  1. ไปที่แอป MyShop จากนั้นกดเข้าสู่เมนู ‘เริ่มขาย’ ระบบจะนำคุณเข้าสู่หน้ากรอกหมายเลขโทรศัพท์ จากนั้นกดขอรหัส OTP 
  2. เมื่อได้รับรหัส OTP ให้กรอกเลขลงไปแล้วให้ทำการยืนยัน เพียงเท่านี้ก็ถือว่ายืนยันตัวสำเร็จแล้ว   

3. เพิ่มตัวอย่างสินค้า 

จากนั้นจะเป็นรายละเอียดสินค้าที่ร้านค้าต้องการขาย สำหรับเจ้าของร้านมือใหม่อย่าเพิ่งตกใจกันไปก่อน ในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนการพิจารณาการอนุมัติร้าน หลังจากสิ้นสุดการเปิดร้านนี้แล้ว สามารถเข้ามาปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มรายการสินค้าได้ในภายหลัง โดยสามารถทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ได้ ดังนี้

  1. ใส่รายละเอียดสินค้า เช่น รูปภาพ ชื่อสินค้า หมวดหมู่ของสินค้า ราคา ฯลฯ อย่างน้อย 1 ราคา จากนั้นให้กดเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป เพื่อกรอกข้อมูลร้านค้าได้เลย 

4. กรอกข้อมูลของร้านค้า 

ในขั้นตอนนี้จะเป็นการกรอกข้อมูลร้านค้าให้ครบถ้วน เพื่อทำการยืนยันการเปิดร้าน สามารถทำตามขั้นตอนได้ ดังนี้

  1. กรอกรายละเอียดข้อมูลร้านค้าให้ถูกต้องและครบถ้วน 
  2. ต่อมาเลือกประเภทบัญชีที่ต้องการ หากเลือกเป็น ‘บัญชีบุคคลธรรมดา’ ระบบจะพาเข้าสู่หน้ารายละเอียด เพื่ออัปโหลดสำเนาบัตรประชาชน กรอกรายละเอียดข้อมูลให้เรียบร้อย สำหรับกรณีที่คุณเลือกเป็น ‘บัญชีนิติบุคคล’ ระบบก็จะเข้าสู่หน้ารายละเอียด เพื่อกรอกข้อมูลและอัปเดตเอกสารของกรรมการผู้มีอำนาจตามหนังสือรับรองบริษัทฯ โดยรายละเอียดต่าง ๆ จะเหมือนกับการเลือกประเภทบัญชีเป็นบุคคลธรรมเลย 
  3. จากนั้นระบบจะให้เลือกที่อยู่ร้านค้า ที่อยู่สำหรับผู้ส่งพัสดุ และกรอกเบอร์โทรศัพท์ของร้านค้าให้เรียบร้อย 
  4. สำหรับประเภทบัญชีนิติบุคคลจะให้บันทึกข้อมูลที่อยู่ สำหรับการออกใบกำกับภาษีด้วย 
  5. ระบบจะให้อัปโหลดสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร เพื่อบันทึกข้อมูลบัญชีที่จะใช้รับเงิน จากนั้นกดเข้าสู่เมนู ‘ข้อมูลบัญชีธนาคาร’ เพื่อกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้เรียบร้อยและกดบันทึก 
  6. หลังจากนั้นให้กด ‘สมัคร’ ระบบจะเข้าสู่หน้าเงื่อนไขและข้อตกลง กดยอดรับและดำเนินการต่อ
  7. เพื่อยืนยันขั้นตอนนี้ ระบบจะทำการยืนยันหมายเลข OTP ผ่านเบอร์โทรศัพท์ที่คุณกรอกลงไป เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว 

5. ตั้งค่าช่องทางการจัดส่งสินค้า 

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายของการทำ LINE Shopping Seller คือการตั้งค่าช่องทางการจัดส่งสินค้า โดยสามารถทำตามขั้นตอนได้ ดังนี้

  1. กด ‘เพิ่มช่องทางการจัดส่ง’ เพื่อเพิ่มรายละเอียดในการจัดส่งพัสดุที่คุณสะดวก 
  2. จากนั้นกดเลือกบริษัทขนส่งที่คุณต้องการให้จัดส่งสินค้าของคุณในขั้นตอนนี้ได้เลย 
จัดการออเดอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขอขอบคุณคลิปวิดีโอจาก Youtube : MyShop by LINE for Business

สรุปบทความ 

สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ LINE MyShop เป็นอีกแพลตฟอร์มที่น่าสนใจ และยังมีขั้นตอนการเปิดร้านที่ไม่ยุ่งยาก เริ่มจากการสมัครและเชื่อมต่อบัญชี LINE OA ผ่านแอป MyShop จากนั้นทำการยืนยันตัวตนด้วยเบอร์โทรศัพท์ เพิ่มตัวอย่างสินค้าอย่างน้อย 1 รายการ กรอกข้อมูลร้านค้าให้ครบถ้วนพร้อมเอกสารประกอบ ไม่ว่าจะเป็นสำเนาบัตรประชาชนหรือเอกสารนิติบุคคล และขั้นตอนสุดท้ายคือการตั้งค่าช่องทางการจัดส่งสินค้า ด้วยระบบที่ใช้งานง่าย ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน พร้อมเครื่องมือจัดการร้านค้าที่ครบครัน ทำให้ผู้ขายสามารถเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ 

เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด MyCloud สามารถเชื่อมต่อกับร้านค้าของคุณบน LINE Shopping ได้ง่าย ๆ ช่วยยกระดับการจัดการหลังบ้านของร้านค้าให้เป็นระบบมากขึ้น โดยจะเชื่อมทุกช่องทางการขายด้วยระบบ API ช่วยจัดการตั้งแต่การดึงออเดอร์จาก LINE Shopping และ Marketplace อื่น ๆ อัปเดตสต๊อกเรียลไทม์ทุก ๆ 3 นาที ช่วยให้ข้อมูลสินค้าถูกต้องแบบเรียลไทม์ ลดปัญหาขายเกินจำนวน พร้อมส่งคำสั่งไปยังขั้นตอนการแพ็คและจัดส่งสินค้าอย่างรวดเร็วอย่างไรก็ตาม สำหรับเจ้าของร้านค้าที่เพิ่งเปิดร้านบน LINE Shop การจัดการหลังบ้านเป็นสิ่งสำคัญ ควรเตรียมระบบให้พร้อมเพื่อรองรับออเดอร์จำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงโปรโมชั่นหรือแคมเปญต่าง ๆ MyCloud ช่วยให้คุณโฟกัสกับการทำการตลาดและพัฒนาสินค้าได้เต็มที่ ลดความเสี่ยงของการบริหารสต๊อกที่ผิดพลาด เช่น Stock Diff หรือ สินค้าในระบบไม่ตรงกับจำนวนจริง และทำให้การจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างแม่นยำ ตรงเวลา สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำได้อย่างมั่นใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

เจ้าของธุรกิจออนไลน์ควรรู้! เปิดร้านขายของใน Shopee เสียค่าอะไรบ้าง?

ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กำลังเฟื่องฟู Shopee กลายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมที่ผู้ประกอบการหลายคนเลือกเป็นช่องทางในการขายสินค้า แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าการขายของใน Shopee มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ผู้ขายต้องจ่ายเมื่อเปิดร้านบน Shopee เพื่อให้คุณสามารถวางแผนธุรกิจและคำนวณต้นทุนได้อย่างแม่นยำ พร้อมแล้วมาดูกันว่าขายของใน Shopee เสียค่าอะไรบ้าง   ขายของใน shopee เสียค่าอะไรบ้าง ก่อนที่จะเริ่มขายสินค้าบน Shopee ผู้ขายควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่จะต้องจ่าย เพื่อให้สามารถตั้งราคาสินค้าได้อย่างเหมาะสมและทำกำไรได้ตามเป้าหมาย มาดูกันว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง   1. ค่าธรรมเนียมจากการขาย การขายของใน Shopee มีค่าธรรมเนียมการขายที่แตกต่างกันตามประเภทของร้านค้าและหมวดหมู่สินค้า ซึ่งทางช้อปปี้จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้จากทั้ง Shopee Seller ที่ลงขายแบบ Mall Sellers และ Non-Mall Sellers นั้น ทางช้อปปี้จะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมเมื่อได้รับคำสั่งซื้อและจัดการคำสั่งซื้อจนเสร็จ ซึ่งจะเก็บค่าธรรมเนียมตามประเภทของสินค้า ดังนี้ หมวดหมู่สินค้า Shopee Mall Seller (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) Non-Mall Seller(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ 9% – 11% 8% สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ […]

ระบบช่วยขายของออนไลน์คืออะไร? หารายชื่อผู้ให้บริการได้ที่นี่

       มีระบบช่วยขายของออนไลน์ด้วยหรอ? คืออะไร? หาคำตอบพร้อมรายชื่อผู้ให้บริการระบบช่วยขายยอดฮิตได้ที่นี่           ระบบช่วยขาย คือระบบขายสินค้าออนไลน์ ที่เกิดมาเพื่อช่วยร้านค้าออนไลน์ในเรื่องของระบบจัดการออเดอร์และสต๊อกสินค้า โดยผู้ให้บริการบางเจ้า ยังครอบคลุมถึงระบบตัวแทนจำหน่าย และ ระบบการขายหน้าร้านอีกด้วย สิ่งเหล่านี้ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขาย ที่เมื่อมีออเดอร์สินค้าจำนวนเยอะขึ้น การบริหารจัดการที่ไม่เป็นระบบ อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับร้านค้าได้ สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ยินชื่อระบบช่วยขาย และยังไม่รู้จักผู้ให้บริการ ไปทำความรู้จักพร้อม ๆ กันข้างล่างนี้ได้เลย        Zort          ผู้ให้บริการระบบช่วยขายที่จะ “ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยระบบที่ดีกว่า” เหมาะกับธุรกิจที่ขายสินค้าผ่านหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น ขายสินค้าผ่านออนไลน์ ออฟไลน์ ตัวแทนจำหน่าย และ ฝากขายหน้าร้าน ที่จะทำให้ผู้ขายประหยัดเวลา และขั้นตอนการทำงาน รวมถึงข้อผิดผลาดที่อาจเกิดขึ้นในการทำงานครับ Zort คลอบคลุมการให้บริการทั้งหมด 6 แบบคือ 1. จัดการออเดอร์ 2. จัดการสต๊อกสินค้าที่แจ้งเตือนสินค้าใกล้หมด และสินค้าจมทุน รวมถึงกำไร และยอดขายในแต่ละวันอีกด้วย […]

ขายของออนไลน์อะไรดี 10 ไอเดียสินค้าโดนใจ ขายง่าย กำไรดี 

การเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ในยุคที่ E-commerce กำลังมาแรงแบบนี้ ถือเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้เสริมหรือทำเป็นอาชีพหลัก แต่คำถามที่มักพบบ่อยคือ “ขายของออนไลน์อะไรดี?” ที่จะสร้างผลกำไรและเติบโตได้อย่างยั่งยืน วันนี้เรามีคำตอบให้คุณ! เราได้รวบรวม 10 ประเภทสินค้าที่มีแนวโน้มทำกำไรดี ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและโอกาสทางการตลาด ให้คุณเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ  10 สินค้าขายดีมาแรงปีนี้!  หากคุณกำลังคิดว่าขายของออนไลน์อะไรดี สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกสินค้าที่ใช่ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง มาดูกันว่าสินค้าประเภทไหนที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโตในตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ ดังนี้  1. เสื้อผ้า และสินค้าแฟชั่น  เสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นยังคงครองแชมป์สินค้าขายดีในตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายในการช้อปปิ้ง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่มีดีไซน์โดดเด่น ทันสมัย อย่างเช่น กางเกงยีนส์ ชุดกีฬาและเสื้อผ้าแฟชั่นที่อยู่ในกระแส นอกจากนี้ การเพิ่มมูลค่าด้วยการสร้างแบรนด์และการถ่ายภาพสินค้าที่ดึงดูดใจ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายของออนไลน์ได้อย่างมาก 2. เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว  ในยุคที่ผู้คนใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกลายเป็นสินค้าที่มียอดขายสูงในตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทสกินแคร์ เซรั่มและครีมบำรุงผิว ความน่าเชื่อถือของแบรนด์และการรีวิวจากผู้ใช้จริงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ การขายของออนไลน์ในหมวดนี้จึงต้องเน้นการสร้างความน่าเชื่อถือและการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วน  3. สินค้าเพื่อสุขภาพ  กระแสรักสุขภาพที่เพิ่มขึ้นทำให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเป็นอีกหนึ่งคำตอบของคำถาม “ขายของออนไลน์อะไรดี” โดยเฉพาะอาหารเสริม วิตามินและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีใบรับรองมาตรฐาน ตลาดนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั่วไป ไปจนถึงผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง เช่น อาหารเสริมสำหรับนักกีฬาหรือผลิตภัณฑ์เพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้น  […]

เจ้าของธุรกิจออนไลน์ควรรู้! เปิดร้านขายของใน Shopee เสียค่าอะไรบ้าง?

ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กำลังเฟื่องฟู Shopee กลายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมที่ผู้ประกอบการหลายคนเลือกเป็นช่องทางในการขายสินค้า แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าการขายของใน Shopee มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ผู้ขายต้องจ่ายเมื่อเปิดร้านบน Shopee เพื่อให้คุณสามารถวางแผนธุรกิจและคำนวณต้นทุนได้อย่างแม่นยำ พร้อมแล้วมาดูกันว่าขายของใน Shopee เสียค่าอะไรบ้าง   ขายของใน shopee เสียค่าอะไรบ้าง ก่อนที่จะเริ่มขายสินค้าบน Shopee ผู้ขายควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่จะต้องจ่าย เพื่อให้สามารถตั้งราคาสินค้าได้อย่างเหมาะสมและทำกำไรได้ตามเป้าหมาย มาดูกันว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง   1. ค่าธรรมเนียมจากการขาย การขายของใน Shopee มีค่าธรรมเนียมการขายที่แตกต่างกันตามประเภทของร้านค้าและหมวดหมู่สินค้า ซึ่งทางช้อปปี้จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้จากทั้ง Shopee Seller ที่ลงขายแบบ Mall Sellers และ Non-Mall Sellers นั้น ทางช้อปปี้จะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมเมื่อได้รับคำสั่งซื้อและจัดการคำสั่งซื้อจนเสร็จ ซึ่งจะเก็บค่าธรรมเนียมตามประเภทของสินค้า ดังนี้ หมวดหมู่สินค้า Shopee Mall Seller (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) Non-Mall Seller(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ 9% – 11% 8% สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ […]

ระบบช่วยขายของออนไลน์คืออะไร? หารายชื่อผู้ให้บริการได้ที่นี่

       มีระบบช่วยขายของออนไลน์ด้วยหรอ? คืออะไร? หาคำตอบพร้อมรายชื่อผู้ให้บริการระบบช่วยขายยอดฮิตได้ที่นี่           ระบบช่วยขาย คือระบบขายสินค้าออนไลน์ ที่เกิดมาเพื่อช่วยร้านค้าออนไลน์ในเรื่องของระบบจัดการออเดอร์และสต๊อกสินค้า โดยผู้ให้บริการบางเจ้า ยังครอบคลุมถึงระบบตัวแทนจำหน่าย และ ระบบการขายหน้าร้านอีกด้วย สิ่งเหล่านี้ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขาย ที่เมื่อมีออเดอร์สินค้าจำนวนเยอะขึ้น การบริหารจัดการที่ไม่เป็นระบบ อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับร้านค้าได้ สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ยินชื่อระบบช่วยขาย และยังไม่รู้จักผู้ให้บริการ ไปทำความรู้จักพร้อม ๆ กันข้างล่างนี้ได้เลย        Zort          ผู้ให้บริการระบบช่วยขายที่จะ “ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยระบบที่ดีกว่า” เหมาะกับธุรกิจที่ขายสินค้าผ่านหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น ขายสินค้าผ่านออนไลน์ ออฟไลน์ ตัวแทนจำหน่าย และ ฝากขายหน้าร้าน ที่จะทำให้ผู้ขายประหยัดเวลา และขั้นตอนการทำงาน รวมถึงข้อผิดผลาดที่อาจเกิดขึ้นในการทำงานครับ Zort คลอบคลุมการให้บริการทั้งหมด 6 แบบคือ 1. จัดการออเดอร์ 2. จัดการสต๊อกสินค้าที่แจ้งเตือนสินค้าใกล้หมด และสินค้าจมทุน รวมถึงกำไร และยอดขายในแต่ละวันอีกด้วย […]

ขายของออนไลน์อะไรดี 10 ไอเดียสินค้าโดนใจ ขายง่าย กำไรดี 

การเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ในยุคที่ E-commerce กำลังมาแรงแบบนี้ ถือเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้เสริมหรือทำเป็นอาชีพหลัก แต่คำถามที่มักพบบ่อยคือ “ขายของออนไลน์อะไรดี?” ที่จะสร้างผลกำไรและเติบโตได้อย่างยั่งยืน วันนี้เรามีคำตอบให้คุณ! เราได้รวบรวม 10 ประเภทสินค้าที่มีแนวโน้มทำกำไรดี ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและโอกาสทางการตลาด ให้คุณเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ  10 สินค้าขายดีมาแรงปีนี้!  หากคุณกำลังคิดว่าขายของออนไลน์อะไรดี สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกสินค้าที่ใช่ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง มาดูกันว่าสินค้าประเภทไหนที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโตในตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ ดังนี้  1. เสื้อผ้า และสินค้าแฟชั่น  เสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นยังคงครองแชมป์สินค้าขายดีในตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายในการช้อปปิ้ง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่มีดีไซน์โดดเด่น ทันสมัย อย่างเช่น กางเกงยีนส์ ชุดกีฬาและเสื้อผ้าแฟชั่นที่อยู่ในกระแส นอกจากนี้ การเพิ่มมูลค่าด้วยการสร้างแบรนด์และการถ่ายภาพสินค้าที่ดึงดูดใจ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายของออนไลน์ได้อย่างมาก 2. เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว  ในยุคที่ผู้คนใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกลายเป็นสินค้าที่มียอดขายสูงในตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทสกินแคร์ เซรั่มและครีมบำรุงผิว ความน่าเชื่อถือของแบรนด์และการรีวิวจากผู้ใช้จริงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ การขายของออนไลน์ในหมวดนี้จึงต้องเน้นการสร้างความน่าเชื่อถือและการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วน  3. สินค้าเพื่อสุขภาพ  กระแสรักสุขภาพที่เพิ่มขึ้นทำให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเป็นอีกหนึ่งคำตอบของคำถาม “ขายของออนไลน์อะไรดี” โดยเฉพาะอาหารเสริม วิตามินและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีใบรับรองมาตรฐาน ตลาดนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั่วไป ไปจนถึงผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง เช่น อาหารเสริมสำหรับนักกีฬาหรือผลิตภัณฑ์เพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้น  […]