Knowledge Center

ขายดีไม่มีสะดุด! เปิด 10 เทคนิคการขาย ขายยังไงให้ปัง? 

ขายของอย่างไรให้ยอดขายปัง

เชื่อว่ากระแสในตลาดอีคอมเมิร์ซตอนนี้นอกจากการแข่งขันที่สูงขึ้นแล้ว ก็ยังทวีความรุนแรงมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ร้านค้าออนไลน์ต่างต้องปรับตัวและหากลยุทธ์ใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มยอดขายและรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นจึงจำเป็นต้องมีการใช้เทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มยอดขายให้ดียิ่งขึ้นไป ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ค้าหน้าใหม่หรือมีประสบการณ์มานานแล้วก็ตาม การนำเทคนิคดี ๆ เหล่านี้ มาปรับใช้ให้เหมาะสมก็จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในบทความนี้ เราจะมาเผย 10 เทคนิคที่จะช่วยให้ร้านออนไลน์ของคุณขายดีไม่มีสะดุด พร้อมวิธีประยุกต์ใช้ที่จะทำให้ยอดขายของคุณพุ่งทะยานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  

10 เทคนิคการขาย ทำอย่างไรให้มัดใจลูกค้า

การเพิ่มยอดขายให้ร้านค้าออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณรู้และเข้าใจเทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพ มาดูกัน 10 เทคนิคที่จะช่วยมัดใจลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณ  

1. รู้จักลูกค้าเป็นอย่างดี

การเข้าใจลูกค้าคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จในการขาย เทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพจะเริ่มต้นจากการทำความรู้จักกับกลุ่มเป้าหมายให้ลึกซึ้ง ศึกษาพฤติกรรม แพลตฟอร์มที่พวกเขาใช้งาน ความชอบและสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา เพื่อให้คุณสามารถสื่อสารและโปรโมตสินค้าได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ การเข้าใจธรรมชาติของลูกค้าแต่ละประเภทก็สำคัญไม่แพ้กัน บางคนต้องการคำแนะนำจากผู้ขาย ในขณะที่บางคนชอบความเป็นส่วนตัวและต้องการเวลาในการตัดสินใจ การปรับเทคนิคเหล่านี้ให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละรายจะช่วยสร้างความประทับใจและนำมาซึ่งการกลับมาซื้อซ้ำในระยะยาว  

2. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

เทคนิคการขายที่ยั่งยืนต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า (CRM) เป็นการมอบประสบการณ์ที่ดีเริ่มได้จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น การมอบส่วนลด ของแถมหรือสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ แม้เป็นของฝากเล็ก ๆ ที่ราคาไม่สูงมาก แต่ก็สามารถสร้างความประทับใจและแสดงถึงความมีน้ำใจของคุณได้ การดูแลลูกค้าอย่างใส่ใจทำให้พวกเขารู้สึกพิเศษและมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อซ้ำ เมื่อลูกค้าไว้วางใจและชื่นชอบคุณ ยอดขายก็จะเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีจึงเป็นเทคนิคที่มีผลตอบแทนคุ้มค่าในระยะยาว 

CRM ช่วยรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว

3. พร้อมช่วยเหลือลูกค้า

หากผู้ขายพร้อมให้ความช่วยเหลือ ลูกค้ามักประทับใจกับผู้ขายที่มีความกระตือรือร้นในการช่วยแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการ โดยการตอบคำถามอย่างรวดเร็วและให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนจะสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจว่ามีคนคอยดูแล ไม่ถูกทอดทิ้ง การแสดงความเอาใจใส่ตั้งแต่ก่อนการขาย ระหว่างการขาย ไปจนถึงหลังการขายเป็นเทคนิคการขายที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง  

4. เป็นที่ปรึกษาที่ดีให้แก่ลูกค้า

เทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพอีกประการหนึ่ง คือการวางตัวเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับลูกค้า แทนที่จะมุ่งเน้นการขายอย่างเดียว ผู้ขายควรให้ความรู้และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้า อธิบายข้อดีข้อเสียของสินค้าอย่างตรงไปตรงมา แนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า และให้คำปรึกษาเมื่อลูกค้ามีคำถามต่าง ๆ ที่สงสัย ก็จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระยะยาวและเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่องด้วย   

5. วางกลยุทธ์ทางการตลาด

หากอยากให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ การวางกลยุทธ์ทางการตลาดก็มีความสำคัญเช่นกัน ปัจจุบัน Social Commerce กลายเป็นช่องทางสำคัญที่ผู้ขายออนไลน์ไม่ควรมองข้าม การใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการขายโดยตรง ผ่านฟีเจอร์อย่าง Facebook Shop, Instagram Shopping หรือ TikTok Shop ก็จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม หรือแม้แต่การขายผ่านทางแชทข้อความ (Chat Commerce) เช่น LINE OA หรือ Facebook Messenger ก็จำเป็นต้องอาศัยการวางกลยุทธ์เพื่อปิดการขายเช่นกัน เพราะหากมีการพูดคุยแต่สุดท้ายแล้วลูกค้าไม่ยอมชำระเงินก็อาจจะทำให้ร้านค้าเสียเวลา และขายสินค้าไม่ได้อีกด้วย 

6. ไม่ยัดเหยียดหรือปิดการขายเร็วเกินไป

การขายที่ดีต้องไม่เร่งรัดหรือกดดันลูกค้ามากเกินไป อย่างการ Hard Sale หรือพยายามปิดการขายอย่างรวดเร็วเพียงเพื่อต้องการยอดขายนั้น อาจไปสร้างความอึดอัดและทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจในบริการได้ ดังนั้น ผู้ขายควรเข้าใจจังหวะและความต้องการของลูกค้า บางครั้งการปล่อยให้ลูกค้าได้เวลาในการพิจารณาและตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญ หากลูกค้าสอบถามราคา ก็ควรตอบตามความเป็นจริง หรืออาจแนะนำโปรโมชั่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม แต่ถ้าลูกค้ายังไม่ได้ถามอะไรก็ควรให้พวกเขาได้เลือกดูสินค้าก่อน หรือหากพวกเขาชวนคุยเรื่องอื่น ก็ไม่จำเป็นต้องวกกลับมาเรื่องสินค้าเสมอไป การขายแบบไม่กดดันจะสร้างบรรยากาศที่สบายใจและเพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำในอนาคตได้อย่างแน่นอน   

การมีช่องทางการขายที่หลากหลายจะช่วยเพิ่มยอดขายได้

7. ช่องทางการขายที่หลากหลาย

เทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบันนั้น คือการมีช่องทางการขายที่หลากหลาย เนื่องจากแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, TikTok Shop เป็นต้น ทั้งนี้ ถึงแม้การขายสินค้าหลากหลายแพลตฟอร์ม อาจจะทำให้การจัดการสต๊อกสินค้ามีปัญหาเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็น สต๊อกสินค้าไม่ตรงกัน การบริหารจัดการสินค้าเพื่อทำโปรโมชัน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การขายสินค้าออนไลน์ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น MyCloud ขอแนะนำโซลูชันให้คุณเชื่อมต่อทุกช่องทางการขายเข้าไว้ด้วยกันในระบบเดียว ซึ่งนั่นก็คือระบบที่เรียกว่า Omnichannel Management เพราะจะช่วยให้คุณสามารถจัดการยอดขายจากทุกช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอัปเดตสต๊อกสินค้าแบบเรียลไทม์เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อเข้ามาได้ทันที ทุก 5 นาที ระบบจะซิงค์ข้อมูลสินค้าและคำสั่งซื้อแบบเรียลไทม์ ลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน ทำให้คุณไม่พลาดโอกาสในการขายและสามารถมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นให้กับลูกค้า ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าและสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง 

8. มีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย 

อีกหนึ่งเทคนิคการขายที่ไม่ควรมองข้าม คือการมีตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายและสะดวกสบาย การชำระเงินที่ยุ่งยากอาจทำให้ลูกค้าไม่อยากทำรายการซื้อต่อได้ แม้ว่ามาร์เก็ตเพลสต่าง ๆ จะมีระบบชำระเงินที่สะดวกอยู่แล้ว แต่สำหรับร้านค้าไหนที่มีการขายสินค้าผ่านทางแชท ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ Line OA การพูดคุยเพื่อให้ข้อมูลสินค้าและการสรุปยอดคำสั่งซื้ออาจจะทำให้ลูกค้ากดชำระเงินไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะด้วยช่องทางการขายนี้ยังไม่มีระบบการชำระเงินที่ตอบโจทย์มากเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม MyCloud Fulfillment เราได้เข้าใจถึงปัญหาจากการขายในรูปแบบนี้จึงได้พัฒนาฟีเจอร์ Chat Bilty เป็นลิงก์การขายที่ช่วยสรุปยอดออเดอร์ และช่วยให้ลูกค้าปลายทางที่ซื้อสินค้ากดเข้าไปชำระเงินได้อย่างสะดวกในลิงก์เดียว ไม่เพียงแต่ง่ายต่อการชำระเงิน แต่ยังทำให้ร้านค้ายังได้มั่นใจได้อีกว่า ยอดเงินหรือสลิปโอนเงินที่ลูกค้าแนบมานั้น สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นสลิปจริงหรือปลอม เพราะระบบจะตรวจสอบจาก QR Code ที่อยู่บนสลิปที่ลูกค้าแนบมาได้ทันที อีกทั้งหากเป็นยอดโอนจริงระบบจะยืนยันยอดให้อัตโนมัติทันที และหลังจากนั้นระบบจะดึงออเดอร์ไปยังระบบคลังสินค้าของ MyCloud เพื่อทำการแพ็คและส่ง ร้านค้าก็ไม่ต้องคอยมาคีย์ออเดอร์เองย้อนหลัง ทำให้ออเดอร์ไม่ตกหล่น ส่วนลูกค้าก็ไม่ต้องกรอกข้อมูลหลายขั้นตอนให้ยุ่งยาก เพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้แบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งยังสามารถติดตามสถานะการชำระเงินได้อย่างง่ายดายภายในระบบเดียว 

9. มีระบบหลังบ้านที่ดี

ทั้งนี้การจะเพิ่มยอดขายให้สูงได้ ก็จำเป็นจะต้องมีระบบการจัดการหลังบ้านที่ดี อย่างระบบ OMS (Order Management System) ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้คุณสามารถจัดการคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ MyCloud เรามีโซลูชัน OMS ระบบจัดการออเดอร์และฟีเจอร์ที่ช่วยในการขายสินค้า ช่วยให้คุณสามารถจัดการสต๊อกสินค้าในแต่ละช่องทางการขาย พร้อมระบบ API เชื่อมต่อทุกช่องทางการขาย ดึงออเดอร์จากระบบหลังบ้านใน Marketplace ติดตามคำสั่งซื้อ หยิบ แพ็กและจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกปลายทางราบรื่น โดยระบบจะอัปเดตสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์ ทุก ๆ 5 นาที ช่วยลดความผิดพลาดในการขายสินค้าเกินสต๊อก ไม่ต้องกังวลว่าจะมีสินค้าเพียงพอหรือไม่ เพราะการมีระบบหลังบ้านที่ดีก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ทั้งผู้ขายและลูกค้า ส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องได้นั่นเอง 

ระบบหลังบ้านที่ดีช่วยเพิ่มยอดขายได้

10. มีบริการหลังการขายที่ดี

เทคนิคการขายที่ยั่งยืนต้องให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย การดูแลลูกค้าไม่ควรจบลงหลังจากที่พวกเขาชำระเงินเรียบร้อยแล้ว การรับประกันสินค้าและการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า คุณสามารถส่งข้อความขอบคุณ ให้คำแนะนำในการใช้งานสินค้าหรือแม้แต่การติดตามเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าถึงมือลูกค้าในสภาพสมบูรณ์ การบริการหลังการขายที่ดีไม่เพียงแต่สร้างความพึงพอใจ แต่ยังเพิ่มโอกาสในการบอกต่อและการกลับมาซื้อซ้ำอีกเช่นเดียวกัน  

สรุปบทความ

การอาศัยเทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพก็จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำความเข้าใจลูกค้า การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี วางกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสม ไม่เร่งรัดการขาย พร้อมช่องทางการขายและชำระเงินที่หลากหลาย และที่สำคัญการมีระบบจัดการหลังบ้านที่ดี ไปจนถึงการให้บริการหลังการขายที่ประทับใจ ทั้งหมดล้วนเป็นองค์ประกอบที่จะทำให้ร้านค้าของคุณประสบความสำเร็จ การนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้อย่างเหมาะสมกับธุรกิจของคุณก็จะช่วยให้คุณสามารถสร้างยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ไม่เพียงแค่ได้ลูกค้าใหม่ แต่ยังรักษาลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำอีกด้วย ในท้ายที่สุดแล้ว เทคนิคการขายที่ดีไม่ได้มุ่งเน้นแค่ยอดขายในระยะสั้น แต่มุ่งสร้างความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืนในระยะยาว  

หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยที่จะมาช่วยให้การขายของคุณนั้นเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น MyCloud Fulfillment สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างตรงจุดและสามารถจัดการออเดอร์ให้จัดส่งภายใน 24 ชม. การันตีจัดส่งทัน 99.5%  ด้วยระบบจัดการออเดอร์ OMS (Order Management System) ที่ช่วยจัดการได้อย่างครอบคลุมตั้งแต่ลูกค้ากดสั่งซื้อสินค้าเข้าและขั้นตอนการจัดส่งสินค้าให้ถึงปลายทาง หมดกังวลเรื่องระบบหลังบ้าน มีเวลาไปพัฒนาการขายตาม 10 เทคนิคที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ได้อย่างแน่นอน 

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

10 สัญญาณ! ถึงเวลาที่ธุรกิจของคุณต้องใช้บริการ “Fulfillment”

10 สัญญาณ! ถึงเวลาที่ธุรกิจของคุณต้องใช้บริการ “Fulfillment”           ขายของออนไลน์จำเป็นต้องใช้บริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าด้วยหรอ ทั้ง ๆ ที่ทำเอง หรือจ้างพนักงานเพื่อแพ็คได้? ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจออนไลน์ที่กำลังขายดีสุด ๆ หรือร้านค้าออฟไลน์ที่ต้องการเพิ่มช่องทางการขายทางออนไลน์มากขึ้น เช็คด่วน! ถ้าธุรกิจกำลังเจอปัญหาเหล่านี้ ควรมองหาบริการ Fulfillment ผู้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจ E-Commerce ในเรื่องของ พื้นที่จัดเก็บสินค้า (คลังสินค้า) การแพ็คสินค้า และการจัดส่งสินค้า เพื่อรองรับสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้นตามยอดขาย รวมถึงมีออเดอร์ที่ต้องแพ็คและส่งมากขึ้นค่ะ 1. มีปัญหาแพ็คผิด ส่งผิดอยู่บ่อยครั้ง            แพ็คผิด ส่งผิด นอกจากจะทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจแล้ว คุณเองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นมูลค่าสินค้า หรือค่าขนส่งวุ่นวายไปอีก ใช้บริการ Fulfillment ให้ช่วยแพ็ค และจัดส่งและสินค้าให้ ด้วยระบบการหยิบแพ็ค และกล้องวงจรปิด รวมถึงความเชี่ยวชาญของพนักงานที่มีประสบการณ์ มั่นใจได้เลยว่าปัญหาแพ็คสินค้าผิดจะหมดไป มีการการันตีไร้ปัญหาส่งของไม่ทัน […]

คู่มือสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ขายของออนไลน์ ต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง 

หากพูดถึงการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ก็คงเป็นเรื่องที่ดูจะง่ายดายใช่ไหมล่ะ แต่จริง ๆ แล้วหลายคนอาจไม่ทราบว่าการขายของออนไลน์นั้นต้องมีการจดทะเบียนตามกฎหมายเช่นเดียวกับการเปิดร้านค้าแบบมีหน้าร้าน เพราะการจดทะเบียนนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอีกด้วย ในบทความนี้ MyCloud จะพาคุณไปดูว่า การจดทะเบียนขายของออนไลน์ ตั้งแต่การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไปจนถึงการจดทะเบียนรับรองคุณภาพสินค้า พร้อมเอกสารที่จำเป็นทั้งสำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล มีอะไรและมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง     ขายของออนไลน์ ต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง การขายของออนไลน์ในปัจจุบันนั้นมีขั้นตอนทางกฎหมายที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการเพื่อให้ธุรกิจเป็นไปอย่างถูกต้อง ซึ่งหลัก ๆ แล้ว ต้องจดทะเบียนทั้ง 3 อย่าง ดังนี้  1. จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD) สำหรับผู้ขายออนไลน์ที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ถือว่าเป็นวิธีที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณได้ เนื่องจากการขายสินค้าออนไลน์ก็เปรียบเสมือนการมีหน้าร้าน จึงต้องมีการจดทะเบียนเช่นเดียวกับร้านค้าทั่วไป แต่จะแตกต่างตรงที่เป็นการจดทะเบียนพาณิชย์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันตัวตนของผู้ประกอบการและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าธุรกิจของคุณมีตัวตนที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น  2. จดภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่มียอดขายเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่กฎหมายกำหนด หากธุรกิจของคุณยังไม่ถึงเกณฑ์นี้แต่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต การขยายช่องทางการขายเพิ่มเติมถือเป็นทางเลือกที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปถึงยอดขายตามเงื่อนไขได้ ซึ่งปกติธุรกิจส่วนใหญ่ก็มักขายผ่าน Marketplace ต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada, TikTok Shop หรือ […]

SKU คือ อะไร?สำคัญยังไงกับร้านค้าออนไลน์

เคยไหม? สต็อกสินค้าเยอะแค่ไหนก็จำไม่หมด หยิบผิดรุ่น ผิดสี ส่งผิดออเดอร์จนลูกค้าคอมเพลน ยิ่งขายหลายช่องทางก็ยิ่งสับสน จัดการหลังบ้านแทบไม่ทัน… ปัญหาเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องง่ายทันที ถ้าคุณรู้จัก “SKU” ระบบรหัสสินค้าที่ร้านค้าออนไลน์มือโปรเลือกใช้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่า SKU คือ อะไร และทำไมธุรกิจออนไลน์ยุคนี้ถึงต้องมีระบบ SKU เพื่อให้บริหารงานได้ง่าย ขยายธุรกิจได้ไกล และเติบโตอย่างมืออาชีพ SKU คือ อะไร? SKU คือ รหัสที่ร้านค้าใช้กำหนดขึ้นเองเพื่อระบุและจำแนกสินค้าแต่ละชิ้นในระบบสต็อกอย่างชัดเจน ชื่อเต็มของ SKU “Stock Keeping Unit” หรือ “หน่วยเก็บสินค้า” นั่นเองค่ะ ในทางปฏิบัติ SKU เปรียบเสมือน “ชื่อเล่นของสินค้า” ที่ช่วยให้ทีมงานสามารถค้นหา จัดเก็บ และหยิบสินค้าถูกต้องได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น หากร้านขายเสื้อผ้าอาจตั้ง SKU ของเสื้อยืดสีดำ ไซส์ L ว่า “TSH-BK-L” เพื่อแยกจากเสื้อสีขาวหรือไซส์อื่นๆ ได้อย่างชัดเจน การมี SKU ช่วยลดความสับสนและช่วยบริหารจัดการสินค้าในคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อร้านค้าเริ่มมีจำนวนสินค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ […]

10 สัญญาณ! ถึงเวลาที่ธุรกิจของคุณต้องใช้บริการ “Fulfillment”

10 สัญญาณ! ถึงเวลาที่ธุรกิจของคุณต้องใช้บริการ “Fulfillment”           ขายของออนไลน์จำเป็นต้องใช้บริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าด้วยหรอ ทั้ง ๆ ที่ทำเอง หรือจ้างพนักงานเพื่อแพ็คได้? ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจออนไลน์ที่กำลังขายดีสุด ๆ หรือร้านค้าออฟไลน์ที่ต้องการเพิ่มช่องทางการขายทางออนไลน์มากขึ้น เช็คด่วน! ถ้าธุรกิจกำลังเจอปัญหาเหล่านี้ ควรมองหาบริการ Fulfillment ผู้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจ E-Commerce ในเรื่องของ พื้นที่จัดเก็บสินค้า (คลังสินค้า) การแพ็คสินค้า และการจัดส่งสินค้า เพื่อรองรับสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้นตามยอดขาย รวมถึงมีออเดอร์ที่ต้องแพ็คและส่งมากขึ้นค่ะ 1. มีปัญหาแพ็คผิด ส่งผิดอยู่บ่อยครั้ง            แพ็คผิด ส่งผิด นอกจากจะทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจแล้ว คุณเองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นมูลค่าสินค้า หรือค่าขนส่งวุ่นวายไปอีก ใช้บริการ Fulfillment ให้ช่วยแพ็ค และจัดส่งและสินค้าให้ ด้วยระบบการหยิบแพ็ค และกล้องวงจรปิด รวมถึงความเชี่ยวชาญของพนักงานที่มีประสบการณ์ มั่นใจได้เลยว่าปัญหาแพ็คสินค้าผิดจะหมดไป มีการการันตีไร้ปัญหาส่งของไม่ทัน […]

คู่มือสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ขายของออนไลน์ ต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง 

หากพูดถึงการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ก็คงเป็นเรื่องที่ดูจะง่ายดายใช่ไหมล่ะ แต่จริง ๆ แล้วหลายคนอาจไม่ทราบว่าการขายของออนไลน์นั้นต้องมีการจดทะเบียนตามกฎหมายเช่นเดียวกับการเปิดร้านค้าแบบมีหน้าร้าน เพราะการจดทะเบียนนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอีกด้วย ในบทความนี้ MyCloud จะพาคุณไปดูว่า การจดทะเบียนขายของออนไลน์ ตั้งแต่การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไปจนถึงการจดทะเบียนรับรองคุณภาพสินค้า พร้อมเอกสารที่จำเป็นทั้งสำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล มีอะไรและมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง     ขายของออนไลน์ ต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง การขายของออนไลน์ในปัจจุบันนั้นมีขั้นตอนทางกฎหมายที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการเพื่อให้ธุรกิจเป็นไปอย่างถูกต้อง ซึ่งหลัก ๆ แล้ว ต้องจดทะเบียนทั้ง 3 อย่าง ดังนี้  1. จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD) สำหรับผู้ขายออนไลน์ที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ถือว่าเป็นวิธีที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณได้ เนื่องจากการขายสินค้าออนไลน์ก็เปรียบเสมือนการมีหน้าร้าน จึงต้องมีการจดทะเบียนเช่นเดียวกับร้านค้าทั่วไป แต่จะแตกต่างตรงที่เป็นการจดทะเบียนพาณิชย์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันตัวตนของผู้ประกอบการและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าธุรกิจของคุณมีตัวตนที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น  2. จดภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่มียอดขายเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่กฎหมายกำหนด หากธุรกิจของคุณยังไม่ถึงเกณฑ์นี้แต่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต การขยายช่องทางการขายเพิ่มเติมถือเป็นทางเลือกที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปถึงยอดขายตามเงื่อนไขได้ ซึ่งปกติธุรกิจส่วนใหญ่ก็มักขายผ่าน Marketplace ต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada, TikTok Shop หรือ […]

SKU คือ อะไร?สำคัญยังไงกับร้านค้าออนไลน์

เคยไหม? สต็อกสินค้าเยอะแค่ไหนก็จำไม่หมด หยิบผิดรุ่น ผิดสี ส่งผิดออเดอร์จนลูกค้าคอมเพลน ยิ่งขายหลายช่องทางก็ยิ่งสับสน จัดการหลังบ้านแทบไม่ทัน… ปัญหาเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องง่ายทันที ถ้าคุณรู้จัก “SKU” ระบบรหัสสินค้าที่ร้านค้าออนไลน์มือโปรเลือกใช้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่า SKU คือ อะไร และทำไมธุรกิจออนไลน์ยุคนี้ถึงต้องมีระบบ SKU เพื่อให้บริหารงานได้ง่าย ขยายธุรกิจได้ไกล และเติบโตอย่างมืออาชีพ SKU คือ อะไร? SKU คือ รหัสที่ร้านค้าใช้กำหนดขึ้นเองเพื่อระบุและจำแนกสินค้าแต่ละชิ้นในระบบสต็อกอย่างชัดเจน ชื่อเต็มของ SKU “Stock Keeping Unit” หรือ “หน่วยเก็บสินค้า” นั่นเองค่ะ ในทางปฏิบัติ SKU เปรียบเสมือน “ชื่อเล่นของสินค้า” ที่ช่วยให้ทีมงานสามารถค้นหา จัดเก็บ และหยิบสินค้าถูกต้องได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น หากร้านขายเสื้อผ้าอาจตั้ง SKU ของเสื้อยืดสีดำ ไซส์ L ว่า “TSH-BK-L” เพื่อแยกจากเสื้อสีขาวหรือไซส์อื่นๆ ได้อย่างชัดเจน การมี SKU ช่วยลดความสับสนและช่วยบริหารจัดการสินค้าในคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อร้านค้าเริ่มมีจำนวนสินค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ […]