Knowledge Center

7 วิธีแพ็คสินค้าฉบับมือโปร ทำอย่างไรให้สินค้าถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย 

แม่ค้าขายสินค้าออนไลน์

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของออนไลน์ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า คือคุณภาพในการจัดส่งสินค้า นอกจากความรวดเร็วแล้ว การแพ็คสินค้าอย่างดีก็จะช่วยปกป้องสินค้าให้ถึงมือผู้รับในสภาพสมบูรณ์ วันนี้เรามีเทคนิคการแพ็คของออนไลน์แบบมืออาชีพมาฝากกัน โดยจะช่วยให้การจัดส่งสินค้าของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความประทับใจตั้งแต่ลูกค้าได้รับสินค้าเลย  

แพ็คสินค้า ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง 

ก่อนจะเริ่มแพ็คสินค้า สิ่งสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าต้องเตรียมให้พร้อม คืออุปกรณ์สำหรับแพ็คของ การมีอุปกรณ์ที่ครบครันจะช่วยให้ขั้นตอนการแพ็คสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยอุปกรณ์ที่ควรมีประกอบด้วย 

  1. สินค้าที่จะจัดส่ง ตรวจสอบความเรียบร้อยของสินค้าก่อนแพ็ค เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์
  2. กล่องพัสดุหรือซองพัสดุ มีหลายขนาดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับสินค้า ควรเตรียมทั้งกล่องและซองไว้ให้พร้อม
  3. วัสดุกันกระแทก เช่น แผ่นบับเบิ้ล กระดาษรังผึ้ง กระดาษฝอยหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ สำหรับป้องกันสินค้าแตกหักหรือเสียหาย
  4. อุปกรณ์ปิดผนึก สก็อตเทปคุณภาพดี สำหรับปิดผนึกพัสดุให้แน่นหนา
  5. เครื่องมือและอุปกรณ์อื่น ๆ กรรไกร คัตเตอร์สำหรับตัดเทป
  6. สติ๊กเกอร์ Label สำหรับติดบริเวณด้านนอกกล่อง เช่น ระวังแตก ห้ามโยน ฯลฯ เพื่อป้องกันความเสียหายของสินค้าด้านใน    

7 วิธีการแพ็คสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย 

การแพ็คสินค้าให้ปลอดภัยไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะถึงมือลูกค้าในสภาพสมบูรณ์ มาดูวิธีแพ็คของออนไลน์ที่ถูกต้องกันว่าจะมีอะไรบ้าง ดังนี้ 

1. เลือกขนาดกล่องให้เหมาะสมกับสินค้า

ขั้นตอนแรกคือการเลือกบรรจุภัณฑ์หรือกล่องพัสดุให้เหมาะกับประเภทสินค้า เช่น เสื้อผ้าหรือสินค้าที่ทนต่อแรงกระแทกได้ดี สามารถใช้ซองพลาสติกได้ แต่สำหรับสินค้าที่แตกหักง่าย ก็จำเป็นต้องแพ็คสินค้าด้วยกล่องที่มีขนาดพอเหมาะ ไม่ใหญ่จนสินค้าขยับได้ และไม่เล็กเกินไปจนไม่มีพื้นที่ใส่วัสดุกันกระแทก 

นอกจากนี้ คุณภาพและวัสดุของกล่องก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะความหนาของกล่องที่ต้องทนทานพอที่จะปกป้องสินค้าจากการโยนของพนักงานขนส่ง หรือแรงกดทับเมื่อถูกวางซ้อนกับกล่องอื่น ๆ ปัจจุบันมีนวัตกรรมการผลิตกล่องใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงโดยไม่เพิ่มน้ำหนักมากนัก ทำให้สามารถปกป้องสินค้าได้ดียิ่งขึ้นตลอดการเดินทางไปถึงมือลูกค้า  

2. เลือกกล่องที่ได้คุณภาพ 

การเลือกใช้กล่องคุณภาพดีเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะกล่องลูกฟูกที่มีความหนาและแข็งแรงเป็นพิเศษ เพราะถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อการใช้งาน ซึ่งสามารถปกป้องสินค้าด้านใน ลดแรงกระแทกและความเสียระหว่างการขนส่ง เช่น การโยนสินค้า สินค้ามีน้ำหนักที่วางทับกัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กล่องที่มีคุณภาพก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่สินค้าจะเสียหายระหว่างการขนส่งได้  

3. ป้องกันสินค้าด้วยวัสดุกันกระแทก

การจัดส่งสินค้าให้ปลอดภัยต้องใส่ใจเรื่องการป้องกันการกระแทก โดยเฉพาะจุดเสี่ยงอย่างมุมกล่อง มุมหนังสือหรือขอบขวด วิธีแพ็คของที่ถูกต้อง คือการห่อหุ้มด้วยบับเบิ้ลให้พอดี ไม่บางเกินไปจนไม่สามารถกันกระแทกและไม่หนาจนทำให้กล่องผิดรูป หรือหากคุณต้องการรักษาสิ่งแวดล้อม สามารถเลือกใช้กระดาษรังผึ้งหรือกระดาษฝอยได้เช่นกัน แต่ก็ต้องยอมรับกับความเสี่ยงเรื่องต้นทุนที่สูงขึ้น เนื่องจากกระดาษรังผึ้งจะมีราคาค่อนข้างสูง เมื่อใช้แพ็กสินค้าร่วมกับกระดาษฝอย รวมทั้งอัตราการป้องกันสินค้าที่เสียหายจะลดลงสภาพสินค้าที่ถึงมือลูกค้าอาจจะได้รับความเสียหายได้  

แพ็คสินค้าด้วยบับเบิ้ลกันกระแทก

4. ลดช่องว่างภายในกล่อง 

หลังจากวางสินค้าลงในกล่อง การจัดการกับช่องว่างที่เหลือก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะอาจทำให้สินค้าเคลื่อนที่และเสียหายระหว่างขนส่งได้ แพ็คสินค้าให้แน่นด้วยการเติมช่องว่างด้วยวัสดุกันกระแทก เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ บับเบิ้ลหรือกระดาษฝอย นอกจากจะช่วยล็อกสินค้าให้อยู่กับที่แล้ว ยังเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล่องอีกด้วย แต่ถ้าต้องการเพิ่มความปลอดภัยให้กับสินค้ามากขึ้น การใช้ถุงลมหรือพลาสติกอัดอากาศที่มีขนาดใหญ่กว่าบับเบิ้ลทั่วไป ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันสินค้าที่ดีกว่าวัสดุกันกระแทกแบบอื่น ๆ เพราะสามารถกระจายแรงกระแทกได้ดีกว่าและยังคงรูปร่างได้นานกว่าในระหว่างการขนส่ง    

5. ปิดกล่องสินค้าให้แน่นหนาทุกมุม 

เลือกใช้เทปกาวคุณภาพสูงที่มีความเหนียวและทนทาน ปิดให้ครบทุกด้านโดยเฉพาะด้านล่างของกล่อง สำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ควรเพิ่มชั้นของเทปที่ปิดเพื่อป้องกันก้นกล่องฉีกขาด และหากเป็นสินค้าที่ต้องการการป้องกันพิเศษจากน้ำให้เพิ่มการซีลด้วยพลาสติกอีกชั้น ทั้งนี้แนะนำให้ปิดกล่องสินค้าด้วยเทคนิคตัว H หลังจากปิดกล่องตรงกลางของกล่อง ทั้งด้านบนและด้านล่าง ด้านซ้ายและขวา ซึ่งวิธีนี้ก็จะช่วยให้กล่องพัสดุแน่นหนาขึ้น และรักษาความสมบูรณ์ของกล่องให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย 

สติ๊กเกอร์ระวังแตก

6. ติดสติ๊กเกอร์เตือน เพื่อความปลอดภัยระหว่างการขนส่ง 

เพิ่มความปลอดภัยในการแพ็คสินค้าด้วยการติดสติกเกอร์หรือสัญลักษณ์เตือนบนกล่อง เช่น “ระวังแตก” เพื่อหลีกเลี่ยงการโยนหรือวางของหนักทับ สัญลักษณ์เตือนเหล่านี้จะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งได้  

7. ระบุชื่อและที่อยู่ของผู้รับให้ชัดเจน 

การระบุข้อมูลผู้รับให้ชัดเจน โดยเฉพาะชื่อ ที่อยู่ รหัสไปรษณีย์และเบอร์โทรศัพท์ แนะนำให้พิมพ์ข้อมูลลงบนสติกเกอร์และติดให้เรียบร้อย โดยใบปะหน้าควรมีขนาดที่เหมาะสม ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ทั้งนี้ การระบุข้อมูลที่ครบถ้วนเช่นนี้ จะช่วยให้การจัดส่งเป็นไปอย่างราบรื่นแน่นอน   

สินค้าถึงมือลูกอย่างปลอดภัย

สรุปบทความ 

MyCloud Fulfillment เราแพ็คสินค้าอย่างมืออาชีพ ทุกขั้นตอนทำงานผ่านบาร์โค้ด เรียกตรวจสอบออเดอร์ได้ว่า มีสินค้าอะไรบ้าง จำนวนเท่าไหร่ หมดกังวลเรื่องได้สินค้าไม่ครบหรือสินค้าเกิน เพราะเราใส่ใจในทุกขั้นตอนของการแพ็คสินค้า ตั้งแต่ขนาดกล่องสินค้า วัสดุป้องกันการกระแทกไปจนถึงการระบุข้อมูลการจัดส่ง พร้อมระบบบันทึกการแพ็คทุกออเดอร์ผ่าน CCTV และจะส่งไปยังคำสั่งซื้อของลูกค้า ช่วยสร้างความประทับใจและความน่าเชื่อถือได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องการความสะดวกสบายในการจัดการสินค้าและการจัดส่ง MyCloud Fulfillment มีบริการ Order Fulfillment จัดการการขายและรายการสั่งซื้อ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระบบเดียว และบริการ Shipping Management ช่วยให้การจัดส่งสินค้าของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบบริหารจัดการที่ทันสมัย ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ในขณะที่ลูกค้าของคุณได้รับสินค้าในสภาพสมบูรณ์และตรงเวลาอย่างแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

ระบบ TMS คืออะไร เหมาะสำหรับธุรกิจขายของออนไลน์อย่างไร

ปัจจุบันธุรกิจในตลาดธุรกิจออนไลน์ (E-commerce) ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายให้กับผู้ประกอบการหลายราย แต่ปัจจัยสำคัญที่ชี้วัดความสำเร็จนั้น ไม่ใช่แค่คุณภาพของสินค้าหรือกลยุทธ์การตลาดที่เฉียบคมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประสิทธิภาพของระบบโลจิสติกส์และการขนส่งด้วย ไม่ว่าจะเป็น การขนส่งสินค้าที่ล่าช้า ขาดความแม่นยำหรือมีต้นทุนสูงเกินไป อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ กำไรและที่สำคัญที่สุดคือความพึงพอใจของลูกค้า ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน หนึ่งในนั้น คือระบบ TMS (Transportation Management System)  ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการกระบวนการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อย่างยั่งยืน บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่า ระบบ TMS คืออะไร และเหตุใดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจขายของออนไลน์ในปัจจุบัน      ระบบ TMS คืออะไร ระบบ TMS คือซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถวางแผน ดำเนินการ ควบคุม ตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการขนส่งสินค้าทั้งหมดได้อย่างเป็นระบบและครบวงจร คำว่า TMS ย่อมาจาก Transportation Management System หรือระบบบริหารจัดการการขนส่งที่คอยจัดการทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายสินค้า ตั้งแต่การรับคำสั่งซื้อ วางแผนเลือกเส้นทางและยานพาหนะที่เหมาะสมที่สุด มอบหมายงานให้พนักงานขับรถ ติดตามตำแหน่งและสถานะของสินค้าแบบเรียลไทม์ ไปจนถึงการจัดการเอกสาร การคำนวณต้นทุนและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ     หากมองในภาพรวมของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) มันไม่ได้ทำงานอย่างโดดเดี่ยว แต่เป็นส่วนสำคัญที่มักจะทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ […]

Drop Off คืออะไร ตอบโจทย์ร้านค้าออนไลน์ได้อย่างไร 

ปัจจุบันตลาดการซื้อขายออนไลน์เรียกได้ว่า ได้ก้าวมาเป็นช่องทางหลักเลยทีเดียว ดังนั้นการจัดส่งสินค้าจึงถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะร้านค้าที่ต้องการความรวดเร็วและความสะดวกสบายในการส่งสินค้า บริการ Drop Off ในโซลูชันที่ตอบโจทย์ร้านค้าออนไลน์ได้เป็นอย่างดี ด้วยรูปแบบการให้บริการที่ยืดหยุ่น ประหยัดเวลาและมีจุดให้บริการมากมายทั่วประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำสินค้าไปฝากส่งได้ตามความสะดวก วันนี้ MyCloud จะพาคุณทำความรู้จักกับบริการ Drop Off คืออะไร มีข้อดีอย่างไร แตกต่างจากบริการ Pick Up อย่างไร และเหมาะสำหรับร้านค้าประเภทใดบ้าง เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกใช้บริการที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณมากที่สุด   Drop Off คืออะไร Drop Off คือบริการจัดส่งพัสดุรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถนำสินค้าไปฝากส่งยังจุดให้บริการที่กำหนดไว้ได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องรอให้พนักงานขนส่งมารับถึงที่ เพียงแค่นำพัสดุไปฝากที่จุดรับฝาก (Drop Off) ซึ่งอาจเป็นร้านสะดวกซื้อ ตู้รับพัสดุอัตโนมัติหรือสาขาของบริษัทขนส่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Kerry, J&T Express หรือไปรษณีย์ไทย ทั้งนี้ บริการ Drop Off ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้บริการ ช่วยให้สามารถฝากส่งพัสดุได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวนานหรือผ่านขั้นตอนที่ยุ่งยาก ทำให้ผู้ขายออนไลน์มีความยืดหยุ่นในการเลือกเวลาและสถานที่ส่งพัสดุได้ตามต้องการ และให้ลูกค้าปลายทางได้รับสินค้าได้อย่างรวดเร็ว    ส่งพัสดุแบบ Drop Off แตกต่างจาก […]

JWD จับมือ MyCloudFulfillment สู่อันดับ 1 คลังสินค้าออนไลน์ในไทย&อาเซียน

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา JWD Group และ MyCloudFulfillment ของเรา ได้เปิดตัวคลังสินค้าออนไลน์พร้อมบริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่งแบบครบวงจร ด้วยพื้นที่กว้างกว่า 6,500 ตารางเมตร โดยการขยายพื้นที่ครั้งนี้บอกได้เลยค่ะว่า ใหญ่กว่าเดิม กว้างกว่าเดิม พร้อมให้บริการธุรกิจออนไลน์ ให้เรื่องการขายออนไลน์ของคุณเป็นเรื่องง่าย ขายของได้ ไม่ต้องห่วงสต็อกและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนไปพร้อม ๆ กับการเติบโตของตลาด E-Commerce ในปัจจุบันนี้ค่ะ วันนี้นอกจากจะแนะนำให้รู้จักกับคลังสินค้าใหม่ รวมถึงบริการของเราแล้ว เรายังมีภาพคลังสินค้า JWD x MyCloudFulfillment มาฝากกันด้วยค่ะ ทำไมต้อง JWD ?           เพราะ JWD มีประสบการณ์กว่า 42 ปี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจรในอาเซียน และมีความเชี่ยวชาญด้านคลังสินค้า ด้วยคลังสินค้าในเครือ ทั้งคลังทั่วไป คลังสินค้าปลอดภาษี และคลังสินค้าห้องเย็นขนาดใหญ่ที่สุดที่ครอบคลุมทำเลยุทธศาสตร์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประโยชน์สูงสุดในการบริหารจัดการซัพพลายเชนที่เป็นประโยชน์ และมีเครือข่าย และพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งทั้งในไทย […]

ระบบ TMS คืออะไร เหมาะสำหรับธุรกิจขายของออนไลน์อย่างไร

ปัจจุบันธุรกิจในตลาดธุรกิจออนไลน์ (E-commerce) ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายให้กับผู้ประกอบการหลายราย แต่ปัจจัยสำคัญที่ชี้วัดความสำเร็จนั้น ไม่ใช่แค่คุณภาพของสินค้าหรือกลยุทธ์การตลาดที่เฉียบคมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประสิทธิภาพของระบบโลจิสติกส์และการขนส่งด้วย ไม่ว่าจะเป็น การขนส่งสินค้าที่ล่าช้า ขาดความแม่นยำหรือมีต้นทุนสูงเกินไป อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ กำไรและที่สำคัญที่สุดคือความพึงพอใจของลูกค้า ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน หนึ่งในนั้น คือระบบ TMS (Transportation Management System)  ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการกระบวนการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อย่างยั่งยืน บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่า ระบบ TMS คืออะไร และเหตุใดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจขายของออนไลน์ในปัจจุบัน      ระบบ TMS คืออะไร ระบบ TMS คือซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถวางแผน ดำเนินการ ควบคุม ตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการขนส่งสินค้าทั้งหมดได้อย่างเป็นระบบและครบวงจร คำว่า TMS ย่อมาจาก Transportation Management System หรือระบบบริหารจัดการการขนส่งที่คอยจัดการทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายสินค้า ตั้งแต่การรับคำสั่งซื้อ วางแผนเลือกเส้นทางและยานพาหนะที่เหมาะสมที่สุด มอบหมายงานให้พนักงานขับรถ ติดตามตำแหน่งและสถานะของสินค้าแบบเรียลไทม์ ไปจนถึงการจัดการเอกสาร การคำนวณต้นทุนและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ     หากมองในภาพรวมของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) มันไม่ได้ทำงานอย่างโดดเดี่ยว แต่เป็นส่วนสำคัญที่มักจะทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ […]

Drop Off คืออะไร ตอบโจทย์ร้านค้าออนไลน์ได้อย่างไร 

ปัจจุบันตลาดการซื้อขายออนไลน์เรียกได้ว่า ได้ก้าวมาเป็นช่องทางหลักเลยทีเดียว ดังนั้นการจัดส่งสินค้าจึงถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะร้านค้าที่ต้องการความรวดเร็วและความสะดวกสบายในการส่งสินค้า บริการ Drop Off ในโซลูชันที่ตอบโจทย์ร้านค้าออนไลน์ได้เป็นอย่างดี ด้วยรูปแบบการให้บริการที่ยืดหยุ่น ประหยัดเวลาและมีจุดให้บริการมากมายทั่วประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำสินค้าไปฝากส่งได้ตามความสะดวก วันนี้ MyCloud จะพาคุณทำความรู้จักกับบริการ Drop Off คืออะไร มีข้อดีอย่างไร แตกต่างจากบริการ Pick Up อย่างไร และเหมาะสำหรับร้านค้าประเภทใดบ้าง เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกใช้บริการที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณมากที่สุด   Drop Off คืออะไร Drop Off คือบริการจัดส่งพัสดุรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถนำสินค้าไปฝากส่งยังจุดให้บริการที่กำหนดไว้ได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องรอให้พนักงานขนส่งมารับถึงที่ เพียงแค่นำพัสดุไปฝากที่จุดรับฝาก (Drop Off) ซึ่งอาจเป็นร้านสะดวกซื้อ ตู้รับพัสดุอัตโนมัติหรือสาขาของบริษัทขนส่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Kerry, J&T Express หรือไปรษณีย์ไทย ทั้งนี้ บริการ Drop Off ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้บริการ ช่วยให้สามารถฝากส่งพัสดุได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวนานหรือผ่านขั้นตอนที่ยุ่งยาก ทำให้ผู้ขายออนไลน์มีความยืดหยุ่นในการเลือกเวลาและสถานที่ส่งพัสดุได้ตามต้องการ และให้ลูกค้าปลายทางได้รับสินค้าได้อย่างรวดเร็ว    ส่งพัสดุแบบ Drop Off แตกต่างจาก […]

JWD จับมือ MyCloudFulfillment สู่อันดับ 1 คลังสินค้าออนไลน์ในไทย&อาเซียน

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา JWD Group และ MyCloudFulfillment ของเรา ได้เปิดตัวคลังสินค้าออนไลน์พร้อมบริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่งแบบครบวงจร ด้วยพื้นที่กว้างกว่า 6,500 ตารางเมตร โดยการขยายพื้นที่ครั้งนี้บอกได้เลยค่ะว่า ใหญ่กว่าเดิม กว้างกว่าเดิม พร้อมให้บริการธุรกิจออนไลน์ ให้เรื่องการขายออนไลน์ของคุณเป็นเรื่องง่าย ขายของได้ ไม่ต้องห่วงสต็อกและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนไปพร้อม ๆ กับการเติบโตของตลาด E-Commerce ในปัจจุบันนี้ค่ะ วันนี้นอกจากจะแนะนำให้รู้จักกับคลังสินค้าใหม่ รวมถึงบริการของเราแล้ว เรายังมีภาพคลังสินค้า JWD x MyCloudFulfillment มาฝากกันด้วยค่ะ ทำไมต้อง JWD ?           เพราะ JWD มีประสบการณ์กว่า 42 ปี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจรในอาเซียน และมีความเชี่ยวชาญด้านคลังสินค้า ด้วยคลังสินค้าในเครือ ทั้งคลังทั่วไป คลังสินค้าปลอดภาษี และคลังสินค้าห้องเย็นขนาดใหญ่ที่สุดที่ครอบคลุมทำเลยุทธศาสตร์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประโยชน์สูงสุดในการบริหารจัดการซัพพลายเชนที่เป็นประโยชน์ และมีเครือข่าย และพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งทั้งในไทย […]