Knowledge Center

Metaverse คืออะไร? ส่งผลอย่างไรต่อโลก E-Commerce

Metaverse คืออะไร? ส่งผลอย่างไรต่อโลก E-Commerce

          หลาย ๆ คนคงได้ยินคำว่า Metaverse กันมามากพอสมควร อย่างน้อยก็ต้องมีคำว่า Meta ผ่านตามาบ้างจากตอนที่ Facebook เปลี่ยนชื่อใช่ไหมล่ะคะ? จริง ๆ แล้ว จะพูดแบบสรุปเลยก็คือ Metaverse เป็นโลกเสมือนจริง ที่มนุษย์สามารถมีปฏิสัมพันธ์กันผ่านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแทนที่จะเจอกันบนโลกแบบกายภาพ ซึ่งในอดีตความคิดนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องในจินตนาการ และไกลตัว แต่ใครจะคิดว่าในปัจจุบันมนุษย์จะสามารถมีตัวตนแบบดิจิทัล และใช้ชีวิตติดต่อกับคนอื่น ๆ ใช้ชีวิต สร้างคอมมูนิตี้ ทำกิจกรรมความบันเทิง ศิลปะ สร้างรายได้ ลงทุน ไปจนถึงการซื้อขายบนโลกเสมือนจริงนี้ค่ะ

          สำหรับแบรนด์ หรือผู้ประกอบการที่ยังมองภาพของ Metaverse ไม่ออก ต้องเข้าใจก่อนว่า Metaverse นั้นอาศัยเทคโนโลยีที่หลากหลาย มี่ผู้บริโภคหรือผู้ใช้งานดิจิทัลใช้อยู่ ไม่ว่าจะเป็น AR, VR, blockchain, cryptocurrency, หรือ social commerce เองก็ดี

          กล่าวสั้นๆ สำหรับมุมมองของผู้ประกอบการก็คือ metaverse เป็นพื้นที่ว่างเปล่าสำหรับแบรนด์ต่างๆ ที่จะทำสิ่งที่ไม่มีจริงในโลกทางกายภาพ แต่จะทำในสิ่งที่เหนือกว่าและไปไกลกว่านั้น โดยจะสามารถตอบสนองความต้องการใหม่ ๆ pain point ของผู้ใช้งาน หรือผู้บริโภคบนพื้นที่ดิจิทัลนั่นเอง

          ยกตัวอย่างเทคโนโลยีที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่าง AR / VR (Augmented Reality/Virtual Reality)

          แม้ว่า AR และ VR ในความคิดของหลาย ๆ คนอาจจะดูไกลตัว แต่จริง ๆ แล้วก็แทรกซึมเข้าไปอยู่ในพฤติกรรมการจับจ่าย ซื้อของของผู้บริโภค โดยผู้บริโภคมากกว่า 61% มีแนวโน้มและมีความต้องการที่จะซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ที่ใช้เทคโนโลยี Augmented Reality หรือ AR มากกว่า ดังนั้น AR และ VR จะกลายมาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ขายออนไลน์อย่างแน่นอน

Metaverse และ E-Commerce

          ความเป็นไปได้ของ metaverse ในวงการ E-Commerce นั้นเริ่มชัดจนมากยิ่งขึ้น มีแบรนด์มากมายที่พยายามใช้ช่องทางดิจิทัลใหม่นี้เพื่อสร้างประสบการณ์ในการซื้อ ที่แตกต่าง และราบรื่นมากยิ่งขึ้นซึ่งสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า แลเพิ่มความภักดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

          การมอบประสบการ์ณการซื้อดิจิทัลนี้ยังทำให้การซื้อแบบไร้รอยต่อระหว่างช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์ หรือที่เราคุ้นชินกันดีในชื่อ การขายแบบ’omni-channel’ ราบรื่น โดยการที่ร้านค้าพยายามตอบสนองทุกเส้นทางการซื้อเหล่านี้นั้น จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีขั้นสูงและการรวมข้อมูลมหาศาล

          ร้านค้าดิจิทัลเหล่านี้จะรวบรวมส่วนที่ดีที่สุดของออนไลน์และออฟไลน์ไว้ด้วยกัน ผู้ซื้อสามารถช็อปสินค้าเสมือนจริงได้ โดยการ “เดิน” ไปรอบ ๆ ร้านค้า เพลิดเพลินกับการแสดงสินค้าในร้านในรูปแบบ 3 มิติที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี AR และ VR ซึ่งนี่ก็คือการเชื่อมโยงระหว่างการซื้อแบบออฟไลน์ที่จับต้องได้กับความสะดวกและสบายในการซื้อออนไลน์อย่างแท้จริง

Metaverse อุดรอยรั่วของการขาย E-Commerce ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

           เป็นที่รู้กันดีว่าการขายออนไลน์มีจุดด้อยตรงที่ลูกค้าบางคนยังยึดติดกับการได้ลองสินค้าจริง ๆ หรือสินค้าบางชนิดเองก็ไม่สามารถมองผ่านรูปแล้วตัดสินใจซื้อได้เท่านั้น อุปสรรคทางกายภาพเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจออนไลน์ไม่มากก็น้อย แต่ metaverse สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างตรงจุดค่ะ เหมือนกับว่าสร้างร้านใน Animal Crossing หรือทำ lookbook 360 องศา เพื่อให้ลูกค้าสามารถดูสินค้าได้เหมือนกับที่พวกเขาเห็นในหน้าร้านจริงได้เลยนั่นเอง หากผู้คนสามารถใช้ประโยชน์จาก metaverse ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตลาด E-Commerceจะเติบโตขึ้นมากกว่าที่เป็นมาก

          ตัวอย่างของ Metaverse ในโลก E-Commerce กระแส Metaverse ช่วยผลักดันให้ธุรกิจค้าปลีกต่าง ๆ พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับความต้องการของผู้ซื้อ และการบริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมข้อมูละฤติกรรมการของผู้ซื้อแต่ละรายในทุกรูปแบบ ทุกแพลตฟอร์ม เพื่อ นำมาวิเคราะห์เให้ธุรกิจทำการตลาดแบบเข้าใจผู้บริโภครายบุคคลมากขึ้นทตอนนนี้ประเทศในเอเชียอย่าง

          สิงคโปร์ก็เริ่มพัฒนาบริษัทด้าน Metaverse ทั้งในระดับ Start-ups เช่น BUzZAR และระดับ MSMEs ซึ่งแน่นอนว่าสิงคโปร์ มีศักยภาพและมุ่งเน้นเทคโนโลยี Blockchain และสามารถเป็นผู้นำใน Metaverse ของภูมิภาค ในอีก 5-10 ปีข้างหน้าได้ไม่ยากเลย

          Metaverse นั้นอาจจะกลมกลืนในวัฒนธรรม เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปเลยก็ได้ ทั้งในอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น เครื่องประดับ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถใช้ AR และ VR เพื่อดึงดูดลูกค้าในการทดลองสินค้า เป็นการผสมผสานประสบการณ์การซื้อสินค้าจากหน้าร้านจริงและออนไลน์ อย่างไรก็ตาม การซื้อสินค้าออนไลน์จากเว็บไชต์หรือแอปพลิเคชันเป็นที่นิยมของผู้บริโภคอยู่แล้ว ดังนั้น การพัฒนา Metaverse ใน e-commerce เพื่อทดแทนหรือแย่งส่วนแบ่งการตลาดจาก e-commerce จึงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก แต่อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะสมบูรณ์ โดยธุกิจควรจะต้องตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และแปลกใหม่มากยิ่งขึ้น

            บทบาทของ Metaverse เริ่มต้นตั้งแต่เผชิญกับโรคระบาดการประชุมออนไลน์ ก็เป็นสิ่งที่ทำจนคุ้นชินไปแล้ว การประชุมทางไกลในพื้นที่เสมือนจริง ในโลก metaverse เองก็สามารถให้เรามีตัวอวตารในการแสดงท่าทางเสมือนจริงขณะประชุมได้เลย หรือจะเป็นการออกกำลังกาย แบบมีเทรนเนอร์ส่วนตัวในโลกเสมือนจริง หรือจะเป็นทางด้าน entertainment เองก็มีคอนเสริตเสมือนจริงขึ้นมาแล้วเหมือนกัน ส่วนในโลก E-Commerce เองก็มีแบรนด์ชื่อดังอย่าง Nike ที่เริ่มหันมาจริงจังในด้านนี้ แนวคิด Metaverse นี้เอง จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การใช้งานแบบสมบูรณ์แบบครบวงจรได้จริงในระยะเวลาอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ หรืออุตสาหกรรมก็เริ่มมีบทบาท มีความเคลื่อนไหวด้าน Metaverse เพื่อธุรกิจของตัวเองแล้ว ดังนั้นการเตรียมความพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และการกำเนิดขึ้นของโลกเสมือน Metaverse นี้จึงจำเป็นและไม่ควรมองข้าม หากไม่อยากกลายเป็นคนล้าสมัย ตามกระแสที่เปลี่ยนไปไม่ทันนั่นเองค่ะ

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742, 098-278-6500
อีเมล: [email protected]
line: @mycloudgroup
MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก
บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

การทำคลังสินค้าออนไลน์ที่ดี ต้องเป็นอย่างไร ?

              การทำคลังสินค้าออนไลน์ที่ดีหรือ Warehouse Online จะต้องรู้จักการบริหารจัดการสินค้าอย่างเป็นระบบให้มีประสิทธิภาพ คือต้องมีระบบที่ออนไลน์สามารถตรวจสอบได้ทุกการเคลื่อนไหวของสินค้านั้นเองครับ เนื่องจากบริการคลังสินค้ามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบสินค้ามากมายจากหลากหลายบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยจัดเก็บสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการที่ไม่สะดวกหรือไม่มีพื้นที่ที่เหมาะสมในการจัดเก็บสินค้า และไม่ใช่แค่ให้บริการพื้นที่แก่ผู้ประกอบการเท่านั้น แต่รวมไปถึงการควบคุม ดูเเล และตรวจสอบคุณภาพสินค้า โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของธุรกิจคู่ค้าและลูกค้าผู้รับสินค้า เรามาดูกันดีกว่าครับว่าคลังสินค้าออนไลน์ที่ดีเป็นอย่างไร ? 5 ขั้นตอนสำหรับการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) ให้มีประสิทธิภาพ 1.จัดเก็บสินค้าให้เป็นระบบ การจัดเก็บสินค้าอย่างเป็นระบบ คือ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเริ่มต้นงานคลังอย่างมีประสิทธิภาพ หากเรามีระบบจัดเก็บสินค้าที่ดี จะสามารถตรวจสอบ และหาจุดบกพร่องได้ง่าย สำหรับคลังสินค้าออนไลน์ MyCloudFulfillment เราจัดวางและเก็บสินค้าตาม SKUs หรือ Stock Keeping Units ที่ช่วยระบุความต่างของสินค้าให้ชัดเจน แบ่งหมวดหมู่สินค้า และจัดโซนให้เหมาะสมกับประเภทของสินค้า พร้อมควบคุม ทุกการเข้า-ออกของสินค้าด้วยระบบ WMS (Warehouse Management System) ที่ช่วยในเรื่องการจัดการปริมาณสินค้าคงคลังและสินค้าพร้อมขาย เพื่อไม่ทำให้ร้านค้าเสียโอกาสในการขาย 2.หมั่นเช็คคุณภาพสินค้า แน่นอนว่าเมื่อมีลูกค้าผู้เช่าพื้นที่จำนวนมาก ก็มีสินค้ามากมายในคลังให้ดูเเล การตรวจสอบสินค้าตั้งแต่รับเข้าเป็นสิ่งที่ต้องปฎิบัติ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวผู้ให้บริการเองและลูกค้าก็จะมั่นใจได้ว่าสินค้าไม่ชำรุดระหว่างการขนส่ง […]

การทำคลังสินค้าออนไลน์ที่ดี ต้องเป็นอย่างไร ?

              การทำคลังสินค้าออนไลน์ที่ดีหรือ Warehouse Online จะต้องรู้จักการบริหารจัดการสินค้าอย่างเป็นระบบให้มีประสิทธิภาพ คือต้องมีระบบที่ออนไลน์สามารถตรวจสอบได้ทุกการเคลื่อนไหวของสินค้านั้นเองครับ เนื่องจากบริการคลังสินค้ามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบสินค้ามากมายจากหลากหลายบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยจัดเก็บสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการที่ไม่สะดวกหรือไม่มีพื้นที่ที่เหมาะสมในการจัดเก็บสินค้า และไม่ใช่แค่ให้บริการพื้นที่แก่ผู้ประกอบการเท่านั้น แต่รวมไปถึงการควบคุม ดูเเล และตรวจสอบคุณภาพสินค้า โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของธุรกิจคู่ค้าและลูกค้าผู้รับสินค้า เรามาดูกันดีกว่าครับว่าคลังสินค้าออนไลน์ที่ดีเป็นอย่างไร ? 5 ขั้นตอนสำหรับการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) ให้มีประสิทธิภาพ 1.จัดเก็บสินค้าให้เป็นระบบ การจัดเก็บสินค้าอย่างเป็นระบบ คือ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเริ่มต้นงานคลังอย่างมีประสิทธิภาพ หากเรามีระบบจัดเก็บสินค้าที่ดี จะสามารถตรวจสอบ และหาจุดบกพร่องได้ง่าย สำหรับคลังสินค้าออนไลน์ MyCloudFulfillment เราจัดวางและเก็บสินค้าตาม SKUs หรือ Stock Keeping Units ที่ช่วยระบุความต่างของสินค้าให้ชัดเจน แบ่งหมวดหมู่สินค้า และจัดโซนให้เหมาะสมกับประเภทของสินค้า พร้อมควบคุม ทุกการเข้า-ออกของสินค้าด้วยระบบ WMS (Warehouse Management System) ที่ช่วยในเรื่องการจัดการปริมาณสินค้าคงคลังและสินค้าพร้อมขาย เพื่อไม่ทำให้ร้านค้าเสียโอกาสในการขาย 2.หมั่นเช็คคุณภาพสินค้า แน่นอนว่าเมื่อมีลูกค้าผู้เช่าพื้นที่จำนวนมาก ก็มีสินค้ามากมายในคลังให้ดูเเล การตรวจสอบสินค้าตั้งแต่รับเข้าเป็นสิ่งที่ต้องปฎิบัติ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวผู้ให้บริการเองและลูกค้าก็จะมั่นใจได้ว่าสินค้าไม่ชำรุดระหว่างการขนส่ง […]