Knowledge Center

สงคราม ส่งด่วน ในโลกธุรกิจจริงโหดยิ่งกว่าในซีรีส์

สงคราม ส่งด่วน เมื่อในชีวิตจริง การส่งด่วนนั้นโหดยิ่งกว่าในซีรีส์

หลายคนคงจะได้ดูซีรีส์เรื่องดังอย่าง สงคราม ส่งด่วน ทาง Netflix กันไปบ้างแล้ว และคงได้เห็นถึงความเข้มข้นใน ธุรกิจขนส่ง ที่แข่งกันแบบดุเดือด อย่างในเรื่องของ การส่งเร็ว เพื่อที่จะได้รักษาลูกค้าและส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ แต่หากมองมาในโลกความเป็นจริงของ ธุรกิจออนไลน์ ความท้าทายใน การส่งเร็ว กลับหนักหน่วงยิ่งกว่า เมื่อแต่ละ Marketplace อย่าง Shopee, Lazada หรือTikTok Shop ต่างปรับนโยบายระยะเวลาเตรียมจัดส่งจากเดิม ต้องส่งภายใน 1 วัน เปลี่ยนเป็นส่ง “ภายในวัน”

สงคราม ส่งด่วน

ทำไมแพลตฟอร์มต้องเร่งสปีดการจัดส่ง? หากร้านค้าทำไม่ทันจะได้รับผลกระทบอย่างไร? และจะต้องปรับตัวยังไงถึงจะรอด? จาก ศึกส่งด่วน ในครั้งนี้ MyCloud Fulfillment ได้รวบรวมคำตอบที่ร้านค้าออนไลน์ต้องรู้ไว้ให้ในบทความนี้แล้วค่ะ

ทำไม Marketplace ต้องแข่งกัน ส่งด่วน ?

พนักงานแพ็กสินค้า ในคลังสินค้า ทำไม Marketplace ต้องแข่งกัน ส่งด่วน

เพราะ “ความเร็ว” กลายเป็นหัวใจของการช้อปปิ้งออนไลน์ในยุคนี้ ผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้มองแค่ราคาหรือโปรโมชั่น แต่ให้ความสำคัญกับ “ความเร็วในการได้รับสินค้า” อย่างมาก พฤติกรรมนี้ทำให้แพลตฟอร์ม E-commerce หรือ Marketplace ต่างๆ ต้องเร่งพัฒนาและแข่งขันกันเรื่องบริการจัดส่ง เพื่อสร้างความประทับใจตั้งแต่การกดสั่งซื้อไปจนถึงมือผู้รับ

แพลตฟอร์มที่ส่งเร็วกว่า มักมีโอกาสปิดการขายได้มากกว่า ลูกค้ามักเลือกซื้อจากร้านที่การันตีส่งไว แม้ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย เพราะ “ความสะดวกและทันใจ” คือความคุ้มค่าที่ลูกค้าให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

ส่งด่วน “ภายในวัน” สำคัญแค่ไหน

จัดส่ง ภายในวัน สำคัญแค่ไหน
Same Day Delivery – จัดส่งสินค้าภายในวัน

สำหรับร้านค้าออนไลน์ การส่งด่วน จะช่วยลดโอกาสที่ลูกค้าจะยกเลิกออเดอร์และเพิ่มความพึงพอใจจากการได้รับสินค้าไวทันใจ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคคาดหวังความเร็ว การจัดการหลังบ้านจึงต้องทำงานไวขึ้นทั้งในขั้นตอน แพ็กสินค้า การประสานกับขนส่งให้ส่งทันรอบ ถ้าร้านค้าทำได้จะช่วยรักษาคะแนนร้านในแพลตฟอร์มและสร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อซ้ำอีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าร่วมแคมเปญพิเศษเพื่อเพิ่มยอดขายได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ผลกระทบหาก”จัดส่งช้า”

ผลกระทบการส่งล่าช้า ส่งของช้า
ผลกระทบการส่งล่าช้า ส่งของช้า

นโยบายการ “ส่งภายในวัน” หากร้านค้าทำไม่ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด ไม่ว่าจะเกิดจากปัญหาเรื่องแพ็กไม่ทัน พนักงานแพ็กไม่พอ จนทำให้ออเดอร์จัดส่งล่าช้าเกิดกำหนด ร้านค้าอาจจะต้องเจอกับผลกระทบที่ร้ายแรงจนทำให้เสียโอกาสในการขายได้ดังนี้

  • ออเดอร์อาจจะถูกยกเลิกจากลูกค้าเนื่องจากรอสินค้านาน
  • ออเดอร์ถูกยกเลิกเองอัตโนมัติเนื่องจากร้านค้ามีการกดพร้อมจัดส่งแต่ไม่ได้มอบให้ขนส่ง
  • ได้รับบทลงโทษหรือคะแนนความประพฤติจาก Marketplace ส่งผลต่อคะแนนร้านค้าและอันดับในการค้นหาและการมองเห็นของสินค้าจะลดลง
  • เสียสิทธิ์การเข้าร่วมแคมเปญการขาย เพราะ แพลตฟอร์มมองว่าร้านค้ามีเกณฑ์คะแนนที่ต่ำจากการได้รับคะแนนความประพฤติ
  • หากได้รับคะแนนความประพฤติ สะสมต่อเนื่องอาจทำให้ร้านค้าถูกระงับการขายชั่วคราวหรือถาวรไปเลยก็ได้

การเปลี่ยนแปลงเรื่องระยะเวลาเตรียมจัดส่งของ Marketplace ที่ไม่มีความแน่นอน อาจทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลาย ๆ คนรู้สึกกังวลว่าจะปรับตัวทันหรือไม่ แต่ที่ MyCloud Fulfillment ในฐานะที่เราเป็นผู้ให้บริการด้านคลังสินค้าออนไลน์และดูแลเรื่องหลังบ้านให้กับแบรนด์ชั้นนำหลากหลายเจ้า ยิ่งเข้าใจสถานการณ์นี้ดีและพร้อมรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงที่เข้ามาตลอดทุกช่วง

คลังสินค้าออนไลน์ครบวงจร
บริการคลังสินค้าออนไลน์ครบวงจร

ด้วยบริการคลังสินค้าออนไลน์ที่ครบวงจรทั้งระบบจัดการออเดอร์ที่แม่นยำ ดึงออเดอร์และอัปเดตสต๊อกทุก 5 นาที ทีมงานมืออาชีพของเราพร้อมแพ็กออเดอร์ตลอด 24 ชั่วโมง ส่งมอบออเดอร์ให้กับขนส่งทุกวัน (ไม่เว้นวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์) จึงมั่นใจได้ว่าทุกออเดอร์จะถูกจัดการได้ไว สินค้าจะถึงมือลูกค้าได้รวดเร็ว ส่งผลให้เรตติ้งร้านค้าไม่ตก ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแคมเปญพิเศษได้ง่ายขึ้น ดังนั้นถ้าคุณกำลังกังวลเรื่องการจัดส่ง “ภายในวัน” หรือกลัวจัดการออเดอร์ไม่ทัน สามารถทักเข้ามาปรึกษากับทีม MyCloud Fulfillment ของเราได้เลยค่ะ คลิกเลย


ระยะเวลา ส่งด่วน แต่ละ Marketplace

1.Shopee

การเตรียมพัสดุเพื่อจัดส่ง Shopee ส่งด่วน ภายในวัน

*ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568* นี้เป็นต้นไป ทางแพลตฟอร์มได้ปรับนโนบายระยะเวลาเตรียมจัดส่ง จากภายใน 1 วันเป็นส่ง “ภายในวัน”ซึ่งร้านค้าต้องจัดการคำสั่งซื้อที่เกิดขึ้นภายในเวลา 12.00 น.และส่งมอบให้กับขน ส่งภายในวัน ที่ลูกค้าสั่งซื้อเข้ามาก่อนเวลา 23.59 น. และหากเป็นคำสั่งซื้อที่เกิดขึ้นหลังเวลา 12.00 น. ต้องนำส่งให้กับขนส่งในวันถัดไป (หากเกิดกำหนดวันที่กำหนด จะถูกนับเป็นออเดอร์ล่าช้าทันที) อ่านรายละเอียดอัตราการจัดส่งช้าได้ที่ >> LSR (Late Shipment Rate)

  • คำสั่งซื้อในวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สามารถจัดส่งสินค้าได้ในวันถัดไปก่อนเวลา23.59 น.
  • สำหรับคำสั่งซื้อที่ยังไม่กด”จัดส่ง”ในระบบและไม่มีการส่งมอบพัสดุให้กับขนส่งตามวันที่กำหนด ออเดอร์ก็จะถูกยกเลิกในวันที่ 3 ทันที
  • คำสั่งซื้อที่กด”จัดส่ง”แล้วแต่ยังไม่ส่งมอบให้ขนส่งก็จะถูกยกเลิกอัตโนมัติในวันที่ 4 ตามภาพตารางด้านบนนี้เลยค่ะ

2.TikTok Shop

TikTok Shop ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ปรับระยะเวลาเตรียมจัดส่งให้เร็วขึ้นเช่นกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

SLA TikTok Shop ระยะเวลาเตรียมส่งพัสดุ ช่องทางการขาย ติ๊กต๊อก ส่งด่วน ภายในวัน
  • คำสั่งซื้อที่เกิดขึ้นก่อนเวลา 12:00 น

คำสั่งซื้อจะต้องได้รับการส่งมอบและตรวจสอบโดยผู้ให้บริการขนส่ง ภายในเวลา 23:59 น. ในวันทำการเดียวกัน (วันจันทร์ -วันเสาร์)

  • คำสั่งซื้อที่เกิดขึ้นหลังเวลา 12:00 น.

คำสั่งซื้อจะต้องได้รับการส่งมอบและตรวจสอบโดยผู้ให้บริการขนส่ง ภายในเวลา 23:59 น. ในวันทำการถัดไป

“วันทำการ” หมายถึงวันใดก็ได้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ วันอาทิตย์และวันหยุดราชการไม่ถือเป็นวันทำการ

  • คำสั่งซื้อวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สามารถกดพร้อมจัดส่งถึง 23.59 น.ของวันถัดไป

3.Lazada

มาในฝั่งของ Lazada กันบ้างล่าสุดได้มีประกาศด่วนแบบสายฟ้าแลบ ให้เริ่มนโยบาย “ส่งภายในวัน(ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ) นี้เป็นต้นไป เรียกได้ว่า นี่อาจจะเป็นศึกส่งด่วนของจริงจากแต่ละแพลตฟอร์มก็ว่าได้ ซึ่งกำหนดระยะเวลาเตรียมจัดส่งสินค้าของแพลตฟอร์ม Lazada จะถูกวัดจาก FFR (Fast Fulfillment Rate) อัตราการจัดส่งเร็ว

คำสั่งซื้อที่ชำระเงินสำเร็จภายในเวลา 11.00 น. ร้านค้าต้องส่งมอบให้กับขนส่ง “ภายในวันเดียวกัน”ก่อนเวลา 23.59 น. คำสั่งซื้อที่ชำระเงินสำเร็จหลัง 11.00 น. สามารถส่งมอบให้พัสดุให้ขนส่งในวันถัดไปภายในเวลา 23.59 น.

Lazada ส่งภายในวัน เริ่ม 1 ก.ค 68 นี้

📍หมายเหตุ

(คำสั่งซื้อวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก่อน 11.00 น. : ส่งมอบให้กับขนส่งในวันทำการถัดไปภายในเวลา 23.59 น.)

(คำสั่งซื้อวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ หลัง 11.00 น. : ส่งมอบให้กับขนส่งใน 2 วันทำการถัดไปภายในเวลา 23.59 น.)


*สิทธิ์ประโยชน์ที่ร้านค้าหากมีเปอร์เซ็นต์ % ของ อัตราการส่งเร็ว FFR ที่สูง

  • ได้รับความสำคัญในการแสดงผล (Higher Search Ranking): สินค้ามีโอกาสแสดงในอันดับที่สูงขึ้นเมื่อลูกค้าค้นหา ทำให้มีโอกาสถูกเห็นและคลิกมากขึ้น
  • เข้าร่วมโปรแกรมจัดส่งพิเศษ (Exclusive Delivery Programs): เช่น โปรแกรมจัดส่งภายในวันถัดไป (Next-Day Delivery) หรือการจัดส่งแบบรวดเร็วพิเศษ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดลูกค้าได้มาก
  • ได้รับสัญลักษณ์หรือป้ายพิเศษ (Special Badges/Labels): เพื่อบ่งบอกว่าเป็นร้านค้าที่มีการจัดส่งรวดเร็ว ทำให้ลูกค้ามั่นใจและตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น

*ตัวอย่าง แบรนด์ที่ใช้บริการ MyCloud Fulfillment ได้รับสัญลักษณ์หรือป้ายพิเศษ Fast Delivery – การจัดส่งเร็ว

Fast Delivery สินค้าส่งไว
  • โอกาสในการเข้าร่วมแคมเปญใหญ่ๆ ก่อนใคร (Priority in Campaign Participation): Lazada อาจให้สิทธิ์ร้านค้าที่มี FFR+ สูงเข้าร่วมแคมเปญส่งเสริมการขาย หรือโปรโมชั่นใหญ่ๆ ได้ก่อน หรือได้รับสปอตไลต์ที่เด่นกว่า
  • เพิ่มความเชื่อมั่นและพึงพอใจของลูกค้า (Increased Customer Trust & Satisfaction): ลูกค้าจะได้รับสินค้าเร็วขึ้น นำไปสู่การรีวิวที่ดี การซื้อซ้ำ และการบอกต่อในเชิงบวก
คะแนนร้านค้า รีวิวดี ขายของที่ Lazada
**ตัวอย่าง** การได้รับ คะแนนเรตติ้งร้านค้า และ รีวิวลูกค้าที่ดี จาก แบรนด์ Meilinda

3 วิธีปรับตัวให้รอดใน “สงคราม ส่งด่วน”

วิธีปรับตัวสำหรับร้านค้าออนไลน์
3 วิธีปรับตัวให้รอดใน “สงคราม ส่งด่วน
  1. ปรับระบบจัดการออเดอร์ให้เป็นอัตโนมัติ: ร้านค้าควรนำระบบอัตโนมัติที่สามารถจัดการออเดอร์ได้รวดเร็ว เช่น OMS (Order Management System) ซึ่งช่วยดึงคำสั่งซื้ออัตโนมัติและอัปเดตสต็อกสินค้าแบบเรียลไทม์ ช่วยให้การจัดส่งรวดเร็วทันใจ
  2. บริหารสต็อกสินค้าอย่างแม่นยำ: ร้านค้าจำเป็นต้องบริหารจัดการสต็อกให้แม่นยำและรวดเร็ว ระบบการจัดการสต็อกที่เชื่อมต่อทุกแพลตฟอร์ม (Omni-channel Management) จะช่วยลดปัญหาสินค้าหมดหรือสต็อกไม่ตรงกับการขาย
  3. ใช้บริการ Fulfillment มืออาชีพ: การเลือกใช้บริการ Fulfillment ที่มีความเชี่ยวชาญ จะช่วยให้ร้านค้าสามารถรับมือกับคำสั่งซื้อจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงแคมเปญใหญ่หรือวันที่ยอดขายพุ่งสูง บริการนี้จะช่วยดูแลตั้งแต่การเก็บสินค้า การแพ็กสินค้า ไปจนถึงการจัดส่ง ช่วยให้ร้านค้าสามารถโฟกัสกับการทำการตลาดและการขายได้เต็มที่

บทสรุป

ในสมรภูมิ “สงคราม ส่งด่วน” ที่ Marketplace ปรับนโยบายระยะเวลาเตรียมจัดส่งให้ร้านค้าต้องส่งของ “ภายในวัน” การจัดการหลังบ้านที่ดีจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือทางรอด ร้านค้าออนไลน์ที่อยากอยู่รอดและโตต่อ ต้องมีระบบจัดการหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพ ดูแลและจัดการได้อย่างครอบคลุมทั้งเรื่องสต๊อกสินค้า การแพ็ก การส่งให้ทันตามเกณฑ์ของ Marketplace

MyCloud Fulfillment คลังสินค้าออนไลน์  มายคลาวด์
MyCloud Fulfillment : เราพร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลง “การส่งเร็ว”

MyCloud Fulfillment พร้อมเป็นหลังบ้านให้ธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนให้ส่งเร็วขึ้นกี่ครั้งเราก็รับมือไหว ด้วยคลังสินค้าออนไลน์มืออาชีพที่ให้บริการได้ครบวงจร ในเรื่องของการ เก็บ แพ็ก ส่ง พร้อมระบบเชื่อมต่อทุกช่องทางขายแบบ Omni-channel ผ่าน API ที่อัปเดตสต๊อกทุก 5 นาที ใช้สต๊อกเดียวขายได้ทุกช่องทาง และทีมงานกว่า 1,200 คนที่พร้อมแพ็กออเดอร์ให้คุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่งสินค้าได้ทุกวัน (รวมวันเสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัติฤกษ์ ไม่ต้องกังวลเรื่องส่งไม่ทันหรือโดนบทลงโทษ (คะแนนความประพฤติ) จาก Marketplace อีกต่อไป ให้คุณโฟกัสกับการขายและการเติบโตได้อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องหลังบ้าน ปล่อยให้ MyCloud ช่วยจัดการ สนใจบริการคลังสินค้าอออนไลน์ติดต่อเราได้ที่นี่ คลิกเลย

ติดต่อขอใบเสนอราคา

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Social Commerce คืออะไร การตลาดที่ร้านค้าออนไลน์กลับมาให้ความสนใจ 

จากการคลิกไลค์สู่การคลิกซื้อ Social Commerce คือปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนโฉมหน้าการช้อปปิ้งออนไลน์ไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เคยใช้แค่แชร์รูป พูดคุยและติดตามเรื่องราว แต่กลับกลายเป็นตลาดดิจิทัลขนาดใหญ่ที่มียอดขายพุ่งสูงถึงหลักหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ด้วยพลังของ Social Commerce ที่ผสานการสร้างคอมมูนิตี้เข้ากับการขาย ทำให้การช้อปปิ้งสะดวกและเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่เคย วันนี้ MyCloud Fulfillment จะพามาทำความรู้จักว่า Social Commerce กันในบทความนี้  ชวนมาทำความรู้จักกับ Social Commerce คืออะไร  Social Commerce คือรูปแบบการค้าขายสินค้าและบริการที่เกิดขึ้นโดยตรงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งรวมทุกขั้นตอนของการซื้อขายไว้ในที่เดียว ตั้งแต่การค้นหาสินค้า ดูข้อมูล สอบถามรายละเอียด ไปจนถึงการชำระเงิน โดยผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องออกจากแพลตฟอร์มที่ใช้งานอยู่ ทำให้การซื้อขายเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว ปัจจุบันแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง TikTok Shop, Facebook หรือ Instagram เป็นต้น โดยแต่ละแพลตฟอร์มต่างก็มีฟีเจอร์ที่รองรับการทำ Social Commerce อย่างครบวงจร  Social Commerce มีกี่ประเภท อะไรบ้าง การทำ Social Commerce นั้นมีหลากหลายรูปแบบที่น่าสนใจ แต่ละประเภทก็มีจุดเด่นและวิธีการเข้าถึงลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้   Peer-to-peer […]

ทำไม Special Set ถึงขายดี? 8 เหตุผลที่คุณต้องรู้!

อยากขายดีแบบม้วนเดียวจบ? ถ้าคุณเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่อยากเพิ่มยอดขายในช่วงเทศกาลพิเศษอย่างช่วงปีใหม่ New Year ต้องไม่พลาดกับกลยุทธ์สุดปังนี้!นั่นก็คือการจัด “Special Set” ไม่ใช่แค่การนำของมารวมกันธรรมดาๆ แต่มันคือ “ศาสตร์และศิลป์” ที่ช่วยทำให้สินค้าในร้านของคุณขายดีจนสต็อกแทบไม่พอ และสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้ลูกค้า จนอยากกลับมาซื้อซ้ำ! ไม่เพียงแต่ในช่วงปีใหม่เท่านั้น แต่ยังได้ผลดีในทุกเทศกาลสำคัญตลอดทั้งปี เช่น วันวาเลนไทน์ เทศกาลสงกรานต์ หรือแม้กระทั่งวันแม่ ลองคิดดูสิคะ… ถ้าลูกค้าเลื่อนดูร้านของคุณแล้วเจอสินค้าแบบเซ็ตที่จัดมาให้ครบ ใช้ง่าย คุ้มค่า และเหมาะกับโอกาสพิเศษ จะมีเหตุผลอะไรที่พวกเขาจะไม่กด “ซื้อ” ล่ะ? บทความนี้จะพาคุณมาไขความลับกับ 8 เหตุผลว่าทำไมสินค้าแบบเซ็ตถึงสร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้า และช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณได้ในพริบตา! 1. คุ้มค่าคุ้มราคา การขายแบบเซ็ตเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าและผลประโยชน์ที่ได้รับจากการซื้อในครั้งนี้ เพราะลูกค้าได้สินค้าหลายชิ้นในราคาที่ถูกกว่าซื้อแยกแต่ละชิ้น เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าโดยตรง นอกจากนี้ การขายแบบเซ็ตยังช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มที่ลังเลในการตัดสินใจซื้อ ด้วยความรู้สึกว่า “ได้ของมากกว่าในราคาที่จ่ายน้อยกว่า” การนำเสนอเซ็ตสินค้าแบบนี้ไม่เพียงแค่เพิ่มยอดขายในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูมีความใส่ใจและเข้าใจความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้ลูกค้ามองว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับการสร้างความพึงพอใจและความคุ้มค่าแก่พวกเขา การขายแบบเซ็ตยังช่วยสร้างความจงรักภักดีในระยะยาว เพราะลูกค้าจะรู้สึกประทับใจกับความคุ้มค่าที่ได้รับ ทำให้พวกเขากลับมาซื้อซ้ำหรือแนะนำแบรนด์ให้กับคนรอบข้าง นอกจากนี้ เซ็ตโปรโมชั่นพิเศษ เช่น “เซ็ตต้อนรับปีใหม่” หรือ “เซ็ตวันแม่” ยังช่วยกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกและสร้างโอกาสในการขายในช่วงเวลาสำคัญ ตัวอย่าง : […]

Social Commerce คืออะไร การตลาดที่ร้านค้าออนไลน์กลับมาให้ความสนใจ 

จากการคลิกไลค์สู่การคลิกซื้อ Social Commerce คือปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนโฉมหน้าการช้อปปิ้งออนไลน์ไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เคยใช้แค่แชร์รูป พูดคุยและติดตามเรื่องราว แต่กลับกลายเป็นตลาดดิจิทัลขนาดใหญ่ที่มียอดขายพุ่งสูงถึงหลักหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ด้วยพลังของ Social Commerce ที่ผสานการสร้างคอมมูนิตี้เข้ากับการขาย ทำให้การช้อปปิ้งสะดวกและเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่เคย วันนี้ MyCloud Fulfillment จะพามาทำความรู้จักว่า Social Commerce กันในบทความนี้  ชวนมาทำความรู้จักกับ Social Commerce คืออะไร  Social Commerce คือรูปแบบการค้าขายสินค้าและบริการที่เกิดขึ้นโดยตรงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งรวมทุกขั้นตอนของการซื้อขายไว้ในที่เดียว ตั้งแต่การค้นหาสินค้า ดูข้อมูล สอบถามรายละเอียด ไปจนถึงการชำระเงิน โดยผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องออกจากแพลตฟอร์มที่ใช้งานอยู่ ทำให้การซื้อขายเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว ปัจจุบันแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง TikTok Shop, Facebook หรือ Instagram เป็นต้น โดยแต่ละแพลตฟอร์มต่างก็มีฟีเจอร์ที่รองรับการทำ Social Commerce อย่างครบวงจร  Social Commerce มีกี่ประเภท อะไรบ้าง การทำ Social Commerce นั้นมีหลากหลายรูปแบบที่น่าสนใจ แต่ละประเภทก็มีจุดเด่นและวิธีการเข้าถึงลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้   Peer-to-peer […]

ทำไม Special Set ถึงขายดี? 8 เหตุผลที่คุณต้องรู้!

อยากขายดีแบบม้วนเดียวจบ? ถ้าคุณเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่อยากเพิ่มยอดขายในช่วงเทศกาลพิเศษอย่างช่วงปีใหม่ New Year ต้องไม่พลาดกับกลยุทธ์สุดปังนี้!นั่นก็คือการจัด “Special Set” ไม่ใช่แค่การนำของมารวมกันธรรมดาๆ แต่มันคือ “ศาสตร์และศิลป์” ที่ช่วยทำให้สินค้าในร้านของคุณขายดีจนสต็อกแทบไม่พอ และสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้ลูกค้า จนอยากกลับมาซื้อซ้ำ! ไม่เพียงแต่ในช่วงปีใหม่เท่านั้น แต่ยังได้ผลดีในทุกเทศกาลสำคัญตลอดทั้งปี เช่น วันวาเลนไทน์ เทศกาลสงกรานต์ หรือแม้กระทั่งวันแม่ ลองคิดดูสิคะ… ถ้าลูกค้าเลื่อนดูร้านของคุณแล้วเจอสินค้าแบบเซ็ตที่จัดมาให้ครบ ใช้ง่าย คุ้มค่า และเหมาะกับโอกาสพิเศษ จะมีเหตุผลอะไรที่พวกเขาจะไม่กด “ซื้อ” ล่ะ? บทความนี้จะพาคุณมาไขความลับกับ 8 เหตุผลว่าทำไมสินค้าแบบเซ็ตถึงสร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้า และช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณได้ในพริบตา! 1. คุ้มค่าคุ้มราคา การขายแบบเซ็ตเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าและผลประโยชน์ที่ได้รับจากการซื้อในครั้งนี้ เพราะลูกค้าได้สินค้าหลายชิ้นในราคาที่ถูกกว่าซื้อแยกแต่ละชิ้น เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าโดยตรง นอกจากนี้ การขายแบบเซ็ตยังช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มที่ลังเลในการตัดสินใจซื้อ ด้วยความรู้สึกว่า “ได้ของมากกว่าในราคาที่จ่ายน้อยกว่า” การนำเสนอเซ็ตสินค้าแบบนี้ไม่เพียงแค่เพิ่มยอดขายในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูมีความใส่ใจและเข้าใจความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้ลูกค้ามองว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับการสร้างความพึงพอใจและความคุ้มค่าแก่พวกเขา การขายแบบเซ็ตยังช่วยสร้างความจงรักภักดีในระยะยาว เพราะลูกค้าจะรู้สึกประทับใจกับความคุ้มค่าที่ได้รับ ทำให้พวกเขากลับมาซื้อซ้ำหรือแนะนำแบรนด์ให้กับคนรอบข้าง นอกจากนี้ เซ็ตโปรโมชั่นพิเศษ เช่น “เซ็ตต้อนรับปีใหม่” หรือ “เซ็ตวันแม่” ยังช่วยกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกและสร้างโอกาสในการขายในช่วงเวลาสำคัญ ตัวอย่าง : […]