Knowledge Center

ส่งของผิดให้ลูกค้า ทำอย่างไรดี มีวิธีการป้องกันอย่างไรบ้าง

ส่งของผิดให้ลูกค้า ทำอย่างไรดี

สำหรับคนทำธุรกิจออนไลน์แล้ว การจัดการออเดอร์ให้ถูกต้องแม่นยำคือหัวใจสำคัญ แต่บางครั้งข้อผิดพลาดก็อาจเกิดขึ้นได้ ปัญหาการขายของออนไลน์ โดยเฉพาะปัญหาส่งของผิดให้ลูกค้า ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความรู้สึกของลูกค้า ความน่าเชื่อถือของแบรนด์และอาจทำให้ร้านค้าต้องเสียทั้งเวลาและต้นทุนในการแก้ไข MyCloud Fulfillment เราเข้าใจปัญหานี้ดี ในบทความนี้จึงได้รวบรวมแนวทางรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การบริหารจัดการร้านค้าของคุณราบรื่น ไร้กังวลเรื่องการจัดส่ง  

ส่งของผิดให้ลูกค้า ทำอย่างไรดี

หากพบว่าเกิดปัญหาส่งของผิดให้ลูกค้าขึ้น สิ่งแรกที่ควรทำคือตั้งสติและดำเนินการแก้ไขอย่างรวดเร็วที่สุด การจัดการสถานการณ์อย่างมืออาชีพและใส่ใจ ไม่เพียงช่วยคลี่คลายปัญหา แต่ยังสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการสร้างความประทับใจและความไว้วางใจจากลูกค้าได้อีกด้วย มาดูกันว่าควรรับมืออย่างไร เพื่อรักษาความพึงพอใจและความเชื่อมั่นจากลูกค้าไว้ได้อย่างมืออาชีพ

ขอโทษลูกค้าอย่างจริงใจ

เพราะการสื่อสารคือสิ่งสำคัญที่สุด รีบติดต่อลูกค้าผ่านช่องทางที่สะดวกที่สุด ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ อีเมลหรือผ่านช่องทาง Chat Commerce ต่าง ๆ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงข้อผิดพลาดและกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ แสดงความเข้าใจถึงความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นกับลูกค้า การแสดงความเห็นอกเห็นใจและยอมรับผิดอย่างตรงไปตรงมาจะช่วยลดความไม่พอใจของลูกค้าลงได้ แม้จะต้องเผชิญกับกรณีที่ลูกค้าไม่ส่งคืน สินค้าที่ส่งผิดไปก็ตาม การเริ่มต้นด้วยความจริงใจคือสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ  

ตรวจสอบรายละเอียดในการจัดส่งอีกครั้ง

หลังจากที่ได้ขอโทษลูกค้าแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือการกลับมาตรวจสอบข้อมูลภายในระบบของร้านค้าอย่างละเอียดทันที เช็กตั้งแต่รายละเอียดคำสั่งซื้อ (SKU สินค้า, จำนวน, รุ่น, สี, ขนาด) ที่อยู่จัดส่ง ข้อมูลการแพ็กสินค้า เทียบกับสิ่งที่ส่งออกไปจริง เพื่อหาสาเหตุของข้อผิดพลาดว่าเกิดจากขั้นตอนใด การทำความเข้าใจต้นตอของปัญหาส่งของผิดให้ลูกค้า จะช่วยให้แก้ไขได้ตรงจุดและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำรอยเดิม  

แสดงความรับผิดชอบ

คำขอโทษเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ การแสดงความรับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรม คือสิ่งที่จะช่วยเยียวยาความรู้สึกของลูกค้าและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้ได้ ร้านค้าควรเสนอทางแก้ไขที่ชัดเจนและยุติธรรม ซึ่งโดยทั่วไปมี 2 แนวทางหลัก ๆ ดังนี้ 

  • ส่งสินค้าที่ถูกต้องให้ใหม่โดยเร็วที่สุด ดำเนินการจัดส่งสินค้าที่ถูกต้องไปให้ลูกค้าใหม่ทันที โดยอาจแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าจะจัดการเรื่องการรับสินค้าที่ส่งผิดคืนอย่างไร หรือในหลาย ๆ กรณี โดยเฉพาะกับสินค้ามูลค่าไม่สูง หรือเพื่อลดความยุ่งยาก อาจแจ้งให้ลูกค้าเก็บสินค้าชิ้นเดิมไว้ได้เลย วิธีนี้มักเป็นทางออกที่ดีเมื่อเจอสถานการณ์ ส่งของผิด ลูกค้าไม่ส่งคืน
  • เสนอคืนเงินเต็มจำนวน หากลูกค้าไม่สะดวกรับสินค้าใหม่หรือสินค้าที่ถูกต้องหมดสต๊อก การคืนเงินค่าสินค้าพร้อมค่าจัดส่ง (ถ้ามี) ให้ลูกค้าเต็มจำนวน เป็นอีกทางเลือกที่แสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจน หรืออาจเสนอเป็นส่วนลดพิเศษสำหรับการสั่งซื้อครั้งต่อไป เพื่อเป็นการชดเชยและรักษาฐานลูกค้าไว้   

มาตราการป้องกันการส่งสินค้าผิดให้ลูกค้า ทำได้อย่างไรบ้าง 

กันไว้ดีกว่าแก้ คือหลักการสำคัญในการบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ การวางระบบป้องกันที่มีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้น จะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาส่งของผิดให้ลูกค้าได้อย่างมาก ซึ่งไม่เพียงช่วยรักษาชื่อเสียงและความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า แต่ยังช่วยประหยัดต้นทุน เวลาและทรัพยากรที่ต้องใช้ในการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุอีกด้วย และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ รวมทั้งสร้างประสบการณ์การซื้อที่ดีให้แก่ลูกค้า สามารถทำได้ ดังนี้

ทำงานด้วยระบบ Barcode ทุกขั้นตอน

ตรวจเช็กคำสั่งซื้ออย่างถี่ถ้วน

ความผิดพลาดมักเริ่มต้นจากการไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลให้ดีพอ ก่อนเริ่มกระบวนการหยิบสินค้า (Picking) ทุกครั้ง ต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดในคำสั่งซื้อให้ถูกต้อง 100% ทั้งชื่อสินค้า รหัส SKU จำนวน คุณลักษณะเฉพาะต่าง ๆ เช่น สี ขนาด หรือรุ่น เทียบกับข้อมูลในระบบหรือใบสั่งซื้อ การมีระบบ Double Check หรือให้พนักงานอีกคนช่วยตรวจสอบซ้ำในออเดอร์ที่มีความซับซ้อน สามารถช่วยลดความผิดพลาดได้

เช็กสินค้าให้ครบถ้วนก่อนปิดกล่องแพ็ก

ขั้นตอนการแพ็กสินค้า (Packing) ถือเป็นปราการด่านสุดท้ายก่อนพัสดุจะออกจากร้าน ควรมีการตรวจสอบสินค้าที่จะบรรจุลงกล่อง เทียบกับใบรายการสินค้า (Packing List หรือ Invoice) อีกครั้งอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าถูกต้อง ครบถ้วน ตรงตามที่ลูกค้าสั่งทุกประการ การตรวจสอบซ้ำในขั้นตอนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันไม่ให้เกิดการส่งของผิดให้ลูกค้า  

ใช้บริการระบบ Fulfillment

สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการยกระดับการจัดการออเดอร์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและลดข้อผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด การเลือกใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ Fulfillment คือคำตอบที่ดีที่สุด MyCloud Fulfillment ให้บริการจัดการคลังสินค้าและออเดอร์แบบครบวงจร ด้วยระบบการทำงานที่เป็นมาตรฐานสากล เราลดความเสี่ยงในการส่งของผิดให้ลูกค้า ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตั้งแต่การใช้ระบบบาร์โค้ด (Barcode) สแกนเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของสินค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรับเข้า การจัดเก็บ การหยิบ (Picking) ไปจนถึงการแพ็ก (Packing) ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าที่จัดส่งถูกต้องตามออเดอร์ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังมีกล้อง CCTV บันทึกกระบวนการทำงานในขั้นตอนการแพ็กสินค้าทุกกล่อง ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ทีละออเดอร์ เพิ่มความโปร่งใสและตรวจสอบได้หากเกิดปัญหา ช่วยให้คุณหมดกังวลเรื่องการจัดการสต็อกและการจัดส่ง มุ่งเน้นไปที่การเติบโตของธุรกิจได้อย่างเต็มที่ ลดปัญหากวนใจอย่างการส่งของผิดให้ลูกค้าหรือกรณีลูกค้าไม่ส่งคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

สินค้าถึงลูกค้าอย่างปลอดภัย 

สรุปบทคความ 

ปัญหาส่งของผิดให้ลูกค้า แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ก็สามารถจัดการได้อย่างมืออาชีพด้วยการสื่อสารที่รวดเร็ว จริงใจและแสดงความรับผิดชอบอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไขเสมอ การตรวจสอบออเดอร์และสินค้าอย่างรอบคอบในทุกขั้นตอนเป็นสิ่งสำคัญ และการเลือกใช้เทคโนโลยีและบริการจากผู้เชี่ยวชาญอย่าง MyCloud Fulfillment ที่มีทั้งระบบบาร์โค้ดและกล้อง CCTV ควบคุมความแม่นยำ จะช่วยยกระดับการจัดการออเดอร์ของคุณให้ราบรื่น ลดข้อผิดพลาด สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า และขับเคลื่อนธุรกิจออนไลน์ของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืน  

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

ธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ ปรับตัวยังไงในยุคดิจิทัล – MyCloudFulfillment

ในยุคดิจิทัลนี้ คนปรับตัวเท่านั้นที่จะอยู่รอด!! หมดยุคธุรกิจค้าปลีกที่ปักหลักช่องทางใดช่องทางหนึ่งแล้วครับ ออฟไลน์อย่างเดียวก็ไม่ดี ออนไลน์อย่างเดียวก็ไม่ได้ ทางเดียวที่จะอยู่รอดคือการผสานให้เข้ากัน แต่จะทำยังไงให้เส้นแบ่งของสองโลกหายไป? ในท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด และการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุด วันนี้เรามีวิธีดีๆ มาฝากครับ รีบนำไปปรับใช้กันได้เลย 1.ปรับกลยุทธ์เป็น Omni-Channel ทุกวันนี้กลยุทธ์แบบ Omni-Channel เริ่มเป็นรูปเป็นร่างและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากแบรนด์ใหญ่ๆ เค้าปรับกันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Central หรือที่ชัดๆ เลยคือ Pomelo ที่สั่งผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ แล้วสามารถไปรับหรือคืนสินค้าตามจุดบริการใกล้บ้านที่เป็นพาร์ทเนอร์ได้ ซึ่งข้อมูลของลูกค้าก็จะเชื่อมถึงกันหมด เป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และสร้างประสบการณ์การซื้อที่ดีด้วยนะครับ 2.เพิ่มช่องทางการขายให้หลากหลายที่สุด อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าตอนนี้ Marketplace บ้านเรามีเยอะมาก เราจะขายแค่ใน Facebook หรือ Instagram เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วครับ! ลองวางขายกระจายไปทั่วๆ เช่น Lazada, Shopee, Tiktok Shop เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย 3.จัดโปรเด็ดๆ ราคาดึงดูด ขายของยุคนี้จำเป็นต้องทำโปรนะครับ จะโปรเล็ก โปรใหญ่ ก็ต้องทำ และถ้าคุณขายผ่าน Lazada/Shopee ก็ง่ายเลย เพราะเขาจะมีจัดโปรหรือโค้ดส่วนลดให้ลูกค้า […]

Inbound และ Outbound คืออะไร ช่วยจัดการสต๊อกให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ยอดขายกำลังเติบโต การจัดการสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งออเดอร์เยอะขึ้น ความท้าทายในการบริหารจัดการก็ยิ่งเพิ่มตามไปด้วย หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อย คือสต๊อกไม่ตรง สินค้าขาดเกินหรือหาของไม่เจอ อาจจะทำให้ส่งของผิดให้ลูกค้า หรือลูกค้าไม่ได้รับสินค้าตามที่สั่งไป ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือและโอกาสในการขาย หลายคนอาจเริ่มมองหาตัวช่วยอย่างบริการ Fulfillment หรือคลังสินค้าออนไลน์ และมักจะได้ยินคำว่า Inbound และ Outbound อยู่บ่อยครั้ง แล้วเคยสงสัยไหมว่า Inbound และ Outbound คืออะไร และมันเกี่ยวข้องกับการจัดการสต๊อกให้แม่นยำได้อย่างไร? บทความนี้จาก MyCloud Fulfillment มีคำตอบ พร้อมไขข้อข้องใจเพื่อให้คุณบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น   Inbound คืออะไร Inbound (อินบาวด์) ในบริบทของ Fulfillment หรือคลังสินค้าออนไลน์ หมายถึงกระบวนการรับสินค้าเข้าคลัง หรือโลจิสติกส์ขาเข้านั่นเอง โดยจะเริ่มต้นหลังจากที่คุณตกลงใช้บริการ Fulfillment และทำการนัดหมายเพื่อส่งสินค้ามายังคลังสินค้า โดยทั่วไปขั้นตอนของ Inbound จะครอบคลุมตั้งแต่ อย่างไรก็ตาม กระบวนการ Inbound ที่ดีและมีระบบ คือจุดเริ่มต้นของการมีสต๊อกที่แม่นยำ เพราะข้อมูลสินค้าจะถูกบันทึกเข้าระบบอย่างถูกต้องตั้งแต่แรก ทำให้คุณทราบจำนวนสินค้าคงคลังที่แท้จริงได้แบบเรียลไทม์ ทุก ๆ 5 นาที   […]

3 วิธีสุดล้ำทำอย่างไร ให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และบอกต่อ

 3 วิธีสุดล้ำทำอย่างไร ให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และบอกต่อ               ร้านค้ายุคใหม่ ใส่ใจมากกว่าแค่เรื่องการขาย เพราะเน้นสร้างความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า เพื่อให้เกิดความประทับใจจนนำไปสู่การซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง และรักษาฐานลูกค้าเก่าที่มีให้เป็นลูกค้าประจำของเราต่อไป เพราะลูกค้าเก่าอาจมีการบอกต่อหรือแนะนำเพื่อน ๆ ของเขาให้มาเป็นลูกค้าของเราในอนาคตได้           แน่นอนว่าถ้าสินค้าดีมีคุณภาพ ใคร ๆ ก็อยากซื้อซ้ำ แต่อย่าลืมนะครับว่า ยุคนี้สมัยนี้ การแข่งขันสูงมาก ใครไม่พัฒนา หรือไปช้าไม่ทันเพื่อน รับรองครับว่ามีเจ้าอื่นมาซื้อใจลูกค้าของคุณไปต่อหน้าต่อตาเเน่นอน วันนี้ผมมีสามสิ่งหลัก ๆ ที่ ควรทำเพื่อให้ลุกค้าเดิมกลับมาซื้อของของเราซ้ำ และไปบอกต่อให้คนอื่น ๆ กลายมาเป็นลูกค้าใหม่ของเราคือ 1. Personalization 2. บริการหลังการขาย และ 3. Campaign บอกต่อ เพราะการสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายสามารถเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย และสร้างกลุ่มลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์ได้ผลมากที่สุด ดังนั้น นี่อาจจะเป็นการตลาดที่คุณกำลังมองหาอยู่ครับ         การตลาดแบบ […]

ธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ ปรับตัวยังไงในยุคดิจิทัล – MyCloudFulfillment

ในยุคดิจิทัลนี้ คนปรับตัวเท่านั้นที่จะอยู่รอด!! หมดยุคธุรกิจค้าปลีกที่ปักหลักช่องทางใดช่องทางหนึ่งแล้วครับ ออฟไลน์อย่างเดียวก็ไม่ดี ออนไลน์อย่างเดียวก็ไม่ได้ ทางเดียวที่จะอยู่รอดคือการผสานให้เข้ากัน แต่จะทำยังไงให้เส้นแบ่งของสองโลกหายไป? ในท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด และการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุด วันนี้เรามีวิธีดีๆ มาฝากครับ รีบนำไปปรับใช้กันได้เลย 1.ปรับกลยุทธ์เป็น Omni-Channel ทุกวันนี้กลยุทธ์แบบ Omni-Channel เริ่มเป็นรูปเป็นร่างและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากแบรนด์ใหญ่ๆ เค้าปรับกันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Central หรือที่ชัดๆ เลยคือ Pomelo ที่สั่งผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ แล้วสามารถไปรับหรือคืนสินค้าตามจุดบริการใกล้บ้านที่เป็นพาร์ทเนอร์ได้ ซึ่งข้อมูลของลูกค้าก็จะเชื่อมถึงกันหมด เป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และสร้างประสบการณ์การซื้อที่ดีด้วยนะครับ 2.เพิ่มช่องทางการขายให้หลากหลายที่สุด อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าตอนนี้ Marketplace บ้านเรามีเยอะมาก เราจะขายแค่ใน Facebook หรือ Instagram เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วครับ! ลองวางขายกระจายไปทั่วๆ เช่น Lazada, Shopee, Tiktok Shop เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย 3.จัดโปรเด็ดๆ ราคาดึงดูด ขายของยุคนี้จำเป็นต้องทำโปรนะครับ จะโปรเล็ก โปรใหญ่ ก็ต้องทำ และถ้าคุณขายผ่าน Lazada/Shopee ก็ง่ายเลย เพราะเขาจะมีจัดโปรหรือโค้ดส่วนลดให้ลูกค้า […]

Inbound และ Outbound คืออะไร ช่วยจัดการสต๊อกให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ยอดขายกำลังเติบโต การจัดการสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งออเดอร์เยอะขึ้น ความท้าทายในการบริหารจัดการก็ยิ่งเพิ่มตามไปด้วย หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อย คือสต๊อกไม่ตรง สินค้าขาดเกินหรือหาของไม่เจอ อาจจะทำให้ส่งของผิดให้ลูกค้า หรือลูกค้าไม่ได้รับสินค้าตามที่สั่งไป ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือและโอกาสในการขาย หลายคนอาจเริ่มมองหาตัวช่วยอย่างบริการ Fulfillment หรือคลังสินค้าออนไลน์ และมักจะได้ยินคำว่า Inbound และ Outbound อยู่บ่อยครั้ง แล้วเคยสงสัยไหมว่า Inbound และ Outbound คืออะไร และมันเกี่ยวข้องกับการจัดการสต๊อกให้แม่นยำได้อย่างไร? บทความนี้จาก MyCloud Fulfillment มีคำตอบ พร้อมไขข้อข้องใจเพื่อให้คุณบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น   Inbound คืออะไร Inbound (อินบาวด์) ในบริบทของ Fulfillment หรือคลังสินค้าออนไลน์ หมายถึงกระบวนการรับสินค้าเข้าคลัง หรือโลจิสติกส์ขาเข้านั่นเอง โดยจะเริ่มต้นหลังจากที่คุณตกลงใช้บริการ Fulfillment และทำการนัดหมายเพื่อส่งสินค้ามายังคลังสินค้า โดยทั่วไปขั้นตอนของ Inbound จะครอบคลุมตั้งแต่ อย่างไรก็ตาม กระบวนการ Inbound ที่ดีและมีระบบ คือจุดเริ่มต้นของการมีสต๊อกที่แม่นยำ เพราะข้อมูลสินค้าจะถูกบันทึกเข้าระบบอย่างถูกต้องตั้งแต่แรก ทำให้คุณทราบจำนวนสินค้าคงคลังที่แท้จริงได้แบบเรียลไทม์ ทุก ๆ 5 นาที   […]

3 วิธีสุดล้ำทำอย่างไร ให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และบอกต่อ

 3 วิธีสุดล้ำทำอย่างไร ให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และบอกต่อ               ร้านค้ายุคใหม่ ใส่ใจมากกว่าแค่เรื่องการขาย เพราะเน้นสร้างความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า เพื่อให้เกิดความประทับใจจนนำไปสู่การซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง และรักษาฐานลูกค้าเก่าที่มีให้เป็นลูกค้าประจำของเราต่อไป เพราะลูกค้าเก่าอาจมีการบอกต่อหรือแนะนำเพื่อน ๆ ของเขาให้มาเป็นลูกค้าของเราในอนาคตได้           แน่นอนว่าถ้าสินค้าดีมีคุณภาพ ใคร ๆ ก็อยากซื้อซ้ำ แต่อย่าลืมนะครับว่า ยุคนี้สมัยนี้ การแข่งขันสูงมาก ใครไม่พัฒนา หรือไปช้าไม่ทันเพื่อน รับรองครับว่ามีเจ้าอื่นมาซื้อใจลูกค้าของคุณไปต่อหน้าต่อตาเเน่นอน วันนี้ผมมีสามสิ่งหลัก ๆ ที่ ควรทำเพื่อให้ลุกค้าเดิมกลับมาซื้อของของเราซ้ำ และไปบอกต่อให้คนอื่น ๆ กลายมาเป็นลูกค้าใหม่ของเราคือ 1. Personalization 2. บริการหลังการขาย และ 3. Campaign บอกต่อ เพราะการสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายสามารถเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย และสร้างกลุ่มลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์ได้ผลมากที่สุด ดังนั้น นี่อาจจะเป็นการตลาดที่คุณกำลังมองหาอยู่ครับ         การตลาดแบบ […]