Knowledge Center

โลจิสติกส์กุญแจสู่ความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ (Logistics & Online Business)

โลจิสติกส์สำหรับธุรกิจออนไลน์

          โลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานมีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจออนไลน์เป็นอย่างมากในยุคที่เทคโนโลยี disrupt ให้พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ธุรกิจต่าง ๆ ต้องมีการปรับตัวอย่างมาก และต้องมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจอยู่เสมอ มีการใช้เทคโนโลยี และการจัดการโลจิสติกส์ ห่วงโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรให้สามารถเเข่งขัน หรืออยู่เหนือคู่แข่งทางธุรกิจ เพื่อเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป

อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในอดีตและปัจจุบัน

          อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปพร้อม ๆ กับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ ในยุคที่มี Technology มา disrupt ทำให้ธุรกิจออฟไลน์ เปลี่ยนมาลงทุนและแข่งขันบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น กลายเป็น ธุรกิจ E-Commerce ดังนั้นอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์จึงมีการพัฒนาตามไปด้วยอยู่เสมอ เมื่อตลาด E-Commerce เติบโตขึ้น ธุรกิจโลจิสติกส์ต่างแข่งขันกันพัฒนา ด้วยการเพิ่มบริการที่เข้าไปช่วยธุรกิจได้มากขึ้น ทั้งการนำข้อมูลด้านโลจิสติกส์และ supply chain เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาบริการ อาทิ การวางแผนเส้นทางการเดินรถ การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านขนส่ง กระจายสินค้า การใช้ GPS การปรับราคาบริการเพื่อลดต้นทุนให้ธุรกิจได้มากที่สุด หรือจุดเด่นด้านการขนส่ง จึงเน้นความเร็วเป็นหลักอีกด้วย ในปัจจุบันหลาย ๆ บริษัทโลจิสติกส์เริ่มหันมาใช้ประโยชน์จากข้อมูลดิจิทัล หรือที่เรียกว่า “ Digital Logistics”

Digital Logistics

           ดิจิทัลโลจิสติกส์คือ การบริหารงานด้านโลจิสติกส์ด้วยข้อมูลดิจิทัล เพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลออนไลน์ที่เกิดขึ้นทุกวัน เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่แม่นยำในอนาคต เพื่อให้ผู้ประกอบการมองเห็นภาพรวมของห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นทางการผลิต การจัดการสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้อ ไปจนถึงปลายทางการจัดส่งสินค้า โดยข้อมูลดังกล่าวสามารถเข้าถึงได้ทางออนไลน์จึงสะดวกสบาย และรวดเร็วมากขึ้น

ความสัมพันธ์ของโลจิสติกส์ และธุรกิจออนไลน์

          จากที่กล่าวมาข้างต้นคงพอเห็นภาพ ความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจโลจิสติกส์ และธุรกิจออนไลน์ หรือ E-Commerce ว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร แท้จริงแล้วในทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ E-Commerce นั้นมีการติดต่อ ขนส่ง และเคลื่อนย้านอยู่ในทุกขั้นตอนการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งวัตถุดิบ ขนส่งสินค้าจากแหล่งผลิต การกระจายสินค้าสู่แหล่งซื้อขาย และการขนส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า นอกจากนี้ตลาด E-Commerce และ โลจิสติกส์มีการพัฒนา และเติบโตไปพร้อม ๆ กันอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

การจัดการโลจิสติกส์ที่ดีช่วยให้ธุรกิจได้เปรียบ

          เนื่องจากการจัดการโลจิสติกส์ (Logistics management) คือแนวทางการจัดการกระบวนการทำงาน หรือการปฏิบัติการในขั้นตอนต่าง ๆ ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบเผื่อผลิต การผลิตสินค้า และการจัดส่งสินค้าให้ถึงลูกค้าปลายทาง ซึ่งอาจแตกต่างออกไปตามวิธีการดำเนินธุรกิจของแต่ละธุรกิจ แต่มีเป้าหมายเพื่อจัดการให้การทำงานเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และมีต้นทุนน้อยที่สุด ซึ่งจุดนี้เองที่แต่ละธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลทางด้านโลจิสติกส์เพื่อนำไปวิเคราะห์ต้นทุน ลดต้นทุน และพัฒนาธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดอีกด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด

โลจิสติกส์และโซ่อุปทาน (Logistics & Supply Chain)

           โลจิสติกส์ (Logistics) เป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เพราะห่วงโซ่อุปทานหมายถึงการทำงานที่ครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบในการผลิต ไปจนถึงขั้นตอนการส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค ซึ่งกระบวนการใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งเคลื่อนย้ายสินค้า ก็คือ กระบวนการด้านโลจิสติกส์ทั้งหมด

การจัดการโลจิสติกส์ และการจัดการ Supply Chain

           การจัดการโลจิสติกส์ (Logistics Management) คือการจัดการการไหลเวียนของสินค้า องค์กรควรมีการวางแผน ควบคุม การไหลเวียนของสินค้าให้มีประสิทธิภาพ เพื่อบริหารจัดการต้นทุนให้ต่ำที่สุด การจัดการโลจิสติกส์เกิดขึ้นในกระบวนการขางการผลิตสินค้า การจัดเก้บสินค้า คลังสินค้า และการขนส่งให้ถึงมือลูกค้า ในขณะที่การจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) จะเป็นเรื่องของการจัดการปัจจัยการผลิต กระบวนการผลิต ที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ผลิต และธุรกิจเสียมากกว่า ซึ่งการจัดการห่วงโซ่อุปทานครอบครุมถึงการจัดเก็บ การกระจายสินค้า การจัดจำหน่าย และการขนส่งให้ถึงมือลูกค้า

หัวใจของการจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ

           การจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพช่วยส่งเสริมการทำงานภายในองค์กรให้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่ต้นทุนน้อยลง โดยจะเกิดขึ้นในกิจกรรมใด ๆ ก็ตามในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนครอบคลุมตั้งแต่การผลิตสินค้า การจัดเก็บ การไหลเวียนของสินค้า ไปจนถึงการส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค เป็นต้น ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่า การจัดการโลจิสติกส์ที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจสามารถทำงานได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนการจัดการโลจิสติกส์ที่ดีนั้นต้องอาศัยข้อมูลในอดีต เพื่อนำมาปรับปรุง พัฒนาการทำงานในปัจจุบัน โดยการจัดการให้การไหลเวียนของวัตถุดิบ และ กระบวนการไหลเวียนของข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ

ถนัดอะไร ทำอย่างนั้น

           การจัดการโลจิสติกส์ที่ดีช่วยลดระยะเวลาการทำงาน ให้กระชับมากยิ่งขึ้น และหากไม่ชำนาญเรื่องใด ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ขององค์กร หรือบริษัทที่เชี่ยวชาญทำแทนดีกว่า เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่รวดเร็ว แม่นยำกว่า และมีประสิทธิภาพมากขึ้น การจัดการโลจิสติกส์ที่ดีจะช่วยให้ทุกฝ่ายเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้รอยต่อ การทำงานจะสมบูรณ์แบบ และไม่เสียเวลา ยกตัวอย่างเช่น การลดระยะเวลาในการขนส่งวัสดุ หรือ วัตถุดิบการผลิตจากแหล่งผลิตที่เชี่ยวชาญ เผื่อให้สามารถนำมาผลิตเป็นสินค้าได้รวดเร็วมากขึ้น หรือการใช้บริการ Fulfillment เก็บแพ็คส่ง ให้จัดการงานหลังบ้าน และผู้ประกอบการนำเวลาไปต่อยอด หรือพัฒนาธุรกิจต่อไป โดยไม่ต้องห่วงปัญหาด้านโลจิสติกส์นั่นเอง

MyCloudFulfillment เก็บ แพ็ค ส่งสินค้า ช่วยลดต้นทุนธุรกิจ E-Commerce

          ผู้ให้บริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่งสินค้าที่เป็นมากกว่าแค่ ผู้ให้บริการ Fulfillment เพราะเราต้องการเป็นผู้ช่วยที่สามารถช่วยเหลือให้ธุรกิจ E-Commerce เติบโตขึ้นได้อย่างยั่งยืน ด้วยบริการเก็บ แพ็ค ส่ง ที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยความไว้วางใจจากบริษัทในตลาดหลักทรัพย์และบริษัทข้ามชาติมากมาย รับประกันคุณภาพของบริการด้ว รีวิวและรางวัลระดับประเทศ MyCloud แตกต่าง ด้วยการให้บริการที่สามารถ Customize ปรับแต่งบริการได้ตามความต้องการ ออกแบบให้เป็นบริการที่ตอบโจทย์ธุรกิจที่สุดไม่ว่าจะเป็น การผูกโบว์ เขียนการ์ด ห่อของขวัญ หรือแม้แต่ฉีดน้ำหอมลงบนกล่อง แบบละเอียดออเดอร์ต่อออเดอร์เลยทีเดียว นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญอย่างสูงกับ DATA เพื่อการทำงานให้ลูกค้ามีกำไรจากการขายได้มากที่สุด เรามีเป้าหมายช่วยให้คุณขายดี และเก็บสต็อกอย่างฉลาด และเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742, 02-138-9920
อีเมล: [email protected]
line: @mycloudgroup
MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก
บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Marketplace หรือ Social Commerce ขายที่ไหนกำไรดีกว่า?

ในยุคที่การขายออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว คำถามสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนมักจะถามตัวเองคือ “ควรขายผ่าน Marketplace หรือ Social Commerce เพื่อให้ได้กำไรมากที่สุด?” ก่อนที่จะรู้คำตอบนั้นก็ควรจะรู้ก่อนว่าแต่ละช่องทางนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันอย่างไร แล้วช่องทางไหนที่เหมาะกับธุรกิจของคุณมากที่สุด? บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน พร้อมคำแนะนำที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น! Marketplace คืออะไร? ข้อดีและข้อเสีย Marketplace คือแพลตฟอร์มที่รวบรวมผู้ขายและผู้ซื้อมาไว้ในที่เดียว เช่น Lazada, Shopee, และ TikTok Shop ซึ่งกลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ขายออนไลน์เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมากในเวลาอันสั้น ข้อดีของ Marketplace 1.เข้าถึงฐานลูกค้าขนาดใหญ่ เพราะมีจำนวนผู้ใช้งานที่เยอะมากและหลากหลายทั้งในแง่ของเพศ อายุ และความสนใจ ทำให้โอกาสที่สินค้าของคุณจะถูกพบเห็นและซื้อมีสูง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ช่วยโปรโมตสินค้า เช่น การแสดงสินค้าในหน้าแนะนำ (Recommended), การจัดอันดับสินค้ายอดนิยม, หรือฟังก์ชัน Search ที่ช่วยให้ลูกค้าเจอสินค้าคุณง่ายขึ้น และมีผู้ใช้งานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง คุณจึงสามารถขายสินค้าและทำการตลาดได้ต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องรอช่วงเวลาหรือกิจกรรมพิเศษ 2.ระบบจัดการที่สะดวก ระบบจัดการที่สะดวก มีเครื่องมือที่ช่วยในเรื่องของการชำระเงิน การจัดส่ง และโปรโมชั่น –การชำระเงิน (Payment) มีระบบชำระเงินอัตโนมัติที่รองรับการจ่ายเงินหลากหลายช่องทาง เช่น บัตรเครดิต/เดบิต, โอนผ่านธนาคาร, และ […]

CRM คืออะไร? จำเป็นไหมที่ทุกธุรกิจออนไลน์ต้องมี

ในยุคที่ใครๆก็ต้องมีช่องทางการขายทางออนไลน์ หลายร้านค้าต่างมุ่งเป้าไปยังการเพิ่มยอดขายและหาลูกค้าใหม่ผ่านช่องทาง Marketplace ยอดนิยม เช่น Lazada, Shopee, และ TikTok Shop อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบบ่อยคือร้านค้าไม่สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าโดยตรงจากช่องทางเหล่านี้ได้ ซึ่งอาจจะเสียโอกาสสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า และเปลี่ยนจากลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าประจำที่ซื้อซ้ำในระยะยาวได้ยาก แต่วันนี้ MyCloud เราจะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าจริงๆแล้วปัญหานี้ก็มีวิธีที่แก้ได้เช่นกัน นั่นก็คือการใช้ระบบ CRM (Customer Relationship Management) เข้ามาช่วยเก็บข้อมูลลูกค้า แต่ว่า CRM คืออะไร แล้วจะตอบโจทย์กับร้านค้าออนไลน์ในปัจจุบันกันได้มากน้อยแค่ไหน มาอ่านจากบทความต่อไปนี้กันได้เลยค่ะ CRM คืออะไร และทำไมจึงสำคัญกับธุรกิจออนไลน์? CRM หรือ Customer Relationship Management คือ ระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยการจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าในรูปแบบต่างๆ ทั้งการติดตามประวัติการซื้อสินค้า ความสนใจ พฤติกรรมการซื้อ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และสร้างความประทับใจสูงสุดในการซื้อขายแต่ละครั้ง ปัญหาเมื่อขายผ่าน Marketplace โดยไม่มี CRM คืออะไร? การขายผ่าน Marketplace มีข้อดีเรื่องความสะดวกและการเข้าถึงลูกค้าใหม่จำนวนมากก็จริง […]

Marketplace หรือ Social Commerce ขายที่ไหนกำไรดีกว่า?

ในยุคที่การขายออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว คำถามสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนมักจะถามตัวเองคือ “ควรขายผ่าน Marketplace หรือ Social Commerce เพื่อให้ได้กำไรมากที่สุด?” ก่อนที่จะรู้คำตอบนั้นก็ควรจะรู้ก่อนว่าแต่ละช่องทางนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันอย่างไร แล้วช่องทางไหนที่เหมาะกับธุรกิจของคุณมากที่สุด? บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน พร้อมคำแนะนำที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น! Marketplace คืออะไร? ข้อดีและข้อเสีย Marketplace คือแพลตฟอร์มที่รวบรวมผู้ขายและผู้ซื้อมาไว้ในที่เดียว เช่น Lazada, Shopee, และ TikTok Shop ซึ่งกลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ขายออนไลน์เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมากในเวลาอันสั้น ข้อดีของ Marketplace 1.เข้าถึงฐานลูกค้าขนาดใหญ่ เพราะมีจำนวนผู้ใช้งานที่เยอะมากและหลากหลายทั้งในแง่ของเพศ อายุ และความสนใจ ทำให้โอกาสที่สินค้าของคุณจะถูกพบเห็นและซื้อมีสูง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ช่วยโปรโมตสินค้า เช่น การแสดงสินค้าในหน้าแนะนำ (Recommended), การจัดอันดับสินค้ายอดนิยม, หรือฟังก์ชัน Search ที่ช่วยให้ลูกค้าเจอสินค้าคุณง่ายขึ้น และมีผู้ใช้งานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง คุณจึงสามารถขายสินค้าและทำการตลาดได้ต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องรอช่วงเวลาหรือกิจกรรมพิเศษ 2.ระบบจัดการที่สะดวก ระบบจัดการที่สะดวก มีเครื่องมือที่ช่วยในเรื่องของการชำระเงิน การจัดส่ง และโปรโมชั่น –การชำระเงิน (Payment) มีระบบชำระเงินอัตโนมัติที่รองรับการจ่ายเงินหลากหลายช่องทาง เช่น บัตรเครดิต/เดบิต, โอนผ่านธนาคาร, และ […]

CRM คืออะไร? จำเป็นไหมที่ทุกธุรกิจออนไลน์ต้องมี

ในยุคที่ใครๆก็ต้องมีช่องทางการขายทางออนไลน์ หลายร้านค้าต่างมุ่งเป้าไปยังการเพิ่มยอดขายและหาลูกค้าใหม่ผ่านช่องทาง Marketplace ยอดนิยม เช่น Lazada, Shopee, และ TikTok Shop อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบบ่อยคือร้านค้าไม่สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าโดยตรงจากช่องทางเหล่านี้ได้ ซึ่งอาจจะเสียโอกาสสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า และเปลี่ยนจากลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าประจำที่ซื้อซ้ำในระยะยาวได้ยาก แต่วันนี้ MyCloud เราจะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าจริงๆแล้วปัญหานี้ก็มีวิธีที่แก้ได้เช่นกัน นั่นก็คือการใช้ระบบ CRM (Customer Relationship Management) เข้ามาช่วยเก็บข้อมูลลูกค้า แต่ว่า CRM คืออะไร แล้วจะตอบโจทย์กับร้านค้าออนไลน์ในปัจจุบันกันได้มากน้อยแค่ไหน มาอ่านจากบทความต่อไปนี้กันได้เลยค่ะ CRM คืออะไร และทำไมจึงสำคัญกับธุรกิจออนไลน์? CRM หรือ Customer Relationship Management คือ ระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยการจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าในรูปแบบต่างๆ ทั้งการติดตามประวัติการซื้อสินค้า ความสนใจ พฤติกรรมการซื้อ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และสร้างความประทับใจสูงสุดในการซื้อขายแต่ละครั้ง ปัญหาเมื่อขายผ่าน Marketplace โดยไม่มี CRM คืออะไร? การขายผ่าน Marketplace มีข้อดีเรื่องความสะดวกและการเข้าถึงลูกค้าใหม่จำนวนมากก็จริง […]