Knowledge Center

เทคนิคการจัดโปรโมชั่นอย่างไรให้ปัง ฉบับขายของออนไลน์ 2025 ทำครั้งเดียว ยอดขายพุ่งทั้งเดือน

การจัดโปรโมชั่น

ยุคนี้ใคร ๆ ก็ขายของออนไลน์กันทั้งนั้นใช่ไหม การแข่งขันในตลาดก็สูงปรี๊ดชนิดที่ว่าถ้าไม่ปรับตัวก็อยู่ยาก หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้ร้านของคุณโดดเด่นและมัดใจลูกค้าได้อยู่หมัด ก็คือการจัดโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจนั่นเอง วันนี้ MyCloud ขอแชร์เทคนิคจัดโปรโมชั่นให้ปังแบบฉบับร้านค้าออนไลน์ปี 2025 ที่รับรองว่าทำครั้งเดียว ยอดขายพุ่งทั้งเดือน!

การจัดโปรโมชั่น สำคัญแค่ไหนในยุคขายของออนไลน์

ลองสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ดูสิ พวกเขาไม่ได้แค่มองหาสินค้าดีมีคุณภาพอย่างเดียวแล้ว แต่ยังฉลาดเลือกและเปรียบเทียบราคาเก่งขึ้นมาก พวกเขามักจะมองหาดีลพิเศษ คูปองส่วนลดหรืออะไรก็ตามที่ทำให้รู้สึกว่า “คุ้มค่า” ที่สุดก่อนตัดสินใจซื้อ ยิ่งในยุคที่ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงง่ายแค่ปลายนิ้ว การเข้าถึงโปรโมชั่นก็ง่ายขึ้นตามไปด้วย

นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมการจัดโปรโมชั่นถึงสำคัญมาก ๆ เพราะมันคือเครื่องมือชั้นดีที่จะดึงดูดลูกค้าใหม่ให้เข้ามา และยังช่วยรักษาฐานลูกค้าเก่าให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ด้วย 

ทำไมร้านค้าออนไลน์ควรใส่ใจการจัดโปรโมชั่นมากกว่าเดิม 

จากที่บอกไปว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเยอะมาก ทุกวันนี้แค่มีสินค้าดีอย่างเดียวไม่พอแล้ว ร้านค้าออนไลน์ต้องคิดหาวิธีดึงดูดความสนใจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งโปรโมชั่นก็คือหนึ่งในวิธีที่ได้ผลดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงเวลาที่ต้องการ ระบายสต๊อกสินค้าเก่า สร้างการรับรู้แบรนด์หรือแม้แต่สร้างความภักดีของลูกค้า การจัดโปรโมชั่นที่เหมาะสมจะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดเลย 

แชร์ 6 เทคนิคการจัดโปรโมชั่นให้ปังในปี 2025 

เทคนิคการจัดโปรโมชั่น

1. โปรแฟลชเซลล์ (Flash Sale) สร้างแรงดึงดูดทันที

โปรโมชั่นสุดฮิตที่ใคร ๆ ก็ชอบ! การจัด Flash Sale คือการลดราคาสินค้าแบบจัดหนักจัดเต็มในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น 1 – 2 ชั่วโมง หรือแค่ไม่กี่วัน เทคนิคนี้จะสร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อทันที เพราะกลัวพลาดดีลเด็ดไป รับรองว่ายอดพุ่งกระจายแน่นอน

2. ใช้ Limited Time Offer กระตุ้น FOMO ให้ลูกค้ารีบซื้อ

ของมีจำนวนจำกัด” หรือ “โปรโมชั่นนี้ถึงแค่เที่ยงคืนวันนี้เท่านั้น!” ประโยคเหล่านี้เป็นเหมือนเวทมนตร์ที่กระตุ้นความรู้สึกกลัวพลาด หรือ FOMO (Fear Of Missing Out) ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี การจำกัดทั้งจำนวนสินค้าหรือกรอบเวลา จะผลักดันให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น ไม่ต้องคิดนาน

3. ระบบสะสมแต้ม–แลกของ รักษาลูกค้าระยะยาว

วิธีนี้เหมาะมากสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาว ลองออกแบบระบบสะสมแต้ม เช่น ทุก ๆ ยอดซื้อ 100 บาท ได้ 1 แต้ม ครบ 10 แต้มแลกรับส่วนลด 50 บาท หรือรับของพรีเมียมเฉพาะสมาชิก วิธีนี้จะช่วยให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำบ่อย ๆ เพื่อสะสมแต้มให้ครบตามเงื่อนไข

4. Cross-sell หรือ Upsell ผ่านโปรจับคู่สินค้าราคาเด็ด

แทนที่จะขายสินค้าเดี่ยว ๆ ลองจับคู่สินค้า (Virtual Bundle) ที่ใช้ด้วยกันแล้วได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกัน มาจัดเป็นชุดโปรโมชั่นในราคาที่ถูกลง ตัวอย่างเช่น ซื้อโทรศัพท์มือถือแถมฟิล์มกันรอย หรือซื้อรองเท้าพร้อมถุงเท้าในราคาพิเศษ วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มยอดขาย แต่ยังช่วยให้ลูกค้าได้ค้นพบสินค้าใหม่ ๆ ของร้านคุณด้วย 

อีกหนึ่งเทคนิคที่ร้านค้าออนไลน์นิยมใช้กันมากคือ Virtual Bundle หรือการจัดชุดโปรแบบเสมือน โดยที่ไม่ต้องแพ็กของรวมกันไว้ล่วงหน้า แต่ใช้ระบบหลังบ้านช่วยจัดสินค้าคนละชิ้นให้กลายเป็นชุดเดียวตอนลูกค้าสั่งซื้อ วิธีนี้ช่วยให้คุณจัดโปรได้ยืดหยุ่นขึ้น ไม่ต้องล็อกสต็อกไว้จำนวนมาก และยังทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าได้ แม้จะเป็นสินค้าคนละหมวดก็ตาม เช่น ซื้อเสื้อ 1 ตัว จับคู่กับหมวกหรือกระเป๋าในราคาพิเศษ แบบไม่ต้องทำเป็นแพ็กกิ้งจริง ลดต้นทุนการจัดการ แต่เพิ่มโอกาสในการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. แจกคูปองส่วนลดผ่านโซเชียลมีเดียและไลฟ์ขายของ

ปัจจุบันการทำการตลาดผ่าน Social Commerce เป็นช่องทางที่ดีที่สุดในการเข้าถึงลูกค้า ลองแจกโค้ดส่วนลดพิเศษผ่านโพสต์ใน FacebookInstagram หรือ TikTok ของร้าน หรือจัดกิจกรรมแจกคูปองในระหว่าง Live สดขายของ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและกระตุ้นยอดซื้อในช่วงเวลาดังกล่าว

6. ใช้ Data จาก Fulfillment วิเคราะห์ยอดขายก่อนจัดโปรรอบต่อไป

เคล็ดลับสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการนำข้อมูลมาใช้ให้เป็นประโยชน์! หลังจากจัดโปรโมชั่นแต่ละครั้ง ลองใช้ข้อมูลยอดขายจากระบบ Fulfillment ของคุณมาวิเคราะห์ดูว่าสินค้าไหนขายดี โปรโมชั่นไหนปัง ลูกค้ากลุ่มไหนตอบรับดีที่สุด ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนจัดโปรโมชั่น ครั้งต่อไปได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อควรวังในการจัดโปรโมชั่นสินค้า 

แม้ว่าโปรโมชั่นจะเป็นเครื่องมือชั้นเยี่ยม แต่ถ้าพลาดก็อาจส่งผลเสียได้เหมือนกัน มาดูกันว่ามีอะไรที่ต้องระวังบ้าง

ลดราคามากเกินไปจนขาดทุน

หลายร้านมักจะใจป้ำลดราคาแบบไม่ลืมหูลืมตาเพื่อดึงดูดลูกค้า แต่สุดท้ายกลับขาดทุนซะเอง! ก่อนจัดโปรฯ ต้องคำนวณต้นทุน กำไรและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้ดี เพื่อให้มั่นใจว่าการลดราคานั้นยังคุ้มค่าและไม่ทำให้ร้านต้องแบกรับภาระมากเกินไป

โปรโมชั่นไม่ชัดเจน สับสนทั้งลูกค้าและทีมขาย

เคยเจอไหมโปรโมชั่นที่อ่านแล้วงง ๆ ไม่รู้เงื่อนไขคืออะไร ปัญหานี้สร้างความหงุดหงิดให้ลูกค้า และทำให้ทีมขายทำงานยากขึ้นด้วย ดังนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเงื่อนไขโปรโมชั่นชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่คลุมเครือ

ไม่มีการวัดผลหลังจบโปร ทำให้ไม่รู้ว่าคุ้มหรือไม่

จัดโปรฯ ไปแล้ว แต่ไม่เคยดูเลยว่าได้ผลยังไง ยอดขายเพิ่มขึ้นจริงไหม หรือมีลูกค้าใหม่เข้ามาเยอะแค่ไหน ถ้าไม่มีการวัดผล คุณก็จะไม่รู้เลยว่าโปรโมชั่นที่จัดไปนั้นคุ้มค่าหรือไม่ และจะนำไปปรับปรุงในครั้งต่อไปได้อย่างไร

ควรจัดโปรโมชั่นบ่อยแค่ไหนถึงจะเหมาะ?

คำถามนี้ไม่มีคำตอบตายตัว ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า กลุ่มเป้าหมาย และเป้าหมายของแต่ละโปรโมชั่น บางร้านอาจจัดโปรฯ เล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกสัปดาห์ บางร้านอาจจัดโปรฯ ใหญ่ ๆ เฉพาะช่วงเทศกาล แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่จัดบ่อยจนเกินไปจนลูกค้ารู้สึกว่า “รอลดก็พอ” และไม่เห็นคุณค่าในราคาปกติของสินค้า

จัดโปรแล้วของหมดไว ทำอย่างไรดี ?

ปัญหาโลกแตกของร้านค้าออนไลน์เลย! ยิ่งจัดโปรปังเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสที่ของจะหมดไวเท่านั้น แต่ไม่ต้องกังวลไป MyCloud มีตัวช่วยดี ๆ อย่าง Inventory Dashboard ที่จะช่วยให้คุณสามารถมองเห็นภาพรวมสต๊อกสินค้าหลังบ้านได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะจัดโปรผ่านกี่ช่องทาง ShopeeLazadaTikTok Shop หรือแม้แต่ขายผ่าน Live ก็สามารถดูได้ว่า สินค้าตัวไหนขายดี กำลังจะหมดหรือควรเติมสต๊อกเพิ่มในรอบหน้า 

ไม่ใช่แค่ดูจำนวนสินค้าเท่านั้น แต่ยังสามารถตั้งจำนวนขั้นต่ำของสต๊อก (Safety Stock) ได้อีกด้วย โดยสามารถเข้ามาดูได้ที่ Dashboard ทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณวางแผนจัดโปรล่วงหน้าได้แม่นยำ เช่น เติมสินค้าให้เพียงพอก่อนเริ่มแคมเปญ หรือเตรียมของแถมโปรโมชันได้แบบไม่ขาดช่วงอีกด้วย!

เมื่อวางแผนสต๊อกเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการบริหารจัดการออเดอร์ให้รวดเร็วและแม่นยำ ทุกออเดอร์จากทุกช่องทางจะถูกรวมเข้าสู่ระบบเดียวผ่านระบบ Order Management System (OMS) ของ MyCloud โดยอัตโนมัติ จากนั้นคำสั่งซื้อจะส่งตรงเข้าไปยังคลังสินค้า ทีมงานของเราจะดำเนินการหยิบ แพ็กและจัดส่งทันทีด้วยระบบ Barcode 100% ที่แม่นยำ พร้อมขั้นตอนการทำงานชัดเจนที่สามารถตรวจสอบได้ บันทึกทุกกระบวนการทำงานผ่าน CCTV การันตีว่าสินค้าถึงมือลูกค้าถูกต้อง และครบถ้วน 99.9% แน่นอน โดยเฉพาะช่วงโปรโมชั่นแบบนี้ เราสามารถจัดการออเดอร์ได้มากถึง 100,000 ออเดอร์ต่อวัน พร้อมบริหารกำลังคนในการหยิบ แพ็กและจัดส่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง ให้คุณมั่นใจได้ว่า ต่อให้โปรแรงแค่ไหน หรือจัดหลายช่องทางพร้อมกัน ก็ไม่มีหลุด ไม่มีดีเลย์ เพราะ MyCloud เราสามารถเพิ่มกำลังคนจัดการออเดอร์และรองรับการขยายได้ถึง 3.5 เท่า ด้วยพื้นที่คลังสินค้าขนาดใหญ่กว่า 10,000 ตร.ม. จัดสินค้าส่งถึงมือลูกค้าได้ตรงเวลาแน่นอน!

ช้อปปิ้งออนไลน์

สรุปบทความ 

การจัดโปรโมชั่นในยุคขายของออนไลน์ปี 2025 ไม่ใช่แค่เรื่องของการลดราคาเท่านั้น แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ร้านค้าโดดเด่นในตลาดที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด เทคนิคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Flash Sale, การใช้ FOMO, ระบบสะสมแต้ม, Virtual Bundle หรือการใช้ข้อมูลจาก Fulfillment มาวิเคราะห์ ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยรักษาลูกค้าเดิม และดึงดูดลูกค้าใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญอย่าลืมวางแผนอย่างรอบคอบ ไม่ลดจนขาดทุน และอย่าลืมวัดผลหลังจบโปรเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป และหากคุณอยากให้การจัดโปรเป็นเรื่องง่ายขึ้น การใช้บริการ Fulfillment หรือคลังสินค้าออนไลน์แบบครบวงจร ที่มีทั้งบริการ เก็บ แพ็ก ส่งสินค้าและฟีเจอร์ที่ช่วยบริหารจัดการสต๊อกสินค้าอย่าง Inventory Dashboard ที่ MyCloud Fulfillm

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Marketplace หรือ Social Commerce ขายที่ไหนกำไรดีกว่า?

ในยุคที่การขายออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว คำถามสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนมักจะถามตัวเองคือ “ควรขายผ่าน Marketplace หรือ Social Commerce เพื่อให้ได้กำไรมากที่สุด?” ก่อนที่จะรู้คำตอบนั้นก็ควรจะรู้ก่อนว่าแต่ละช่องทางนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันอย่างไร แล้วช่องทางไหนที่เหมาะกับธุรกิจของคุณมากที่สุด? บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน พร้อมคำแนะนำที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น! Marketplace คืออะไร? ข้อดีและข้อเสีย Marketplace คือแพลตฟอร์มที่รวบรวมผู้ขายและผู้ซื้อมาไว้ในที่เดียว เช่น Lazada, Shopee, และ TikTok Shop ซึ่งกลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ขายออนไลน์เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมากในเวลาอันสั้น ข้อดีของ Marketplace 1.เข้าถึงฐานลูกค้าขนาดใหญ่ เพราะมีจำนวนผู้ใช้งานที่เยอะมากและหลากหลายทั้งในแง่ของเพศ อายุ และความสนใจ ทำให้โอกาสที่สินค้าของคุณจะถูกพบเห็นและซื้อมีสูง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ช่วยโปรโมตสินค้า เช่น การแสดงสินค้าในหน้าแนะนำ (Recommended), การจัดอันดับสินค้ายอดนิยม, หรือฟังก์ชัน Search ที่ช่วยให้ลูกค้าเจอสินค้าคุณง่ายขึ้น และมีผู้ใช้งานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง คุณจึงสามารถขายสินค้าและทำการตลาดได้ต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องรอช่วงเวลาหรือกิจกรรมพิเศษ 2.ระบบจัดการที่สะดวก ระบบจัดการที่สะดวก มีเครื่องมือที่ช่วยในเรื่องของการชำระเงิน การจัดส่ง และโปรโมชั่น –การชำระเงิน (Payment) มีระบบชำระเงินอัตโนมัติที่รองรับการจ่ายเงินหลากหลายช่องทาง เช่น บัตรเครดิต/เดบิต, โอนผ่านธนาคาร, และ […]

Marketplace หรือ Social Commerce ขายที่ไหนกำไรดีกว่า?

ในยุคที่การขายออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว คำถามสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนมักจะถามตัวเองคือ “ควรขายผ่าน Marketplace หรือ Social Commerce เพื่อให้ได้กำไรมากที่สุด?” ก่อนที่จะรู้คำตอบนั้นก็ควรจะรู้ก่อนว่าแต่ละช่องทางนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันอย่างไร แล้วช่องทางไหนที่เหมาะกับธุรกิจของคุณมากที่สุด? บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน พร้อมคำแนะนำที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น! Marketplace คืออะไร? ข้อดีและข้อเสีย Marketplace คือแพลตฟอร์มที่รวบรวมผู้ขายและผู้ซื้อมาไว้ในที่เดียว เช่น Lazada, Shopee, และ TikTok Shop ซึ่งกลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ขายออนไลน์เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมากในเวลาอันสั้น ข้อดีของ Marketplace 1.เข้าถึงฐานลูกค้าขนาดใหญ่ เพราะมีจำนวนผู้ใช้งานที่เยอะมากและหลากหลายทั้งในแง่ของเพศ อายุ และความสนใจ ทำให้โอกาสที่สินค้าของคุณจะถูกพบเห็นและซื้อมีสูง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ช่วยโปรโมตสินค้า เช่น การแสดงสินค้าในหน้าแนะนำ (Recommended), การจัดอันดับสินค้ายอดนิยม, หรือฟังก์ชัน Search ที่ช่วยให้ลูกค้าเจอสินค้าคุณง่ายขึ้น และมีผู้ใช้งานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง คุณจึงสามารถขายสินค้าและทำการตลาดได้ต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องรอช่วงเวลาหรือกิจกรรมพิเศษ 2.ระบบจัดการที่สะดวก ระบบจัดการที่สะดวก มีเครื่องมือที่ช่วยในเรื่องของการชำระเงิน การจัดส่ง และโปรโมชั่น –การชำระเงิน (Payment) มีระบบชำระเงินอัตโนมัติที่รองรับการจ่ายเงินหลากหลายช่องทาง เช่น บัตรเครดิต/เดบิต, โอนผ่านธนาคาร, และ […]