Knowledge Center

8 แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ขายที่ไหนดีที่สุด?

ผู้หญิงคิดว่าจะขายของออนไลน์แพลตฟอร์มไหนดี

จะเห็นได้ว่าหลายคนเริ่มหันมาช้อปปิ้งออนไลน์แทนการไปหยิบจับของเองที่หน้าร้านแล้ว ซึ่งสิ่งนี้นี่แหละที่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการจำนวนมากหันมาให้ความสนใจกับการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น แต่ท่ามกลางตัวเลือกที่หลากหลาย หลายคนก็อาจสงสัยว่าควรเลือกขายบนแพลตฟอร์มไหนดี วันนี้ MyCloud จะพาคุณไปรู้จักกับ 8 แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ยอดนิยมที่น่าสนใจ พร้อมแนะนำวิธีการจัดการร้านค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุดกัน   

แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ คืออะไร

แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ คือพื้นที่กลางที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถนำเสนอสินค้าสู่ผู้บริโภคได้โดยตรง เปรียบเสมือนตลาดดิจิทัลที่เชื่อมโยงผู้ขายและผู้ซื้อเข้าด้วยกัน จึงทำให้การซื้อขายเกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไร้ข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา แพลตฟอร์มขายของออนไลน์เหล่านี้ จึงมาพร้อมระบบจัดการร้านค้าที่ครบครัน ตั้งแต่การจัดการสินค้า ระบบชำระเงิน การจัดการคำสั่งซื้อไปจนถึงระบบขนส่ง ทำให้ผู้ขายสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง นอกจากนี้ ยังมีฐานลูกค้าที่พร้อมจะเข้าถึงสินค้าของคุณอยู่แล้วอีกด้วย  

8 อันดับแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่นิยมในไทย

มาดูกันว่าแพลตฟอร์มไหนที่น่าสนใจสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ของคุณบ้าง ดังนี้   

1. TikTok Shop

ม้ามืดแซงทุกแพลตฟอร์มในตอนนี้ TikTok Shop คือพื้นที่ที่กำลังมาแรงในวงการอีคอมเมิร์ซ ด้วยจุดเด่นของการผสมผสานความบันเทิงเข้าในรูปแบบคลิปวิดีโอสั้นพร้อมกับสามารถช้อปปิ้งซื้อ-ขายสินค้าได้ภายในแอปพลิเคชันเดียว ทำให้ผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้าที่สร้างสรรค์และน่าสนใจ เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานรุ่นใหม่ได้อย่างตรงเป้า โดยการขายสินค้าผ่านติ๊กต๊อกนั้น ระบบจะเชื่อมต่อกับคอนเทนต์วิดีโอโดยตรง ผู้ซื้อสามารถเห็นการสาธิตสินค้าผ่านคลิปวิดีโอ หรือ Live ขายของและกดซื้อสินค้าผ่านได้ทันที โดยไม่ต้องออกจากแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ TikTok Live ที่ช่วยให้ผู้ขายสามารถไลฟ์สดขายสินค้าและโต้ตอบกับลูกค้าได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย  

คนซื้อของผ่าน TikTok Shop

2. Shopee

สำหรับ Shopee ก็ยังคงครองตำแหน่งแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำอยู่ ด้วยฐานผู้ใช้งานที่แข็งแกร่งและระบบ Shopee Fulfillment ที่ช่วยการจัดการร้านค้าอย่างครบครัน ผู้ขายสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ โดยจุดเด่นของ Shopee จะอยู่ที่ระบบโปรโมชั่นที่หลากหลาย ทั้งคูปองส่วนลด แคมเปญและโปรแกรมสะสมคะแนน นอกจากนี้ยังมีระบบขนส่งที่ครอบคลุม พร้อมส่วนลดค่าจัดส่งที่น่าสนใจ ทำให้ผู้ขายสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

3. Lazada

Lazada เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ที่มีประสบการณ์ในตลาดมายาวนาน โดดเด่นด้วยระบบ Lazada Fulfillment ช่วยจัดการร้านค้าที่เป็นมืออาชีพและการสนับสนุนผู้ขายอย่างครบวงจร ตั้งแต่การจัดเก็บสินค้า แพ็คและจัดส่งสินค้า และอย่างที่รู้กันว่าลาซาด้าเป็นแพลตฟอร์มแรก ๆ ที่มีในประเทศไทย จึงทำให้มีฐานลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น หากคุณต้องการหาฐานลูกค้าหรือขยายกลุ่มเป้าหมาย Lazada ก็ถือเป็นช่องทางที่น่าสนใจเช่นกัน 

4. LINE Shopping

LINE Shopping คือส่วนขยายของแอปพลิเคชัน LINE ที่คนไทยคุ้นเคย ซึ่งแพลตฟอร์มขายของออนไลน์นี้จะสามารถเชื่อมต่อกับระบบแชตที่ผู้ใช้งานใช้อยู่แล้ว เพื่อให้การสื่อสารระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อเป็นไปอย่างสะดวกและเป็นธรรมชาติ มีระบบจัดการร้านค้า Line MyShop ที่ใช้งานง่ายสามารถจัดการสินค้า สต๊อกสินค้าและขนส่งได้อย่างสะดวก ซึ่งช่องทางการขายทาง Line Shopping สามารถเชื่อมต่อ API กับระบบจัดการออเดอร์ MyCloud ได้อีกด้วยช่วยอัปเดตออเดอร์และสต๊อกสินค้าได้แบบเรียลไทม์

แต่สำหรับผู้ขายคนไหนที่ยังขายทาง LINE OA ซึ่งจะเป็นการขายผ่านทางแชทข้อความ ไม่ได้มีระบบจัดการออเดอร์แบบ Line Shopping ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะสามารถใช้ลิงก์ตัวช่วยการชำระเงิน Chat Bitly ของ MyCloud ทำการสรุปคำสั่งซื้อของลูกค้าแล้วส่งลิงก์นี้ให้ลูกค้าชำระเงินได้ทันที หลังจากที่ลูกค้าชำระเงินสำเร็จร้านค้าสามารถกดอนุมัติยอดเงินเข้าและคำสั่งซื้อจะถูกส่งไปยังระบบคลังสินค้า (WMS) ของ MyCloud เพื่อทำการแพ็กจัดส่งทันที โดยร้านค้าไม่ต้องเสียเวลามาคีย์ออเดอร์เข้าระบบย้อนหลัง ช่วยป้องกันออเดอร์ตกหล่นได้อีกด้วย 

5. Facebook Marketplace

Facebook Marketplace เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้การซื้อขายบน Facebook เป็นเรื่องง่าย ด้วยการเข้าถึงผู้ใช้งาน Facebook กว่าล้านคน ผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้าได้ทั้งในรูปแบบโพสต์ปกติและการไลฟ์สด ซึ่งจะมีจุดเด่นอยู่ที่ความยืดหยุ่นในการนำเสนอสินค้า ผู้ขายสามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Facebook ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกลุ่ม การโพสต์ในเพจหรือการทำโฆษณาแบบมีเป้าหมาย เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สนใจสินค้าของคุณโดยเฉพาะ  

ดูสินค้าผ่าน Instagram

6.Instagram 

Instagram เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ Social Commerce คือการผสมผสานระหว่างโซเชียลมีเดียและการขายสินค้าออนไลน์ แพลตฟอร์มนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสินค้าที่เน้นภาพลักษณ์และการนำเสนอที่สวยงาม ด้วยฟีเจอร์การแชร์รูปภาพและวิดีโอที่หลากหลาย ทั้ง Feed, Stories, Reels และ IGTV ทำให้ผู้ขายสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่น่าสนใจ ดึงดูดฐานลูกค้าได้ และยังมีฟีเจอร์ Instagram Shopping ที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถกดซื้อสินค้าได้ทันทีจากรูปภาพได้อีกด้วย   

7. X

X หรือ Twitter เป็นแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่เหมาะกับการขายสินค้าแบบเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับศิลปินดาราทั้งไทยและเทศ ด้วยการใช้แฮชแท็กและการสร้างคอนเทนต์ที่กระชับ ทำให้สินค้าสามารถเข้าถึงผู้ที่สนใจได้อย่างตรงจุด เช่น #ตลาดนัดGOT7 #ตลาดนัดRIIZE หรือ #พรีออเดอร์เกาหลี #พรีออเดอร์ญี่ปุ่น นอกจากนี้ ผู้ขายยังสามารถใช้ประโยชน์จากการสร้างกระแสและการบอกต่อบน X ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสินค้าที่มีความเฉพาะตัวหรือเทรนด์ใหม่ ๆ ที่กำลังได้รับความนิยมนั่นเอง   

8. Shoptify 

แพลตฟอร์มขายของสุดท้ายที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ Shopify เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและยังมีการบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่การจัดการสินค้า ตั้งราคาขาย ระบบสต๊อกสินค้า พร้อมการจัดส่ง ช่วยให้คุณสามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีเทมเพลตร้านค้าให้คุณได้เลือกปรับแต่งหน้าร้านได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อขยายช่องทางการขาย 

ขายสินค้าลงหลาย ๆ แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ดีอย่างไร

การขายสินค้าบนหลายแพลตฟอร์มขายของออนไลน์เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในปัจจุบันได้เช่นกัน

  • เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย เนื่องจากแต่ละแพลตฟอร์มมีกลุ่มผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน ทำให้การขายหลายแพลตฟอร์มจึงช่วยให้สินค้าของคุณเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
  • กระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ หากแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งประสบปัญหา คุณยังมีช่องทางการขายอื่น ๆ รองรับธุรกิจของคุณอยู่ 
  • เพิ่มโอกาสในการขาย เพราะผู้บริโภคยุคใหม่มักใช้หลายแพลตฟอร์มในการช้อปปิ้ง การมีตัวตนในหลายช่องทางจึงเพิ่มโอกาสในการพบเจอสินค้าของคุณ
  • สร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ การมีตัวตนบนแพลตฟอร์มที่หลากหลายช่วยเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของธุรกิจ
  • เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคได้หลากหลายมิติ แต่ละแพลตฟอร์มจะให้ข้อมูลเชิงลึกที่แตกต่างกัน ช่วยให้คุณเข้าใจตลาดได้ดียิ่งขึ้น 

ขายหลายช่องทาง จัดการออเดอร์ยังไงให้ไม่พลาด?

การขายสินค้าบนหลายแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ถึงแม้จะมีข้อดีมากมาย แต่แน่นอนหล่ะ มันก็มักจะมาพร้อมความท้าทายในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการจัดการออเดอร์ที่เข้ามาจากหลายช่องทาง ซึ่งหากไม่มีระบบจัดการที่ดีอาจเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น นับสต๊อกสินค้าไม่ตรงกัน สินค้าไม่พอจัดส่ง ส่งสินค้าผิดหรือลืมจัดส่งออเดอร์

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการจัดการคลังสินค้า MyCloud พร้อมเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยยกระดับการจัดการหลังบ้านของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยโซลูชัน Order Management System (OMS) จัดการออเดอร์จากในแต่ละแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ เชื่อมต่อกับ API จัดการคำสั่งซื้อตามลำดับ ไร้กังวลว่าจะตกหล่นออเดอร์ไหนไปหรือไม่ ส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย ร้านค้าก็สามารถรักษาระดับ SLA ได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะส่งไม่ทัน พร้อมอัปเดตสต๊อกสินค้าในคลังสินค้าออนไลน์แบบเรียลไทม์ทุก ๆ 3 นาที ผ่านระบบการจัดการคลังสินค้า WMS (Warehouse Management System) ทำให้การขายหลายช่องทางเป็นเรื่องที่จัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ระบบการจัดการร้านที่ดี

สรุปบทความ

การเลือกแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกัน หากต้องการขยายโอกาสทางการขายให้มากขึ้น การขายสินค้าบนหลายแพลตฟอร์มเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงลูกค้า กระจายความเสี่ยง และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการขยายช่องทางการขาย การเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นทั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกขายสินค้าบนแพลตฟอร์มไหน การมีระบบจัดการร้านค้าที่มีประสิทธิภาพสิ่งสำคัญในการเพิ่มยอดขายและขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน MyCloud เป็นโซลูชันที่ช่วยให้คุณบริหารร้านค้าออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ด้วยโซลูชัน Fulfillment ครบวงจร แก้ไขปัญหาการจัดการคำสั่งซื้อจากหลากหลายแพลตฟอร์ม พร้อมช่วยวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น  

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Omni Channel คืออะไร ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจในยุค Disruption ?

ความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าถือเป็นเป้าหมายสำคัญของธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องงัดเอากลยุทธ์ต่าง ๆ มาเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า และหัวใจสำคัญที่อยู่ในทุกขั้นตอนของการขาย ตั้งแต่เริ่มต้นทำความรู้จักลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ ไปจนถึงการบริการหลังการขายนั่นก็คือ การติดต่อสื่อสาร ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคคาดหวังการให้บริการแบบเรียลไทม์ ผ่านช่องทางที่หลากหลาย  ดังนั้นการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าทั้งออนไลน์ และการขายหน้าร้าน หรือที่เรียกว่าออฟไลน์นั้น จึงมีความสำคัญไม่แพ้กัน นี่จึงทำให้เกิดการตลาดแบบผสมผสานที่เรียกว่า Omni Channel Marketing ที่เป็นการผสมผสานทั้งสองช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อให้เกิดการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการบันทึกข้อมูลลูกค้าไว้ที่ระบบกลางเพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายต่อไป  แล้ว Omni Channel คืออะไร? Omni มาจากรากศัพท์ลาตินว่า Omnibus ซึ่งหมายถึง For All หรือ ทั้งหมด ในแง่ของ E-commerce คำว่า “Omni Channel” คือช่องทางการสื่อสารและบริการลูกค้าที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดเอาไว้ เพื่อทำให้การเข้าถึงข้อมูลลูกค้าเป็นไปได้ง่าย รวดเร็วและไร้รอยต่อ เรียกได้ว่าเป็นการรวมการตลาดจากทุกช่องทาง ช่วยดึงลูกค้าจากร้านค้าไปปิดการขายในช่องทางออนไลน์ หรือลูกค้าจากหน้าร้านให้ไปทำการซื้อ-ขายกันในช่องทางออนไลน์ได้เช่นกัน  ถือเป็นการหยิบยื่นประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพิ่มความสะดวกให้สามารถเข้าถึงการซื้อขายได้อย่างครอบคลุม โดยในปัจจุบันช่องทางการสื่อสารออนไลน์ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Email Direct Marketing, Website, […]

เลือก Fulfillment เจ้าไหนดี เทคนิคการเลือกใช้บริการในไทยให้คุณคุ้มค่าที่สุด!

ปัจจุบันธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว การมีระบบจัดการคลังสินค้าและการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการลดภาระในการแพ็คของ ส่งของและบริหารสต๊อกสินค้า Fulfillment จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น  แต่ด้วยจำนวนผู้ให้บริการ Fulfillment ที่มีอยู่มากมายในตลาด การเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากคุณกำลังมองหาบริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าออนไลน์ที่ช่วยแก้ปัญหาหลังบ้านให้กับธุรกิจ E-Commerce ของคุณแต่ยังลังเลว่าเจ้าไหนดี บทความนี้มีคำตอบค่ะ!  วิธีเลือก Fulfillment เจ้าไหนดี ต้องดูอะไรบ้าง อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็ว การเลือกผู้ให้บริการ Fulfillment ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถช่วยให้การจัดเก็บ แพ็คและจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น ลดต้นทุนและภาระงานของเจ้าของธุรกิจได้อย่างมาก แต่ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่มากมาย มาดูกันควรใช้เกณฑ์อะไรในการเลือก Fulfillment ให้ตอบโจทย์ธุรกิจของเรา? มาดูปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณากัน! 1. บริการ Fulfillment ที่ดีต้อง “ยืดหยุ่น”  เพราะบริการ Fulfillment คือบริการ เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าออนไลน์คือบริการที่ช่วยแก้ปัญหาหลังบ้านเหล่านี้ให้กับธุรกิจ E-Commerce และผู้ประกอบการรายย่อย ดังนั้นจึงต้องมีความยืดหยุ่นและ Customize ในทุกขั้นตอนการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบริการเองก็ดี หรือราคาก็ดี ใครที่กำลังมองหาคลังสินค้าที่ใหญ่พอในการเช่าพื้นที่เก็บของ […]

Omni Channel คืออะไร ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจในยุค Disruption ?

ความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าถือเป็นเป้าหมายสำคัญของธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องงัดเอากลยุทธ์ต่าง ๆ มาเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า และหัวใจสำคัญที่อยู่ในทุกขั้นตอนของการขาย ตั้งแต่เริ่มต้นทำความรู้จักลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ ไปจนถึงการบริการหลังการขายนั่นก็คือ การติดต่อสื่อสาร ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคคาดหวังการให้บริการแบบเรียลไทม์ ผ่านช่องทางที่หลากหลาย  ดังนั้นการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าทั้งออนไลน์ และการขายหน้าร้าน หรือที่เรียกว่าออฟไลน์นั้น จึงมีความสำคัญไม่แพ้กัน นี่จึงทำให้เกิดการตลาดแบบผสมผสานที่เรียกว่า Omni Channel Marketing ที่เป็นการผสมผสานทั้งสองช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อให้เกิดการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการบันทึกข้อมูลลูกค้าไว้ที่ระบบกลางเพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายต่อไป  แล้ว Omni Channel คืออะไร? Omni มาจากรากศัพท์ลาตินว่า Omnibus ซึ่งหมายถึง For All หรือ ทั้งหมด ในแง่ของ E-commerce คำว่า “Omni Channel” คือช่องทางการสื่อสารและบริการลูกค้าที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดเอาไว้ เพื่อทำให้การเข้าถึงข้อมูลลูกค้าเป็นไปได้ง่าย รวดเร็วและไร้รอยต่อ เรียกได้ว่าเป็นการรวมการตลาดจากทุกช่องทาง ช่วยดึงลูกค้าจากร้านค้าไปปิดการขายในช่องทางออนไลน์ หรือลูกค้าจากหน้าร้านให้ไปทำการซื้อ-ขายกันในช่องทางออนไลน์ได้เช่นกัน  ถือเป็นการหยิบยื่นประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพิ่มความสะดวกให้สามารถเข้าถึงการซื้อขายได้อย่างครอบคลุม โดยในปัจจุบันช่องทางการสื่อสารออนไลน์ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Email Direct Marketing, Website, […]

เลือก Fulfillment เจ้าไหนดี เทคนิคการเลือกใช้บริการในไทยให้คุณคุ้มค่าที่สุด!

ปัจจุบันธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว การมีระบบจัดการคลังสินค้าและการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการลดภาระในการแพ็คของ ส่งของและบริหารสต๊อกสินค้า Fulfillment จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น  แต่ด้วยจำนวนผู้ให้บริการ Fulfillment ที่มีอยู่มากมายในตลาด การเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากคุณกำลังมองหาบริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าออนไลน์ที่ช่วยแก้ปัญหาหลังบ้านให้กับธุรกิจ E-Commerce ของคุณแต่ยังลังเลว่าเจ้าไหนดี บทความนี้มีคำตอบค่ะ!  วิธีเลือก Fulfillment เจ้าไหนดี ต้องดูอะไรบ้าง อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็ว การเลือกผู้ให้บริการ Fulfillment ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถช่วยให้การจัดเก็บ แพ็คและจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น ลดต้นทุนและภาระงานของเจ้าของธุรกิจได้อย่างมาก แต่ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่มากมาย มาดูกันควรใช้เกณฑ์อะไรในการเลือก Fulfillment ให้ตอบโจทย์ธุรกิจของเรา? มาดูปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณากัน! 1. บริการ Fulfillment ที่ดีต้อง “ยืดหยุ่น”  เพราะบริการ Fulfillment คือบริการ เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าออนไลน์คือบริการที่ช่วยแก้ปัญหาหลังบ้านเหล่านี้ให้กับธุรกิจ E-Commerce และผู้ประกอบการรายย่อย ดังนั้นจึงต้องมีความยืดหยุ่นและ Customize ในทุกขั้นตอนการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบริการเองก็ดี หรือราคาก็ดี ใครที่กำลังมองหาคลังสินค้าที่ใหญ่พอในการเช่าพื้นที่เก็บของ […]