Knowledge Center

8 แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ขายที่ไหนดีที่สุด?

ผู้หญิงคิดว่าจะขายของออนไลน์แพลตฟอร์มไหนดี

จะเห็นได้ว่าหลายคนเริ่มหันมาช้อปปิ้งออนไลน์แทนการไปหยิบจับของเองที่หน้าร้านแล้ว ซึ่งสิ่งนี้นี่แหละที่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการจำนวนมากหันมาให้ความสนใจกับการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น แต่ท่ามกลางตัวเลือกที่หลากหลาย หลายคนก็อาจสงสัยว่าควรเลือกขายบนแพลตฟอร์มไหนดี วันนี้ MyCloud จะพาคุณไปรู้จักกับ 8 แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ยอดนิยมที่น่าสนใจ พร้อมแนะนำวิธีการจัดการร้านค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุดกัน   

แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ คืออะไร

แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ คือพื้นที่กลางที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถนำเสนอสินค้าสู่ผู้บริโภคได้โดยตรง เปรียบเสมือนตลาดดิจิทัลที่เชื่อมโยงผู้ขายและผู้ซื้อเข้าด้วยกัน จึงทำให้การซื้อขายเกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไร้ข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา แพลตฟอร์มขายของออนไลน์เหล่านี้ จึงมาพร้อมระบบจัดการร้านค้าที่ครบครัน ตั้งแต่การจัดการสินค้า ระบบชำระเงิน การจัดการคำสั่งซื้อไปจนถึงระบบขนส่ง ทำให้ผู้ขายสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง นอกจากนี้ ยังมีฐานลูกค้าที่พร้อมจะเข้าถึงสินค้าของคุณอยู่แล้วอีกด้วย  

8 อันดับแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่นิยมในไทย

มาดูกันว่าแพลตฟอร์มไหนที่น่าสนใจสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ของคุณบ้าง ดังนี้   

1. TikTok Shop

ม้ามืดแซงทุกแพลตฟอร์มในตอนนี้ TikTok Shop คือพื้นที่ที่กำลังมาแรงในวงการอีคอมเมิร์ซ ด้วยจุดเด่นของการผสมผสานความบันเทิงเข้าในรูปแบบคลิปวิดีโอสั้นพร้อมกับสามารถช้อปปิ้งซื้อ-ขายสินค้าได้ภายในแอปพลิเคชันเดียว ทำให้ผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้าที่สร้างสรรค์และน่าสนใจ เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานรุ่นใหม่ได้อย่างตรงเป้า โดยการขายสินค้าผ่านติ๊กต๊อกนั้น ระบบจะเชื่อมต่อกับคอนเทนต์วิดีโอโดยตรง ผู้ซื้อสามารถเห็นการสาธิตสินค้าผ่านคลิปวิดีโอ หรือ Live ขายของและกดซื้อสินค้าผ่านได้ทันที โดยไม่ต้องออกจากแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ TikTok Live ที่ช่วยให้ผู้ขายสามารถไลฟ์สดขายสินค้าและโต้ตอบกับลูกค้าได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย  

คนซื้อของผ่าน TikTok Shop

2. Shopee

สำหรับ Shopee ก็ยังคงครองตำแหน่งแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำอยู่ ด้วยฐานผู้ใช้งานที่แข็งแกร่งและระบบ Shopee Fulfillment ที่ช่วยการจัดการร้านค้าอย่างครบครัน ผู้ขายสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ โดยจุดเด่นของ Shopee จะอยู่ที่ระบบโปรโมชั่นที่หลากหลาย ทั้งคูปองส่วนลด แคมเปญและโปรแกรมสะสมคะแนน นอกจากนี้ยังมีระบบขนส่งที่ครอบคลุม พร้อมส่วนลดค่าจัดส่งที่น่าสนใจ ทำให้ผู้ขายสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

3. Lazada

Lazada เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ที่มีประสบการณ์ในตลาดมายาวนาน โดดเด่นด้วยระบบ Lazada Fulfillment ช่วยจัดการร้านค้าที่เป็นมืออาชีพและการสนับสนุนผู้ขายอย่างครบวงจร ตั้งแต่การจัดเก็บสินค้า แพ็คและจัดส่งสินค้า และอย่างที่รู้กันว่าลาซาด้าเป็นแพลตฟอร์มแรก ๆ ที่มีในประเทศไทย จึงทำให้มีฐานลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น หากคุณต้องการหาฐานลูกค้าหรือขยายกลุ่มเป้าหมาย Lazada ก็ถือเป็นช่องทางที่น่าสนใจเช่นกัน 

4. LINE Shopping

LINE Shopping คือส่วนขยายของแอปพลิเคชัน LINE ที่คนไทยคุ้นเคย ซึ่งแพลตฟอร์มขายของออนไลน์นี้จะสามารถเชื่อมต่อกับระบบแชตที่ผู้ใช้งานใช้อยู่แล้ว เพื่อให้การสื่อสารระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อเป็นไปอย่างสะดวกและเป็นธรรมชาติ มีระบบจัดการร้านค้า Line MyShop ที่ใช้งานง่ายสามารถจัดการสินค้า สต๊อกสินค้าและขนส่งได้อย่างสะดวก ซึ่งช่องทางการขายทาง Line Shopping สามารถเชื่อมต่อ API กับระบบจัดการออเดอร์ MyCloud ได้อีกด้วยช่วยอัปเดตออเดอร์และสต๊อกสินค้าได้แบบเรียลไทม์

แต่สำหรับผู้ขายคนไหนที่ยังขายทาง LINE OA ซึ่งจะเป็นการขายผ่านทางแชทข้อความ ไม่ได้มีระบบจัดการออเดอร์แบบ Line Shopping ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะสามารถใช้ลิงก์ตัวช่วยการชำระเงิน Chat Bitly ของ MyCloud ทำการสรุปคำสั่งซื้อของลูกค้าแล้วส่งลิงก์นี้ให้ลูกค้าชำระเงินได้ทันที หลังจากที่ลูกค้าชำระเงินสำเร็จร้านค้าสามารถกดอนุมัติยอดเงินเข้าและคำสั่งซื้อจะถูกส่งไปยังระบบคลังสินค้า (WMS) ของ MyCloud เพื่อทำการแพ็กจัดส่งทันที โดยร้านค้าไม่ต้องเสียเวลามาคีย์ออเดอร์เข้าระบบย้อนหลัง ช่วยป้องกันออเดอร์ตกหล่นได้อีกด้วย 

5. Facebook Marketplace

Facebook Marketplace เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้การซื้อขายบน Facebook เป็นเรื่องง่าย ด้วยการเข้าถึงผู้ใช้งาน Facebook กว่าล้านคน ผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้าได้ทั้งในรูปแบบโพสต์ปกติและการไลฟ์สด ซึ่งจะมีจุดเด่นอยู่ที่ความยืดหยุ่นในการนำเสนอสินค้า ผู้ขายสามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Facebook ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกลุ่ม การโพสต์ในเพจหรือการทำโฆษณาแบบมีเป้าหมาย เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สนใจสินค้าของคุณโดยเฉพาะ  

ดูสินค้าผ่าน Instagram

6.Instagram 

Instagram เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ Social Commerce คือการผสมผสานระหว่างโซเชียลมีเดียและการขายสินค้าออนไลน์ แพลตฟอร์มนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสินค้าที่เน้นภาพลักษณ์และการนำเสนอที่สวยงาม ด้วยฟีเจอร์การแชร์รูปภาพและวิดีโอที่หลากหลาย ทั้ง Feed, Stories, Reels และ IGTV ทำให้ผู้ขายสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่น่าสนใจ ดึงดูดฐานลูกค้าได้ และยังมีฟีเจอร์ Instagram Shopping ที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถกดซื้อสินค้าได้ทันทีจากรูปภาพได้อีกด้วย   

7. X

X หรือ Twitter เป็นแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่เหมาะกับการขายสินค้าแบบเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับศิลปินดาราทั้งไทยและเทศ ด้วยการใช้แฮชแท็กและการสร้างคอนเทนต์ที่กระชับ ทำให้สินค้าสามารถเข้าถึงผู้ที่สนใจได้อย่างตรงจุด เช่น #ตลาดนัดGOT7 #ตลาดนัดRIIZE หรือ #พรีออเดอร์เกาหลี #พรีออเดอร์ญี่ปุ่น นอกจากนี้ ผู้ขายยังสามารถใช้ประโยชน์จากการสร้างกระแสและการบอกต่อบน X ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสินค้าที่มีความเฉพาะตัวหรือเทรนด์ใหม่ ๆ ที่กำลังได้รับความนิยมนั่นเอง   

8. Shoptify 

แพลตฟอร์มขายของสุดท้ายที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ Shopify เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและยังมีการบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่การจัดการสินค้า ตั้งราคาขาย ระบบสต๊อกสินค้า พร้อมการจัดส่ง ช่วยให้คุณสามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีเทมเพลตร้านค้าให้คุณได้เลือกปรับแต่งหน้าร้านได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อขยายช่องทางการขาย 

ขายสินค้าลงหลาย ๆ แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ดีอย่างไร

การขายสินค้าบนหลายแพลตฟอร์มขายของออนไลน์เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในปัจจุบันได้เช่นกัน

  • เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย เนื่องจากแต่ละแพลตฟอร์มมีกลุ่มผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน ทำให้การขายหลายแพลตฟอร์มจึงช่วยให้สินค้าของคุณเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
  • กระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ หากแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งประสบปัญหา คุณยังมีช่องทางการขายอื่น ๆ รองรับธุรกิจของคุณอยู่ 
  • เพิ่มโอกาสในการขาย เพราะผู้บริโภคยุคใหม่มักใช้หลายแพลตฟอร์มในการช้อปปิ้ง การมีตัวตนในหลายช่องทางจึงเพิ่มโอกาสในการพบเจอสินค้าของคุณ
  • สร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ การมีตัวตนบนแพลตฟอร์มที่หลากหลายช่วยเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของธุรกิจ
  • เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคได้หลากหลายมิติ แต่ละแพลตฟอร์มจะให้ข้อมูลเชิงลึกที่แตกต่างกัน ช่วยให้คุณเข้าใจตลาดได้ดียิ่งขึ้น 

ขายหลายช่องทาง จัดการออเดอร์ยังไงให้ไม่พลาด?

การขายสินค้าบนหลายแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ถึงแม้จะมีข้อดีมากมาย แต่แน่นอนหล่ะ มันก็มักจะมาพร้อมความท้าทายในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการจัดการออเดอร์ที่เข้ามาจากหลายช่องทาง ซึ่งหากไม่มีระบบจัดการที่ดีอาจเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น นับสต๊อกสินค้าไม่ตรงกัน สินค้าไม่พอจัดส่ง ส่งสินค้าผิดหรือลืมจัดส่งออเดอร์

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการจัดการคลังสินค้า MyCloud พร้อมเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยยกระดับการจัดการหลังบ้านของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยโซลูชัน Order Management System (OMS) จัดการออเดอร์จากในแต่ละแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ เชื่อมต่อกับ API จัดการคำสั่งซื้อตามลำดับ ไร้กังวลว่าจะตกหล่นออเดอร์ไหนไปหรือไม่ ส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย ร้านค้าก็สามารถรักษาระดับ SLA ได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะส่งไม่ทัน พร้อมอัปเดตสต๊อกสินค้าในคลังสินค้าออนไลน์แบบเรียลไทม์ทุก ๆ 3 นาที ผ่านระบบการจัดการคลังสินค้า WMS (Warehouse Management System) ทำให้การขายหลายช่องทางเป็นเรื่องที่จัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ระบบการจัดการร้านที่ดี

สรุปบทความ

การเลือกแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกัน หากต้องการขยายโอกาสทางการขายให้มากขึ้น การขายสินค้าบนหลายแพลตฟอร์มเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงลูกค้า กระจายความเสี่ยง และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการขยายช่องทางการขาย การเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นทั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกขายสินค้าบนแพลตฟอร์มไหน การมีระบบจัดการร้านค้าที่มีประสิทธิภาพสิ่งสำคัญในการเพิ่มยอดขายและขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน MyCloud เป็นโซลูชันที่ช่วยให้คุณบริหารร้านค้าออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ด้วยโซลูชัน Fulfillment ครบวงจร แก้ไขปัญหาการจัดการคำสั่งซื้อจากหลากหลายแพลตฟอร์ม พร้อมช่วยวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น  

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

สงกรานต์ 2568 เจาะลึกอินไซต์นักช้อปช่วงวันหยุดยาว

เทศกาลสงกรานต์… นอกจากจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข สนุกสนาน และการกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาทองของธุรกิจออนไลน์อีกด้วย! สงกรานต์ 2568 นี้ คาดการณ์ได้เลยว่าบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่หลายคนอาจจะอั้นมานานจากสถานการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา วันหยุดยาวที่มาพร้อมกับบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง ทำให้ผู้บริโภคมีเวลาและอารมณ์ในการช้อปปิ้งมากขึ้น แต่พฤติกรรมนักช้อปในยุคดิจิทัลก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อคว้าโอกาสทองนี้ไว้ให้ได้ ซึ่งในบทความนี้ MyCloud เราได้รวบรวมอินไซต์พฤติกรรมนักช้อปที่มีแนวโน้มในการซื้อสินค้าในช่วงนี้และข้อจำกัดการขายที่ร้านค้าออนไลน์ต้องระวัง พร้อมทั้งการเตรียมตัวให้ขายดีมาให้ได้อ่านกันค่ะ สินค้าอะไรขายดีช่วง สงกรานต์ ในยุคที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน พฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ในช่วงสงกรานต์ก็ย่อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นักช้อปส่วนใหญ่มักจะเริ่มวางแผนการซื้อล่วงหน้า โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล เช่น เสื้อลายดอกสีสันสดใส, ชุดไทยประยุกต์, อุปกรณ์เล่นน้ำ, หรือแม้แต่ของขวัญของฝากสำหรับญาติผู้ใหญ่ นอกจากนี้ นักช้อปออนไลน์ในช่วงสงกรานต์มักจะมองหาความคุ้มค่าเป็นพิเศษ โปรโมชั่นและส่วนลดต่างๆ จึงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเป็นอย่างมาก การเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อก็เป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อย รวมถึงการอ่านรีวิวจากผู้ซื้อรายอื่นเพื่อประกอบการตัดสินใจ ปัจจัยอะไรที่ทำให้คนซื้อสินค้าช่วง สงกรานต์ เตรียมตัวอย่างไรให้ขายดีช่วงวันหยุด สงกรานต์ 2568 ? ข้อจำกัดสำคัญที่ต้องระวัง ! การใช้ฟีเจอร์โหมดพักร้อน Marketplace แม้ว่าการเปิดใช้ ‘ฟีเจอร์โหมดพักร้อน’ สำหรับช่องทางการขายทาง Marketplace ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการหยุดพักผ่อนหรือจัดการเรื่องส่วนตัว แต่ร้านค้าก็ควรคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจนี้อย่างรอบด้าน เพราะการเปิดโหมดพักร้อนนั้นจะส่งผลให้ร้านค้าถูกซ่อนจากผลการค้นหาของลูกค้าบนแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างสิ้นเชิง […]

5 ข้อดีของการเปิดหน้าร้าน – MyCloudFulfillment

ในยุคที่ใครๆ ก็ขายของออนไลน์ การมีหน้าร้าน ยังจำเป็นอยู่ไหม? ถ้าเปิดแล้วจะช่วยให้ขายดีขึ้นหรือเปล่า? คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า… ลูกค้าจะมาจากหน้าร้านมากน้อยแค่ไหน? แล้วแบรนด์คุณจำเป็นต้องมีหน้าร้านไหม? ถ้าจำเป็น… ก็เปิด ถ้ายังไม่จำเป็น… ก็อย่าเพิ่งเปิดครับ แต่ถ้าถามผมว่า มีหน้าร้านแล้วมันดีไหม? แน่นอนมันต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่แล้ว ถ้าตัดเรื่องค่าเช่าที่ หรือค่าจ้างพนักงานออกไป ก็มีข้อดีเยอะแยะเลยครับ เท่าที่ผมคิดออกมี 5 ข้อ ลองอ่านแล้วเอาไปตัดสินใจกันดูนะครับ 1.ลูกค้ากล้าซื้อ มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นจุดแข็งของออฟไลน์ที่ร้านค้าออนไลน์ก็ยังทดแทนตรงนี้ไม่ได้การขายของแบบไม่เห็นหน้ากันมันจะมีความไม่สบายใจลูกค้าก็จะมีคำถามในใจว่า “จะโดนโกงไหมนะ” ฝั่งพ่อค้าแม่ค้าก็จะหงุดหงิดว่า “เมื่อไหร่จะโอน” แต่ถ้าเรามีหน้าร้าน ก็ตัดปัญหาตรงนี้ไปได้เลยครับลูกค้าจะรู้สึกว่า สามารถติดต่อเราได้ตลอดเวลาเราจะไม่หนีหายไป เพราะเราสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ลูกค้าสามารถติดต่อเราได้ทุกที่ทุกเวลา  2.ได้ลองสินค้าจริง ตัดสินใจซื้อง่าย ผู้บริโภคยังมีความคิดที่ว่า ไม่เห็นไม่ซื้อถึงแม้จะเห็นรูปสินค้าออนไลน์อยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังต้องการประสบการณ์ตรงกับตัวสินค้า เช่น สัมผัส มองเห็น ดมกลิ่น ได้ทดลองสินค้าจริงๆ ถ้าคุณขายของประเภทเสื้อผ้า หรือความสวยความงาม เช่น เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว น้ำหอม ฯลฯ การเปิดหน้าร้านก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เร็วขึ้นด้วยนะครับ คุณอาจจะโปรโมทจากช่องทางออนไลน์ของร้านคุณว่ามีโปรโมชั่นนี้ที่หน้าร้าน เพื่อดึงดูดให้คนมาที่ร้านก็ได้ก็เป็นการเชื่อมออฟไลน์กับออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน 3.รู้ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า […]

สงกรานต์ 2568 เจาะลึกอินไซต์นักช้อปช่วงวันหยุดยาว

เทศกาลสงกรานต์… นอกจากจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข สนุกสนาน และการกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาทองของธุรกิจออนไลน์อีกด้วย! สงกรานต์ 2568 นี้ คาดการณ์ได้เลยว่าบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่หลายคนอาจจะอั้นมานานจากสถานการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา วันหยุดยาวที่มาพร้อมกับบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง ทำให้ผู้บริโภคมีเวลาและอารมณ์ในการช้อปปิ้งมากขึ้น แต่พฤติกรรมนักช้อปในยุคดิจิทัลก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อคว้าโอกาสทองนี้ไว้ให้ได้ ซึ่งในบทความนี้ MyCloud เราได้รวบรวมอินไซต์พฤติกรรมนักช้อปที่มีแนวโน้มในการซื้อสินค้าในช่วงนี้และข้อจำกัดการขายที่ร้านค้าออนไลน์ต้องระวัง พร้อมทั้งการเตรียมตัวให้ขายดีมาให้ได้อ่านกันค่ะ สินค้าอะไรขายดีช่วง สงกรานต์ ในยุคที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน พฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ในช่วงสงกรานต์ก็ย่อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นักช้อปส่วนใหญ่มักจะเริ่มวางแผนการซื้อล่วงหน้า โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล เช่น เสื้อลายดอกสีสันสดใส, ชุดไทยประยุกต์, อุปกรณ์เล่นน้ำ, หรือแม้แต่ของขวัญของฝากสำหรับญาติผู้ใหญ่ นอกจากนี้ นักช้อปออนไลน์ในช่วงสงกรานต์มักจะมองหาความคุ้มค่าเป็นพิเศษ โปรโมชั่นและส่วนลดต่างๆ จึงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเป็นอย่างมาก การเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อก็เป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อย รวมถึงการอ่านรีวิวจากผู้ซื้อรายอื่นเพื่อประกอบการตัดสินใจ ปัจจัยอะไรที่ทำให้คนซื้อสินค้าช่วง สงกรานต์ เตรียมตัวอย่างไรให้ขายดีช่วงวันหยุด สงกรานต์ 2568 ? ข้อจำกัดสำคัญที่ต้องระวัง ! การใช้ฟีเจอร์โหมดพักร้อน Marketplace แม้ว่าการเปิดใช้ ‘ฟีเจอร์โหมดพักร้อน’ สำหรับช่องทางการขายทาง Marketplace ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการหยุดพักผ่อนหรือจัดการเรื่องส่วนตัว แต่ร้านค้าก็ควรคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจนี้อย่างรอบด้าน เพราะการเปิดโหมดพักร้อนนั้นจะส่งผลให้ร้านค้าถูกซ่อนจากผลการค้นหาของลูกค้าบนแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างสิ้นเชิง […]

5 ข้อดีของการเปิดหน้าร้าน – MyCloudFulfillment

ในยุคที่ใครๆ ก็ขายของออนไลน์ การมีหน้าร้าน ยังจำเป็นอยู่ไหม? ถ้าเปิดแล้วจะช่วยให้ขายดีขึ้นหรือเปล่า? คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า… ลูกค้าจะมาจากหน้าร้านมากน้อยแค่ไหน? แล้วแบรนด์คุณจำเป็นต้องมีหน้าร้านไหม? ถ้าจำเป็น… ก็เปิด ถ้ายังไม่จำเป็น… ก็อย่าเพิ่งเปิดครับ แต่ถ้าถามผมว่า มีหน้าร้านแล้วมันดีไหม? แน่นอนมันต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่แล้ว ถ้าตัดเรื่องค่าเช่าที่ หรือค่าจ้างพนักงานออกไป ก็มีข้อดีเยอะแยะเลยครับ เท่าที่ผมคิดออกมี 5 ข้อ ลองอ่านแล้วเอาไปตัดสินใจกันดูนะครับ 1.ลูกค้ากล้าซื้อ มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นจุดแข็งของออฟไลน์ที่ร้านค้าออนไลน์ก็ยังทดแทนตรงนี้ไม่ได้การขายของแบบไม่เห็นหน้ากันมันจะมีความไม่สบายใจลูกค้าก็จะมีคำถามในใจว่า “จะโดนโกงไหมนะ” ฝั่งพ่อค้าแม่ค้าก็จะหงุดหงิดว่า “เมื่อไหร่จะโอน” แต่ถ้าเรามีหน้าร้าน ก็ตัดปัญหาตรงนี้ไปได้เลยครับลูกค้าจะรู้สึกว่า สามารถติดต่อเราได้ตลอดเวลาเราจะไม่หนีหายไป เพราะเราสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ลูกค้าสามารถติดต่อเราได้ทุกที่ทุกเวลา  2.ได้ลองสินค้าจริง ตัดสินใจซื้อง่าย ผู้บริโภคยังมีความคิดที่ว่า ไม่เห็นไม่ซื้อถึงแม้จะเห็นรูปสินค้าออนไลน์อยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังต้องการประสบการณ์ตรงกับตัวสินค้า เช่น สัมผัส มองเห็น ดมกลิ่น ได้ทดลองสินค้าจริงๆ ถ้าคุณขายของประเภทเสื้อผ้า หรือความสวยความงาม เช่น เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว น้ำหอม ฯลฯ การเปิดหน้าร้านก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เร็วขึ้นด้วยนะครับ คุณอาจจะโปรโมทจากช่องทางออนไลน์ของร้านคุณว่ามีโปรโมชั่นนี้ที่หน้าร้าน เพื่อดึงดูดให้คนมาที่ร้านก็ได้ก็เป็นการเชื่อมออฟไลน์กับออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน 3.รู้ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า […]