Knowledge Center

รวมคำศัพท์ใน Lazada ที่ Seller ต้องรู้ พร้อมเทคนิคเพิ่มยอดขาย

รวมคำศัพท์ใน Lazada ที่ Seller ต้องรู้ พร้อมเทคนิคเพิ่มยอดขาย

ใครกำลังขายของใน Lazada บ้างยกมือขึ้น!! ถ้าคุณกำลังทำอยู่บอกเลยว่าห้ามพลาดบทความนี้ เพราะเราได้รวบรวมคำศัพท์ที่ใช้บ่อยๆ ไว้ให้แล้ว! จริงๆ แล้วในเว็บ Lazada มีฟีเจอร์เยอะมากๆ ที่หลายคนอาจจะเคยเห็นแต่ไม่รู้ว่าคืออะไร อย่างเช่น Store Builder, Lorikeet, Seller Picks เอาเป็นว่าเรามาลองศึกษาไปพร้อมๆ กันดีกว่า แล้วอย่าลืมนำไปใช้ให้ยอดขายปังๆ ด้วยนะครับบบ

Collectable Voucher: คูปองส่วนลด

เป็นคูปองที่ร้านค้าสามารถสร้างขึ้นมาเองได้ แล้วให้ลูกค้าเข้าไปกดรับเพื่อใช้งานตอนจ่ายเงิน  มันจะไม่เหมือนกับโค้ด ที่ต้องกด Copy Paste บางทีก็อปผิดก็กลายเป็นใช้โปรไม่ได้แล้วซะงั้น  ข้อดีคือ Lazada จะเลือกคูปองที่ลดเยอะที่สุดให้อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลเลยว่าเราจะใช้คูปองผิดๆ ถูกๆ นอกจากนี้ ร้านค้าที่ร่วมแคมเปญต่างๆ ของ Lazada เช่น 9.9 , 11.11 , 12.12 ลูกค้าก็จะเห็นคูปองมากขึ้น ช่วยสร้างยอดขายได้ดีขึ้นด้วยนะ

Flash Sale: ลดราคาในช่วงเวลาจำกัด

จะขึ้นอยู่ด้านบนๆ ของแอพ Lazada ช่วยให้ลูกค้าเห็นง่าย เข้าไปดูมากขึ้น มันจะเป็นรูปสินค้าและมีการจับเวลา Countdown เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เป็นโปรโมชั่นที่ร้านค้ารัก ลูกค้าปลื้ม เพราะสินค้าราคาถูกและหมดเร็วมากกก

Feed: ช่องทางอัพเดทข้อมูลใหม่ๆ

ฟีลแบบ Instagram เลยครับ เวลาเราเลื่อนๆ ดูรูปใหม่ๆ เราก็สามารถลงรูปสินค้าเก่าหรือใหม่ ลูกค้าสามารถเข้ามาดูว่ามีอะไรอัพเดทบ้าง กดไลค์ กดแชร์ก็ได้ด้วย ข้อดีคือ เป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และช่วยให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำด้วย

Seller Picks: สินค้าแนะนำ

คล้ายๆ กับการบูสโพสต์ ใช้ต่อเมื่ออันดับการเสิร์ชสินค้าไปอยู่อันดับท้ายๆ ก็ใช้ตัว Seller Picks

สินค้าก็จะขึ้นมาอยู่อันดับต้นๆ ช่วยให้ลูกค้าเห็นสินค้าเราง่ายขึ้น

แต่จะมีเงื่อนไขในการใช้ฟีเจอร์นี้ คือ

– มีอัตราการตอบแชทมากกว่า 85%

– มี SKUs มากกว่า 3 SKUs

– Seller Rating ต้องมากกว่า 75%

– ต้องตกแต่งร้านค้า

Chat: ช่องทางสื่อสารกับลูกค้า

เมื่อลูกค้าเข้ามาถาม ก็ต้องใช้แชทในการตอบ เช่น รายละเอียดสินค้า, สินค้าเข้าเมื่อไหร่ หรือเราสามารถแจก voucher ผ่านแชทได้ด้วย และที่สำคัญต้องตอบแชทให้เร็วที่สุด เพราะถ้าคุณอยากใช้ Seller Picks ก็มีเงื่อนไขคือ ต้องมีอัตการตอบแชท 85% ขึ้นไป เพราะเวลาการตอบแชทที่ดีที่สุดคือ ถ้าลูกค้าทักแชทมาวันนี้ ควรตอบภายในวันพรุ่งนี้ไม่เกินเที่ยงคืน

พิเศษ! Lazada มีบริการช่วยตอบแชท ในช่วงแคมเปญด้วยนะรู้ยัง?? สำหรับร้านที่ไม่อยากเสียเวลาตอบแชท ก็เข้าไปสอบถามบริการนี้กับ Lazada ได้เลย

Store Builder: การตกแต่งร้านค้า

ใช้สำหรับสร้างหรือตกแต่งหน้าร้านค้า หรือสร้างหน้าร้านเฉพาะแคมเปญ 9.9 ก็ได้ ยิ่งตกแต่งหน้าร้านให้สวยงาม ก็ยิ่งทำให้ร้านค้าดูน่าเชื่อถือมากขึ้น สามารถจัดได้ว่าเป็นสินค้ามาใหม่ สินค้าขายดี หรือแจ้งส่วนลดก็ได้

Lorikeet: การตกแต่งสินค้า

ใช้อัพโหลดรูปหลายๆมุมของสินค้า หรือรายละเอียดต่างๆ ให้ชัดเจน เพราะถ้าลูกค้าไม่รู้รายละเอียด แน่นอนเขาต้องทักแชทมาถามแน่ๆ แต่จะให้วันนึงตอบเป็นสิบๆคน มันเสียเวลาในการขายของครับ ใส่ข้อมูลรูปภาพให้ครบไปเลยดีกว่า

Lazada University: มหาวิทยาลัยลาซาด้า

หลายคนอาจจะงงว่า Lazada มีมหาวิทยาลัยด้วยหรอ?? แต่จริงๆแล้วมันคือ ฟังก์ชั่นสำหรับข้อสงสัยต่างๆ ถ้าสงสัยอะไรก็เข้าไปกดดูได้เลย มีคำตอบให้หมด จะอยู่ในหน้าเว็บไซต์ตรง Seller Center มุมขวามือ จะเขียนว่า Lazada University นอกจากนี้ ยังมีให้เข้าไปอบรมออนไลน์ด้วยนะ

MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก

บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร 

หากต้องการผู้ช่วยในการจัดการออเดอร์สินค้าแบบมืออาชีพ
MyCloudFulfillment ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์แบบครบวงจร

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742, 02-138-9920
อีเมล: [email protected]
line: @mycloudgroup
MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก
บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร 

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

ธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ ปรับตัวยังไงในยุคดิจิทัล – MyCloudFulfillment

ในยุคดิจิทัลนี้ คนปรับตัวเท่านั้นที่จะอยู่รอด!! หมดยุคธุรกิจค้าปลีกที่ปักหลักช่องทางใดช่องทางหนึ่งแล้วครับ ออฟไลน์อย่างเดียวก็ไม่ดี ออนไลน์อย่างเดียวก็ไม่ได้ ทางเดียวที่จะอยู่รอดคือการผสานให้เข้ากัน แต่จะทำยังไงให้เส้นแบ่งของสองโลกหายไป? ในท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด และการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุด วันนี้เรามีวิธีดีๆ มาฝากครับ รีบนำไปปรับใช้กันได้เลย 1.ปรับกลยุทธ์เป็น Omni-Channel ทุกวันนี้กลยุทธ์แบบ Omni-Channel เริ่มเป็นรูปเป็นร่างและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากแบรนด์ใหญ่ๆ เค้าปรับกันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Central หรือที่ชัดๆ เลยคือ Pomelo ที่สั่งผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ แล้วสามารถไปรับหรือคืนสินค้าตามจุดบริการใกล้บ้านที่เป็นพาร์ทเนอร์ได้ ซึ่งข้อมูลของลูกค้าก็จะเชื่อมถึงกันหมด เป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และสร้างประสบการณ์การซื้อที่ดีด้วยนะครับ 2.เพิ่มช่องทางการขายให้หลากหลายที่สุด อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าตอนนี้ Marketplace บ้านเรามีเยอะมาก เราจะขายแค่ใน Facebook หรือ Instagram เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วครับ! ลองวางขายกระจายไปทั่วๆ เช่น Lazada, Shopee, Tiktok Shop เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย 3.จัดโปรเด็ดๆ ราคาดึงดูด ขายของยุคนี้จำเป็นต้องทำโปรนะครับ จะโปรเล็ก โปรใหญ่ ก็ต้องทำ และถ้าคุณขายผ่าน Lazada/Shopee ก็ง่ายเลย เพราะเขาจะมีจัดโปรหรือโค้ดส่วนลดให้ลูกค้า […]

5 ข้อดีของการเปิดหน้าร้าน – MyCloudFulfillment

ในยุคที่ใครๆ ก็ขายของออนไลน์ การมีหน้าร้าน ยังจำเป็นอยู่ไหม? ถ้าเปิดแล้วจะช่วยให้ขายดีขึ้นหรือเปล่า? คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า… ลูกค้าจะมาจากหน้าร้านมากน้อยแค่ไหน? แล้วแบรนด์คุณจำเป็นต้องมีหน้าร้านไหม? ถ้าจำเป็น… ก็เปิด ถ้ายังไม่จำเป็น… ก็อย่าเพิ่งเปิดครับ แต่ถ้าถามผมว่า มีหน้าร้านแล้วมันดีไหม? แน่นอนมันต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่แล้ว ถ้าตัดเรื่องค่าเช่าที่ หรือค่าจ้างพนักงานออกไป ก็มีข้อดีเยอะแยะเลยครับ เท่าที่ผมคิดออกมี 5 ข้อ ลองอ่านแล้วเอาไปตัดสินใจกันดูนะครับ 1.ลูกค้ากล้าซื้อ มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นจุดแข็งของออฟไลน์ที่ร้านค้าออนไลน์ก็ยังทดแทนตรงนี้ไม่ได้การขายของแบบไม่เห็นหน้ากันมันจะมีความไม่สบายใจลูกค้าก็จะมีคำถามในใจว่า “จะโดนโกงไหมนะ” ฝั่งพ่อค้าแม่ค้าก็จะหงุดหงิดว่า “เมื่อไหร่จะโอน” แต่ถ้าเรามีหน้าร้าน ก็ตัดปัญหาตรงนี้ไปได้เลยครับลูกค้าจะรู้สึกว่า สามารถติดต่อเราได้ตลอดเวลาเราจะไม่หนีหายไป เพราะเราสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ลูกค้าสามารถติดต่อเราได้ทุกที่ทุกเวลา  2.ได้ลองสินค้าจริง ตัดสินใจซื้อง่าย ผู้บริโภคยังมีความคิดที่ว่า ไม่เห็นไม่ซื้อถึงแม้จะเห็นรูปสินค้าออนไลน์อยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังต้องการประสบการณ์ตรงกับตัวสินค้า เช่น สัมผัส มองเห็น ดมกลิ่น ได้ทดลองสินค้าจริงๆ ถ้าคุณขายของประเภทเสื้อผ้า หรือความสวยความงาม เช่น เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว น้ำหอม ฯลฯ การเปิดหน้าร้านก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เร็วขึ้นด้วยนะครับ คุณอาจจะโปรโมทจากช่องทางออนไลน์ของร้านคุณว่ามีโปรโมชั่นนี้ที่หน้าร้าน เพื่อดึงดูดให้คนมาที่ร้านก็ได้ก็เป็นการเชื่อมออฟไลน์กับออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน 3.รู้ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า […]

ธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ ปรับตัวยังไงในยุคดิจิทัล – MyCloudFulfillment

ในยุคดิจิทัลนี้ คนปรับตัวเท่านั้นที่จะอยู่รอด!! หมดยุคธุรกิจค้าปลีกที่ปักหลักช่องทางใดช่องทางหนึ่งแล้วครับ ออฟไลน์อย่างเดียวก็ไม่ดี ออนไลน์อย่างเดียวก็ไม่ได้ ทางเดียวที่จะอยู่รอดคือการผสานให้เข้ากัน แต่จะทำยังไงให้เส้นแบ่งของสองโลกหายไป? ในท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด และการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุด วันนี้เรามีวิธีดีๆ มาฝากครับ รีบนำไปปรับใช้กันได้เลย 1.ปรับกลยุทธ์เป็น Omni-Channel ทุกวันนี้กลยุทธ์แบบ Omni-Channel เริ่มเป็นรูปเป็นร่างและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากแบรนด์ใหญ่ๆ เค้าปรับกันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Central หรือที่ชัดๆ เลยคือ Pomelo ที่สั่งผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ แล้วสามารถไปรับหรือคืนสินค้าตามจุดบริการใกล้บ้านที่เป็นพาร์ทเนอร์ได้ ซึ่งข้อมูลของลูกค้าก็จะเชื่อมถึงกันหมด เป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และสร้างประสบการณ์การซื้อที่ดีด้วยนะครับ 2.เพิ่มช่องทางการขายให้หลากหลายที่สุด อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าตอนนี้ Marketplace บ้านเรามีเยอะมาก เราจะขายแค่ใน Facebook หรือ Instagram เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วครับ! ลองวางขายกระจายไปทั่วๆ เช่น Lazada, Shopee, Tiktok Shop เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย 3.จัดโปรเด็ดๆ ราคาดึงดูด ขายของยุคนี้จำเป็นต้องทำโปรนะครับ จะโปรเล็ก โปรใหญ่ ก็ต้องทำ และถ้าคุณขายผ่าน Lazada/Shopee ก็ง่ายเลย เพราะเขาจะมีจัดโปรหรือโค้ดส่วนลดให้ลูกค้า […]

5 ข้อดีของการเปิดหน้าร้าน – MyCloudFulfillment

ในยุคที่ใครๆ ก็ขายของออนไลน์ การมีหน้าร้าน ยังจำเป็นอยู่ไหม? ถ้าเปิดแล้วจะช่วยให้ขายดีขึ้นหรือเปล่า? คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า… ลูกค้าจะมาจากหน้าร้านมากน้อยแค่ไหน? แล้วแบรนด์คุณจำเป็นต้องมีหน้าร้านไหม? ถ้าจำเป็น… ก็เปิด ถ้ายังไม่จำเป็น… ก็อย่าเพิ่งเปิดครับ แต่ถ้าถามผมว่า มีหน้าร้านแล้วมันดีไหม? แน่นอนมันต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่แล้ว ถ้าตัดเรื่องค่าเช่าที่ หรือค่าจ้างพนักงานออกไป ก็มีข้อดีเยอะแยะเลยครับ เท่าที่ผมคิดออกมี 5 ข้อ ลองอ่านแล้วเอาไปตัดสินใจกันดูนะครับ 1.ลูกค้ากล้าซื้อ มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นจุดแข็งของออฟไลน์ที่ร้านค้าออนไลน์ก็ยังทดแทนตรงนี้ไม่ได้การขายของแบบไม่เห็นหน้ากันมันจะมีความไม่สบายใจลูกค้าก็จะมีคำถามในใจว่า “จะโดนโกงไหมนะ” ฝั่งพ่อค้าแม่ค้าก็จะหงุดหงิดว่า “เมื่อไหร่จะโอน” แต่ถ้าเรามีหน้าร้าน ก็ตัดปัญหาตรงนี้ไปได้เลยครับลูกค้าจะรู้สึกว่า สามารถติดต่อเราได้ตลอดเวลาเราจะไม่หนีหายไป เพราะเราสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ลูกค้าสามารถติดต่อเราได้ทุกที่ทุกเวลา  2.ได้ลองสินค้าจริง ตัดสินใจซื้อง่าย ผู้บริโภคยังมีความคิดที่ว่า ไม่เห็นไม่ซื้อถึงแม้จะเห็นรูปสินค้าออนไลน์อยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังต้องการประสบการณ์ตรงกับตัวสินค้า เช่น สัมผัส มองเห็น ดมกลิ่น ได้ทดลองสินค้าจริงๆ ถ้าคุณขายของประเภทเสื้อผ้า หรือความสวยความงาม เช่น เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว น้ำหอม ฯลฯ การเปิดหน้าร้านก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เร็วขึ้นด้วยนะครับ คุณอาจจะโปรโมทจากช่องทางออนไลน์ของร้านคุณว่ามีโปรโมชั่นนี้ที่หน้าร้าน เพื่อดึงดูดให้คนมาที่ร้านก็ได้ก็เป็นการเชื่อมออฟไลน์กับออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน 3.รู้ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า […]