Knowledge Center

5 สาเหตุที่ลูกค้า”ไม่ซื้อซ้ำ” และแบรนด์มักมองข้าม

สาเหตุที่ลูกค้าไม่อยากซื้อซ้ำ

เคยมั้ย? ลูกค้าเคยสั่งซื้อ ได้ของครบ ไม่มีคอมเมนต์อะไร แต่หลังจากนั้นก็เงียบหาย ไม่ซื้อซ้ำ อีกเลย ทั้งที่เราก็รู้สึกว่าทำได้ดีแล้วทุกขั้นตอน นี่อาจไม่ใช่เพราะสินค้าคุณไม่ดี แต่เป็นเพราะ “หลังการขาย” ยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร หลายแบรนด์มุ่งหาลูกค้าใหม่จนลืมไปว่า ลูกค้าเก่าคือกำลังหลักที่สร้างยอดขายอย่างมั่นคง ถ้าคุณทำให้คนที่เคยซื้อแล้วกลับมาอีกครั้งได้ ยอดขายก็ไม่ต้องพึ่งแค่โฆษณาเสมอไป

บทความนี้จะพาไปดู 5 สาเหตุที่ทำให้ลูกค้าไม่อยากกลับมาเป็น “ลูกค้าประจำ” ทั้งเรื่องประสบการณ์หลังการซื้อ การสื่อสารที่หายไป UX ที่ไม่เป็นมิตร รวมถึงสิ่งเล็กๆ ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนให้ลูกค้าตัดสินใจ “ไม่กลับมาอีก”ถ้าแบรนด์ของคุณกำลังเจอปัญหานี้ บทความนี้มีคำตอบค่ะ

สาเหตุที่ลูกค้า ไม่ซื้อซ้ำ

5 สาเหตุหลักที่ลูกค้า ไม่ซื้อซ้ำ

1. ประสบการณ์หลังการขายไม่ประทับใจ

ลูกค้าหลายคนอาจรู้สึกดีในขั้นตอนการสั่งซื้อ แต่ความประทับใจนั้นจะหายไปทันทีถ้าเจอปัญหา แพ็กของล่าช้า ได้ของไม่ครบ หรือไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ หลังจากสั่งซื้อไปแล้ว ยิ่งถ้าไม่มีระบบติดตามสถานะพัสดุให้ลูกค้าเช็คเองได้ ลูกค้าก็จะรู้สึกเหมือนโดนทิ้ง และไม่มั่นใจว่าจะกล้าสั่งรอบต่อไปหรือไม่ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องลุ้นแบบนี้อีกหรือเปล่า

แพ็กของล่าช้า

MyCloud Fulfillment ด้วยบริการคลังสินค้าออนไลน์ที่จัดการให้ตั้งแต่ เก็บสินค้า แพ็กสินค้า จัดส่งออเดอร์มอบให้ขนส่งเข้ามารับพัสดุทุกวัน ส่งผลให้ลูกค้าปลายทางได้รับสินค้าที่เร็วทันใจ เพราะคลังสินค้าเปิดให้บริการ 365 วัน แพ็กออเดอร์ตลอด 24 ชั่วโมง หมดกังวลเรื่องแพ็กล่าช้าไปได้เลย

2. ไม่มีความสัมพันธ์กับลูกค้า

ถ้าการขายจบลงแค่ที่ “ส่งของเสร็จ” โดยไม่มีการ Follow up ถามความพึงพอใจ หรือพูดคุยต่อใดๆ ลูกค้าจะรู้สึกว่าเขาก็แค่ “อีกหนึ่งออเดอร์” ไม่ได้เป็นลูกค้าคนสำคัญของแบรนด์ และถ้าแบรนด์ไม่มีการสื่อสารแบบเฉพาะเจาะจง (Personalized) เช่น ใช้ชื่อเขา ส่งโปรเฉพาะตามพฤติกรรมที่เคยซื้อ ก็จะทำให้ความรู้สึกผูกพันลดลง โอกาสการซื้อซ้ำก็ลดลงตาม

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้ากับร้านค้า

3. ไม่ซื้อซ้ำ เพราะไม่มีแรงจูงใจให้กลับมา

ลูกค้าเก่าไม่ได้ต้องการแค่สินค้าที่ดีเท่านั้น แต่เขาคาดหวังว่าจะได้รับ “สิทธิ์พิเศษบางอย่าง” ที่มากกว่าคนทั่วไป เพราะเขาเคยเลือกคุณแล้ว และเขากำลังรอดูว่าการกลับมาซื้อซ้ำจะ “คุ้มค่า” หรือ “พิเศษ” กว่าครั้งแรกหรือเปล่า

ถ้าร้านไม่มีโปรเฉพาะลูกค้าเก่า ไม่มีของแถมรอบที่สอง หรือแม้แต่การแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องแบบตรงใจ ลูกค้าก็จะรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องกลับมา เพราะร้านไหนก็ให้ประสบการณ์เหมือนกันหมด

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าร้านไม่จัดระดับความสำคัญของลูกค้า ไม่มีระบบ Tier หรือ VIP ที่ให้สิทธิพิเศษเฉพาะกลุ่ม ลูกค้าจะไม่รู้สึกว่าตัวเองมี “คุณค่า” กับแบรนด์ และถ้าซื้อกี่ครั้งก็ได้สิ่งเดิม ไม่มีอะไรเพิ่ม ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลับมาอุดหนุนอีก

การสร้างแรงจูงใจให้ซื้อซ้ำ จึงไม่ใช่แค่เรื่องโปรโมชันแต่เป็นเรื่องของ “ความรู้สึก” ว่าลูกค้าได้รับการดูแลที่ดีกว่าคนอื่น และคุ้มค่ากว่าเดิมทุกครั้งที่กลับมา

ของขวัญพิเศษให้กับลูกค้าประจำ

ทั้งเรื่องการสื่อสารกับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Personalized)เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและเพิ่มแรงจูงใจให้กลับมาซื้อซ้ำนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่จะทำให้ลูกค้าอยู่กับเราไปนานๆ MyCloud Fulfillment เราเข้าใจปัญหาเกี่ยวกับการขายออนไลน์ได้เป็นอย่างดีด้วยประสบการณ์ที่ดูแลลูกค้าหลายแบรนด์ดัง และ บริการคลังสินค้าออนไลน์ที่เป็นได้มากกว่าคลังสินค้า เราจึงได้พัฒนาฟีเจอร์ส่งเสริมการขายเพื่อตอบโจทย์ให้กับเจ้าของธุรกิจออนไลน์ ให้ได้ใช้ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการเรื่องหลังบ้าน (เก็บ-แพ็ก-ส่ง) นั้นก็คือ MyCloud CRM ซึ่งจะเป็นระบบที่ช่วยบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า ทำให้คุณเข้าถึงลูกค้าประจำได้ง่ายมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ หากสนใจเกี่ยวบริการคลังสินค้าออนไลน์และระบบ CRM สามารถคลิกที่นี่ เพื่อติดต่อสอบถามเพิ่มเติมกับได้เลยค่ะ😊

4. ประสบการณ์ในระบบไม่ลื่นไหล

ในยุคที่ทุกอย่างอยู่บนมือถือ ถ้าหน้าเว็บไซต์โหลดช้า ใช้งานยาก หรือระบบจ่ายเงินติดขัด แค่ไม่กี่วินาทีลูกค้าก็พร้อมจะปิดหน้าเว็บแล้วไปหาซื้อที่อื่น การออกแบบ UX และขั้นตอนการสั่งซื้อจึงต้อง ง่าย เร็ว และไม่มีสะดุด โดยเฉพาะช่องทางชำระเงินที่ต้องรองรับทั้งแบบทั้งโอน สแกน และบัตรเครดิต

คนซื้อของผ่าน TikTok Shop

5. สินค้าไม่มีคุณภาพหรือไม่ตรงปก

ไม่ว่าโฆษณาจะดีแค่ไหน ถ้าของที่ลูกค้าได้รับไม่ตรงกับที่คาดหวัง หรือแย่กว่านั้นคือ รีวิวลบจากลูกค้าในรอบแรก โอกาสในการซื้อซ้ำแทบจะเป็นศูนย์ เพราะลูกค้าสมัยนี้มีตัวเลือกเยอะ และแทบจะไม่ให้โอกาสร้านค้าเป็นครั้งที่สอง ถ้าครั้งแรกพลาดแล้วสร้างความไม่พอใจ

ทำไมการซื้อซ้ำถึงสำคัญกับแบรนด์ในยุคนี้

ในวันที่ค่าโฆษณาออนไลน์พุ่งสูงขึ้นทุกปี การได้ลูกค้าใหม่มาสักคนอาจต้องใช้งบหลักร้อยหรือหลักพัน แต่ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนลูกค้าใหม่นั้นให้กลับมาซื้อซ้ำได้อีก 3–5 ครั้ง ต้นทุนการตลาดต่อครั้งจะลดลงอย่างมหาศาล และกำไรที่ได้ก็จะมากกว่าการหาลูกค้าใหม่ทุกครั้งไป

ทำไมการซื้อซ้ำถึงสำคัญกับแบรนด์ในยุคนี้

นอกจากจะช่วยประหยัดงบ การซื้อซ้ำ ยังเป็นสัญญาณว่าแบรนด์ของคุณ “ทำได้ดี” ทั้งในแง่สินค้า บริการ และประสบการณ์โดยรวม เพราะลูกค้าจะไม่กลับมาซื้อของเดิมซ้ำๆ ถ้าเขาไม่รู้สึกพึงพอใจหรือเห็นคุณค่าในสิ่งที่ได้รับ

ที่สำคัญกว่านั้น ลูกค้าประจำมักกลายเป็น “กระบอกเสียง” ให้แบรนด์แบบฟรีๆ ไม่ว่าจะเป็นการรีวิว บอกต่อ หรือแนะนำเพื่อน ยิ่งคุณดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ดีเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งเต็มใจช่วยขยายฐานลูกค้าให้แบรนด์โดยที่คุณแทบไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาเพิ่มเลย

เพราะฉะนั้น ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีสร้างรายได้แบบยั่งยืนและลดภาระการวิ่งหาลูกค้าใหม่ตลอดเวลา การลงทุนกับ “ประสบการณ์หลังการขาย” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามที่สุดในยุคนี้ค่ะ


MyCloud CRM ฟีเจอร์ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้า สร้างประสบการณ์ที่ดี และผลักดันธุรกิจให้เติบโต! ทั้งช่วยสร้างฐานข้อมูลลูกค้าที่แข็งแรง และเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ด้วยข้อมูลการสั่งซื้อและพฤติกรรมการใช้งาน ทำให้ร้านค้าสามารถวางแผนการขายอย่างแม่นยำ เสนอขายสินค้าที่ตรงใจ และสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาสินค้าใหม่ในอนาคต เพื่อผลักดันยอดขายและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจ

MyCloud CRM ระบบ CRM ( Customer Relationship Management )

ทำไมต้องใช้ MyCloud CRM?

MyCloud CRM ช่วยให้ร้านค้า เก็บ-วิเคราะห์-ใช้งานข้อมูลลูกค้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมต่อข้อมูลจากทุกแพลตฟอร์มผ่านระบบ MyCloud OMS ทำให้สื่อสารตรงจุด เพิ่มยอดซื้อซ้ำได้ง่ายขึ้น ด้วยจุดเด่น

  1. เก็บข้อมูล First-Party Data ครบถ้วน
    บันทึกประวัติการซื้ออัตโนมัติจากทุกช่องทาง วิเคราะห์ได้ว่าใครซื้ออะไร เมื่อไหร่ บ่อยแค่ไหน
  2. เพิ่มสมาชิกง่าย ลดการ Drop-Off
    ให้ลูกค้าสะสมแต้มผ่าน QR Code เฉพาะแต่ละออเดอร์ ไม่ต้องกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน
  3. ดึงลูกค้าเข้า Line OA เพิ่มยอดขายตรง
    เปลี่ยนลูกค้าขาจรเป็นขาประจำ ลดพึ่งพาแพลตฟอร์มที่มีค่าธรรมเนีบมการขายที่สูง
  4. สื่อสารและ Remarketing ได้แม่นยำ
    ยิงโปรเฉพาะกลุ่ม ใช้ Tag และพฤติกรรมซื้อเก่าในการทำตลาดซ้ำ
  5. สร้าง Loyalty Program เจาะลูกค้า Marketplace
    สะสมแต้มง่าย เช่น VIP Tier, โปรวันเกิด หรือดีลเฉพาะสมาชิก แค่สแกนกล่องก็รับแต้มได้เลย

บทสรุป: แก้ 5 ปัญหาลูกค้า ไม่ซื้อซ้ำ ทำยังไง?

ลูกค้าไม่ซื้อซ้ำ อาจไม่ใช่เพราะสินค้าของคุณไม่ดี แต่เพราะ “ประสบการณ์หลังการขาย” ยังไม่ตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งล่าช้า ขาดการสื่อสารที่เป็นส่วนตัว ไม่มีสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า UX ที่ใช้งานยาก หรือคุณภาพสินค้าไม่ตรงปก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้าและลดโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำอีกครั้ง

แก้ 5 ปัญหาลูกค้า ไม่ซื้อซ้ำ ทำยังไง?

ดังนั้น หากคุณอยากเปลี่ยนลูกค้าให้กลายเป็น “ลูกค้าประจำ” การปรับแค่สินค้าอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่ต้องใส่ใจตั้งแต่การจัดการคลังสินค้าทั้งเรื่องออเดอร์ให้เป็นระบบมากขึ้น ด้วยบริการของ MyCloud Fulfillment ที่ช่วยให้การแพ็กและส่งออเดอร์เป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ มีระบบติดตามสถานะออเดอร์แบบ Real-Time พร้อมทั้งฟีเจอร์ช่วยส่งเสริมการขาย MyCloud CRM ที่เชื่อมต่อข้อมูลการสั่งซื้อจากทุกช่องทาง ช่วยบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้าและช่วยให้แบรนด์นำข้อมูลของลูกค้า ไปใช้เพื่อกระตุ้นการซื้อซ้ำผ่านโปรโมโมชันพิเศษเฉพาะลูกค้าเดิม เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ใส่ใจจริง และพร้อมกลับมาซื้อซ้ำโดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาตลอดเวลา นี่แหละคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในวันที่การแข่งขันสูงและวันที่ลูกค้ามีทางเลือกมากมายค่ะ หากสนใจบริการคลังสินค้าออนไลน์พร้อมใช้ฟีเจอร์ดีๆแบบนี้รีบติดต่อเพื่อปรึกษากับเรา MyCloud Fulfillment มาได้เลยนะคะ – ติดต่อขอใบเสนอราคา คลิกเลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

บริการแพ็คสินค้า รับแพ็คของพร้อมจัดส่ง ทำไมต้องเลือก MyCloud?

 บริการแพ็คสินค้า รับแพ็คของพร้อมจัดส่ง ทำไมต้องเลือก MyCloud? มองหา Fulfillment ที่มีบริการแพ็คสินค้าอยู่หรือเปล่า? การแพ็คบรรจุภัณฑ์มาตรฐานนั้นก็ถือว่าเป็นพื้นฐานของการแพ็คสินค้าเพื่อส่งให้ลูกค้า และในปัจจุบันก็มีบริการ fulfillment ที่หลากหลาย แต่เมื่อเทียบกับความยืดหยุ่นปรับแต่งได้ และบริการแพ็คพิเศษที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าสร้างความประทับใจสูงสุดให้กับลูกค้าแล้ว คุณต้องเลือก MyCloudFulfillment เพราะเรามีจุดเด่นในบริการแพ็คสินค้าพิเศษ หากคุณกำลังแพ็คสินค้าด้วยตัวเอง หรือจ้างแพ็ค ปัญหาที่คุณต้องเจอมีดังนี้ค่ะ ปัญหาที่ผู้ขายพบเมื่อแพ็คเอง หรือจ้างคนแพ็คสินค้า 1. แรงงานแพ็คสินค้าไม่เพียงพอ ร้านค้าเมื่อมีออเดอร์เข้ามามากขึ้น ทำให้ไม่สามารถแพ็คสินค้าทั้งหมดส่งลูกค้าได้ทัน ต้องจัดหาแรงงานมาช่วยแพ็ค ซึ่งก็หมายถึงต้องดูแล จัดการพนักงานแพ็คที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย 2. รูปแบบการแพ็คสินค้่าที่จำกัด ไม่สามารถ customize ได้ เมื่อจ้างแพ็ค หรือแพ็คสินค้าด้วยตัวเองคุณไม่มีเวลามากพอที่จะสร้างสรรค์การแพ็คเฉพาะในแต่ละกล่องได้ รวมถึงแรงงานที่จ้างมาก็ไม่มีประสบการณ์ หรือสามารถแพ็คได้อย่างจำกัด 3. แพ็คสินค้าผิด หรือแพ็คไม่ครบตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการ ปัญหาแพ็คสินค้าผิด แพ็คไม่ครบ เป็นปัญหาหลักที่ทุกร้านออนไลน์ต้องเจอค่ะ เมื่อแพ็คผิด ก็ส่งไปให้ลูกค้าแบบผิด ๆ ต้องเสียเวลาให้ลูกค้าส่งสินค้ากลับคืนมา และส่งสินค้าใหม่ หรือสินค้าที่ตกหล่นกลับไปให้ลูกค้าอีก เสียทั้งค่าใช้จ่ายและส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าอีกด้วย 4. ปัญหาการจัดเซ็ท และแพ็คสินค้าโปรโมชันต่าง ๆ เมื่อร้านค้าต้องการจัดเซ็ท […]

Marketplace หรือ Social Commerce ขายที่ไหนกำไรดีกว่า?

ในยุคที่การขายออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว คำถามสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนมักจะถามตัวเองคือ “ควรขายผ่าน Marketplace หรือ Social Commerce เพื่อให้ได้กำไรมากที่สุด?” ก่อนที่จะรู้คำตอบนั้นก็ควรจะรู้ก่อนว่าแต่ละช่องทางนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันอย่างไร แล้วช่องทางไหนที่เหมาะกับธุรกิจของคุณมากที่สุด? บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน พร้อมคำแนะนำที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น! Marketplace คืออะไร? ข้อดีและข้อเสีย Marketplace คือแพลตฟอร์มที่รวบรวมผู้ขายและผู้ซื้อมาไว้ในที่เดียว เช่น Lazada, Shopee, และ TikTok Shop ซึ่งกลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ขายออนไลน์เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมากในเวลาอันสั้น ข้อดีของ Marketplace 1.เข้าถึงฐานลูกค้าขนาดใหญ่ เพราะมีจำนวนผู้ใช้งานที่เยอะมากและหลากหลายทั้งในแง่ของเพศ อายุ และความสนใจ ทำให้โอกาสที่สินค้าของคุณจะถูกพบเห็นและซื้อมีสูง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ช่วยโปรโมตสินค้า เช่น การแสดงสินค้าในหน้าแนะนำ (Recommended), การจัดอันดับสินค้ายอดนิยม, หรือฟังก์ชัน Search ที่ช่วยให้ลูกค้าเจอสินค้าคุณง่ายขึ้น และมีผู้ใช้งานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง คุณจึงสามารถขายสินค้าและทำการตลาดได้ต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องรอช่วงเวลาหรือกิจกรรมพิเศษ 2.ระบบจัดการที่สะดวก ระบบจัดการที่สะดวก มีเครื่องมือที่ช่วยในเรื่องของการชำระเงิน การจัดส่ง และโปรโมชั่น –การชำระเงิน (Payment) มีระบบชำระเงินอัตโนมัติที่รองรับการจ่ายเงินหลากหลายช่องทาง เช่น บัตรเครดิต/เดบิต, โอนผ่านธนาคาร, และ […]

สินค้าเสื่อม สกินแคร์&คอสเมติก ร้อนนี้เก็บยังไงดี

เจ้าของธุรกิจสกินแคร์หลายๆคนคงต้องเคยเจอกับปัญหา สินค้าเสื่อม อย่างแน่นอน โดยเฉพาะหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้นแบบนี้ อาจทำให้สินค้าที่ลงทุนมาด้วยความตั้งใจกลับเสียหาย ทั้งสีเปลี่ยน กลิ่นเปลี่ยน หรือเนื้อครีมแยกชั้นจนใช้งานไม่ได้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือและยอดขายของธุรกิจคุณ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะบทความนี้จะช่วยให้คุณรู้วิธีเก็บรักษาสินค้าสกินแคร์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมขาย แม้ต้องเจอกับอากาศร้อนๆ แบบเมืองไทยก็ยังมั่นใจได้ว่าคุณภาพสินค้าจะยังคงคุณภาพจนส่งถึงมือลูกค้าแน่นอน ทำไมอากาศร้อน ทำให้สกินแคร์เสื่อมคุณภาพ สินค้าสกินแคร์ เช่น เซรั่ม ครีม หรือโทนเนอร์ ล้วนมีส่วนประกอบที่อ่อนไหวต่อความร้อน หากสินค้าเหล่านี้ถูกเก็บไว้ในอุณหภูมิที่สูงเกินไป สารออกฤทธิ์ที่สำคัญจะเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ประสิทธิภาพในการบำรุงผิวลดลง สินค้าบางประเภทที่มีสารสำคัญเช่น วิตามินซีหรือเรตินอล จะมีความไวต่อความร้อนมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ของสินค้าก็อาจได้รับผลกระทบจากความร้อน เช่น การละลายหรือเปลี่ยนรูป ทำให้เกิดปัญหาการปนเปื้อนของสารเคมีได้ วิธีเก็บสินค้าสกินแคร์ช่วงหน้าร้อน หน้าร้อนของเมืองไทยไม่เพียงแต่กระทบอารมณ์คน แต่ยังส่งผลอย่างมากต่อคุณภาพของสินค้าสกินแคร์ โดยเฉพาะแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้า การจัดเก็บสินค้าอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพื่อไม่ให้ “สินค้าเสื่อม” ก่อนถึงมือลูกค้า ลองดูวิธีการดูแลและจัดเก็บสินค้าสกินแคร์ช่วงหน้าร้อนให้ปลอดภัยและคงประสิทธิภาพดังนี้ สถานที่เก็บสินค้าควรมีอุณหภูมิคงที่ ไม่ร้อนอบอ้าว และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง เพราะความร้อนและแสงแดดสามารถทำลายสารบำรุงในสกินแคร์ โดยเฉพาะวิตามิน C และสารสกัดธรรมชาติที่ไวต่ออุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บคือ 15–25°C ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของสินค้าได้ดี ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่อับลมหรือไม่มีการระบายอากาศ และอย่าลืมตรวจสอบฉลากเพื่อดูคำแนะนำการจัดเก็บเพิ่มเติมจากผู้ผลิต หากยังไม่มีห้องควบคุมอุณหภูมิในพื้นที่จัดเก็บสินค้า อาจพิจารณาติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสม […]

บริการแพ็คสินค้า รับแพ็คของพร้อมจัดส่ง ทำไมต้องเลือก MyCloud?

 บริการแพ็คสินค้า รับแพ็คของพร้อมจัดส่ง ทำไมต้องเลือก MyCloud? มองหา Fulfillment ที่มีบริการแพ็คสินค้าอยู่หรือเปล่า? การแพ็คบรรจุภัณฑ์มาตรฐานนั้นก็ถือว่าเป็นพื้นฐานของการแพ็คสินค้าเพื่อส่งให้ลูกค้า และในปัจจุบันก็มีบริการ fulfillment ที่หลากหลาย แต่เมื่อเทียบกับความยืดหยุ่นปรับแต่งได้ และบริการแพ็คพิเศษที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าสร้างความประทับใจสูงสุดให้กับลูกค้าแล้ว คุณต้องเลือก MyCloudFulfillment เพราะเรามีจุดเด่นในบริการแพ็คสินค้าพิเศษ หากคุณกำลังแพ็คสินค้าด้วยตัวเอง หรือจ้างแพ็ค ปัญหาที่คุณต้องเจอมีดังนี้ค่ะ ปัญหาที่ผู้ขายพบเมื่อแพ็คเอง หรือจ้างคนแพ็คสินค้า 1. แรงงานแพ็คสินค้าไม่เพียงพอ ร้านค้าเมื่อมีออเดอร์เข้ามามากขึ้น ทำให้ไม่สามารถแพ็คสินค้าทั้งหมดส่งลูกค้าได้ทัน ต้องจัดหาแรงงานมาช่วยแพ็ค ซึ่งก็หมายถึงต้องดูแล จัดการพนักงานแพ็คที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย 2. รูปแบบการแพ็คสินค้่าที่จำกัด ไม่สามารถ customize ได้ เมื่อจ้างแพ็ค หรือแพ็คสินค้าด้วยตัวเองคุณไม่มีเวลามากพอที่จะสร้างสรรค์การแพ็คเฉพาะในแต่ละกล่องได้ รวมถึงแรงงานที่จ้างมาก็ไม่มีประสบการณ์ หรือสามารถแพ็คได้อย่างจำกัด 3. แพ็คสินค้าผิด หรือแพ็คไม่ครบตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการ ปัญหาแพ็คสินค้าผิด แพ็คไม่ครบ เป็นปัญหาหลักที่ทุกร้านออนไลน์ต้องเจอค่ะ เมื่อแพ็คผิด ก็ส่งไปให้ลูกค้าแบบผิด ๆ ต้องเสียเวลาให้ลูกค้าส่งสินค้ากลับคืนมา และส่งสินค้าใหม่ หรือสินค้าที่ตกหล่นกลับไปให้ลูกค้าอีก เสียทั้งค่าใช้จ่ายและส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าอีกด้วย 4. ปัญหาการจัดเซ็ท และแพ็คสินค้าโปรโมชันต่าง ๆ เมื่อร้านค้าต้องการจัดเซ็ท […]

Marketplace หรือ Social Commerce ขายที่ไหนกำไรดีกว่า?

ในยุคที่การขายออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว คำถามสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนมักจะถามตัวเองคือ “ควรขายผ่าน Marketplace หรือ Social Commerce เพื่อให้ได้กำไรมากที่สุด?” ก่อนที่จะรู้คำตอบนั้นก็ควรจะรู้ก่อนว่าแต่ละช่องทางนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันอย่างไร แล้วช่องทางไหนที่เหมาะกับธุรกิจของคุณมากที่สุด? บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน พร้อมคำแนะนำที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น! Marketplace คืออะไร? ข้อดีและข้อเสีย Marketplace คือแพลตฟอร์มที่รวบรวมผู้ขายและผู้ซื้อมาไว้ในที่เดียว เช่น Lazada, Shopee, และ TikTok Shop ซึ่งกลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ขายออนไลน์เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมากในเวลาอันสั้น ข้อดีของ Marketplace 1.เข้าถึงฐานลูกค้าขนาดใหญ่ เพราะมีจำนวนผู้ใช้งานที่เยอะมากและหลากหลายทั้งในแง่ของเพศ อายุ และความสนใจ ทำให้โอกาสที่สินค้าของคุณจะถูกพบเห็นและซื้อมีสูง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ช่วยโปรโมตสินค้า เช่น การแสดงสินค้าในหน้าแนะนำ (Recommended), การจัดอันดับสินค้ายอดนิยม, หรือฟังก์ชัน Search ที่ช่วยให้ลูกค้าเจอสินค้าคุณง่ายขึ้น และมีผู้ใช้งานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง คุณจึงสามารถขายสินค้าและทำการตลาดได้ต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องรอช่วงเวลาหรือกิจกรรมพิเศษ 2.ระบบจัดการที่สะดวก ระบบจัดการที่สะดวก มีเครื่องมือที่ช่วยในเรื่องของการชำระเงิน การจัดส่ง และโปรโมชั่น –การชำระเงิน (Payment) มีระบบชำระเงินอัตโนมัติที่รองรับการจ่ายเงินหลากหลายช่องทาง เช่น บัตรเครดิต/เดบิต, โอนผ่านธนาคาร, และ […]

สินค้าเสื่อม สกินแคร์&คอสเมติก ร้อนนี้เก็บยังไงดี

เจ้าของธุรกิจสกินแคร์หลายๆคนคงต้องเคยเจอกับปัญหา สินค้าเสื่อม อย่างแน่นอน โดยเฉพาะหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้นแบบนี้ อาจทำให้สินค้าที่ลงทุนมาด้วยความตั้งใจกลับเสียหาย ทั้งสีเปลี่ยน กลิ่นเปลี่ยน หรือเนื้อครีมแยกชั้นจนใช้งานไม่ได้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือและยอดขายของธุรกิจคุณ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะบทความนี้จะช่วยให้คุณรู้วิธีเก็บรักษาสินค้าสกินแคร์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมขาย แม้ต้องเจอกับอากาศร้อนๆ แบบเมืองไทยก็ยังมั่นใจได้ว่าคุณภาพสินค้าจะยังคงคุณภาพจนส่งถึงมือลูกค้าแน่นอน ทำไมอากาศร้อน ทำให้สกินแคร์เสื่อมคุณภาพ สินค้าสกินแคร์ เช่น เซรั่ม ครีม หรือโทนเนอร์ ล้วนมีส่วนประกอบที่อ่อนไหวต่อความร้อน หากสินค้าเหล่านี้ถูกเก็บไว้ในอุณหภูมิที่สูงเกินไป สารออกฤทธิ์ที่สำคัญจะเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ประสิทธิภาพในการบำรุงผิวลดลง สินค้าบางประเภทที่มีสารสำคัญเช่น วิตามินซีหรือเรตินอล จะมีความไวต่อความร้อนมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ของสินค้าก็อาจได้รับผลกระทบจากความร้อน เช่น การละลายหรือเปลี่ยนรูป ทำให้เกิดปัญหาการปนเปื้อนของสารเคมีได้ วิธีเก็บสินค้าสกินแคร์ช่วงหน้าร้อน หน้าร้อนของเมืองไทยไม่เพียงแต่กระทบอารมณ์คน แต่ยังส่งผลอย่างมากต่อคุณภาพของสินค้าสกินแคร์ โดยเฉพาะแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้า การจัดเก็บสินค้าอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพื่อไม่ให้ “สินค้าเสื่อม” ก่อนถึงมือลูกค้า ลองดูวิธีการดูแลและจัดเก็บสินค้าสกินแคร์ช่วงหน้าร้อนให้ปลอดภัยและคงประสิทธิภาพดังนี้ สถานที่เก็บสินค้าควรมีอุณหภูมิคงที่ ไม่ร้อนอบอ้าว และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง เพราะความร้อนและแสงแดดสามารถทำลายสารบำรุงในสกินแคร์ โดยเฉพาะวิตามิน C และสารสกัดธรรมชาติที่ไวต่ออุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บคือ 15–25°C ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของสินค้าได้ดี ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่อับลมหรือไม่มีการระบายอากาศ และอย่าลืมตรวจสอบฉลากเพื่อดูคำแนะนำการจัดเก็บเพิ่มเติมจากผู้ผลิต หากยังไม่มีห้องควบคุมอุณหภูมิในพื้นที่จัดเก็บสินค้า อาจพิจารณาติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสม […]