Knowledge Center

10 สัญญาณ! ถึงเวลาที่ธุรกิจของคุณต้องใช้บริการ “Fulfillment”

10 สัญญาณ! ถึงเวลาที่ธุรกิจของคุณต้องใช้บริการ “Fulfillment”

          ขายของออนไลน์จำเป็นต้องใช้บริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าด้วยหรอ ทั้ง ๆ ที่ทำเอง หรือจ้างพนักงานเพื่อแพ็คได้? ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจออนไลน์ที่กำลังขายดีสุด ๆ หรือร้านค้าออฟไลน์ที่ต้องการเพิ่มช่องทางการขายทางออนไลน์มากขึ้น เช็คด่วน! ถ้าธุรกิจกำลังเจอปัญหาเหล่านี้ ควรมองหาบริการ Fulfillment ผู้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจ E-Commerce ในเรื่องของ พื้นที่จัดเก็บสินค้า (คลังสินค้า) การแพ็คสินค้า และการจัดส่งสินค้า เพื่อรองรับสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้นตามยอดขาย รวมถึงมีออเดอร์ที่ต้องแพ็คและส่งมากขึ้นค่ะ

1. มีปัญหาแพ็คผิด ส่งผิดอยู่บ่อยครั้ง

           แพ็คผิด ส่งผิด นอกจากจะทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจแล้ว คุณเองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นมูลค่าสินค้า หรือค่าขนส่งวุ่นวายไปอีก ใช้บริการ Fulfillment ให้ช่วยแพ็ค และจัดส่งและสินค้าให้ ด้วยระบบการหยิบแพ็ค และกล้องวงจรปิด รวมถึงความเชี่ยวชาญของพนักงานที่มีประสบการณ์ มั่นใจได้เลยว่าปัญหาแพ็คสินค้าผิดจะหมดไป มีการการันตีไร้ปัญหาส่งของไม่ทัน แพ็ค ส่งของผิด หรือส่งของเกินอีกต่อไป

2. มีแผนขยายธุรกิจ

          มีออเดอร์เพิ่มขึ้น ต้องการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ ๆ แต่ติดปัญหาไม่มีทีมงาน พื้นที่จัดเก็บ และผู้ช่วยวางแผนธุรกิจเป็นข้อจำกัดที่สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ที่เดียวจบกับการเลือกใช้บริการ Fulfillment เพราะ การเติบโต หมายถึงการทำงานที่ต้องพัฒนาขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่เก็บสินค้าที่ต้องเพิ่มขึ้น จำนวนพนักงานที่ต้องเพิ่มให้เพียงพอต่อการแพ็คสินค้า และต้องมีการวางแผนและการจัดการด้าน Logistics ให้ดียิ่งขึ้นผู้ให้บริการ Fulfillment ที่มีประการณ์เกี่ยวกับสินค้าออนไลน์ มักเห็นแนวโน้มตลาด และมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น Stock Optimization หรือวิธีการทำโปรโมชัน ที่สอดคล้อง เหมาะสมกับการส่ง ให้คุณได้กำไรสูงสุด

3. สินค้าเสียหาย จัดส่งล่าช้า ลูกค้า complain

          การแพ็คที่ไม่ได้มาตราฐาน อาจจะส่งผลกระทบต่อสินค้าของคุณได้ หรือบางครั้งสินค้าเสียหายจากขนส่งก่อนถึงมือผู้รับ ยิ่งในปัจจุบันการขายออนไลน์มีการแข่งขันสูง หากร้านส่งช้าไม่ตรงใจลูกค้า ก็มีสิทธ์ที่จะเลือกร้านที่ส่งได้เร็วกว่า หรือแสดงความคิดเห็น รีวิวให้กับร้านค้าไม่ดีนัก ยิ่งร้านค้าที่ขายบน Lazada หรือ Shopee ต้องส่งให้ทันระยะเวลา SLA แล้วยิ่งต้องให้ความสำคัญ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เมื่อใช้งานบริการ Fulfillment สำหรับร้านค้าบน Marketplace ก็ไม่ทำให้ rating ร้านค้าและคะแนนรีวิวร้านค้าตกอย่างแน่นอน

4. มีข้อจำกัดในการแพ็ค ทีมงานไม่ flexible

           ทำไมต้องแพ็คแบบธรรมดา ถ้าคุณสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า หรือแบรนด์ได้จากการแพ็ค ไม่ว่าจะเป็นการผูกโบว์ แนบการ์ด หรือตกแต่งกล่องสินค้า เพื่อเพิ่มความประทับใจให้กับลูกค้าคนพิเศษของคุณได้มากกว่า แต่ข้อกัดด้านเวลา และคุณภาพงาน รวมถึงกำลังคนก็ยังเป็นปัญหาสำหรับผู้ประกอบการ บริการ Fulfillment ที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจ เพื่อการแพ็คที่สวยงาม แน่นหนา ที่ได้มาตรฐานทุกกล่องจากทีมงานแพ็คที่เชี่ยวชาญ และเพียงพอสามารถรองรับออเดอร์ที่เพิ่มมากขึ้นได้

5. พื้นที่จัดเก็บสินค้าไม่เพียงพอ

          เมื่อต้องสต็อกสินค้าเพิ่มขึ้น การเช้าคลังสินค้าเพิ่มอาจทำให้คุณต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น รวมถึงสัญญาที่ผูกมัด หากช่วงไหนสต็อกน้อยก้ต้องจ่ายเต็มที่ แต่ช่วงไหนสต็อกมากก็พื้นที่ไม่เพียงพออีก ดังนั้นความยืดหยุ่นของบริการจึงเป็นสิ่งสำคัญ เลือกใช้บริการ Fulfillment ที่มีพื้นที่ว่าง และเพียงพอสำหรับการเติบโต นอกจากจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้านพื้นที่ ใช้พื้นที่แค่ไหนก้จ่ายแค่นั้น ตอบโจทย์การขายที่ไม่แน่นอน วันที่มีแคมเปญ หรือช่วงเวลาพีคก็สามารถเก็บสต็อกเพิ่มได้ และยังมีบริการแพ็ค และส่งจากพนักงานที่มีประสบการณ์ ทำให้ไม่ต้องเสียเงินจ้างพนักงานเพิ่ม ไม่ต้องดูแลพนักงานเยอะอีกด้วย

6. ต้องการโฟกัสกับการขาย และเพิ่มยอดขายมากขึ้น

          อะไรที่ไม่ถนัด ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญแล้วคุณเอาเวลาไปโฟกัสกับช่องทางการขาย เพื่อเพิ่มยอดขายมากขึ้น หรือทำสิ่งที่ทำได้ดีไม่ดีกว่าหรอ? บริการ Fulfillment เป็นทางเลือกที่จะช่วยลดขั้นตอนการทำงานให้คุณ และเพิ่มเวลาให้กับธุรกิจ หรือร้านค้าออนไลน์ได้มากขึ้น เมื่อแบ่งงานในส่วนของการเก็บ แพ็ค ส่ง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้ทั้งเวลา และมีรายละเอียดยิบย่อย ทำให้มีเวลาไปพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อให้ธุรกิจเติบโตแบบยั่งยืนได้

7. ไม่มีทีมซัพพอร์ตลูกค้า เรื่อง Customer service ต้องปรับปรุง

            บริการ Fulfillment ที่ดีจะมีทีม support ที่จะช่วยรับเรื่องและแก้ไขปัญหา ปิดเคสที่เกี่ยวข้องกับสินค้า การขนส่ง และอื่น ๆ จนกว่าสินค้าจะถึงมือลูกค้าปลายทาง เพื่อให้คุณขายสินค้าได้แบบไม่ต้องกังวลปัญหาจุกจิกกวนใจ ที่เกิดขึ้นเมื่อขายออนไลน์อีกต่อไป

8. ไม่มีระบบในการจัดการสต็อก และออเดอร์

           หากออเดอร์ของคุณไม่เยอะ การหยิบ แพ็ค และส่งแบบเดิม ๆ ก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร แต่หากร้านค้าของคุณเติบโตมากพอที่จะสต็อกสินค้าเพิ่มขึ้น และขยายไปสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น การจัดการอย่างไม่เป็นระบบจะส่งผลต่อสต็อก และออเดอร์ที่อาจตกหล่นได้แน่นอน ใช้บริการ Fulfillment ที่ให้บริการคลังสินค้า ที่มีระบบจัดการสต็อก ช่วยให้คุณมีสต็อกที่มีประสิทธิภาพ หมดปัญหาสต็อกจม เพิ่มโอกาสเก็บสินค้าขายดีมากขึ้น และระบบจัดการออเดอร์ที่สามารถเชื่อมต่อได้กับทุกช่องทางการขาย ทำให้รับออเดอร์ได้ไม่ตกหล่นแม้แต่ออเดอร์เดียว นอกจากนี้การทำงานอย่างเป็นระบบ ทำให้สามารถเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนธุรกิจต่อไป และลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้อีกด้วย

9. ไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วย

           ขายสินค้าออนไลน์ ในยุคที่ตลาด E-Commerce เติบโตและพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ธุรกิจเองก็ต้องปรับตัวให้ก้าวตามทันไปด้วย บริการ Fulfillment ใช้เทคโนโลยีที่ประสานระบบงานทุกส่วนเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบจัดการคลังสินค้า จัดการออเดอร์ หรือการเชื่อมต่อ API เข้ากับทุกช่องทางการขาย ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถติดตาม จัดการ และตรวจสอบขั้นตอนการทำงานตั้งแต่เก็บ แพ็ค ส่งผ่านคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนได้แบบเรียลไทม์ จึงเหมาะสำหรับผู้ขายของออนไลน์ที่ไม่มีพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการสต๊อกหรือเก็บสินค้า หรือมีกำลังไม่มากพอจะมีคลังสินค้าของตัวเอง

10. มีค่าใช้จ่ายที่ควบคุมไม่ได้เพิ่มขึ้น

         การใช้บริการ Fulfillment เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายหรือเปล่า? การใช้บริการ Fulfillment อาจทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นก็จริง แต่หากนึกถึงต้นทุนแฝง (Hidden Cost) ที่ซ่อนอยู่ในทุก ๆ กระบวนการแล้ว บริการ Fulfillment ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การแพ็ค ค่าจ้างพนักงาน ทั้งแพ็คและรับออเดอร์ รวมถึงค่าเดินทางในการจัดส่ง หรือค่าขนส่ง เคยลองคำนวณดุหรือเปล่าคะว่าธุรกิจของคุณมีค่าใช้จ่ายเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นแค่ไหน โดยเฉพาะค่าที่ต้องจ่ายเมื่อทำเองคือ “เวลา” อันแสนมีค่าที่สามารถนำไปปรับปรุงพัฒนาการขาย เพื่อเพิ่มยอดขาย หรือสร้างมูลค่าเพิ่มอื่น ๆ ให้กับธุรกิจได้มากกว่า

            ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมายังเป็นเพียงปัญหาพื้นฐานที่ผู้ประกอบการต้องเจอ การขายออนไลน์นั้นยังมีข้อจุกจิกที่ต้องคำนึงถึงอีกมาก เลือกใช้บริการ Fulfillment กับ MyCloudที่เดียวจบ ครบทังเก็บ แพ็ค ส่ง และเป็นผู้ช่วยที่พร้อมจะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

          ปฏิเสธไม่ได้เลยเมื่อผู้ประกอบการต้องการที่จะเติบโตไปอีกขั้น ด้วยการขยายช่องทางการขายและเพิ่มยอดขายมากขึ้น การมีพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ให้บริการ Fulfillment คลังสินค้าออนไลน์ ทั้งเก็บ-แพ็ค-ส่ง ก็เป็นเรื่องที่ดีกว่าและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจของคุณได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องจุกจิกเล็กน้อย การทำงานเป็นระบบมากขึ้น ทำให้เราขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อกเอง สนใจบริการสามารถ ติดต่อเรา เพื่อรับคำปรึกษา หรือข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยค่ะ

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742, 098-278-6500
อีเมล: [email protected]
line: @mycloudgroup
MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก
บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

หากคุณคิดจะขายของออนไลน์ แต่ไม่รู้จัก Marketplace ถือว่าผิด!!

Marketplace คืออะไร? Marketplace คือ พื้นที่พบปะของผู้ซื้อเเละผู้ขายเพื่อติดต่อซื้อขายสินค้าและบริการกัน โดยจะแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ Offline Marketplace เช่น ตลาด ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ และ Online Marketplace เช่น เว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การตลาดออนไลน์เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้ Online Marketplace เป็นที่นิยมมากขึ้นด้วย สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Online Marketplace กันดีกว่า เพราะหากคุณอยากประสบความสำเร็จในการขายของออนไลน์ การรู้จัก Marketplace อย่างถ่องแท้ก็ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ Online Marketplace คือ แพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายของบนโลกออนไลน์ ที่เป็นเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นกลางสำหรับการติดต่อซื้อขาย ที่รวบรวมสินค้า ร้านค้า บริษัทจำนวนมากไว้ด้วยกันผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เปรียบเสมือนห้างร้านที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณอยากซื้ออะไร อยากขายอะไร ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ซึ่ง Marketplace ต่าง ๆ เหล่านั้นก็มีระบบที่ช่วยให้เราสะดวกสบายมากขึ้นในการซื้อ – […]

CRM คืออะไร? จำเป็นไหมที่ทุกธุรกิจออนไลน์ต้องมี

ในยุคที่ใครๆก็ต้องมีช่องทางการขายทางออนไลน์ หลายร้านค้าต่างมุ่งเป้าไปยังการเพิ่มยอดขายและหาลูกค้าใหม่ผ่านช่องทาง Marketplace ยอดนิยม เช่น Lazada, Shopee, และ TikTok Shop อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบบ่อยคือร้านค้าไม่สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าโดยตรงจากช่องทางเหล่านี้ได้ ซึ่งอาจจะเสียโอกาสสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า และเปลี่ยนจากลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าประจำที่ซื้อซ้ำในระยะยาวได้ยาก แต่วันนี้ MyCloud เราจะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าจริงๆแล้วปัญหานี้ก็มีวิธีที่แก้ได้เช่นกัน นั่นก็คือการใช้ระบบ CRM (Customer Relationship Management) เข้ามาช่วยเก็บข้อมูลลูกค้า แต่ว่า CRM คืออะไร แล้วจะตอบโจทย์กับร้านค้าออนไลน์ในปัจจุบันกันได้มากน้อยแค่ไหน มาอ่านจากบทความต่อไปนี้กันได้เลยค่ะ CRM คืออะไร และทำไมจึงสำคัญกับธุรกิจออนไลน์? CRM หรือ Customer Relationship Management คือ ระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยการจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าในรูปแบบต่างๆ ทั้งการติดตามประวัติการซื้อสินค้า ความสนใจ พฤติกรรมการซื้อ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และสร้างความประทับใจสูงสุดในการซื้อขายแต่ละครั้ง ปัญหาเมื่อขายผ่าน Marketplace โดยไม่มี CRM คืออะไร? การขายผ่าน Marketplace มีข้อดีเรื่องความสะดวกและการเข้าถึงลูกค้าใหม่จำนวนมากก็จริง […]

หากคุณคิดจะขายของออนไลน์ แต่ไม่รู้จัก Marketplace ถือว่าผิด!!

Marketplace คืออะไร? Marketplace คือ พื้นที่พบปะของผู้ซื้อเเละผู้ขายเพื่อติดต่อซื้อขายสินค้าและบริการกัน โดยจะแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ Offline Marketplace เช่น ตลาด ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ และ Online Marketplace เช่น เว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การตลาดออนไลน์เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้ Online Marketplace เป็นที่นิยมมากขึ้นด้วย สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Online Marketplace กันดีกว่า เพราะหากคุณอยากประสบความสำเร็จในการขายของออนไลน์ การรู้จัก Marketplace อย่างถ่องแท้ก็ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ Online Marketplace คือ แพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายของบนโลกออนไลน์ ที่เป็นเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นกลางสำหรับการติดต่อซื้อขาย ที่รวบรวมสินค้า ร้านค้า บริษัทจำนวนมากไว้ด้วยกันผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เปรียบเสมือนห้างร้านที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณอยากซื้ออะไร อยากขายอะไร ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ซึ่ง Marketplace ต่าง ๆ เหล่านั้นก็มีระบบที่ช่วยให้เราสะดวกสบายมากขึ้นในการซื้อ – […]

CRM คืออะไร? จำเป็นไหมที่ทุกธุรกิจออนไลน์ต้องมี

ในยุคที่ใครๆก็ต้องมีช่องทางการขายทางออนไลน์ หลายร้านค้าต่างมุ่งเป้าไปยังการเพิ่มยอดขายและหาลูกค้าใหม่ผ่านช่องทาง Marketplace ยอดนิยม เช่น Lazada, Shopee, และ TikTok Shop อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบบ่อยคือร้านค้าไม่สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าโดยตรงจากช่องทางเหล่านี้ได้ ซึ่งอาจจะเสียโอกาสสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า และเปลี่ยนจากลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าประจำที่ซื้อซ้ำในระยะยาวได้ยาก แต่วันนี้ MyCloud เราจะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าจริงๆแล้วปัญหานี้ก็มีวิธีที่แก้ได้เช่นกัน นั่นก็คือการใช้ระบบ CRM (Customer Relationship Management) เข้ามาช่วยเก็บข้อมูลลูกค้า แต่ว่า CRM คืออะไร แล้วจะตอบโจทย์กับร้านค้าออนไลน์ในปัจจุบันกันได้มากน้อยแค่ไหน มาอ่านจากบทความต่อไปนี้กันได้เลยค่ะ CRM คืออะไร และทำไมจึงสำคัญกับธุรกิจออนไลน์? CRM หรือ Customer Relationship Management คือ ระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยการจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าในรูปแบบต่างๆ ทั้งการติดตามประวัติการซื้อสินค้า ความสนใจ พฤติกรรมการซื้อ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และสร้างความประทับใจสูงสุดในการซื้อขายแต่ละครั้ง ปัญหาเมื่อขายผ่าน Marketplace โดยไม่มี CRM คืออะไร? การขายผ่าน Marketplace มีข้อดีเรื่องความสะดวกและการเข้าถึงลูกค้าใหม่จำนวนมากก็จริง […]