Knowledge Center

แชร์ 4 เทคนิค Live ขายของ เรียกคนดู เพิ่มยอดขายให้พุ่งกระฉูด 

แม่ค้ากำลังไลฟ์ขายของ

ปัจจุบันการ Live ขายของกลายเป็นช่องทางการขายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถสร้างยอดขายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยการสื่อสารแบบเรียลไทม์ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างมาก และยังช่วยให้ผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้าได้อย่างน่าสนใจ ตอบคำถามและมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ทันที ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ อย่างไรก็ตาม ก็จำเป็นต้องมีเทคนิคและกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการไลฟ์ด้วยเช่นกัน 

Live ขายของ คืออะไร

การ Live ขายของ คือรูปแบบการขายสินค้าออนไลน์ที่ผู้ขายสามารถถ่ายทอดสดและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมหรือลูกค้าได้แบบ Real-Time ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้ผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้า สาธิตวิธีการใช้งานและตอบคำถามลูกค้าได้ทันที เป็นการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ใกล้เคียงกับการซื้อสินค้าที่หน้าร้านจริง นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขายและลูกค้า ทำให้เกิดความไว้วางใจและเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากยิ่งขึ้น 

Live ขายของมีหลักการอย่างไรบ้าง 

การขายของผ่านไลฟ์สดที่มีประสิทธิภาพต้องเริ่มต้นจากการเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน ได้แก่

  1. ทั้งการจัดเตรียมสินค้าและเช็กสต็อกสินค้า ต้องตรวจสอบจำนวนสินค้าให้แม่นยำ จดบันทึกสต็อกแยกตามรุ่น สี ไซส์ให้ชัดเจน และควรเผื่อสต็อกสำรองไว้สำหรับกรณีสินค้ามีตำหนิหรือเสียหาย เพื่อป้องกันปัญหาการแพ็คสินค้าไม่ทันหรือไม่พอส่งได้อย่างทันท่วงที 
  2. การจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับไลฟ์สด เช่น กล้อง ไมโครโฟนและแสงไฟ ที่สำคัญคือการวางระบบการจัดการออเดอร์ที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบดูดคอมเมนต์อัตโนมัติหรือทีมงานที่คอยจดบันทึกออเดอร์  
  3. การเตรียมระบบการชำระเงินและการจัดส่งที่สะดวกรวดเร็ว เพื่อให้การ Live ขายของ ดำเนินไปอย่างราบรื่นและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า 

4 เทคนิค Live ขายของยังไง ให้คนดูเยอะ 

การจะทำให้การ Live ขายของ ประสบความสำเร็จนั้น จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ดีในการดึงดูดผู้ชมและกระตุ้นยอดขาย มาดูเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้การไลฟ์ของคุณน่าสนใจและมีคนดูเยอะขึ้น 

1. เชิญชวนให้คนเข้ามาดู ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ  

การสร้างการรับรู้ล่วงหน้าเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่มจำนวนผู้ชม ซึ่งการ Live ขายของ โดยใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มที่มี ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, TikTok Live หรือ Line Official Account ประกาศตารางการไลฟ์พร้อมไฮไลท์สินค้าและโปรโมชันพิเศษ สร้างความตื่นเต้นและความคาดหวังให้กับกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งระบุวันเวลาที่จะไลฟ์อย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าสามารถวางแผนและเตรียมตัวเข้าชมได้ 

2. วางแผนการ Live ขายของ 

กุญแจสำคัญของการไลฟ์ขายของคือการวางแผนที่ดี เริ่มตั้งแต่การเตรียมความพร้อมด้านเทคนิค เช่น การตรวจสอบความเสถียรของอินเทอร์เน็ต การจัดแสงและการเตรียมอุปกรณ์ถ่ายทอดสด นอกจากนี้ ควรเตรียมสคริปต์การพูด จัดเรียงลำดับการนำเสนอสินค้า และวางแผนโปรโมชันพิเศษสำหรับการไลฟ์แต่ละครั้ง สำหรับการจัดการระบบหลังบ้าน คุณสามารถใช้บริการระบบ Fulfillment ที่จะช่วยดูแลตั้งแต่การจัดการออเดอร์ การแพ็คสินค้า และการจัดส่งแบบครบวงจร ทำให้คุณสามารถโฟกัสกับการไลฟ์และการสร้างยอดขายได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับการจัดการสต็อกและการส่งสินค้าอีกต่อไป   

วางแผนการ Live ขายของ

3. สร้างคอนเทนต์ให้น่าดึงดูดคนดู  

ไม่เพียงแค่การนำเสนอสินค้าเท่านั้น แต่เนื้อหาในการไลฟ์ยังจำเป็นต้องสร้างความบันเทิงและให้ความรู้ควบคู่กันไป เช่น การสอดแทรกเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการใช้สินค้า แชร์เทคนิคการแต่งตัวหรือพูดคุยเรื่องทั่วไปที่น่าสนใจ การสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานผ่านการพูดคุยกับทีมงานและตอบโต้กับผู้ชม จะช่วยให้การไลฟ์มีความน่าสนใจและดึงดูดผู้ชมให้อยู่ชมนานขึ้น 

4. พูดจาฉะฉาน และมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าขณะไลฟ์อยู่เสมอ 

ทักษะการสื่อสารที่ดีเป็นหัวใจสำคัญของการ Live ขายของ ต้องพูดจาชัดเจน มีความมั่นใจและสามารถโน้มน้าวใจผู้ชมได้ กระตุ้นการตัดสินใจซื้อด้วยโปรโมชันพิเศษเฉพาะช่วงไลฟ์ เช่น แจ้งว่าจำนวนสินค้าที่มีจำกัดแล้วนะ หรือมีคูปองลดพิเศษเฉพาะ 10 นาทีนี้เท่านั้นก็จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น นอกจากนี้ การตอบคำถามและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยสร้างความผูกพันและความไว้วางใจ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคงได้   

พูดจาฉะฉาน และมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าขณะไลฟ์อยู่เสมอ

สรุปบทความ 

การ Live ขายของ เป็นช่องทางการขายที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในยุคดิจิทัล แต่หากอยากจะประสบความสำเร็จในการทำการตลาดออนไลน์นี้ก็ต้องอาศัยการวางแผนที่ดี สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเทคนิคทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมาจะช่วยให้การไลฟ์ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดึงดูดผู้ชม และสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องเลย 

และสำหรับผู้ที่ต้องการยกระดับการ Live ขายของ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น MyCloud Fulfillment พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยจัดการระบบหลังบ้านทั้งหมด ด้วยระบบการจัดการสต็อกและการจัดส่งที่ทันสมัย ช่วยให้คุณสามารถโฟกัสกับการสร้างคอนเทนต์และการตลาดได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการสินค้าและการจัดส่ง นอกจากนี้ ยังมีระบบเชื่อมต่อที่รองรับการขายบนทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น TikTok Shop, Lazada หรือ Shopee โดยระบบจะอัพเดทสต็อกแบบ Real-time และจัดการการจัดส่งให้โดยอัตโนมัติ ทำให้การทำงานของคุณราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ https://www.mycloudfulfillment.com/quotation 

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร: 092-472-7742, 02-138-9920

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Customer Journey คืออะไร ยิ่งอยากขายยิ่งต้องเข้าใจลูกค้าให้มากขึ้น

“Customer Journey คืออะไร”ในยุคที่ธุรกิจออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว การเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไรเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของการขาย การเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) ไม่ใช่แค่เส้นทางที่ลูกค้าซื้อสินค้า แต่เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่การรับรู้สินค้าไปจนถึงการตัดสินใจซื้อ บทความนี้เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นเพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าแบบเจาะลึกแล้วมันยังส่งผลกับการเติบโตธุรกิจของคุณได้ในระยะยาวอีกด้วย Customer Journey คืออะไร? ในส่วนนี้จะหมายถึง “เส้นทางการเดินทางของลูกค้า” เป็นกระบวนการที่ลูกค้าเริ่มต้นรู้จักธุรกิจของคุณ จนถึงการกลายเป็นลูกค้าประจำหรือผู้สนับสนุนแบรนด์ ในแต่ละธุรกิจอาจจะมี Customer Journey ที่ไม่เหมือนกันซึ่งจะแบ่งเป็น 2 แบบนั้นก็คือ Customer Journey แบบ Push และ Customer Journey แบบ Pull แบบที่ 1 Customer Journey (Push) การที่แบรนด์ผลักดันข้อมูลหรือสินค้าสู่กลุ่มลูกค้าโดยไม่รอให้ลูกค้าเริ่มสนใจก่อนโดยจะแบ่งเป็น 5 ขั้นตอนดังนี้ 1. Awareness (การรับรู้) ในขั้นตอนนี้แบรนด์จะส่งข้อมูลเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์หรือสินค้าแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่มีความสนใจในสินค้าโดยตรงผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น 2. Consideration (การพิจารณา) ในขั้นตอนนี้ ลูกค้าที่เห็นโฆษณาเริ่มสนใจและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเปรียบเทียบสินค้า ทางแบรนด์จะต้องเสริมข้อมูลเพื่อให้ลูกค้าได้พิจารณาและรู้จักแบรนด์ได้ง่ายขึ้น 3. Purchase (การซื้อ) กระตุ้นการตัดสินใจในทันที […]

Customer Journey คืออะไร ยิ่งอยากขายยิ่งต้องเข้าใจลูกค้าให้มากขึ้น

“Customer Journey คืออะไร”ในยุคที่ธุรกิจออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว การเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไรเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของการขาย การเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) ไม่ใช่แค่เส้นทางที่ลูกค้าซื้อสินค้า แต่เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่การรับรู้สินค้าไปจนถึงการตัดสินใจซื้อ บทความนี้เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นเพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าแบบเจาะลึกแล้วมันยังส่งผลกับการเติบโตธุรกิจของคุณได้ในระยะยาวอีกด้วย Customer Journey คืออะไร? ในส่วนนี้จะหมายถึง “เส้นทางการเดินทางของลูกค้า” เป็นกระบวนการที่ลูกค้าเริ่มต้นรู้จักธุรกิจของคุณ จนถึงการกลายเป็นลูกค้าประจำหรือผู้สนับสนุนแบรนด์ ในแต่ละธุรกิจอาจจะมี Customer Journey ที่ไม่เหมือนกันซึ่งจะแบ่งเป็น 2 แบบนั้นก็คือ Customer Journey แบบ Push และ Customer Journey แบบ Pull แบบที่ 1 Customer Journey (Push) การที่แบรนด์ผลักดันข้อมูลหรือสินค้าสู่กลุ่มลูกค้าโดยไม่รอให้ลูกค้าเริ่มสนใจก่อนโดยจะแบ่งเป็น 5 ขั้นตอนดังนี้ 1. Awareness (การรับรู้) ในขั้นตอนนี้แบรนด์จะส่งข้อมูลเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์หรือสินค้าแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่มีความสนใจในสินค้าโดยตรงผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น 2. Consideration (การพิจารณา) ในขั้นตอนนี้ ลูกค้าที่เห็นโฆษณาเริ่มสนใจและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเปรียบเทียบสินค้า ทางแบรนด์จะต้องเสริมข้อมูลเพื่อให้ลูกค้าได้พิจารณาและรู้จักแบรนด์ได้ง่ายขึ้น 3. Purchase (การซื้อ) กระตุ้นการตัดสินใจในทันที […]