Knowledge Center

รักษาฐานลูกค้าเก่าอย่างไร ให้อยู่กับเรานานๆ ?

รักษาฐานลูกค้าเก่าอย่างไร ให้อยู่กับเรานานๆ ?

เค้าว่ากันว่า… หาลูกค้าใหม่ว่ายากแล้ว แต่การรักษาลูกค้าเก่าให้อยู่กับเรานานๆ ยากยิ่งกว่า!!

ถึงแม้คุณจะหาลูกค้าใหม่ได้มากมายขนาดไหน แต่ถ้ารักษาลูกค้าไม่เป็น ธุรกิจก็อาจจะพังได้นะครับ

เพราะมีผลวิจัยจาก Harvard Business School พบว่า การเพิ่มขึ้นของอัตราการรักษาลูกค้าเก่า 5% จะเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจถึง 25-95% เลยทีเดียว

เห็นถึงความสำคัญและพลังของลูกค้าเก่ากันแล้วใช่ไหมครับ? แล้วแบบนี้เราจะไม่หาวิธีมัดใจกลุ่มคนเหล่านี้หน่อยหรอ?? วันนี้แอดเลยขอนำเทคนิคเด็ดๆ มาฝากทุกคนครับ เพื่อนๆ สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้เลย 😉

1.คุณภาพดีเหมือนเดิม

รักษาคุณภาพสินค้าและบริการของคุณ ให้เหมือนเกลือที่รักษาความเค็ม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่คุณภาพต้องดีเสมอต้นเสมอปลาย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากครับ ถ้าลูกค้าเจออะไรที่มันผิดไปจากเดิมนิดหนึ่ง เขาก็อาจจะไปหาแบรนด์ใหม่ที่ดีกว่าก็ได้

2.ใส่ใจลูกค้าสม่ำเสมอ

อย่าเป็นร้านค้าที่ซื้อขายกันเสร็จแล้วก็จบไป อย่าเป็นร้านค้าที่เอาแต่จะขายของ อย่าเป็นร้านค้าที่หวังแต่ผลกำไรอย่างเดียว แต่จงเอาใจใส่ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ คอยติดตามสอบถาม Feedback จากลูกค้าด้วย

รับฟังทุกเสียงคำติชม ทั้งดีและไม่ดี แล้วนำไปปรับปรุง

3.มอบสิทธิพิเศษเหนือใคร

ใครๆ ก็อยากเป็นคนสำคัญ ใครๆ ก็อยากได้สิทธิพิเศษกันทั้งนั้น! เวลาที่คุณคิดจะจัดโปร อย่าลืมนึกถึงลูกค้าเก่าๆ ด้วยการมอบสิทธิพิเศษ เช่น ส่วนลดหรือโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อให้เขารู้สึกประทับใจ ให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นคนพิเศษ อาจจะเป็น ให้ส่งรูปรีวิวมาเพื่อรับส่วนลด 10% หรือสะสมคะแนนออนไลน์เพื่อแลกรับของรางวัล หรือเวลาออกคอลเลคชั่นใหม่ ก็แจ้งลูกค้าเก่าก่อน บอกเลย เทคนิคนี้มัดใจลูกค้าได้ทุกรายแน่นอน!

หากต้องการผู้ช่วยในการจัดการออเดอร์สินค้าแบบมืออาชีพ

MyCloudFulfillment ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์แบบครบวงจร

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร: 092-472-7742, 02-138-9920

อีเมล: [email protected]

line: @mycloudgroup

MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก

บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Customer Journey คืออะไร ยิ่งอยากขายยิ่งต้องเข้าใจลูกค้าให้มากขึ้น

“Customer Journey คืออะไร”ในยุคที่ธุรกิจออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว การเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไรเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของการขาย การเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) ไม่ใช่แค่เส้นทางที่ลูกค้าซื้อสินค้า แต่เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่การรับรู้สินค้าไปจนถึงการตัดสินใจซื้อ บทความนี้เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นเพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าแบบเจาะลึกแล้วมันยังส่งผลกับการเติบโตธุรกิจของคุณได้ในระยะยาวอีกด้วย Customer Journey คืออะไร? ในส่วนนี้จะหมายถึง “เส้นทางการเดินทางของลูกค้า” เป็นกระบวนการที่ลูกค้าเริ่มต้นรู้จักธุรกิจของคุณ จนถึงการกลายเป็นลูกค้าประจำหรือผู้สนับสนุนแบรนด์ ในแต่ละธุรกิจอาจจะมี Customer Journey ที่ไม่เหมือนกันซึ่งจะแบ่งเป็น 2 แบบนั้นก็คือ Customer Journey แบบ Push และ Customer Journey แบบ Pull แบบที่ 1 Customer Journey (Push) การที่แบรนด์ผลักดันข้อมูลหรือสินค้าสู่กลุ่มลูกค้าโดยไม่รอให้ลูกค้าเริ่มสนใจก่อนโดยจะแบ่งเป็น 5 ขั้นตอนดังนี้ 1. Awareness (การรับรู้) ในขั้นตอนนี้แบรนด์จะส่งข้อมูลเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์หรือสินค้าแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่มีความสนใจในสินค้าโดยตรงผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น 2. Consideration (การพิจารณา) ในขั้นตอนนี้ ลูกค้าที่เห็นโฆษณาเริ่มสนใจและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเปรียบเทียบสินค้า ทางแบรนด์จะต้องเสริมข้อมูลเพื่อให้ลูกค้าได้พิจารณาและรู้จักแบรนด์ได้ง่ายขึ้น 3. Purchase (การซื้อ) กระตุ้นการตัดสินใจในทันที […]

Customer Journey คืออะไร ยิ่งอยากขายยิ่งต้องเข้าใจลูกค้าให้มากขึ้น

“Customer Journey คืออะไร”ในยุคที่ธุรกิจออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว การเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไรเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของการขาย การเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) ไม่ใช่แค่เส้นทางที่ลูกค้าซื้อสินค้า แต่เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่การรับรู้สินค้าไปจนถึงการตัดสินใจซื้อ บทความนี้เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นเพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าแบบเจาะลึกแล้วมันยังส่งผลกับการเติบโตธุรกิจของคุณได้ในระยะยาวอีกด้วย Customer Journey คืออะไร? ในส่วนนี้จะหมายถึง “เส้นทางการเดินทางของลูกค้า” เป็นกระบวนการที่ลูกค้าเริ่มต้นรู้จักธุรกิจของคุณ จนถึงการกลายเป็นลูกค้าประจำหรือผู้สนับสนุนแบรนด์ ในแต่ละธุรกิจอาจจะมี Customer Journey ที่ไม่เหมือนกันซึ่งจะแบ่งเป็น 2 แบบนั้นก็คือ Customer Journey แบบ Push และ Customer Journey แบบ Pull แบบที่ 1 Customer Journey (Push) การที่แบรนด์ผลักดันข้อมูลหรือสินค้าสู่กลุ่มลูกค้าโดยไม่รอให้ลูกค้าเริ่มสนใจก่อนโดยจะแบ่งเป็น 5 ขั้นตอนดังนี้ 1. Awareness (การรับรู้) ในขั้นตอนนี้แบรนด์จะส่งข้อมูลเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์หรือสินค้าแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่มีความสนใจในสินค้าโดยตรงผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น 2. Consideration (การพิจารณา) ในขั้นตอนนี้ ลูกค้าที่เห็นโฆษณาเริ่มสนใจและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเปรียบเทียบสินค้า ทางแบรนด์จะต้องเสริมข้อมูลเพื่อให้ลูกค้าได้พิจารณาและรู้จักแบรนด์ได้ง่ายขึ้น 3. Purchase (การซื้อ) กระตุ้นการตัดสินใจในทันที […]