Knowledge Center

การนับสต๊อก คืออะไร พร้อม 3 เทคนิคช่วยให้คุณเช็กสต๊อกสินค้าได้ง่าย ๆ ถูกต้องและแม่นยำ 

การนับสต๊อกสินค้า

เปิดร้านขายสินค้าทั้งที ไม่ว่าจะในรูปแบบออฟไลน์หรือออนไลน์การนับสต๊อกสินค้าก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ และเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกร้านค้าจำเป็นต้องทำ ทั้งนี้ก็เพื่อการจัดการที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อไปได้ วันนี้ MyCloud เลยอยากจะพาคุณไปทำความรู้จักกันให้ละเอียดกว่านี้ว่า จริง ๆ แล้ว การนับสต๊อกสินค้า คืออะไร มีกี่ประเภท พร้อมทั้งเทคนิคในการเช็กสต๊อกสินค้าให้ถูกต้องและแม่นยำกัน ในบทความนี้ค่ะ!  

การนับสต๊อกสินค้า คืออะไร

นับสต๊อกสินค้า คือการตรวจสอบหรือเช็กให้แน่ใจว่า มีจำนวนสินค้าคงคลังอยู่ในคลังสินค้าเท่าไหร่ โดยจะนับรวมสินค้าทั้งหมด ได้แก่ สินค้าที่เพิ่งรับเข้ามา สินค้าคงคลัง สินค้าค้างสต๊อกและจะทำการบันทึกข้อมูลเหล่านี้เข้าสู่ระบบคลังสินค้า ไม่เพียงเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การบันทึกจำนวนสินค้า แต่ก็มีความสำคัญมากกว่านั้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์ การมีจำนวนสต๊อกสินค้าที่แม่นยำก็จะช่วยให้ร้านค้าสามารถบริหารจัดการสินค้าในคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่พบกับปัญหาการขายของออนไลน์ เช่น สินค้าขาดหรือเกินอีกต่อไป ช่วยให้การขายเป็นไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด   

การนับสต๊อกสินค้า มีกี่ประเภท

การนับสต๊อกหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของธุรกิจ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้าง ดังนี้  

1. นับสต๊อกสินค้าแบบ Cycle Count

เริ่มต้นกันที่การนับสต๊อกแบบ Cycle Count เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับร้านค้าขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่มีจำนวน SKU ไม่มากนัก โดยจะแบ่งเป็นโซนหรือหมวดหมู่ และมีการกำหนดรอบการนับที่แน่นอน เช่น สัปดาห์นี้นับสินค้าหมวด A สัปดาห์หน้านับหมวด B สลับหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ จนครบทุกหมวดหมู่ ซึ่งการนับแบบนี้จะช่วยกระจายภาระงานให้จัดการได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องหยุดการดำเนินงานทั้งคลัง   

2. นับสต๊อกสินค้าแบบ Check Move

แบบที่สอง การนับสต๊อกแบบ Check Move เป็นวิธีที่เน้นการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของสินค้าในคลัง เพื่อวิเคราะห์ว่าสินค้าชนิดใดขายดี สินค้าใดค้างสต๊อกหรือควรย้ายตำแหน่งการจัดเก็บบ้าง ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการจัดการสินค้าค้างสต๊อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดโปรโมชันเพื่อระบายสินค้าหรือการปรับเปลี่ยนตำแหน่งจัดเก็บให้เหมาะสมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ วิธีนี้ยังช่วยลดต้นทุนการจัดเก็บที่ไม่จำเป็น และทำให้การบริหารพื้นที่คลังสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย   

พนักงานกำลังเช็กสต๊อกสินค้า

3. นับสต๊อกสินค้าแบบ Spot Count

อีกหนึ่งแบบ คือนับสต๊อกแบบ Spot Count เป็นการตรวจเช็กสต๊อกแบบเฉพาะจุดที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากการวางแผนปกติ มักใช้ในกรณีที่พบความผิดปกติในระบบ หรือต้องการตรวจสอบความถูกต้องของสินค้าในหมวดหมู่ใดหมวดหมู่หนึ่งเป็นพิเศษ วิธีนี้ช่วยให้สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว และปรับปรุงข้อมูลในระบบให้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงได้ ช่วยควบคุมคุณภาพและความแม่นยำของข้อมูลสินค้าคงคลัง โดยเฉพาะในกรณีที่พบความคลาดเคลื่อนระหว่างจำนวนสินค้าในระบบกับจำนวนสินค้าจริง  

4. นับสต๊อกสินค้าแบบ Tag Count

สำหรับประเภทสุดท้าย การนับสต๊อกแบบ Tag Count เป็นวิธีการดั้งเดิมที่ยังคงมีประสิทธิภาพ สำหรับธุรกิจประเภท SMEs โดยเฉพาะร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าชิ้นใหญ่ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องจักร โดยจะใช้การติด Tag กำกับสินค้าแต่ละชิ้น และให้พนักงานผลัดกันนับและตรวจสอบความถูกต้องของจำนวนสินค้าคงคลัง ก่อนนำข้อมูลเข้าสู่ระบบ วิธีนี้จะมีการตรวจสอบซ้ำหลายครั้ง จึงเหมาะกับธุรกิจที่มีจำนวน SKU ไม่มาก แต่มีมูลค่าต่อชิ้นสูง  

3 เทคนิคการนับสต๊อกสินค้า

ทำความรู้จักกับประเภทของการนับสต๊อกไปพอประมาณแล้ว ทั้งนี้ การทำแบบนี้ไม่ใช่เพียงแค่การนับจำนวนสินค้าเท่านั้น แต่จำเป็นต้องมีระบบและวิธีการจัดการที่ดี เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำ MyCloud มี 3 เทคนิคที่จะช่วยให้การตรวจเช็กสต๊อกของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นมาฝากกัน   

1. วางแผนการนับสต๊อกตามช่วงเวลาที่กำหนด 

เทคนิคแรกนี้ถือเป็นการบริหารจัดการสต๊อกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการกำหนดช่วงเวลาที่แน่นอนสำหรับการตรวจนับ โดยสามารถแบ่งวิธีการนับออกได้หลายวิธี ได้แก่ 

  1. วิธีนับแบบ ABC แบ่งสินค้าตามมูลค่า โดยกลุ่ม A คือสินค้ามูลค่าสูง ควรนับบ่อยที่สุด กลุ่ม B คือสินค้ามูลค่าปานกลาง และกลุ่ม C คือสินค้ามูลค่าต่ำ ซึ่งความถี่ในการอาจน้อยครั้งกว่ากลุ่ม A 
  2. วิธีนับตามฤดูกาล เหมาะสำหรับสินค้าที่มียอดขายแตกต่างกันตามฤดูกาล โดยเพิ่มความถี่ในการนับช่วงที่สินค้านั้น ๆ มียอดขายสูง เพื่อให้แน่ใจว่ามีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า
  3. วิธีนับตามระบบที่กำหนด จัดการนับตามหมวดหมู่ ยี่ห้อหรือตำแหน่งการจัดเก็บอย่างเป็นระบบ ช่วยให้การนับสต๊อกเป็นไปอย่างมีระเบียบและครบถ้วน

2. ตรวจเช็กสต๊อกสินค้าบนชั้นวางให้ละเอียด 

ถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยตัดสต๊อกอัตโนมัติ แต่วิธี Manual ก็ยังเป็นวิธีที่ช่วยให้คุณตรวจสอบสินค้าได้อย่างละเอียดมาก และถือเป็นการรีเช็กสองต่อ เพื่อตรวจความคลาดเคลื่อนระหว่างจำนวนในระบบกับสินค้าจริง และถือเป็นขั้นตอนการ QC สินค้าด้วยเช่นกัน เนื่องจากสินค้าอาจวางผิดตำแหน่งหรือมีการชำรุดเสียหายได้  

3. ใช้ระบบ Inventory Management

ถึงแม้จะมีการเช็กสต๊อกสินค้าบนชั้นวางให้ละเอียดและเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานานมากในการจัดการ ปัจจุบันที่ MyCloud ได้มี Inventory Management ระบบการจัดการคลังสินค้าออนไลน์ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของสินค้าแบบเรียลไทม์ได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถอัปเดตสต๊อกได้ทุก 3 นาที ช่วยลดความผิดพลาดในการนับสต๊อก เนื่องจากทุกขั้นตอนการทำงานของเราจะใช้ระบบ Barcode ในการทำงานทุกขั้นตอน ช่วยให้ประหยัดเวลา เพิ่มความรวดเร็วและความถูกต้อง อีกทั้งยังช่วยให้การจัดการสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Safety Stock แจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อสินค้าใกล้หมด ทำให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการสต๊อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ระบบ Inventory Management

สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาคลังสินค้า Fulfillment ที่มีประสิทธิภาพ MyCloud เราพร้อมช่วยคุณวางแผนเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตของธุรกิจ ช่วยจัดการสต๊อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เก็บในพื้นที่ที่เหมาะสม มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม เพื่อคงสภาพสินค้าของคุณไว้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถเติมสินค้าหรือนำสินค้าเข้าจัดเก็บที่คลังได้ทุกวัน รวมทั้งวันเสาร์ อาทิตย์และหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อให้คุณมีสินค้าในสต๊อกขายได้อย่างต่อเนื่อง (ยกเว้นช่วงแคมเปญ Double Day ก่อน – หลัง 2 วัน) เพื่อให้ทางคลังสินค้าจัดการออเดอร์ในช่วงแคมเปญได้อย่างราบรื่นด้วยเช่นกัน และยังสามารถหยิบสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ด้วยระบบ Barcode ที่ช่วยค้นหาสินค้าอย่างแม่นยำ ร่วมกับอุปกรณ์ Handheld ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นเครื่องมือพกพาสำหรับใช้งานในคลังสินค้าที่ทันสมัย ช่วยรองรับการขายในทุกช่วงแคมเปญได้อย่างไม่มีสะดุด สำหรับการเก็บสินค้าที่คลังของเรานั้น สามารถเก็บสินค้าแบบรายชิ้นและแบบลัง ซึ่งสินค้าที่เก็บแบบรายชิ้นนั้นจะถูกเก็บไว้ที่โซนเก็บสินค้าที่เรียกว่า Micro Rack และสินค้าแต่ละชิ้นจะถูกเก็บอย่างดีไว้ในแต่ละ Bin หรือภาชนะเก็บสินค้านั้นเอง ที่สำคัญจะแยกเก็บตาม SKU หรือรหัสของสินค้าชิ้นนั้น ๆ อย่างชัดเจนไม่มีปะปนกัน และสำหรับใครที่ต้องการเก็บคลังสินค้าแบบลังขนาดใหญ่  เราก็มีพื้นที่จัดเก็บสินค้าโซน Selective Rack ไว้ให้ด้วยเช่นกัน สินค้าขนาดใหญ่แบบลังในส่วนนี้จะใช้รถโฟลค์ลิฟท์ (Forklift) ในการหยิบสินค้าซึ่งสามารถหยิบสินค้าวางบนพาเลทได้ถึง 12 – 15 ลัง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของลังด้วยเช่นกัน ไม่ต้องกังวลว่าจะหาสินค้าไม่เจอ เพราะเรามี Barcode แปะอยู่ที่สินค้าทุกชิ้น เพียงแค่สแกนก็จะสามารถระบุ Location ของสินค้าได้ ทำให้การหยิบสินค้ามาแพ็คทำได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ

สรุปบทความ 

การนับสต๊อกสินค้าเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการสินค้าได้อย่างเป็นระบบ ลดข้อผิดพลาด และป้องกันปัญหาสินค้าขาดหรือเกิน โดยมีรูปแบบการเช็กจำนวนสต๊อกสินค้าที่หลากหลาย เช่น Cycle Count ที่ช่วยกระจายภาระงาน Check Move ที่เน้นการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของสินค้า Spot Count สำหรับการตรวจสอบเฉพาะจุดและแบบ Tag Count ที่เหมาะกับสินค้าชิ้นใหญ่ การเลือกวิธีที่เหมาะสมจะช่วยให้การนับสต๊อกมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคช่วยให้นับจำนวนสต๊อกได้ง่ายขึ้น ได้แก่ การวางแผนการนับตามช่วงเวลา ตรวจเช็กสินค้าบนชั้นวางให้ละเอียดและเทคนิคที่สำคัญที่สุด คือการใช้ระบบเข้ามาช่วยจัดการอย่างระบบ Inventory Management เพื่อลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความแม่นยำ หากคุณกำลังมองหาระบบที่ช่วยให้การจัดการสต๊อกเป็นเรื่องง่ายขึ้น MyCloud พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ช่วยที่ให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพได้ เพราะเราไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์แบบครบวงจรที่ครอบคลุมทั้งการเก็บ แพ็กและส่งสินค้าเท่านั้น แต่จุดแข็งของเรา คือเราใช้ระบบการจัดการคลังสินค้าและระบบจัดการออเดอร์ที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การบริหารสินค้าคงคลัง (Inventory Management) มีความเสถียรและแม่นยำสูง พร้อมอัปเดตจำนวนสินค้าในสต๊อกทุก ๆ 3 นาที นอกจากนี้ เรายังดำเนินการนับสต๊อกแบบ Cycle Count ทุก 90 วัน เพื่อเพิ่มความแม่นยำและตรวจสอบจำนวนสินค้าคงเหลือให้กับทุกร้านค้าที่ใช้บริการ

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Big Data คืออะไร ขุมทรัพย์แห่งธุรกิจ E-Commerce & Logistics นำมาปรับใช้ได้อย่างไรบ้าง

         ต่อเนื่องกันกับเทคโนโลยีที่จะสามารถเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจแบบเดิม ๆ ที่เราได้พูดถึงใน Technology & Trends ที่น่าลงทุนสำหรับธุรกิจ logistic ก็ยังมีอีกหลาย ๆ เทคโนโลยีที่ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มนำเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจมากขึ้นในปัจจุบันนี้ค่ะ เพื่อที่จะนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาจัดการกับ “Big Data” วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก Big Data ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาของเทคโนโลยีในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีมากมายมหาศาลในปัจจุบัน และความสำคัญของ Big Data ในธุรกิจ E-Commerce และ Logistics กันค่ะ อีกทั้ง Big Data ยังถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจปรับตัวเข้าสู่ยุค Digital Disruption หรือ ที่เรียกว่า Digital Transformation นั่นเองค่ะ  Big Data คืออะไร? Big Data คือข้อมูลตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ทางคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในรูปแบบสัญญาณไฟฟ้า ในด้าน E-Commerce และ Logistics ข้อมูลถูกสร้างขึ้นใหม่อยู่เสมอโดยเทคโนโลยีดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น […]

อัตราการจัดส่งไม่สำเร็จ (Non Fulfillment Rate) คืออะไร? พร้อมเคล็ดลับการจัดการปัญหานี้!

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นอีกหนึ่งกุญแจของความสำเร็จในการทำธุรกิจนี้ คือการจัดการคำสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหนึ่งใน SLA หรือตัวชี้วัดสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสนใจ คืออัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จหรือ Non Fulfillment Rate บนแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์อย่าง Shopee ที่จะส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้าและยอดขายของร้านค้า ดังนั้น วันนี้ MyCloud จะพาคุณทำความรู้จักว่า อัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จ คืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง ในบทความนี้กัน  Non Fulfillment Rate คืออะไร   Non Fulfillment Rate (NFR) หรืออัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จ คือค่าที่แสดงถึงจำนวนคำสั่งซื้อที่ไม่สามารถจัดส่งได้สำเร็จ เทียบกับจำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดในช่วงเวลาย้อนหลัง 7 วัน โดยคำนวณจากเปอร์เซ็นต์ของคำสั่งซื้อที่ถูกยกเลิก  สามารถตรวจสอบอัตรา Non Fulfillment Rate (NFR) ได้จากที่ไหนบ้าง  สำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์มือใหม่ที่เพิ่งลงสนามขายของบน Shopee ได้ไม่นาน ก็อาจจะมีความกังวลอยู่บ้างว่าแล้ว Non Fulfillment Rate (NFR) สามารถตรวจสอบได้จากที่ไหนบ้าง หากคุณสมัครและยืนยันตัวตนเป็น Shopee Seller อย่างถูกต้องแล้ว อัตราการจัดส่งค้าไม่สำเร็จจะถูกคำนวณอัตโนมัติและอัปเดตทุก […]

การทำคลังสินค้าออนไลน์ที่ดี ต้องเป็นอย่างไร ?

              การทำคลังสินค้าออนไลน์ที่ดีหรือ Warehouse Online จะต้องรู้จักการบริหารจัดการสินค้าอย่างเป็นระบบให้มีประสิทธิภาพ คือต้องมีระบบที่ออนไลน์สามารถตรวจสอบได้ทุกการเคลื่อนไหวของสินค้านั้นเองครับ เนื่องจากบริการคลังสินค้ามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบสินค้ามากมายจากหลากหลายบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยจัดเก็บสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการที่ไม่สะดวกหรือไม่มีพื้นที่ที่เหมาะสมในการจัดเก็บสินค้า และไม่ใช่แค่ให้บริการพื้นที่แก่ผู้ประกอบการเท่านั้น แต่รวมไปถึงการควบคุม ดูเเล และตรวจสอบคุณภาพสินค้า โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของธุรกิจคู่ค้าและลูกค้าผู้รับสินค้า เรามาดูกันดีกว่าครับว่าคลังสินค้าออนไลน์ที่ดีเป็นอย่างไร ? 5 ขั้นตอนสำหรับการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) ให้มีประสิทธิภาพ 1.จัดเก็บสินค้าให้เป็นระบบ การจัดเก็บสินค้าอย่างเป็นระบบ คือ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเริ่มต้นงานคลังอย่างมีประสิทธิภาพ หากเรามีระบบจัดเก็บสินค้าที่ดี จะสามารถตรวจสอบ และหาจุดบกพร่องได้ง่าย สำหรับคลังสินค้าออนไลน์ MyCloudFulfillment เราจัดวางและเก็บสินค้าตาม SKUs หรือ Stock Keeping Units ที่ช่วยระบุความต่างของสินค้าให้ชัดเจน แบ่งหมวดหมู่สินค้า และจัดโซนให้เหมาะสมกับประเภทของสินค้า พร้อมควบคุม ทุกการเข้า-ออกของสินค้าด้วยระบบ WMS (Warehouse Management System) ที่ช่วยในเรื่องการจัดการปริมาณสินค้าคงคลังและสินค้าพร้อมขาย เพื่อไม่ทำให้ร้านค้าเสียโอกาสในการขาย 2.หมั่นเช็คคุณภาพสินค้า แน่นอนว่าเมื่อมีลูกค้าผู้เช่าพื้นที่จำนวนมาก ก็มีสินค้ามากมายในคลังให้ดูเเล การตรวจสอบสินค้าตั้งแต่รับเข้าเป็นสิ่งที่ต้องปฎิบัติ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวผู้ให้บริการเองและลูกค้าก็จะมั่นใจได้ว่าสินค้าไม่ชำรุดระหว่างการขนส่ง […]

Big Data คืออะไร ขุมทรัพย์แห่งธุรกิจ E-Commerce & Logistics นำมาปรับใช้ได้อย่างไรบ้าง

         ต่อเนื่องกันกับเทคโนโลยีที่จะสามารถเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจแบบเดิม ๆ ที่เราได้พูดถึงใน Technology & Trends ที่น่าลงทุนสำหรับธุรกิจ logistic ก็ยังมีอีกหลาย ๆ เทคโนโลยีที่ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มนำเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจมากขึ้นในปัจจุบันนี้ค่ะ เพื่อที่จะนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาจัดการกับ “Big Data” วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก Big Data ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาของเทคโนโลยีในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีมากมายมหาศาลในปัจจุบัน และความสำคัญของ Big Data ในธุรกิจ E-Commerce และ Logistics กันค่ะ อีกทั้ง Big Data ยังถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจปรับตัวเข้าสู่ยุค Digital Disruption หรือ ที่เรียกว่า Digital Transformation นั่นเองค่ะ  Big Data คืออะไร? Big Data คือข้อมูลตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ทางคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในรูปแบบสัญญาณไฟฟ้า ในด้าน E-Commerce และ Logistics ข้อมูลถูกสร้างขึ้นใหม่อยู่เสมอโดยเทคโนโลยีดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น […]

อัตราการจัดส่งไม่สำเร็จ (Non Fulfillment Rate) คืออะไร? พร้อมเคล็ดลับการจัดการปัญหานี้!

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นอีกหนึ่งกุญแจของความสำเร็จในการทำธุรกิจนี้ คือการจัดการคำสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหนึ่งใน SLA หรือตัวชี้วัดสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสนใจ คืออัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จหรือ Non Fulfillment Rate บนแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์อย่าง Shopee ที่จะส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้าและยอดขายของร้านค้า ดังนั้น วันนี้ MyCloud จะพาคุณทำความรู้จักว่า อัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จ คืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง ในบทความนี้กัน  Non Fulfillment Rate คืออะไร   Non Fulfillment Rate (NFR) หรืออัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จ คือค่าที่แสดงถึงจำนวนคำสั่งซื้อที่ไม่สามารถจัดส่งได้สำเร็จ เทียบกับจำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดในช่วงเวลาย้อนหลัง 7 วัน โดยคำนวณจากเปอร์เซ็นต์ของคำสั่งซื้อที่ถูกยกเลิก  สามารถตรวจสอบอัตรา Non Fulfillment Rate (NFR) ได้จากที่ไหนบ้าง  สำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์มือใหม่ที่เพิ่งลงสนามขายของบน Shopee ได้ไม่นาน ก็อาจจะมีความกังวลอยู่บ้างว่าแล้ว Non Fulfillment Rate (NFR) สามารถตรวจสอบได้จากที่ไหนบ้าง หากคุณสมัครและยืนยันตัวตนเป็น Shopee Seller อย่างถูกต้องแล้ว อัตราการจัดส่งค้าไม่สำเร็จจะถูกคำนวณอัตโนมัติและอัปเดตทุก […]

การทำคลังสินค้าออนไลน์ที่ดี ต้องเป็นอย่างไร ?

              การทำคลังสินค้าออนไลน์ที่ดีหรือ Warehouse Online จะต้องรู้จักการบริหารจัดการสินค้าอย่างเป็นระบบให้มีประสิทธิภาพ คือต้องมีระบบที่ออนไลน์สามารถตรวจสอบได้ทุกการเคลื่อนไหวของสินค้านั้นเองครับ เนื่องจากบริการคลังสินค้ามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบสินค้ามากมายจากหลากหลายบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยจัดเก็บสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการที่ไม่สะดวกหรือไม่มีพื้นที่ที่เหมาะสมในการจัดเก็บสินค้า และไม่ใช่แค่ให้บริการพื้นที่แก่ผู้ประกอบการเท่านั้น แต่รวมไปถึงการควบคุม ดูเเล และตรวจสอบคุณภาพสินค้า โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของธุรกิจคู่ค้าและลูกค้าผู้รับสินค้า เรามาดูกันดีกว่าครับว่าคลังสินค้าออนไลน์ที่ดีเป็นอย่างไร ? 5 ขั้นตอนสำหรับการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) ให้มีประสิทธิภาพ 1.จัดเก็บสินค้าให้เป็นระบบ การจัดเก็บสินค้าอย่างเป็นระบบ คือ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเริ่มต้นงานคลังอย่างมีประสิทธิภาพ หากเรามีระบบจัดเก็บสินค้าที่ดี จะสามารถตรวจสอบ และหาจุดบกพร่องได้ง่าย สำหรับคลังสินค้าออนไลน์ MyCloudFulfillment เราจัดวางและเก็บสินค้าตาม SKUs หรือ Stock Keeping Units ที่ช่วยระบุความต่างของสินค้าให้ชัดเจน แบ่งหมวดหมู่สินค้า และจัดโซนให้เหมาะสมกับประเภทของสินค้า พร้อมควบคุม ทุกการเข้า-ออกของสินค้าด้วยระบบ WMS (Warehouse Management System) ที่ช่วยในเรื่องการจัดการปริมาณสินค้าคงคลังและสินค้าพร้อมขาย เพื่อไม่ทำให้ร้านค้าเสียโอกาสในการขาย 2.หมั่นเช็คคุณภาพสินค้า แน่นอนว่าเมื่อมีลูกค้าผู้เช่าพื้นที่จำนวนมาก ก็มีสินค้ามากมายในคลังให้ดูเเล การตรวจสอบสินค้าตั้งแต่รับเข้าเป็นสิ่งที่ต้องปฎิบัติ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวผู้ให้บริการเองและลูกค้าก็จะมั่นใจได้ว่าสินค้าไม่ชำรุดระหว่างการขนส่ง […]