Knowledge Center

WMS คืออะไร? ช่วยธุรกิจออนไลน์เพิ่มยอดขายได้จริงหรอ

WMS Warehouse Management System ระบบจัดการคลังสินค้า

ขายออนไลน์ทำไมถึงต้องใช้ระบบเข้ามาช่วย? เพราะว่าการจัดการคลังสินค้าไม่ใช่แค่เรื่องหลังบ้านอีกต่อไป แต่เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากสต็อกไม่เป็นระบบ ออเดอร์ตกหล่น หรือส่งสินค้าล่าช้า ลูกค้าอาจหันไปซื้อจากคู่แข่งได้ง่ายๆ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เจ้าแบรนด์ควรต้องทำความเข้าใจและรู้จักกับ WMS (Warehouse Management System) ระบบที่ช่วยจัดการคลังสินค้าให้เป็นระบบให้มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือนอกการใช้ระบบช่วยจัดการเรื่องคลังสินค้าแล้วนั้นจะมีส่วนช่วยเพิ่มยอดขายได้ยังไง? MyCloud มีคำตอบมาให้ในบทความนี้ค่ะ

WMS ช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างไร?

WMS คืออะไร?

Warehouse Management System หรือ ระบบบริหารจัดการคลังสินค้า เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยควบคุมและจัดการสต็อกสินค้าในคลังให้เป็นระบบ ตั้งแต่การรับเข้า (Inbound) การจัดเก็บ (Storage) การหยิบสินค้า (Picking) ไปจนถึงการแพ็กและส่งออก (Shipping) ซึ่งช่วยให้ธุรกิจออนไลน์สามารถบริหารคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มความเร็วในการจัดส่งสินค้า

ระบบจัดการคลังสินค้าสำหรับธุรกิจออนไลน์

WMS สำหรับธุรกิจออนไลน์

หลักๆแล้วหากเป็นธุรกิจออนไลน์ระบบจัดการคลังสินค้าก็จะทำงานร่วมกับระบบ OMS (Order Management System) เป็นสองระบบที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้กระบวนการจัดการออเดอร์มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย OMS จะทำหน้าที่จัดการคำสั่งซื้อที่เข้ามาจากหลากหลายช่องทาง เช่น Shopee, Lazada, TikTok Shop, Line Shopping และเว็บไซต์ของร้านค้า จากนั้นระบบจะประมวลผลและส่งข้อมูลคำสั่งซื้อไปยังระบบจัดการคลังสินค้าเพื่อดำเนินการหยิบ แพ็ก และจัดส่งเป็นขั้นตอนถัดไป

หยิบสินค้า

การเชื่อมต่อระหว่าง Warehouse Management System และ Order Management System ช่วยให้การจัดการออเดอร์เป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็ว เช่น เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้า OMS จะซิงค์ข้อมูลไปยังระบบจัดการคลังสินค้าเพื่อให้ระบบช่วยระบุว่าสินค้าชิ้นนั้นอยู่ที่ไหนในคลัง จากนั้นระบบจะจัดลำดับการหยิบของ (Picking) และแนะนำเส้นทางที่เร็วที่สุดให้กับพนักงานคลัง ช่วยลดข้อผิดพลาดในการหยิบของผิด SKU และช่วยให้แพ็กของได้แม่นยำขึ้น นอกจากนี้ ระบบจะอัปเดตสถานะสต็อกอัตโนมัติไปยัง OMS ทันที ทำให้ร้านค้ารู้ความเคลื่อนไหวของสต๊อกสินค้า ไม่ต้องกังวลเรื่องการขายเกินสต็อก (Overselling) และเกิดปัญหา Stock Diff หรือจำนวนสต๊อกจริงไม่ตรงกับในระบบ

WMS จัดการสต๊อกได้อย่างเป็นระบบ

อีกหนึ่งข้อดีของการทำงานร่วมกันระหว่าง 2 ระบบ คือ การจัดการคำสั่งซื้อแบบ Omnichannel ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หากร้านค้าขายสินค้าบนหลายแพลตฟอร์ม ระบบ OMS จะรวมออเดอร์จากทุกช่องทาง และระบบจัดการคลังสินค้าจะช่วยจัดการสต็อกแบบเรียลไทม์ ไม่ต้องเสียเวลาจัดการสต็อกแยกในแต่ละช่องทาง ช่วยให้การบริหารออเดอร์เป็นเรื่องง่ายขึ้น ลดข้อผิดพลาด และส่งสินค้าได้เร็วขึ้น ทำให้ลูกค้าพึงพอใจและมีโอกาสกลับมาซื้อซ้ำสูงขึ้น


WMS ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจออนไลน์ได้อย่างไร?

เช็กสต๊อกสินค้า

หลายคนอาจคิดว่า Warehouse Management System เป็นเพียงเครื่องมือจัดการสต็อกสินค้า แต่ในความเป็นจริง ระบบนี้มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ยอดขายของธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้นได้อย่างชัดเจน มาดูกันว่าจะมีผลต่อยอดขายของร้านค้าออนไลน์อย่างไรบ้าง

1. ลดโอกาสสินค้าหมดสต็อก (Stock-out) ไม่เสียโอกาสขาย

Online Shopping

สินค้าหมดสต็อกคือปัญหาใหญ่ที่ทำให้ร้านค้าออนไลน์สูญเสียรายได้โดยไม่รู้ตัว หากไม่มีระบบที่ช่วยติดตามและบริหารสต็อกแบบเรียลไทม์ ร้านค้าอาจพลาดโอกาสขายจากลูกค้าที่พร้อมจะซื้อ แต่ต้องเปลี่ยนใจไปซื้อจากคู่แข่งที่มีของพร้อมส่ง

WMS แก้ปัญหานี้ได้อย่างไร?

  • อัปเดตสต็อกแบบเรียลไทม์ ลดปัญหาการขายเกินสต็อก (Overselling)
  • แจ้งเตือนเมื่อต้องเติมสินค้า ป้องกันปัญหาของหมด
  • ซิงค์สต็อกทุกช่องทางอัตโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลาปรับข้อมูลเอง

ตัวอย่าง: หากคุณขายสินค้าบน Shopee, Lazada, TikTok Shop และ Line Shopping ระบบ Warehouse Management System จะช่วยอัปเดตสต็อกทุกแพลตฟอร์มพร้อมกัน เมื่อลูกค้ากดสั่งซื้อจากที่หนึ่ง สต็อกในทุกช่องทางจะถูกอัปเดตอัตโนมัติ ทำให้ไม่เกิดปัญหาขายเกิน หรือของหมดโดยที่ร้านค้าไม่รู้ตัว


2. ส่งสินค้าได้เร็วขึ้น ลูกค้าพอใจและกลับมาซื้อซ้ำ

จัดส่งสินค้าเร็ว

ความเร็วในการจัดส่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูง หากร้านค้าส่งช้า ลูกค้าอาจให้คะแนนรีวิวต่ำหรือเลือกซื้อจากร้านอื่นในครั้งต่อไป

WMS ช่วยให้การจัดส่งเร็วขึ้นได้อย่างไร?

  • ระบบจัดลำดับคำสั่งซื้ออัตโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลาคัดแยกเอง
  • รองรับการเชื่อมต่อกับขนส่งหลายเจ้า เลือกขนส่งที่เร็วและคุ้มค่าที่สุด
  • มีระบบ Picking และ Packing อัจฉริยะ ลดข้อผิดพลาดในการแพ็ก

ตัวอย่าง: ร้านค้าออนไลน์ที่ใช้ระบบจัดการคลังสินค้าจะสามารถลดเวลาจัดการออเดอร์ได้ถึง 50% เพราะระบบช่วยจัดเรียงออเดอร์และแนะนำเส้นทางหยิบสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้แพ็กและส่งสินค้าได้รวดเร็วขึ้น


3. จัดการโปรโมชั่นและออเดอร์พิเศษได้ง่ายขึ้น

โปรโมชั่นออนไลน์

การทำโปรโมชั่นเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มยอดขาย แต่หากสต็อกและระบบจัดการออเดอร์ไม่รองรับ อาจทำให้เกิดความผิดพลาด เช่น ขายเกินสต็อก, แพ็กผิดสินค้า หรือส่งของช้า ซึ่งส่งผลเสียต่อแบรนด์และประสบการณ์ลูกค้า

WMS รองรับการทำโปรโมชั่นอย่างไร?

  • บริหารสต็อกให้พร้อมรับออเดอร์จำนวนมากช่วงแคมเปญใหญ่
  • รองรับการทำ Pre-order หรือ Flash Sale โดยไม่ต้องคีย์ข้อมูลมือ
  • จัดการแพ็กเกจโปรโมชัน เช่น ซื้อ 1 แถม 1 หรือจัดเซ็ตสินค้าแบบอัตโนมัติ

ตัวอย่าง: หากร้านค้าต้องการทำโปรโมชั่น 11.11 หรือ 12.12 ระบบก็จะช่วยให้ร้านค้าบริหารสต็อกและจัดการคำสั่งซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องกลัวว่าของจะหมด หรือส่งของผิดและไม่พลาดโอกาสในการขายช่วงแคมเปญพิเศษ


4. รองรับการขายหลายช่องทาง (Omnichannel) ขยายตลาดได้กว้างขึ้น

ขายหลายช่องทาง

ธุรกิจออนไลน์ที่ขายผ่านหลายแพลตฟอร์มต้องการระบบที่สามารถซิงค์ข้อมูลสต็อกและออเดอร์แบบอัตโนมัติ เพราะหากต้องมานั่งจัดการแยกกัน อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด และใช้เวลามาก

WMS รองรับ Omnichannel อย่างไร?

  • ซิงค์สต็อกอัตโนมัติทุกแพลตฟอร์ม เช่น Shopee, Lazada, TikTok Shop, Line Shopping และ Facebook
  • รวมทุกออเดอร์ไว้ในที่เดียว ไม่ต้องเสียเวลาสลับแพลตฟอร์ม
  • จัดส่งได้จากคลังเดียวกัน ลดต้นทุนโลจิสติกส์

ตัวอย่าง: หากร้านค้าขายสินค้าผ่านทั้ง Shopee และ Lazada ระบบจัดการคลังสินค้าก็จะช่วยรวมออเดอร์เข้าด้วยกันและคำนวณสต็อกให้อัตโนมัติ ทำให้สามารถจัดการคำสั่งซื้อได้ง่ายขึ้นและขยายช่องทางการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลูกค้าประทับใจ

หัวใจสำคัญของระบบ WMS ที่ดี

การเลือกใช้ Warehouse Management System เป็นหนึ่งใน การตัดสินใจที่สำคัญที่สุด สำหรับธุรกิจที่มีการจัดการสต๊อกและออเดอร์ เพราะระบบนี้ส่งผลโดยตรงต่อ ประสิทธิภาพในการบริหารคลังสินค้า และ ประสบการณ์ของลูกค้า หากเลือกใช้ระบบที่ไม่ตอบโจทย์ อาจทำให้ธุรกิจต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ตั้งแต่เรื่องต้นทุนที่สูงเกินไปไปจนถึงความล่าช้าในการจัดส่งและหากจัดส่งสินค้าล่าช้าอาจส่งผลไปถึงเกณฑ์การให้คะแนนร้านค้าของทางแพลตฟอร์มการขาย Marketplace ได้อีกด้วยซึ่งก็จะมีบทลงโทษสำหรับร้านค้าที่ทำได้ไม่ถึงเกณฑ์ บทลงโทษที่ร้ายแรงที่สุดถึงขั้นโดนปิดร้านค้าเลยทีเดียว

WMS คลังสินค้า MyCloud

สำหรับธุรกิจออนไลน์ที่มีออเดอร์จำนวนมาก MyCloud Fulfillment เราคือคลังสินค้าออนไลน์ที่ช่วยให้ร้านค้าจัดการสต๊อกและออเดอร์ได้อย่างเป็นระบบ ด้วย Warehouse Management System และ Order Management System ที่ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อในระบบเดียว

ซึ่งข้อดีของระบบที่ออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันโดยเฉพาะ ช่วยให้การส่งข้อมูลการอัปเดตสต๊อกและคำสั่งซื้อจากแต่ละแพลตฟอร์มการขาย ไปยังระบบจัดการคลังสินค้าเป็นไปอย่างเสถียรและแม่นยำ ทำให้กระบวนการ หยิบ แพ็ก และจัดส่งสินค้า ดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ระบบจัดการคลังสินค้าของ MyCloud ยังช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น เช่น การส่งใบปะหน้าผิดพลาด ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าได้รับออเดอร์ผิดไป ด้วยการประมวลผลที่แม่นยำจึงช่วยให้ร้านค้าจัดการคำสั่งซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าปลายทางที่ได้รับสินค้า

ส่งสินค้าเร็ว

สรุปบทความ ระบบที่ดีจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างไม่มีสะดุด สำหรับระบบการจัดการคลังสินค้าถือว่ามีความจำเป็นต่อธุรกิจออนไลน์อย่างมาก เพราะเมื่อออเดอร์เพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่าธุรกิจของคุณเริ่มเติบโต การจัดการสต็อกให้เป็นระเบียบและช่วยให้การจัดการออเดอร์ราบรื่น ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ผู้ขายออนไลน์ในยุคนี้ควรให้ความสำคัญ MyCloud Fulfillment ช่วยให้ร้านค้าจัดการออเดอร์ได้อัตโนมัติ ลดภาระงานแมนนวล ลดข้อผิดพลาดจากการทำงานด้วยมือ เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการเติบโตของยอดขายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องหลังบ้าน สนใจบริการคลังสินค้าออนไลน์ที่มีระบบจัดการคลังสินค้าและระบบจัดการออเดอร์แบบครบวงจรติดต่อ MyCloud Fulfillment ได้เลยที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

SKU คือ อะไร?สำคัญยังไงกับร้านค้าออนไลน์

เคยไหม? สต็อกสินค้าเยอะแค่ไหนก็จำไม่หมด หยิบผิดรุ่น ผิดสี ส่งผิดออเดอร์จนลูกค้าคอมเพลน ยิ่งขายหลายช่องทางก็ยิ่งสับสน จัดการหลังบ้านแทบไม่ทัน… ปัญหาเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องง่ายทันที ถ้าคุณรู้จัก “SKU” ระบบรหัสสินค้าที่ร้านค้าออนไลน์มือโปรเลือกใช้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่า SKU คือ อะไร และทำไมธุรกิจออนไลน์ยุคนี้ถึงต้องมีระบบ SKU เพื่อให้บริหารงานได้ง่าย ขยายธุรกิจได้ไกล และเติบโตอย่างมืออาชีพ SKU คือ อะไร? SKU คือ รหัสที่ร้านค้าใช้กำหนดขึ้นเองเพื่อระบุและจำแนกสินค้าแต่ละชิ้นในระบบสต็อกอย่างชัดเจน ชื่อเต็มของ SKU “Stock Keeping Unit” หรือ “หน่วยเก็บสินค้า” นั่นเองค่ะ ในทางปฏิบัติ SKU เปรียบเสมือน “ชื่อเล่นของสินค้า” ที่ช่วยให้ทีมงานสามารถค้นหา จัดเก็บ และหยิบสินค้าถูกต้องได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น หากร้านขายเสื้อผ้าอาจตั้ง SKU ของเสื้อยืดสีดำ ไซส์ L ว่า “TSH-BK-L” เพื่อแยกจากเสื้อสีขาวหรือไซส์อื่นๆ ได้อย่างชัดเจน การมี SKU ช่วยลดความสับสนและช่วยบริหารจัดการสินค้าในคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อร้านค้าเริ่มมีจำนวนสินค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ […]

อัตราการจัดส่งไม่สำเร็จ (Non Fulfillment Rate) คืออะไร? พร้อมเคล็ดลับการจัดการปัญหานี้!

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นอีกหนึ่งกุญแจของความสำเร็จในการทำธุรกิจนี้ คือการจัดการคำสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหนึ่งใน SLA หรือตัวชี้วัดสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสนใจ คืออัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จหรือ Non Fulfillment Rate บนแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์อย่าง Shopee ที่จะส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้าและยอดขายของร้านค้า ดังนั้น วันนี้ MyCloud จะพาคุณทำความรู้จักว่า อัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จ คืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง ในบทความนี้กัน  Non Fulfillment Rate คืออะไร   Non Fulfillment Rate (NFR) หรืออัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จ คือค่าที่แสดงถึงจำนวนคำสั่งซื้อที่ไม่สามารถจัดส่งได้สำเร็จ เทียบกับจำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดในช่วงเวลาย้อนหลัง 7 วัน โดยคำนวณจากเปอร์เซ็นต์ของคำสั่งซื้อที่ถูกยกเลิก  สามารถตรวจสอบอัตรา Non Fulfillment Rate (NFR) ได้จากที่ไหนบ้าง  สำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์มือใหม่ที่เพิ่งลงสนามขายของบน Shopee ได้ไม่นาน ก็อาจจะมีความกังวลอยู่บ้างว่าแล้ว Non Fulfillment Rate (NFR) สามารถตรวจสอบได้จากที่ไหนบ้าง หากคุณสมัครและยืนยันตัวตนเป็น Shopee Seller อย่างถูกต้องแล้ว อัตราการจัดส่งค้าไม่สำเร็จจะถูกคำนวณอัตโนมัติและอัปเดตทุก […]

SKU คือ อะไร?สำคัญยังไงกับร้านค้าออนไลน์

เคยไหม? สต็อกสินค้าเยอะแค่ไหนก็จำไม่หมด หยิบผิดรุ่น ผิดสี ส่งผิดออเดอร์จนลูกค้าคอมเพลน ยิ่งขายหลายช่องทางก็ยิ่งสับสน จัดการหลังบ้านแทบไม่ทัน… ปัญหาเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องง่ายทันที ถ้าคุณรู้จัก “SKU” ระบบรหัสสินค้าที่ร้านค้าออนไลน์มือโปรเลือกใช้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่า SKU คือ อะไร และทำไมธุรกิจออนไลน์ยุคนี้ถึงต้องมีระบบ SKU เพื่อให้บริหารงานได้ง่าย ขยายธุรกิจได้ไกล และเติบโตอย่างมืออาชีพ SKU คือ อะไร? SKU คือ รหัสที่ร้านค้าใช้กำหนดขึ้นเองเพื่อระบุและจำแนกสินค้าแต่ละชิ้นในระบบสต็อกอย่างชัดเจน ชื่อเต็มของ SKU “Stock Keeping Unit” หรือ “หน่วยเก็บสินค้า” นั่นเองค่ะ ในทางปฏิบัติ SKU เปรียบเสมือน “ชื่อเล่นของสินค้า” ที่ช่วยให้ทีมงานสามารถค้นหา จัดเก็บ และหยิบสินค้าถูกต้องได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น หากร้านขายเสื้อผ้าอาจตั้ง SKU ของเสื้อยืดสีดำ ไซส์ L ว่า “TSH-BK-L” เพื่อแยกจากเสื้อสีขาวหรือไซส์อื่นๆ ได้อย่างชัดเจน การมี SKU ช่วยลดความสับสนและช่วยบริหารจัดการสินค้าในคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อร้านค้าเริ่มมีจำนวนสินค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ […]

อัตราการจัดส่งไม่สำเร็จ (Non Fulfillment Rate) คืออะไร? พร้อมเคล็ดลับการจัดการปัญหานี้!

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นอีกหนึ่งกุญแจของความสำเร็จในการทำธุรกิจนี้ คือการจัดการคำสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหนึ่งใน SLA หรือตัวชี้วัดสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสนใจ คืออัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จหรือ Non Fulfillment Rate บนแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์อย่าง Shopee ที่จะส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้าและยอดขายของร้านค้า ดังนั้น วันนี้ MyCloud จะพาคุณทำความรู้จักว่า อัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จ คืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง ในบทความนี้กัน  Non Fulfillment Rate คืออะไร   Non Fulfillment Rate (NFR) หรืออัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จ คือค่าที่แสดงถึงจำนวนคำสั่งซื้อที่ไม่สามารถจัดส่งได้สำเร็จ เทียบกับจำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดในช่วงเวลาย้อนหลัง 7 วัน โดยคำนวณจากเปอร์เซ็นต์ของคำสั่งซื้อที่ถูกยกเลิก  สามารถตรวจสอบอัตรา Non Fulfillment Rate (NFR) ได้จากที่ไหนบ้าง  สำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์มือใหม่ที่เพิ่งลงสนามขายของบน Shopee ได้ไม่นาน ก็อาจจะมีความกังวลอยู่บ้างว่าแล้ว Non Fulfillment Rate (NFR) สามารถตรวจสอบได้จากที่ไหนบ้าง หากคุณสมัครและยืนยันตัวตนเป็น Shopee Seller อย่างถูกต้องแล้ว อัตราการจัดส่งค้าไม่สำเร็จจะถูกคำนวณอัตโนมัติและอัปเดตทุก […]