Knowledge Center

WMS คืออะไร แก้ปัญหาคลังสินค้าด้วย ระบบบริหารจัดการคลังสินค้า 

ระบบบริหารจัดการคลังสินค้า

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้นเรื่อยๆ การบริหารจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ต้องรับมือกับความท้าทายในการจัดการสต็อกสินค้า การรับเข้า-จ่ายออก และการจัดส่งที่รวดเร็วตรงเวลา ระบบ WMS หรือ Warehouse Management System จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความผิดพลาด และยกระดับการให้บริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น 

WMS คืออะไร 

Warehouse Management System หรือ WMS คือระบบซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคลังสินค้าแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การรับสินค้าเข้าคลัง การจัดเก็บ การควบคุมสต็อก ไปจนถึงการเบิกจ่ายและจัดส่งสินค้า ระบบนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถติดตามสถานะสินค้าได้แบบเรียลไทม์ ลดความผิดพลาดในการทำงาน และช่วยให้การบริหารพื้นที่คลังสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานผ่านการเพิ่มความแม่นยำในการจัดการสต็อกและลดการสูญเสียจากสินค้าหมดอายุหรือเสื่อมสภาพ 

หลักการทำงานของระบบ Warehouse Management มีอะไรบ้าง 

การทำงานของระบบ WMS แบ่งออกเป็น 3 กระบวนการหลักที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การบริหารจัดการคลังสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำสูงสุด โดยแต่ละกระบวนการมีความสำคัญและบทบาทที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้ 

1. การรับสินค้า

กระบวนการรับสินค้าถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการบริหารคลังสินค้า WMS คือระบบที่ช่วยให้การรับสินค้าเป็นไปอย่างมีระบบและแม่นยำ โดยเริ่มจากการตรวจสอบคุณภาพสินค้าเบื้องต้น (Quality Control) เปรียบเทียบกับใบสั่งซื้อสินค้า เพื่อจัดเก็บข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ เช่น รหัสสินค้า จำนวน วันที่ผลิต วันหมดอายุ ล็อตการผลิต คุณภาพและมาตรฐานของสินค้า เช่น สินค้าชิ้นนี้มีรอยแตก รอยรั่วซึมหรือไม่ จากนั้นจะทำการคัดแยกออกมาเป็นสินค้า Defect สำหรับสินค้าที่มีคุณภาพและตรงตาม QC ก็จะถูกนำไปเข้าระบบ แปะ Barcode และจัดเก็บเข้าคลังสินค้าในขั้นตอนถัดไป ทำให้สามารถติดตามและตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ   

2. การจัดเก็บสินค้า

WMS คือตัวช่วยสำคัญในการจัดเก็บสินค้า ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องการความแม่นยำและการวางแผนที่ดี ระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บผ่านการวิเคราะห์และคำนวณพื้นที่จัดเก็บที่เหมาะสมที่สุด โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาดของสินค้า ความถี่ในการเบิกจ่าย และอัตราการหมุนเวียนของสินค้า MyCloud นำเสนอระบบ Warehouse Management System (WMS) ที่ทันสมัย ทุกขั้นตอนในการทำงานของเราใช้ Barcode เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดในการจัดการสินค้า เราไม่เพียงแค่แปะ Barcode ที่ตัวสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีการใช้ Bin สำหรับการเก็บสินค้า ซึ่งแต่ละ Bin และ Location ที่เก็บสินค้าก็จะมีการแปะ Barcode แยกต่างหาก ซึ่งจะช่วยให้การหยิบสินค้าเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ลดเวลาที่ใช้ในการค้นหาสินค้า และทำให้กระบวนการจัดการคลังสินค้าและบริหารสต็อกทั้งหมดมีความโปร่งใสและแม่นยำยิ่งขึ้น  

การจัดเก็บสินค้า

3. การจัดการออเดอร์

ระบบการจัดการออเดอร์ครอบคลุมกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การหยิบสินค้าจนถึงการส่งมอบให้ขนส่ง โดยเริ่มจากการหยิบสินค้าตามหลัก FIFO (First In First Out) และ FEFO (First Expired First Out) เพื่อควบคุมการหมุนเวียนสินค้า จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการแพ็คสินค้าตามคำสั่งซื้อ มั่นใจว่าสินค้าที่ถึงมือลูกค้าจะไม่ขาดหรือเกิน เพราะเราจัดการออเดอร์ผ่านระบบ Barcode เพื่อตรวจสอบและจัดการสินค้าได้อย่างแม่นยำ  พร้อมทั้งมีการบันทึกวิดีโอผ่าน CCTV เป็นหลักฐานการแพ็คสินค้า ป้องกันปัญหาสินค้าสูญหาย เมื่อแพ็คสินค้าเสร็จสิ้น จะดำเนินการชั่งน้ำหนักพัสดุและส่งข้อมูลเข้าระบบเพื่อพิมพ์ใบปะหน้าพัสดุ โดยบาร์โค้ดบนใบปะหน้าพัสดุนี้ ทั้ง Marketplace และบริษัทขนส่งจะใช้สถานะนี้เพื่อยืนยันว่าสินค้าพร้อมสำหรับการจัดส่งแล้ว ให้บริษัทขนส่งทราบว่า พร้อมเข้ามารับสินค้า รวมทั้งเป็นการบอก Marketplace ว่าจัดการออเดอร์เสร็จแล้วและอยู่ในกรอบของ SLA  

4. การจัดส่งสินค้า

การจัดส่งสินค้าเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กัน ระบบ WMS คือโซลูชันที่จะเข้ามาจัดการส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ MyCloud เราคัดเลือกบริษัทขนส่งจากข้อมูลเชิงวิเคราะห์จาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ความเร็วในการจัดส่ง อัตราความเสียหายของสินค้าและความคุ้มค่าด้านราคา เพื่อหาบริษัทขนส่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละออเดอร์ โดยมีทั้งประเภทการส่งแบบ ส่งด่วนภายใน 1 – 2 ชม. ส่งวันถัดไป บริการส่งของที่มีขนาดใหญ่ (Bulky) หรือบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) เพื่อให้สินค้าถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วและปลอดภัย สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า   

ประโยชน์ของการใช้ระบบ WMS ต่อธุรกิจ

การนำระบบ WMS (Warehouse Management System) มาใช้ในการบริหารจัดการคลังสินค้าช่วยให้ธุรกิจสามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในยุคที่ทุกวินาทีคือโอกาส โดยมีประโยชน์สำคัญ ดังนี้

  • รองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ระบบ WMS สามารถขยายการใช้งานให้สอดคล้องกับขนาดและความต้องการที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจได้  
  • เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า ช่วยบริหารพื้นที่จัดเก็บสินค้าให้เป็นระเบียบ ลดข้อผิดพลาดในการจัดเก็บหรือหยิบสินค้า
  • ลดต้นทุนการดำเนินงาน ด้วยระบบอัตโนมัติที่ลดการใช้แรงงาน และช่วยให้กระบวนการจัดการสินค้ารวดเร็วขึ้น
  • เพิ่มความแม่นยำในการจัดการสต๊อก ช่วยให้รู้สถานะสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ ป้องกันปัญหาสินค้าขาดหรือค้างสต็อก
  • ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เร็วขึ้น ระบบสามารถประมวลผลคำสั่งซื้อและจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
  • เหมาะกับธุรกิจที่มีความซับซ้อนในการจัดการสต๊อก เช่น ธุรกิจที่มีหลายคลังสินค้า หลายช่องทางการขาย หรือมีออเดอร์จำนวนมากต่อวัน 
  • ยกระดับภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของธุรกิจ เมื่อลูกค้าได้รับสินค้าเร็ว ถูกต้อง และไม่มีปัญหาในการจัดส่ง ย่อมส่งผลดีต่อแบรนด์ในระยะยาว

ระบบ WMS มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง

การตัดสินใจนำระบบ WMS มาใช้ในองค์กรนั้น จำเป็นต้องพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสียให้รอบด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนนั้นคุ้มค่าและเหมาะสมกับธุรกิจ  

ข้อดีของระบบ WMS 

WMS คือระบบที่มอบประโยชน์มากมายให้กับธุรกิจ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ยังมีข้อดีอื่น ๆ อีก เช่น 

  • ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาว 
  • สามารถปรับแต่งระบบให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจ 
  • รองรับการเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ 
  • แสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
  • ช่วยลดความผิดพลาดในการทำงานและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าผ่านการจัดส่งที่รวดเร็วและถูกต้อง  

ข้อเสียของระบบ WMS 

  • การลงทุนในระบบ WMS มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง ทั้งค่าซอฟต์แวร์ ค่าฮาร์ดแวร์และค่าฝึกอบรมพนักงาน 
  • ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากในการปรับตัวและฝึกอบรมพนักงานให้คุ้นเคยกับระบบใหม่ 
  • การบำรุงรักษาระบบต้องทำอย่างสม่ำเสมอและอาจต้องมีทีมไอทีคอยดูแลโดยเฉพาะ เนื่องจากระบบต้องมีการอัปเดตเวอร์ชันเรื่อย ๆ ตามกฎระเบียบและข้อตกลงของแต่ละ Marketplace ซึ่งอาจไม่เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่มีทรัพยากรจำกัด

ด้วยความท้าทายเหล่านี้ MyCloud จึงได้ลงทุนพัฒนาระบบ WareHouse Management System ที่ตอบโจทย์และทันสมัย และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ระบบมีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสำหรับผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าออนไลน​์ ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ช่วยประหยัดต้นทุนการลงทุนและการบำรุงรักษาระบบ ทำให้ธุรกิจสามารถจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ         

ระบบ Warehouse Management System เหมาะสำหรับใครบ้าง 

ระบบ WMS เหมาะสำหรับธุรกิจหลากหลายประเภท ดังนี้ 

  • ธุรกิจที่มีความจำเป็นในการบริหารจัดการคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีความซับซ้อนในการจัดการสต็อก 
  • ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีปริมาณออเดอร์สูง 
  • ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งที่ต้องการระบบที่แม่นยำในการติดตามสินค้า 
  • ธุรกิจที่ต้องการยกระดับการให้บริการลูกค้าผ่านการจัดส่งที่รวดเร็วและถูกต้อง 
  • ธุรกิจที่กำลังเติบโตและต้องการระบบที่สามารถรองรับการขยายตัวในอนาคต 
ระบบ Warehouse Management System

สรุปบทความ 

ระบบ WMS คือตัวช่วยยกระดับการบริหารจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจในยุคดิจิทัลที่ต้องการความรวดเร็ว แม่นยำ และความสามารถในการติดตามสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์ แม้ว่าการนำระบบ WMS มาใช้อาจมีต้นทุนและความท้าทายในช่วงเริ่มต้น แต่ประโยชน์ที่ได้รับในระยะยาวทั้งในแง่ของการลดต้นทุนการดำเนินงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการยกระดับการให้บริการลูกค้า ทำให้การลงทุนในระบบ WMS เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาโซลูชันด้านการจัดการคลังสินค้าที่ครบวงจร MyCloud Fulfillment นำเสนอบริการ Fulfillment ที่ผสานรวมระบบ WMS ที่ทันสมัย พร้อมระบบจัดการการจัดส่งที่เชื่อมต่อกับผู้ให้บริการขนส่งชั้นนำ ช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระในการจัดการสต๊อก พร้อมแพ็ค จัดส่งมอบสินค้าให้กับขนส่งตามกรอบเวลา SLA ที่แต่ละ Marketplace กำหนด ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าออเดอร์ของลูกค้าจะส่งทันเวลาและไม่ตกหล่น MyCloud Fulfillment สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างตรงจุดและสามารถจัดการออเดอร์ให้จัดส่งภายใน 24 ชม. การันตีจัดส่งทัน 99.5% อีกทั้งยังมีพนักงานที่พร้อมจัดการออเดอร์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในวันปกติและวันที่มีแคมเปญการขายใหญ่ ๆ ด้วยประสบการณ์การให้บริการที่ยาวนานและทีมงานมืออาชีพ MyCloud Fulfillment พร้อมเป็นพันธมิตรที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณสู่ความสำเร็จ  

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Live Commerce คืออะไร เทรนด์ใหม่มาแรง ที่ธุรกิจ E-Commerce ต้องรู้จัก!

Live Commerce ที่เราพบเห็นจนชินตาปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์ขายของด้วยตนเอง หรือจ้างพรีเซนเตอร์ที่เป็น เน็ตไอดอล ศิลปินดารามา Live ขายของนั้นเรียกได้ว่าเป็นที่นิยม มีโอกาสที่จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และอาจขายได้มากกว่าการโพสต์ขายทั่วไปด้วยซ้ำ เพราะคนไทยเราก็คุ้นชินและชื่นชอบกันเป็นอย่างดีสำหรับการไลฟ์ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ วันนี้เราจึงมีรูปแบบการขายใหม่ที่เรียกว่า Live Commerce ที่กำลังฮิตติดเทรนด์และน่าสนใจอย่างมากมาให้รู้จักกันค่ะ เพราะหากไม่รู้จักเทรนด์ดังกล่าวก็ถือว่าพลาดโอกาสทองของการขายได้เลย   Live commerce คืออะไร  Live commerce คือรูปแบบการขายสินค้าผ่านการถ่ายทอดสด (Live Streaming) บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น ไลฟ์สดขายของใน TikTok, Facebook Live, Shopee Live หรือ Lazada Live โดยผสมผสานระหว่างความบันเทิง และการช้อปปิ้งแบบเรียลไทม์ หรือที่เรียกว่า Shoppertainment เข้าไว้ด้วยกัน จุดเด่นของ Live commerce คือผู้ขายสามารถพูดคุยกับลูกค้า ตอบคำถาม แนะนำสินค้าหรือโชว์การใช้งานจริงได้ทันที ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายและไวขึ้น Live commerce จึงไม่ใช่แค่ช่องทางขายของ แต่ยังกลายเป็นเครื่องมือสร้างแบรนด์ สื่อสารภาพลักษณ์และสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าและตัวผู้ขายเองได้อย่างทรงพลัง โดยเฉพาะในยุคที่ลูกค้าต้องการประสบการณ์มากกว่าการดูแค่รูปสินค้าเพียงอย่างเดียว  […]

MyCloudFulfillment ในสายตานักลงทุน ความเชื่อมั่นและศักยภาพของเรา

MyCloud ทำอะไรได้บ้าง?           นอกจากบริการ Fulfillment ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ เรามีข้อมูลเชิงลึก ที่มาจากการขาย ออเดอร์ สต๊อกของร้านค้า เพราะการเก็บข้อมูลย้อนหลังของร้านค้าทำให้เห็นจุดบกพร่อง และสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที รวมถึงยังสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ในการเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า ช่วยร้านขายของได้ง่ายขึ้น และลดค่าขนส่งทำให้ได้ต้นทุนที่ประหยัดที่สุดและได้กำไรเพิ่มขึ้นได้เป็นต้น           ข้อมูลเรื่อง Order Management คือการเชื่อมต่อทุกช่องทางการขาย เพื่อให้สามารถจัดการออเดอร์และวางแผนการขายในทุก ๆ ช่องทางที่มีได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สู่ Growth Potential หรือ ศักยภาพในการเติบโตไม่ว่าจะเป็นการทำโปรโมชั่นให้ดียิ่งขึ้น ขายของง่ายขึ้น และเติบโตได้มากขึ้นก็ตาม           ข้อมูล Inventory Management ที่เป็นจุดตายของหลาย ๆ ธุรกิจ เนื่องจากไม่มีระบบจัดการที่ดีเข้าไปช่วย จึงทำให้เกิดปัญหาการเก็บสินค้าไม่เพียงพอ หรือเก็บสินค้าที่ไม่จำเป็นมากจนเกินไปจนเงินจมได้ MyCloud มีการจัดการ Inventory […]

Live Commerce คืออะไร เทรนด์ใหม่มาแรง ที่ธุรกิจ E-Commerce ต้องรู้จัก!

Live Commerce ที่เราพบเห็นจนชินตาปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์ขายของด้วยตนเอง หรือจ้างพรีเซนเตอร์ที่เป็น เน็ตไอดอล ศิลปินดารามา Live ขายของนั้นเรียกได้ว่าเป็นที่นิยม มีโอกาสที่จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และอาจขายได้มากกว่าการโพสต์ขายทั่วไปด้วยซ้ำ เพราะคนไทยเราก็คุ้นชินและชื่นชอบกันเป็นอย่างดีสำหรับการไลฟ์ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ วันนี้เราจึงมีรูปแบบการขายใหม่ที่เรียกว่า Live Commerce ที่กำลังฮิตติดเทรนด์และน่าสนใจอย่างมากมาให้รู้จักกันค่ะ เพราะหากไม่รู้จักเทรนด์ดังกล่าวก็ถือว่าพลาดโอกาสทองของการขายได้เลย   Live commerce คืออะไร  Live commerce คือรูปแบบการขายสินค้าผ่านการถ่ายทอดสด (Live Streaming) บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น ไลฟ์สดขายของใน TikTok, Facebook Live, Shopee Live หรือ Lazada Live โดยผสมผสานระหว่างความบันเทิง และการช้อปปิ้งแบบเรียลไทม์ หรือที่เรียกว่า Shoppertainment เข้าไว้ด้วยกัน จุดเด่นของ Live commerce คือผู้ขายสามารถพูดคุยกับลูกค้า ตอบคำถาม แนะนำสินค้าหรือโชว์การใช้งานจริงได้ทันที ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายและไวขึ้น Live commerce จึงไม่ใช่แค่ช่องทางขายของ แต่ยังกลายเป็นเครื่องมือสร้างแบรนด์ สื่อสารภาพลักษณ์และสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าและตัวผู้ขายเองได้อย่างทรงพลัง โดยเฉพาะในยุคที่ลูกค้าต้องการประสบการณ์มากกว่าการดูแค่รูปสินค้าเพียงอย่างเดียว  […]

MyCloudFulfillment ในสายตานักลงทุน ความเชื่อมั่นและศักยภาพของเรา

MyCloud ทำอะไรได้บ้าง?           นอกจากบริการ Fulfillment ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ เรามีข้อมูลเชิงลึก ที่มาจากการขาย ออเดอร์ สต๊อกของร้านค้า เพราะการเก็บข้อมูลย้อนหลังของร้านค้าทำให้เห็นจุดบกพร่อง และสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที รวมถึงยังสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ในการเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า ช่วยร้านขายของได้ง่ายขึ้น และลดค่าขนส่งทำให้ได้ต้นทุนที่ประหยัดที่สุดและได้กำไรเพิ่มขึ้นได้เป็นต้น           ข้อมูลเรื่อง Order Management คือการเชื่อมต่อทุกช่องทางการขาย เพื่อให้สามารถจัดการออเดอร์และวางแผนการขายในทุก ๆ ช่องทางที่มีได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สู่ Growth Potential หรือ ศักยภาพในการเติบโตไม่ว่าจะเป็นการทำโปรโมชั่นให้ดียิ่งขึ้น ขายของง่ายขึ้น และเติบโตได้มากขึ้นก็ตาม           ข้อมูล Inventory Management ที่เป็นจุดตายของหลาย ๆ ธุรกิจ เนื่องจากไม่มีระบบจัดการที่ดีเข้าไปช่วย จึงทำให้เกิดปัญหาการเก็บสินค้าไม่เพียงพอ หรือเก็บสินค้าที่ไม่จำเป็นมากจนเกินไปจนเงินจมได้ MyCloud มีการจัดการ Inventory […]