Knowledge Center

CRM คืออะไร? จำเป็นไหมที่ทุกธุรกิจออนไลน์ต้องมี

CRM คืออะไร

ในยุคที่ใครๆก็ต้องมีช่องทางการขายทางออนไลน์ หลายร้านค้าต่างมุ่งเป้าไปยังการเพิ่มยอดขายและหาลูกค้าใหม่ผ่านช่องทาง Marketplace ยอดนิยม เช่น Lazada, Shopee, และ TikTok Shop อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบบ่อยคือร้านค้าไม่สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าโดยตรงจากช่องทางเหล่านี้ได้ ซึ่งอาจจะเสียโอกาสสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า และเปลี่ยนจากลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าประจำที่ซื้อซ้ำในระยะยาวได้ยาก แต่วันนี้ MyCloud เราจะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าจริงๆแล้วปัญหานี้ก็มีวิธีที่แก้ได้เช่นกัน นั่นก็คือการใช้ระบบ CRM (Customer Relationship Management) เข้ามาช่วยเก็บข้อมูลลูกค้า แต่ว่า CRM คืออะไร แล้วจะตอบโจทย์กับร้านค้าออนไลน์ในปัจจุบันกันได้มากน้อยแค่ไหน มาอ่านจากบทความต่อไปนี้กันได้เลยค่ะ

CRM คืออะไร และทำไมจึงสำคัญกับธุรกิจออนไลน์?

CRM คืออะไร

CRM หรือ Customer Relationship Management คือ ระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยการจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าในรูปแบบต่างๆ ทั้งการติดตามประวัติการซื้อสินค้า ความสนใจ พฤติกรรมการซื้อ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และสร้างความประทับใจสูงสุดในการซื้อขายแต่ละครั้ง


ปัญหาเมื่อขายผ่าน Marketplace โดยไม่มี CRM คืออะไร?

ปัญหาเมื่อขายผ่าน Marketplace โดยไม่มี CRM คืออะไร?

การขายผ่าน Marketplace มีข้อดีเรื่องความสะดวกและการเข้าถึงลูกค้าใหม่จำนวนมากก็จริง แต่ข้อจำกัดสำคัญคือ ร้านค้าจะไม่ได้รับข้อมูลลูกค้าโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นอีเมล เบอร์โทรศัพท์ หรือช่องทางติดต่ออื่นๆ ทำให้ธุรกิจทำการตลาดแบบต่อเนื่องหรือทำโปรโมชั่นที่ตรงใจลูกค้าได้ยากขึ้นอีกทั้งยังเปลี่ยนจากลูกค้าหน้าใหม่ๆมาเป็นลูกค้าประจำได้ยากอีกด้วย หลายๆ ธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบันจึงหันมาใช้วิธีอื่นเพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าและบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีกว่าเดิม เช่น การใช้ระบบ CRM ที่บริษัทเทคโนโลยีหลายๆ แห่งพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหานี้โดยเฉพาะ

ตัวอย่างเช่น ธุรกิจออนไลน์ที่ขายผ่าน Lazada หรือ Shopee แต่ต้องการนำเสนอโปรโมชั่นตรงใจลูกค้า ก็อาจจะใช้การให้ลูกค้ากรอกข้อมูลผ่านช่องทางของตัวเอง (เช่น เว็บไซต์, Line OA หรือ Facebook) และจัดเก็บข้อมูลผ่านระบบ CRM เพื่อให้สามารถทำการตลาดได้แบบเฉพาะเจาะจงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ


วิธีการเลือกระบบ CRM ที่เหมาะสมกับธุรกิจออนไลน์

วิธีการเลือกระบบ CRM
  • รองรับ Omnichannel และการเชื่อมต่อกับ Marketplace ระบบ CRM ที่เลือกควรรองรับการเชื่อมต่อข้อมูลลูกค้าจากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Marketplace, Social Media, หรือเว็บไซต์ของร้านค้า เพื่อรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ในที่เดียว ทำให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ
  • มีฟังก์ชัน Automation ที่ช่วยติดตามลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบ CRM ที่ดีควรมีการทำงานอัตโนมัติ เช่น ส่งอีเมลหรือ SMS แบบอัตโนมัติเพื่อแจ้งโปรโมชั่นพิเศษหรือข้อเสนอที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น วันเกิดลูกค้า หรือการแจ้งเตือนเมื่อสินค้าที่ลูกค้าสนใจมีโปรโมชั่นพิเศษ
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ควรเลือกระบบ CRM ที่มีฟังก์ชันการวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำและละเอียด เช่น พฤติกรรมการซื้อ ความถี่ในการซื้อสินค้า รวมไปถึงสินค้าที่ลูกค้าให้ความสนใจ เพื่อร้านค้าสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวางกลยุทธ์การตลาดและเสนอโปรโมชั่นที่เหมาะสมที่สุด
  • ระบบใช้งานง่ายและเหมาะกับธุรกิจทุกขนาด ระบบ CRM ควรใช้งานง่าย สามารถเรียนรู้ได้รวดเร็ว เพื่อให้ทุกคนในทีมสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

มีระบบ CRM แล้ว อย่าลืมจัดการระบบหลังบ้านให้ดี

แม้ว่าธุรกิจจะมีข้อมูลลูกค้าที่ดีจากระบบ CRM แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการบริหารจัดการระบบหลังบ้านให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงการจัดการออเดอร์อย่างรวดเร็วและถูกต้อง, การบริหารสต๊อกสินค้าให้แม่นยำ, และการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้า หากลูกค้าได้รับสินค้าช้า หรือผิดพลาดบ่อยครั้ง อาจทำให้เกิดความไม่พึงพอใจและเสียลูกค้าในที่สุด ซึ่งหากเป็นในส่วนนี้ที่ MyCloud Fulfillment เราสามารถตอบโจทย์ธุรกิจออนไลน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยระบบการจัดการออเดอร์ Omni Channel เชื่อมต่อสต๊อกเดียวได้ทุกช่องทางการขายไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, TikTok Shop และ Line Shopping และจัดการทุกออเดอร์ที่เกิดจากแต่ละช่องทางด้วย OMS (Order Management System)ได้ในระบบเดียว ทุกขั้นตอนถูกจัดการได้อย่างรวดเร็วเพราะที่นี่เราสามารถดึงออเดอร์และอัปเดตสต๊อกได้ทุก 5 นาที มั่นใจได้เลยว่าทุกออเดอร์จะถูกจัดการ แพ็ค ส่ง ได้ภายใน 24 ชั่วโมง

คลังสินค้าออนไลน์ MyCloud

เคล็ดลับการใช้ระบบ CRM อย่างมีประสิทธิภาพ

  • หมั่นอัปเดตข้อมูลลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ข้อมูลทันสมัยและแม่นยำที่สุด
  • ใช้ข้อมูลจาก CRM เพื่อวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่เฉพาะเจาะจง เช่น ส่งข้อเสนอพิเศษในช่วงเวลาที่ลูกค้ามีแนวโน้มจะซื้อสูงสุด
  • ฝึกอบรมทีมงานในการใช้ระบบ CRM ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปบทความ

ได้รับเงินจาก TikTok หลังเปิดร้านออนไลน์

การใช้ระบบ CRM เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ที่ขายผ่าน Marketplace สามารถเปลี่ยนลูกค้าขาจรเป็นลูกค้าประจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนและมั่นคงในยุคการแข่งขันที่สูงขึ้นทุกวัน แต่ที่สำคัญที่สุดก่อนที่คุณจะสามารถมีข้อมูลลูกค้าได้นั้นควรที่จะต้องให้ความสำคัญกับระบบการจัดการหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ก่อนเป็นอันดับแรก

ส่งพัสดุถึงมือลูกค้า

เพราะหากสินค้าที่ลูกค้าสั่ง ไม่สามารถถูกส่งถือมือได้นั้นเท่ากับว่าคุณก็ไม่ได้ทั้งเงินจากการขายและข้อมูลลูกค้านั้นเอง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการรับมือกับจำนวนออเดอร์ที่เกิดขึ้น การแพ็คสินค้า จัดส่งสินค้า ได้ทันตามระยะเวลาที่แพลตฟอร์มการขายกำหนด จนส่งถึงมือลุกค้าได้อย่างปลอดภัยถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของธุรกิจออนไลน์ MyCloud Fulfillment พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน และพร้อมดูแลเรื่องหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ได้อย่างครบวงจร รองรับความต้องการของลูกค้าปลายทางและเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ร้านค้าใช้ระบบ CRM ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเรา คลิกเลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

สินค้าเสื่อม สกินแคร์&คอสเมติก ร้อนนี้เก็บยังไงดี

เจ้าของธุรกิจสกินแคร์หลายๆคนคงต้องเคยเจอกับปัญหา สินค้าเสื่อม อย่างแน่นอน โดยเฉพาะหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้นแบบนี้ อาจทำให้สินค้าที่ลงทุนมาด้วยความตั้งใจกลับเสียหาย ทั้งสีเปลี่ยน กลิ่นเปลี่ยน หรือเนื้อครีมแยกชั้นจนใช้งานไม่ได้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือและยอดขายของธุรกิจคุณ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะบทความนี้จะช่วยให้คุณรู้วิธีเก็บรักษาสินค้าสกินแคร์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมขาย แม้ต้องเจอกับอากาศร้อนๆ แบบเมืองไทยก็ยังมั่นใจได้ว่าคุณภาพสินค้าจะยังคงคุณภาพจนส่งถึงมือลูกค้าแน่นอน ทำไมอากาศร้อน ทำให้สกินแคร์เสื่อมคุณภาพ สินค้าสกินแคร์ เช่น เซรั่ม ครีม หรือโทนเนอร์ ล้วนมีส่วนประกอบที่อ่อนไหวต่อความร้อน หากสินค้าเหล่านี้ถูกเก็บไว้ในอุณหภูมิที่สูงเกินไป สารออกฤทธิ์ที่สำคัญจะเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ประสิทธิภาพในการบำรุงผิวลดลง สินค้าบางประเภทที่มีสารสำคัญเช่น วิตามินซีหรือเรตินอล จะมีความไวต่อความร้อนมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ของสินค้าก็อาจได้รับผลกระทบจากความร้อน เช่น การละลายหรือเปลี่ยนรูป ทำให้เกิดปัญหาการปนเปื้อนของสารเคมีได้ วิธีเก็บสินค้าสกินแคร์ช่วงหน้าร้อน หน้าร้อนของเมืองไทยไม่เพียงแต่กระทบอารมณ์คน แต่ยังส่งผลอย่างมากต่อคุณภาพของสินค้าสกินแคร์ โดยเฉพาะแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้า การจัดเก็บสินค้าอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพื่อไม่ให้ “สินค้าเสื่อม” ก่อนถึงมือลูกค้า ลองดูวิธีการดูแลและจัดเก็บสินค้าสกินแคร์ช่วงหน้าร้อนให้ปลอดภัยและคงประสิทธิภาพดังนี้ สถานที่เก็บสินค้าควรมีอุณหภูมิคงที่ ไม่ร้อนอบอ้าว และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง เพราะความร้อนและแสงแดดสามารถทำลายสารบำรุงในสกินแคร์ โดยเฉพาะวิตามิน C และสารสกัดธรรมชาติที่ไวต่ออุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บคือ 15–25°C ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของสินค้าได้ดี ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่อับลมหรือไม่มีการระบายอากาศ และอย่าลืมตรวจสอบฉลากเพื่อดูคำแนะนำการจัดเก็บเพิ่มเติมจากผู้ผลิต หากยังไม่มีห้องควบคุมอุณหภูมิในพื้นที่จัดเก็บสินค้า อาจพิจารณาติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสม […]

3 สิ่งที่ต้องรู้ เพื่อให้ร้านค้าอยู่รอดในโลก E-Commerce แห่งอนาคต

          จากการขยายตัวของธุรกิจ E-Commerce จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการจะหันมาบุกตลาดออนไลน์หรือทำการตลาดออนไลน์ แต่ก่อนจะเจาะตลาดผู้ประกอบการต้องเข้าใจทิศทางตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ถ่องแท้เสียก่อนค่ะ เพราะในการขายออนไลน์มีรายละเอียดยิบย่อย และมีการจัดการที่แตกต่างจากการขายออฟไลน์ เพื่อให้ผู้ขายไม่เพียงแค่เพิ่มช่องทางการขายที่หลากหลายขึ้น แต่สามารถขยายตลาดได้อย่างมั่นคงในระยะยาว เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่รอดในโลกของ E-Commerce ในอนาคต ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตใด ๆ ขึ้นอีก ตัวอย่างเช่น วิกฤต COVID-19 เป็นต้น           เรายังอยู่กับสาระดี ๆ จากงาน MyCloud Press Conference 2020 ที่คุณเมฆ นิธิ สัจจทิพวรรณ Chief Executive Officer (CEO) ของเราได้นำเสนอมุมมองความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจออนไลน์จากวิกฤต COVID-19 (New Normal) และทิศทางการขายในโลกอนาคต รวมถึงสิ่งที่ต้องการเตือน!! ให้ผู้ประกอบการคำนึงถึง ที่หากเจาะลึกลงไปแล้วจะมี 3 สิ่งที่เราอยากให้ทำความเข้าใจเพื่อให้การขายออนไลน์ของคุณประสบความสำเร็จมากขึ้น โดยทั้ง 3 ข้อนั้นเกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากข้อมูล […]

สินค้าเสื่อม สกินแคร์&คอสเมติก ร้อนนี้เก็บยังไงดี

เจ้าของธุรกิจสกินแคร์หลายๆคนคงต้องเคยเจอกับปัญหา สินค้าเสื่อม อย่างแน่นอน โดยเฉพาะหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้นแบบนี้ อาจทำให้สินค้าที่ลงทุนมาด้วยความตั้งใจกลับเสียหาย ทั้งสีเปลี่ยน กลิ่นเปลี่ยน หรือเนื้อครีมแยกชั้นจนใช้งานไม่ได้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือและยอดขายของธุรกิจคุณ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะบทความนี้จะช่วยให้คุณรู้วิธีเก็บรักษาสินค้าสกินแคร์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมขาย แม้ต้องเจอกับอากาศร้อนๆ แบบเมืองไทยก็ยังมั่นใจได้ว่าคุณภาพสินค้าจะยังคงคุณภาพจนส่งถึงมือลูกค้าแน่นอน ทำไมอากาศร้อน ทำให้สกินแคร์เสื่อมคุณภาพ สินค้าสกินแคร์ เช่น เซรั่ม ครีม หรือโทนเนอร์ ล้วนมีส่วนประกอบที่อ่อนไหวต่อความร้อน หากสินค้าเหล่านี้ถูกเก็บไว้ในอุณหภูมิที่สูงเกินไป สารออกฤทธิ์ที่สำคัญจะเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ประสิทธิภาพในการบำรุงผิวลดลง สินค้าบางประเภทที่มีสารสำคัญเช่น วิตามินซีหรือเรตินอล จะมีความไวต่อความร้อนมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ของสินค้าก็อาจได้รับผลกระทบจากความร้อน เช่น การละลายหรือเปลี่ยนรูป ทำให้เกิดปัญหาการปนเปื้อนของสารเคมีได้ วิธีเก็บสินค้าสกินแคร์ช่วงหน้าร้อน หน้าร้อนของเมืองไทยไม่เพียงแต่กระทบอารมณ์คน แต่ยังส่งผลอย่างมากต่อคุณภาพของสินค้าสกินแคร์ โดยเฉพาะแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้า การจัดเก็บสินค้าอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพื่อไม่ให้ “สินค้าเสื่อม” ก่อนถึงมือลูกค้า ลองดูวิธีการดูแลและจัดเก็บสินค้าสกินแคร์ช่วงหน้าร้อนให้ปลอดภัยและคงประสิทธิภาพดังนี้ สถานที่เก็บสินค้าควรมีอุณหภูมิคงที่ ไม่ร้อนอบอ้าว และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง เพราะความร้อนและแสงแดดสามารถทำลายสารบำรุงในสกินแคร์ โดยเฉพาะวิตามิน C และสารสกัดธรรมชาติที่ไวต่ออุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บคือ 15–25°C ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของสินค้าได้ดี ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่อับลมหรือไม่มีการระบายอากาศ และอย่าลืมตรวจสอบฉลากเพื่อดูคำแนะนำการจัดเก็บเพิ่มเติมจากผู้ผลิต หากยังไม่มีห้องควบคุมอุณหภูมิในพื้นที่จัดเก็บสินค้า อาจพิจารณาติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสม […]

3 สิ่งที่ต้องรู้ เพื่อให้ร้านค้าอยู่รอดในโลก E-Commerce แห่งอนาคต

          จากการขยายตัวของธุรกิจ E-Commerce จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการจะหันมาบุกตลาดออนไลน์หรือทำการตลาดออนไลน์ แต่ก่อนจะเจาะตลาดผู้ประกอบการต้องเข้าใจทิศทางตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ถ่องแท้เสียก่อนค่ะ เพราะในการขายออนไลน์มีรายละเอียดยิบย่อย และมีการจัดการที่แตกต่างจากการขายออฟไลน์ เพื่อให้ผู้ขายไม่เพียงแค่เพิ่มช่องทางการขายที่หลากหลายขึ้น แต่สามารถขยายตลาดได้อย่างมั่นคงในระยะยาว เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่รอดในโลกของ E-Commerce ในอนาคต ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตใด ๆ ขึ้นอีก ตัวอย่างเช่น วิกฤต COVID-19 เป็นต้น           เรายังอยู่กับสาระดี ๆ จากงาน MyCloud Press Conference 2020 ที่คุณเมฆ นิธิ สัจจทิพวรรณ Chief Executive Officer (CEO) ของเราได้นำเสนอมุมมองความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจออนไลน์จากวิกฤต COVID-19 (New Normal) และทิศทางการขายในโลกอนาคต รวมถึงสิ่งที่ต้องการเตือน!! ให้ผู้ประกอบการคำนึงถึง ที่หากเจาะลึกลงไปแล้วจะมี 3 สิ่งที่เราอยากให้ทำความเข้าใจเพื่อให้การขายออนไลน์ของคุณประสบความสำเร็จมากขึ้น โดยทั้ง 3 ข้อนั้นเกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากข้อมูล […]