Knowledge Center

Shopee ส่งด่วน ภายในวัน กฏใหม่ที่”คนขายต้องรู้!

Shopee ส่งด่ว นภายในวัน

แค่แพ็กและส่งออเดอร์ให้ทันแต่ละรอบ ก็เหนื่อยสุดๆ แล้ว! แต่ล่าสุด Shopee ประกาศปรับนโยบายครั้งใหญ่ ขยับเส้นตายการจัดส่งจากเดิมภายใน 1 วัน เป็น “Shopee ส่งด่วน ภายในวัน” (เริ่ม 1 ก.ย. 68 นี้) เป็นสัญญาณเตือนสำคัญที่ร้านค้าออนไลน์ต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน เพราะหากยังใช้วิธีแพ็กและส่งแบบเดิม อาจส่งของไม่ทันตามกำหนด ไม่ใช่แค่ลูกค้าไม่พอใจ แต่ยังเสี่ยงถูกหักคะแนนร้าน หรือแย่กว่านั้น คือถูกระงับการขายทั้งชั่วคราวและถาวรเลยทีเดียว!

Shopee ส่งด่วน
Shopee ส่งด่วน

บทความนี้ MyCloud จะพาคุณเจาะลึกให้เข้าใจว่า ทำไม Shopee ถึงต้องปรับนโยบายนี้ สาเหตุอะไรที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าหลายรายส่งไม่ทัน พร้อมแนวทางรับมือในศึก Shopeeส่งด่วน นี้แบบมือโปร

ทำไม Shopee ต้องให้ส่งเร็วขึ้น?

เหตุผลหลักของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความรวดเร็วมากขึ้น และการแข่งขันกับแพลตฟอร์มอื่นที่เริ่มใช้โมเดล same day delivery เป็นมาตรฐาน เช่น TikTok Shop และ Lazada ที่ขยับเวลาในการส่งไวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

Shopee จึงปรับนโยบายเพื่อรักษามาตรฐานด้านประสบการณ์ผู้ซื้อ โดยมองว่าการส่งของภายในวันที่ลูกค้าสั่งซื้อ (ถ้าชำระเงินก่อนเที่ยง) จะช่วยให้ลูกค้าได้รับสินค้าเร็วขึ้น เกิดความประทับใจ และกลับมาซื้อซ้ำบ่อยขึ้น

แพ็กให้ไว ส่งให้ทัน Shopee ส่งด่วน

การเตรียมพัสดุเพื่อจัดส่ง Shopee ส่งด่วน

จากตารางสรุประยะเวลาเตรียมจัดส่งออเดอร์ของทาง Shopee ร้านค้าจะถูกวัดจากตัวชี้วัดที่เรียกว่า FHR หรือ อัตราการจัดส่งเร็ว (Fast Handover Rate) เมื่อได้คำสั่งซื้อเข้ามาแล้วร้านค้าจะต้องทำการกดยืนยันสถานะพร้อมจัดส่งและทำการแพ็กออเดอร์ ส่วนหลักเกณฑ์ในการคิดอัตราการจัดส่งเร็วนั้นจะแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลาดังนี้

  • คำสั่งซื้อที่ได้รับการยืนยันก่อนเวลา 12:00 น.
    จะต้องดำเนินการส่งมอบพัสดุให้กับบริษัทขนส่ง ภายในเวลา 23:59 น. ของวันเดียวกันกับวันที่ยืนยันคำสั่งซื้อ (วันที่ลูกค้าสั่งซื้อ)
  • คำสั่งซื้อที่ได้รับการยืนยันหลังเวลา 12:00 น.
    จะต้องส่งพัสดุให้กับบริษัทขนส่ง ภายในเวลา 23:59 น. ของวันถัดไป นับจากวันที่คำสั่งซื้อได้รับการยืนยัน

หมายเหตุ: เวลา 12:00 น. ถือเป็นเวลาตัดรอบ เพื่อกำหนดว่าคำสั่งซื้อนั้นต้องจัดส่งภายในวันเดียวกันหรือวันถัดไป

*คำสั่งซื้อในวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ร้านค้าสามารถจัดส่งได้ในวันทำการถัดไปก่อนเวลา 23.59 น.

คลังสินค้าออนไลน์ ให้บริการเก็บ แพ็ก ส่งสินค้า ส่งภายในวัน
คลังสินค้าออนไลน์ ให้บริการเก็บ แพ็ก ส่งสินค้า

หากคุณคิดว่าการส่งสินค้า”ภายในวัน”ของ Shopee เป็นเรื่องที่ท้าทายและไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำได้ทันตามที่แพลตฟอร์มกำหนดนั้น MyCloud Fulfillment เราพร้อมช่วยให้คุณไม่ต้องมาคอยกังวลกับเรื่องหลังบ้านที่วุ่นวายและความไม่แน่นอนของ Marketplace ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ด้วยบริการคลังสินค้าออนไลน์แบบครบวงจร ที่ช่วยจัดการเรื่องหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ได้ตั้งแต่ การเก็บสินค้า แพ็กออเดอร์ และเตรียมส่งมอบให้กับขนส่ง และด้วยความที่คลังของเราเปิดให้บริการ 365 วัน จัดการออเดอร์กันตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมส่งมอบให้กับขนส่งทุกวันไม่ต้องกังวลเรื่องออเดอร์ล่าช้า หรือ ส่งภายในวันไม่ทันค่ะ สอบถามบริการคลังสินค้าออนไลน์ คลิกที่นี่เลย

3 ปัญหาหลักที่กระทบต่อ Shopee ส่งด่วน”

1.คนแพ็กสินค้าไม่พอ

คนแพ็กสินค้า แพ็คไม่ทัน
พนักงานแพ็กสินค้าไม่พอ

หลายร้านค้าที่จัดการออเดอร์เอง เมื่อมีคำสั่งซื้อเยอะขึ้นมาแบบกะทันหันอาจทำให้ไม่สามารถจัดการได้ทันเพราะทีมงานแพ็กไม่เพียงพอต่อจำนวนออเดอร์ที่เยอะขึ้นมาหลายเท่า ทำให้ไม่สามารถส่งทันตามรอบเวลาจัดส่ง และในบางกรณีอาจจะต้องเสียเงินจ้างพนักงานแพ็กเพิ่มอีกด้วย

*MyCloud เรามีทีมแพ็กและจัดการออเดอร์ของคุณได้ตลอด ด้วยพนักงานกว่า 1,200 คนที่พร้อมรับมือกับช่วงพีคหรือช่วงออเดอร์เยอะๆได้แบบสบายๆ อีกทั้งร้านค้าไม่ต้องจ่ายค่าจ้างเพิ่มเพราะสามารถจ่ายแค่เฉพาะค่าบริการออเดอร์ตามจำนวนที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น (ใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้น)

2.ขนส่งไม่เข้ามารับพัสดุ

ขนส่งไม่เข้ารับพัสดุ
ขนส่งไม่เข้ารับพัสดุ

แม้ร้านค้าจะแพ็กทัน แต่หากขนส่งไม่เข้ามารับภายในเวลาที่กำหนด ก็จะส่งไม่ทันอยู่ดี โดยเฉพาะร้านที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือมีปัญหาในการประสานกับขนส่ง

ร้านค้าที่ใช้บริการ MyCloud ช่วยจัดการออเดอร์ให้ การันตีว่าออเดอร์ของคุณจะถูกส่งมอบให้กับขนส่งอย่างแน่นอนเพราะเราเป็นพาร์ตเนอร์กับขนส่งชั้นนำ ขนส่งเข้ามารับทุกวันเนื่องจากปริมาณออเดอร์ต่อวันที่คลังค่อนข้างเยอะ คุ้มกับค่ารอบที่ขนส่งจะเข้ามารับ พร้อมสถานที่ตั้งคลังสินค้ายังอยู่ติดกับถนนใหญ่เข้า-ออกสะดวก

3.ปัญหาสต๊อกสินค้าไม่พร้อมส่ง

ภาพคนขายออนไลนฺกำลังเครียดเพราะออเดอร์ค้างส่ง

หนึ่งในปัญหายอดนิยมของร้านค้าออนไลน์ คือ “สต๊อกในระบบกับของจริงไม่ตรงกัน” สาเหตุหลักๆ คือระบบ API ที่ใช้เชื่อมต่อสต๊อกไม่มีความแม่นยำ หรืออัปเดตข้อมูลไม่ทันแบบเรียลไทม์ (เรียกง่ายๆ ว่าปัญหา Stock Diff) ซึ่งปัญหานี้จะทำให้ร้านค้าไม่มีสินค้าจริงส่งให้ลูกค้า ส่งผลให้ลูกค้าไม่ประทับใจ และร้านค้าต้องเสียเวลามาคอยแก้ปัญหา จนสุดท้ายอาจส่งสินค้าไม่ทันตามรอบ ทำให้ลูกค้าหรือระบบอาจยกเลิกออเดอร์ไปโดยอัตโนมัติ

ซึ่งจากปัญหานี้ MyCloud เราจึงได้พัฒนาระบบ API เชื่อมต่อช่องทางการขาย ที่สามารถอัปเดตสต๊อกและคำสั่งซื้อได้เร็วถึง 5 นาที ร้านค้าสามารถเช็กสถานะออเดอร์และจำนวนสต๊อกจริงได้แบบเรียลไทม์ หมดปัญหาเรื่องสินค้าไม่พร้อมจัดส่งไปได้เลย

ส่งไม่ทันจะโดนบทลงโทษอะไร?

ร้านค้าที่ส่งล่าช้าหรือไม่เป็นไปตาม SLA จะถูกหักคะแนนในระบบหลายด้าน ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพร้าน ดังนี้

  • LSR (Late Shipment Rate): คืออัตราการจัดส่งล่าช้าของร้านค้า หากค่าเฉลี่ยเกินกว่าที่ Shopee กำหนด เช่นมากกว่า 15% ร้านจะถูกปรับระดับ และมีโอกาสเสียสิทธิ์การเข้าร่วมแคมเปญส่งเสริมการขายของ Shopee
ส่งสินค้าไม่ทัน จัดส่งล่าช้า
  • Penalty Score: เป็นคะแนนบทลงโทษที่ Shopee ใช้วัดความผิดพลาดในการดำเนินงาน หากสะสมแต้มโทษเกินเกณฑ์ จะถูกระงับการใช้งานฟีเจอร์บางส่วน เช่นการเข้าร่วม Flash Sale, การใช้โค้ดส่วนลด หรืออาจถึงขั้นปิดร้านชั่วคราว
  • ลดการแสดงผลของร้านบนหน้าแรก: ระบบอัลกอริธึมของ Shopee จะลดการมองเห็นร้านค้าที่มีคะแนนไม่ดี ทำให้ลูกค้าใหม่หาเจอร้านได้ยากขึ้น ส่งผลต่อยอดขายทันที

การสะสมคะแนนโทษจากการส่งล่าช้าเพียงไม่กี่ครั้ง ก็สามารถส่งผลให้ร้านค้าสูญเสียความน่าเชื่อถือ และสูญเสียโอกาสในการขายแบบต่อเนื่องได้อย่างรุนแรงเพราะฉะนั้นไม่ควรส่งช้าจะดีกว่าค่ะ

สรุป : พร้อมหรือยังกับ Shopee ส่งด่วนภายในวัน

การเปลี่ยนแปลงนโยบาย “Shopee ส่งด่วน ภายในวัน” Same Day Delivery ที่จะเริ่มขึ้นวันที่ 1 กันยายน 2568 ที่จะถึงภายในไม่กี่เดือนนี้คือสัญญาณเตือนให้ร้านค้าออนไลน์เร่งปรับตัว เพราะหากจัดส่งไม่ทันตามเวลาที่กำหนด ไม่เพียงแค่จะกระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อคะแนนร้านค้า การแสดงผลของสินค้า และอาจเสียสิทธิ์ในการเข้าร่วมแคมเปญสำคัญของ Shopee ซึ่งสาเหตุหลักๆที่ทำให้ร้านค้าส่งไม่ทันมักมาจากออเดอร์ที่เยอะเพิ่มขึ้นแบบกะทันหันและทีมแพ็กไม่พอ ขนส่งไม่เข้ารับ และระบบสต๊อกไม่แม่นยำ

MyCloud Fulfillment คลังสินค้าออนไลน์ มายคลาวด์
MyCloud Fulfillment คลังสินค้าออนไลน์

MyCloud Fulfillment เราพร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ที่ช่วยดูแลเรื่องหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ ด้วยบริการคลังสินค้าออนไลน์ที่ครบวงจร สามารถจัดกาารออเดอร์ แพ็กสินค้า และจัดส่งได้ทันตามนโยบายของ Shopee และแพลฟอร์มอื่นๆเช่น Lazada,TikTok Shop ไม่ต้องมาคอยกังวลหรือคอยจัดการกับปัญหาเรื่องส่งช้า หรือ บทลงโทษของแพลตฟอร์ม ให้คุณโฟกัสการขาย และดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มที่ส่วนเรื่องหลังบ้านปล่อยให้ MyCloud Fulfillment จัดการให้

  • ติดต่อสอบถามบริการคลังสินค้าออนไลน์ได้ที่นี่ คลิกเลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

อัตราการจัดส่งไม่สำเร็จ (Non Fulfillment Rate) คืออะไร? พร้อมเคล็ดลับการจัดการปัญหานี้!

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นอีกหนึ่งกุญแจของความสำเร็จในการทำธุรกิจนี้ คือการจัดการคำสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหนึ่งใน SLA หรือตัวชี้วัดสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสนใจ คืออัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จหรือ Non Fulfillment Rate บนแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์อย่าง Shopee ที่จะส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้าและยอดขายของร้านค้า ดังนั้น วันนี้ MyCloud จะพาคุณทำความรู้จักว่า อัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จ คืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง ในบทความนี้กัน  Non Fulfillment Rate คืออะไร   Non Fulfillment Rate (NFR) หรืออัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จ คือค่าที่แสดงถึงจำนวนคำสั่งซื้อที่ไม่สามารถจัดส่งได้สำเร็จ เทียบกับจำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดในช่วงเวลาย้อนหลัง 7 วัน โดยคำนวณจากเปอร์เซ็นต์ของคำสั่งซื้อที่ถูกยกเลิก  สามารถตรวจสอบอัตรา Non Fulfillment Rate (NFR) ได้จากที่ไหนบ้าง  สำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์มือใหม่ที่เพิ่งลงสนามขายของบน Shopee ได้ไม่นาน ก็อาจจะมีความกังวลอยู่บ้างว่าแล้ว Non Fulfillment Rate (NFR) สามารถตรวจสอบได้จากที่ไหนบ้าง หากคุณสมัครและยืนยันตัวตนเป็น Shopee Seller อย่างถูกต้องแล้ว อัตราการจัดส่งค้าไม่สำเร็จจะถูกคำนวณอัตโนมัติและอัปเดตทุก […]

Trends และ challenges ใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาพลิกโฉมโลก E-Commerce

ตลาด E-Commerce ที่เติบโต พร้อมกับการแข่งขันของธุรกิจ E-Commerce ที่สูงขึ้นเพื่อตอบสนองพฤติกรรม หรือความต้องการที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอของผู้ซื้อ MyClood นำ Trends และ challenges ใหม่ ๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับโลก E-Commerce มาให้อ่านกันค่ะ

7 วิธีแพ็คสินค้าฉบับมือโปร ทำอย่างไรให้สินค้าถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย 

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของออนไลน์ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า คือคุณภาพในการจัดส่งสินค้า นอกจากความรวดเร็วแล้ว การแพ็คสินค้าอย่างดีก็จะช่วยปกป้องสินค้าให้ถึงมือผู้รับในสภาพสมบูรณ์ วันนี้เรามีเทคนิคการแพ็คของออนไลน์แบบมืออาชีพมาฝากกัน โดยจะช่วยให้การจัดส่งสินค้าของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความประทับใจตั้งแต่ลูกค้าได้รับสินค้าเลย   แพ็คสินค้า ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง  ก่อนจะเริ่มแพ็คสินค้า สิ่งสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าต้องเตรียมให้พร้อม คืออุปกรณ์สำหรับแพ็คของ การมีอุปกรณ์ที่ครบครันจะช่วยให้ขั้นตอนการแพ็คสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยอุปกรณ์ที่ควรมีประกอบด้วย  7 วิธีการแพ็คสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย  การแพ็คสินค้าให้ปลอดภัยไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะถึงมือลูกค้าในสภาพสมบูรณ์ มาดูวิธีแพ็คของออนไลน์ที่ถูกต้องกันว่าจะมีอะไรบ้าง ดังนี้  1. เลือกขนาดกล่องให้เหมาะสมกับสินค้า ขั้นตอนแรกคือการเลือกบรรจุภัณฑ์หรือกล่องพัสดุให้เหมาะกับประเภทสินค้า เช่น เสื้อผ้าหรือสินค้าที่ทนต่อแรงกระแทกได้ดี สามารถใช้ซองพลาสติกได้ แต่สำหรับสินค้าที่แตกหักง่าย ก็จำเป็นต้องแพ็คสินค้าด้วยกล่องที่มีขนาดพอเหมาะ ไม่ใหญ่จนสินค้าขยับได้ และไม่เล็กเกินไปจนไม่มีพื้นที่ใส่วัสดุกันกระแทก  นอกจากนี้ คุณภาพและวัสดุของกล่องก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะความหนาของกล่องที่ต้องทนทานพอที่จะปกป้องสินค้าจากการโยนของพนักงานขนส่ง หรือแรงกดทับเมื่อถูกวางซ้อนกับกล่องอื่น ๆ ปัจจุบันมีนวัตกรรมการผลิตกล่องใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงโดยไม่เพิ่มน้ำหนักมากนัก ทำให้สามารถปกป้องสินค้าได้ดียิ่งขึ้นตลอดการเดินทางไปถึงมือลูกค้า   2. เลือกกล่องที่ได้คุณภาพ  การเลือกใช้กล่องคุณภาพดีเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะกล่องลูกฟูกที่มีความหนาและแข็งแรงเป็นพิเศษ เพราะถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อการใช้งาน ซึ่งสามารถปกป้องสินค้าด้านใน ลดแรงกระแทกและความเสียระหว่างการขนส่ง เช่น การโยนสินค้า สินค้ามีน้ำหนักที่วางทับกัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กล่องที่มีคุณภาพก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่สินค้าจะเสียหายระหว่างการขนส่งได้   3. ป้องกันสินค้าด้วยวัสดุกันกระแทก การจัดส่งสินค้าให้ปลอดภัยต้องใส่ใจเรื่องการป้องกันการกระแทก […]

อัตราการจัดส่งไม่สำเร็จ (Non Fulfillment Rate) คืออะไร? พร้อมเคล็ดลับการจัดการปัญหานี้!

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นอีกหนึ่งกุญแจของความสำเร็จในการทำธุรกิจนี้ คือการจัดการคำสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหนึ่งใน SLA หรือตัวชี้วัดสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสนใจ คืออัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จหรือ Non Fulfillment Rate บนแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์อย่าง Shopee ที่จะส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้าและยอดขายของร้านค้า ดังนั้น วันนี้ MyCloud จะพาคุณทำความรู้จักว่า อัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จ คืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง ในบทความนี้กัน  Non Fulfillment Rate คืออะไร   Non Fulfillment Rate (NFR) หรืออัตราการจัดส่งสินค้าไม่สำเร็จ คือค่าที่แสดงถึงจำนวนคำสั่งซื้อที่ไม่สามารถจัดส่งได้สำเร็จ เทียบกับจำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดในช่วงเวลาย้อนหลัง 7 วัน โดยคำนวณจากเปอร์เซ็นต์ของคำสั่งซื้อที่ถูกยกเลิก  สามารถตรวจสอบอัตรา Non Fulfillment Rate (NFR) ได้จากที่ไหนบ้าง  สำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์มือใหม่ที่เพิ่งลงสนามขายของบน Shopee ได้ไม่นาน ก็อาจจะมีความกังวลอยู่บ้างว่าแล้ว Non Fulfillment Rate (NFR) สามารถตรวจสอบได้จากที่ไหนบ้าง หากคุณสมัครและยืนยันตัวตนเป็น Shopee Seller อย่างถูกต้องแล้ว อัตราการจัดส่งค้าไม่สำเร็จจะถูกคำนวณอัตโนมัติและอัปเดตทุก […]

Trends และ challenges ใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาพลิกโฉมโลก E-Commerce

ตลาด E-Commerce ที่เติบโต พร้อมกับการแข่งขันของธุรกิจ E-Commerce ที่สูงขึ้นเพื่อตอบสนองพฤติกรรม หรือความต้องการที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอของผู้ซื้อ MyClood นำ Trends และ challenges ใหม่ ๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับโลก E-Commerce มาให้อ่านกันค่ะ

7 วิธีแพ็คสินค้าฉบับมือโปร ทำอย่างไรให้สินค้าถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย 

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของออนไลน์ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า คือคุณภาพในการจัดส่งสินค้า นอกจากความรวดเร็วแล้ว การแพ็คสินค้าอย่างดีก็จะช่วยปกป้องสินค้าให้ถึงมือผู้รับในสภาพสมบูรณ์ วันนี้เรามีเทคนิคการแพ็คของออนไลน์แบบมืออาชีพมาฝากกัน โดยจะช่วยให้การจัดส่งสินค้าของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความประทับใจตั้งแต่ลูกค้าได้รับสินค้าเลย   แพ็คสินค้า ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง  ก่อนจะเริ่มแพ็คสินค้า สิ่งสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าต้องเตรียมให้พร้อม คืออุปกรณ์สำหรับแพ็คของ การมีอุปกรณ์ที่ครบครันจะช่วยให้ขั้นตอนการแพ็คสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยอุปกรณ์ที่ควรมีประกอบด้วย  7 วิธีการแพ็คสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย  การแพ็คสินค้าให้ปลอดภัยไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะถึงมือลูกค้าในสภาพสมบูรณ์ มาดูวิธีแพ็คของออนไลน์ที่ถูกต้องกันว่าจะมีอะไรบ้าง ดังนี้  1. เลือกขนาดกล่องให้เหมาะสมกับสินค้า ขั้นตอนแรกคือการเลือกบรรจุภัณฑ์หรือกล่องพัสดุให้เหมาะกับประเภทสินค้า เช่น เสื้อผ้าหรือสินค้าที่ทนต่อแรงกระแทกได้ดี สามารถใช้ซองพลาสติกได้ แต่สำหรับสินค้าที่แตกหักง่าย ก็จำเป็นต้องแพ็คสินค้าด้วยกล่องที่มีขนาดพอเหมาะ ไม่ใหญ่จนสินค้าขยับได้ และไม่เล็กเกินไปจนไม่มีพื้นที่ใส่วัสดุกันกระแทก  นอกจากนี้ คุณภาพและวัสดุของกล่องก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะความหนาของกล่องที่ต้องทนทานพอที่จะปกป้องสินค้าจากการโยนของพนักงานขนส่ง หรือแรงกดทับเมื่อถูกวางซ้อนกับกล่องอื่น ๆ ปัจจุบันมีนวัตกรรมการผลิตกล่องใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงโดยไม่เพิ่มน้ำหนักมากนัก ทำให้สามารถปกป้องสินค้าได้ดียิ่งขึ้นตลอดการเดินทางไปถึงมือลูกค้า   2. เลือกกล่องที่ได้คุณภาพ  การเลือกใช้กล่องคุณภาพดีเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะกล่องลูกฟูกที่มีความหนาและแข็งแรงเป็นพิเศษ เพราะถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อการใช้งาน ซึ่งสามารถปกป้องสินค้าด้านใน ลดแรงกระแทกและความเสียระหว่างการขนส่ง เช่น การโยนสินค้า สินค้ามีน้ำหนักที่วางทับกัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กล่องที่มีคุณภาพก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่สินค้าจะเสียหายระหว่างการขนส่งได้   3. ป้องกันสินค้าด้วยวัสดุกันกระแทก การจัดส่งสินค้าให้ปลอดภัยต้องใส่ใจเรื่องการป้องกันการกระแทก […]