Knowledge Center

ร้านค้าที่มีออเดอร์เยอะ ๆ เขามีระบบจัดการหลังบ้านอะไรมาช่วย ?

ขายของดี ออเดอร์เยอะ แต่จัดการไม่ไหว ทำไงดี ?

เคยสงสัยกันไหมครับว่าร้านดัง ๆ ออเดอร์เยอะ ๆ เขาจัดการกันยังไง ให้ส่งของถึงลูกค้าทุกคนโดยไม่ผิดพลาดและไม่ตกหล่น แน่นอนครับว่าหากใช้แรงงานคนในการทำงาน ย่อมมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ครับ อาจเพราะหลงลืม หรือเพราะการติดต่อสื่อสารที่คลาดเคลื่อนต่าง ๆ วันนี้ผมมีเทคนิคที่องค์กรส่วนใหญ่ใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาจัดการออเดอร์ไม่ไหว มาบอกเพื่อน ๆ นักธุรกิจครับ

Order Management คืออะไร

Order Management คือ การบริหารจัดการการสั่งซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งครอบคลุมทุกขั้นตอนในการสั่งซื้อ ตั้งแต่ลูกค้ากดสั่งสินค้า จนไปถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการส่งของให้ถึงมือลูกค้า ซึ่งมีความซับซ้อนมาก เพราะในแต่ละขั้นตอนก็มีรายละเอียดและปัญหาแตกต่างกัน กระบวนการทำงานของแต่ละองค์กร อาจจะแตกต่างกัน โดยกระบวนการจัดการคำสั่งซื้อประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ๆ ได้แก่

          1. Placement

          2. Fulfillment

          3. Inventory Management

เมื่อทำธุรกิจ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะพบกับปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในการรับคำสั่งซื้อที่ตกหล่น ข้อมูลหรือสต๊อกสินค้าที่ผิดพลาดในคลังสินค้า หรือ การส่งสินค้าผิดให้ลูกค้า เรื่องเหล่านี้เหมือนจะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร แต่สิ่งเหล่านี้ก็สามารถสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าและอาจจะทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงได้ เพื่อลดปัญหาต่าง ๆ ของการจัดการการสั่งซื้อสินค้า จึงเกิดระบบเพื่อช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น และผิดพลาดน้อยลง อย่างระบบ Order Management System ที่หลายท่านอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว

Order Management System คืออะไร? 

ระบบจัดการคำสั่งซื้อ (Order Management System: OMS) คือ ระบบซอฟต์แวร์ที่ช่วยบริหารจัดการเกี่ยวกับการขายและรายการสั่งซื้อสินค้า ให้สามารถติดตามรายการสั่งซื้อต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในระบบเดียว ซึ่งการทำงานของระบบจะเริ่มต้นเมื่อมีการกรอกคำสั่งซื้อประเภทต่าง ๆ ระบบจะจัดกลุ่มคำสั่งซื้อตามลูกค้า ลำดับความสำคัญ แจกจ่ายสต๊อกสินค้าตามคลังสินค้า และสร้างวันกำหนดส่งตามสัญญา 

โดยปัจจุบันระบบ OMS สามารถเชื่อมต่อกับระบบ API ทำให้สามารถรับออเดอร์จากลูกค้าได้จากหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการรับออเดอร์เอง หรือส่งข้อมูลมาจาก API Marketplace ต่าง ๆ อาทิเช่น Lazada Shopee หรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ที่ผู้ขายลงขายไว้ รวมถึงมีช่องทางการชำระเงินมากมาย ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันนี้สำหรับธุรกิจที่ไม่มีระบบหรือหน้าเว็บเป็นของตัวเอง ก็สามารถหาเว็บไซต์ออนไลน์ที่ให้บริการ ระบบ OMS สำเร็จรูป เพื่อมาช่วยในด้านการจัดการออเดอร์เหล่านี้ได้ หรือหากคุณต้องการมีผู้ช่วยในการเก็บสต๊อกสินค้า จัดออเดอร์สินค้า รวมไปถึงการให้บริการแพ็ค และการจัดส่งสินค้าก็สามารถมองหาบริการ Fulfillment ดี ๆ เพื่อมาช่วยตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้ เพราะนั่นเป็นจุดประสงค์หลักของผู้ให้บริการ Fulfillment ในปัจจุบัน

ข้อดีของ Order Management System (OMS)

เมื่อมีระบบจัดการคำสั่งซื้อที่มีประสิทธิภาพเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการจัดการคำสั่งซื้อและขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการขาย ย่อมเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าและคำสั่งซื้อทั้งหมดไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างทั่วถึง ครบถ้วน และแม่นยำ ซึ่งส่งผลดีต่อการปรับปรุงการจัดการสินค้าคงคลัง การขายสินค้า และการตลาดเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อระบบจัดการเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น จัดการฐานข้อมูล ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ เป็นต้น และการที่ระบบมีการบันทึกข้อมูลคำสั่งซื้อ สามารถเรียกดูประวัติคำสั่งซื้อของลูกค้าได้นั้นช่วยให้ผู้ประกอบการมองเห็นและเข้าใจลูกค้าได้ลึกมากยิ่งขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะใช้ข้อมูลเหล่านี้วิเคราะห์พฤติกรรมหรือความสนใจของลูกค้า เพื่อให้สามารถตอบสนองให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้า สิ่งเหล่านี้ช่วยผู้ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีขึ้น และยังสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์การซื้อที่ดีจากผู้ให้บริการ นี่จะเป็นการสร้างความประทับใจและนำไปสู่การสร้าง Brand loyalty ได้อีกด้วย การใช้ระบบจัดการคำสั่งซื้อ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าการจัดการรายการซื้อขายของธุรกิจของคุณ จะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น

นอกจากการจัดการออเดอร์จะมีระบบ OMS เป็นสำคัญแล้ว ยังมีการเชื่อมโยงกับระบบ TMS อีกด้วย 

Transportation Management System (TMS) ระบบการจัดการการขนส่ง

คือระบบจัดการการขนส่ง ที่จะช่วยบริหารและจัดการการขนส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อถือได้ โดยจะครอบคลุมตั้งแต่การรับออเดอร์ จัดตารางการขนส่ง ส่งรายละเอียดให้กับคนขับ ไม่เพียงเท่านั้นทั้งบริษัทและลูกค้ายังสามารถติดตามสถานะการขนส่งได้แบบเรียลไทม์ ตั้งแต่การจัดส่งต้นทางไปยังปลายทาง และยังสามารถเชื่อมต่อกับ GPS ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยจะรวมไปถึงการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้า และทุกทางในการขนส่งไม่ว่าจะเป็นทางรถบรรทุก เครื่องบิน หรือเรือก็ตาม ทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบต่าง ๆ ได้ เช่น ระบบบาร์โค้ด (Barcode system) หรือ ระบบ RFID เป็นต้น 

ข้อดีของ Transportation Management System (TMS)

TMS นอกจากจะลดความซับซ้อนในการทำงานในเรื่องของการจัดการการขนส่งแล้ว ยังช่วยในเรื่องการประหยัดเวลา และลดค่าใช้จ่าย เพราะ TMS จะช่วยลดขั้นตอนการทำงานได้ เพราะทางระบบจะเก็บข้อมูลที่เป็น Big Data ที่สามารถเรียกดูได้ตลอดเวลา เช่น ข้อมูลลูกค้า สินค้า เส้นทางการขนส่ง ข้อมูลพนักงาน หรือข้อมูลของรถขนส่ง ทำให้ลดต้นทุนและเวลาในเรื่องเหล่านี้ไปได้ อีกทั้งทางบริษัทไม่ต้องมาจัดการในเรื่อง รถ บุคคลากร และเอกสารต่าง ๆ ด้วยตนเอง นอกจากนี้การทำงานของระบบ TMS จะจัดสรรตารางการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อทำงานผ่านระบบแล้วจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ยาก เพราะจะมีการบันทึกข้อมูลทุกขั้นตอน ซึ่งถ้าหากเกิดความผิดพลาดก็จะมีหลักฐานในการตรวจสอบเสมอ

จะเห็นได้ว่าระบบ TMS นั้นมีข้อดีในเรื่องการประหยัดเวลา ต้นทุน และเกิดข้อผิดพลาดได้น้อยกว่าระบบเอกสาร (Manual) ซึ่งในการทำธุรกิจนั้นการเลือกระบบการขนส่งให้เหมาะสมกับขนาดของธุรกิจก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน

การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ให้เราช่วยตอบโจทย์ธุรกิจคุณ ด้วยบริการอำนวยความสะดวกหลังบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการออเดอร์ที่ยุ่งยาก MycloudFulfillment จัดการด้วยระบบการจัดการออเดอร์ของ MyCloud ที่เชื่อมต่อกับ API Marketplace หรือ เว็บไซต์ของคุณ สามารถรวบรวมทุกออเดอร์ทุกช่องทางไว้ในระบบเราที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น Lazada Shopee หรือ JD.com และอีกมากมาย เราอัพเดทสต๊อกตรงกันทุก ๆ MarketPlace แบบ Real-Time อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับ Seller Center และกด Ready to ship ให้อัตโนมัติ มั่นใจได้เลยว่าคุณจะไม่พลาดออเดอร์สำคัญ ๆ และยังเพิ่มโอกาสในการขายอีกด้วย นอกจากนี้เรามีบริการ เก็บ แพ็ค ส่ง ที่พร้อมช่วยธุรกิจของคุณให้ดำเนินไปอย่างไม่มีสะดุด!

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742, 02-138-9920
อีเมล: [email protected]
line: @mycloudgroup
MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก
บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

เจ้าของธุรกิจออนไลน์ควรรู้! เปิดร้านขายของใน Shopee เสียค่าอะไรบ้าง?

ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กำลังเฟื่องฟู Shopee กลายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมที่ผู้ประกอบการหลายคนเลือกเป็นช่องทางในการขายสินค้า แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าการขายของใน Shopee มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ผู้ขายต้องจ่ายเมื่อเปิดร้านบน Shopee เพื่อให้คุณสามารถวางแผนธุรกิจและคำนวณต้นทุนได้อย่างแม่นยำ พร้อมแล้วมาดูกันว่าขายของใน Shopee เสียค่าอะไรบ้าง   ขายของใน shopee เสียค่าอะไรบ้าง ก่อนที่จะเริ่มขายสินค้าบน Shopee ผู้ขายควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่จะต้องจ่าย เพื่อให้สามารถตั้งราคาสินค้าได้อย่างเหมาะสมและทำกำไรได้ตามเป้าหมาย มาดูกันว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง   1. ค่าธรรมเนียมจากการขาย การขายของใน Shopee มีค่าธรรมเนียมการขายที่แตกต่างกันตามประเภทของร้านค้าและหมวดหมู่สินค้า ซึ่งทางช้อปปี้จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้จากทั้ง Shopee Seller ที่ลงขายแบบ Mall Sellers และ Non-Mall Sellers นั้น ทางช้อปปี้จะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมเมื่อได้รับคำสั่งซื้อและจัดการคำสั่งซื้อจนเสร็จ ซึ่งจะเก็บค่าธรรมเนียมตามประเภทของสินค้า ดังนี้ หมวดหมู่สินค้า Shopee Mall Seller (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) Non-Mall Seller(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ 9% – 11% 8% สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ […]

เลือก Fulfillment เจ้าไหนดี เทคนิคการเลือกใช้บริการในไทยให้คุณคุ้มค่าที่สุด!

ปัจจุบันธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว การมีระบบจัดการคลังสินค้าและการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการลดภาระในการแพ็คของ ส่งของและบริหารสต๊อกสินค้า Fulfillment จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น  แต่ด้วยจำนวนผู้ให้บริการ Fulfillment ที่มีอยู่มากมายในตลาด การเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากคุณกำลังมองหาบริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าออนไลน์ที่ช่วยแก้ปัญหาหลังบ้านให้กับธุรกิจ E-Commerce ของคุณแต่ยังลังเลว่าเจ้าไหนดี บทความนี้มีคำตอบค่ะ!  วิธีเลือก Fulfillment เจ้าไหนดี ต้องดูอะไรบ้าง อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็ว การเลือกผู้ให้บริการ Fulfillment ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถช่วยให้การจัดเก็บ แพ็คและจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น ลดต้นทุนและภาระงานของเจ้าของธุรกิจได้อย่างมาก แต่ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่มากมาย มาดูกันควรใช้เกณฑ์อะไรในการเลือก Fulfillment ให้ตอบโจทย์ธุรกิจของเรา? มาดูปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณากัน! 1. บริการ Fulfillment ที่ดีต้อง “ยืดหยุ่น”  เพราะบริการ Fulfillment คือบริการ เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าออนไลน์คือบริการที่ช่วยแก้ปัญหาหลังบ้านเหล่านี้ให้กับธุรกิจ E-Commerce และผู้ประกอบการรายย่อย ดังนั้นจึงต้องมีความยืดหยุ่นและ Customize ในทุกขั้นตอนการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบริการเองก็ดี หรือราคาก็ดี ใครที่กำลังมองหาคลังสินค้าที่ใหญ่พอในการเช่าพื้นที่เก็บของ […]

เจ้าของธุรกิจออนไลน์ควรรู้! เปิดร้านขายของใน Shopee เสียค่าอะไรบ้าง?

ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กำลังเฟื่องฟู Shopee กลายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมที่ผู้ประกอบการหลายคนเลือกเป็นช่องทางในการขายสินค้า แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าการขายของใน Shopee มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ผู้ขายต้องจ่ายเมื่อเปิดร้านบน Shopee เพื่อให้คุณสามารถวางแผนธุรกิจและคำนวณต้นทุนได้อย่างแม่นยำ พร้อมแล้วมาดูกันว่าขายของใน Shopee เสียค่าอะไรบ้าง   ขายของใน shopee เสียค่าอะไรบ้าง ก่อนที่จะเริ่มขายสินค้าบน Shopee ผู้ขายควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่จะต้องจ่าย เพื่อให้สามารถตั้งราคาสินค้าได้อย่างเหมาะสมและทำกำไรได้ตามเป้าหมาย มาดูกันว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง   1. ค่าธรรมเนียมจากการขาย การขายของใน Shopee มีค่าธรรมเนียมการขายที่แตกต่างกันตามประเภทของร้านค้าและหมวดหมู่สินค้า ซึ่งทางช้อปปี้จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้จากทั้ง Shopee Seller ที่ลงขายแบบ Mall Sellers และ Non-Mall Sellers นั้น ทางช้อปปี้จะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมเมื่อได้รับคำสั่งซื้อและจัดการคำสั่งซื้อจนเสร็จ ซึ่งจะเก็บค่าธรรมเนียมตามประเภทของสินค้า ดังนี้ หมวดหมู่สินค้า Shopee Mall Seller (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) Non-Mall Seller(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ 9% – 11% 8% สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ […]

เลือก Fulfillment เจ้าไหนดี เทคนิคการเลือกใช้บริการในไทยให้คุณคุ้มค่าที่สุด!

ปัจจุบันธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว การมีระบบจัดการคลังสินค้าและการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการลดภาระในการแพ็คของ ส่งของและบริหารสต๊อกสินค้า Fulfillment จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น  แต่ด้วยจำนวนผู้ให้บริการ Fulfillment ที่มีอยู่มากมายในตลาด การเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากคุณกำลังมองหาบริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าออนไลน์ที่ช่วยแก้ปัญหาหลังบ้านให้กับธุรกิจ E-Commerce ของคุณแต่ยังลังเลว่าเจ้าไหนดี บทความนี้มีคำตอบค่ะ!  วิธีเลือก Fulfillment เจ้าไหนดี ต้องดูอะไรบ้าง อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็ว การเลือกผู้ให้บริการ Fulfillment ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถช่วยให้การจัดเก็บ แพ็คและจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น ลดต้นทุนและภาระงานของเจ้าของธุรกิจได้อย่างมาก แต่ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่มากมาย มาดูกันควรใช้เกณฑ์อะไรในการเลือก Fulfillment ให้ตอบโจทย์ธุรกิจของเรา? มาดูปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณากัน! 1. บริการ Fulfillment ที่ดีต้อง “ยืดหยุ่น”  เพราะบริการ Fulfillment คือบริการ เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าออนไลน์คือบริการที่ช่วยแก้ปัญหาหลังบ้านเหล่านี้ให้กับธุรกิจ E-Commerce และผู้ประกอบการรายย่อย ดังนั้นจึงต้องมีความยืดหยุ่นและ Customize ในทุกขั้นตอนการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบริการเองก็ดี หรือราคาก็ดี ใครที่กำลังมองหาคลังสินค้าที่ใหญ่พอในการเช่าพื้นที่เก็บของ […]