Knowledge Center

6 เทคนิคมัดใจ ทำยังไงให้ลูกค้าหันมาเลือกเรา!!

 6 เทคนิคมัดใจ ทำยังไงให้ลูกค้าหันมาเลือกเรา!!

          “เมื่อเจอสิ่งที่ใช่ ทำไมต้องเสียเวลาไปตามหาสิ่งอื่น” ปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงเมื่อแฮปปี้กับสิ่งที่มีหรือเคยชินกับสิ่งนั้นไปแล้ว ซึ่งนี่ถือเป็นโจทย์ยากเมื่อมองในมุมของการขาย ผู้ขายเคยเจอกันไหมครับ 

เวลาลูกค้าบอกว่า มีเจ้าที่ซื้อหรือใช้บริการเป็นประจำอยู่แล้ว แน่นอนว่าเมื่อขายสินค้าและบริการประเภทเดียวกัน ธุรกิจส่วนใหญ่มักจะฟาดฟันกันในเรื่องของราคา เพราะราคาแทบจะเป็นเหตุผลแรกที่ลูกค้าจะตัดสินใจว่าจะเลือกร้านไหน ส่วนมากก็ทำโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถมกันแบบสุด ๆ จนแทบไม่เห็นกำไรกันเลยทีเดียวครับ หากคุณสนใจหรือประสบกับปัญหาแบบนี้อยู่ วันนี้ผมมีเทคนิคดี ๆ สำหรับผู้ขาย ที่จะใช้เป็นกลยุทธ์มัดใจลูกค้าโดยไม่ต้องเสียกำไรมาฝากกันครับ

             1. เพิ่มมูลค่าสินค้า 

          แทนที่เราจะลดราคาสินค้า เราควรแสดงให้ลูกค้าเห็นถึง Value Added หรือมูลค่าเพิ่มของสินค้าเราว่าคืออะไร การตั้งราคาตามคุณภาพของสินค้าเป็นสิ่งที่พึงทำครับ เพราะหากสินค้าของเราดีจริง แพงแค่ไหนลูกค้าก็ยอมจ่ายครับ นอกจากนี้การเพิ่มมูลค่าสินค้าหรือแบรนด์ ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ โดยการทำ Packaging ให้ดูดี มีคุณค่าหรือ มีบริการหลังการขายต่าง ๆ ซึ่งบริการหลังขายและระยะเวลารับประกันนี่แหละครับ เป็นตัวช่วยในการเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ อย่าลืมนะครับ ตั้งราคาให้เหมาะสมกับสินค้าของเรา ไม่ใช่ของคู่แข่ง!

             2. สร้างความแตกต่าง 

          หรือการสร้าง Branding (3 เคล็ด(ไม่)ลับ การทำแบรนด์ที่ดี) นั่นเองเพราะหากเราทำ Branding ไม่ดี เราก็จะกลายเป็นตัวเลือกครับ การที่จะทำให้ลูกค้าหันมาสนใจเราคือ หาจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ทำการบ้านให้ดีว่าสินค้าของคุณมีอะไรที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความแตกต่างที่ตัวสินค้า และการบริการ หรือที่ช่องทางการขายต่าง ๆ ก็สามารถสร้างจุดขายให้แบรนด์เราได้ครับ 

ถ้าคิดว่าการสร้างความแตกต่างที่ตัวสินค้านั้นสามารถโดนก็อปได้ง่าย ทำไปไม่กี่อาทิตย์หรือไม่กี่เดือนก็โดนก็อปแล้ว ลองเปลี่ยนมาสร้างจุดเด่นที่การบริการก็ไม่เลวนะครับ เพราะการบริการที่ดีหรือ Service Mind นั้นสร้างลูกค้าประจำมานักต่อนักแล้วครับ เพราะลูกค้าจะรู้สึกถึงความเอาใจใส่ในการให้บริการ คงไม่มีลูกค้าคนไหนอยากซื้อของกับคนหน้าบึ้งหรอกครับ ถึงแม้ว่าของที่คุณขายจะดีแค่ไหนก็ตาม หรือการเพิ่มช่องทางการขายใหม่ ๆ ที่นอกจากการขายหน้าร้านแล้ว ก็ลองมาลงขายในช่องทางออนไลน์หลาย ๆ Platform ก็เป็นหนทางที่ดีครับ เพราะว่ายิ่งเรามีช่องทางการขายมากเท่าไหร่ ลูกค้าก็จะเห็นสินค้าของเราได้มากขึ้นเท่านัั้น นั่นหมายความว่าของเราก็จะมีโอกาสขายได้มากขึ้นด้วยครับ

             3. คำนึงว่าสินค้าของคุณตอบโจทย์ตลาดหรือไม่ 

          เพราะความต้องการที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจจากสินค้าจากเจ้าที่เคยใช้อยู่ ดังนั้นต้องเพิ่มสิ่งที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากกว่า เช่น ความรวดเร็วในการบริการ ความเรียบร้อยในการแพ็คสินค้า มีสถานที่นัดรับสินค้าที่สะดวกต่อลูกค้า มีบริการจัดส่งที่เข้าถึงในทุก ๆ พื้นที่ หรือถ้าทำให้สินค้ามีความหลากหลายในการเลือก และ เหมาะสมกับแต่ละคนได้ก็ยิ่งดีเลยครับ เรียกง่าย ๆ ว่าให้เอาความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากคุณไม่สะดวกที่จะทำเอง สมัยนี้มีบริการที่ส่งเสริมการขายมากมายครับ บริการ Fulfillment ก็เป็นอีกหนึ่งบริการที่ตอบโจทย์ผู้ขาย ที่ไม่ว่าจะเป็นการ เก็บ แพ็ค ส่ง สามารถจัดการงานหลังบ้านตรงนี้แทนคุณได้หมดเลยครับ ทำให้คุณมีเวลาไปโฟกัสงานขาย การตลาด การผลิตสินค้าดี ๆ ออกมาครับ

             4. สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับ ไม่ว่าเราจะโปรโมทสินค้าดีเพียงใด ก็ไม่เท่าลูกค้าลองใช้เองแล้วเห็นผล 

          การให้ลูกค้ามีโอกาสทดลองใช้สินค้าของเราฟรี ๆ ครับ แน่นอนว่าวิธีการก็มีมากมายที่เหมาะสมกับชนิดสินค้าเราเช่น หากเป็นสินค้าจำพวกอุปโภคบริโภคก็อาจจะเเถมหรือแจกฟรีในช่วงแรก ๆ หรือหากเป็นโปรแกรมหรือเว็บไซต์ก็อาจให้จะให้ลูกค้าทดลองใช้ฟรีเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อลูกค้าทดลองใช้เองแล้วเห็นผลดี แล้วบอกต่อ นั่นแหล่ะครับหมัดเด็ดที่จะฮุกตลาดได้เป็นอย่างดี เพราะการแพร่กระจายสินค้าที่ดีที่สุดคือการบอกต่อจากคนที่รู้จัก(ปากต่อปาก)นี่แหล่ะครับ

             5. การทำให้แบรนด์ของคุณมีตัวตน เป็นที่นึกถึงของลูกค้าเสมอ

          แม้ว่าลูกค้าจะยังรักฝังใจกับคู่แข่งของคุณ แต่หากคุณยังคงพยายามขายสินค้า ติดตามหรือติดต่อลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าลูกค้าจะยังไม่ซื้อก็ตาม แต่ถ้าคู่แข่งของคุณเกิดความผิดพลาดขึ้น เช่น การบริการ พนักงาน หรือเหตุผลอื่นๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เมื่อเป็นแบบนั้นแล้ว ตัวเลือกอันดับหนึ่งของลูกค้าอาจกลายเป็นคุณก็ได้ครับ ซึ่งตรงนี้คุณอาจจะเข้าไปแทนที่ได้เลย เพราะในคำว่าตลอดไปไม่มีในโลกของธุรกิจครับ

             6. วางแผนการตลาดใหม่เจาะกลุ่มผู้บริโภค 

          ร้านค้าส่วนใหญ่เมื่อผลิตสินค้าแล้วก็ต้องมองหากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะกับสินค้าหรือที่เราเรียกว่ากลุ่มเป้าหมาย แต่หากการมองหาลูกค้าที่มีร้านเจ้าประจำอยู่ในใจแล้วมันเหนื่อยเกินไป ทำไมไม่ลองเปิดใจมองหาลูกค้ารายใหม่ที่ไม่เคยใช้บริการมาก่อนดูล่ะครับ กลุ่มเป้าหมายรองลงมา ที่อาจจะไม่ได้ตรง Target คุณ 100 % แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสซื้อสินค้าของคุณนะครับ เพราะหากสินค้าของคุณเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดตอบโจทย์ลูกค้าและมีราคาที่จับต้องได้ ไม่ต้องคิดหนักมากเวลาซื้อ รับรองเลยครับว่าขายได้ชัวร์ 

          เป็นยังไงบ้างครับเทคนิคดี ๆ ที่ผมนำมาแบ่งปัน หวังว่าอ่านแล้วจะได้ไอเดียดี ๆ ไปใช้ในการขายนะครับ แล้วก็อย่าลืมนะครับว่า เราควรให้เกียรติผู้ร่วมอาชีพเดียวกันหาก เราต้องการขายสินค้าของเรา ก็ไม่ควรไปบลัฟหรือลดค่าของสินค้าคนอื่นครับ ควรจะมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าของตัวเองจะดีที่สุดนะครับ  

MyCloudFulfillment ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ที่ปรับแต่งได้ตามใจคุณ บริการการเก็บสินค้าคงคลัง การตรวจและแพ็คสินค้า และการส่งสินค้าไปสู่ช่องทางการขายทุกช่องของคุณ เพื่อให้คุณมีเวลากับการขายได้อย่างเต็มที่


สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742, 02-138-9920
อีเมล: [email protected]
line: @mycloudgroup
MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

ทำไม Special Set ถึงขายดี? 8 เหตุผลที่คุณต้องรู้!

อยากขายดีแบบม้วนเดียวจบ? ถ้าคุณเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่อยากเพิ่มยอดขายในช่วงเทศกาลพิเศษอย่างช่วงปีใหม่ New Year ต้องไม่พลาดกับกลยุทธ์สุดปังนี้!นั่นก็คือการจัด “Special Set” ไม่ใช่แค่การนำของมารวมกันธรรมดาๆ แต่มันคือ “ศาสตร์และศิลป์” ที่ช่วยทำให้สินค้าในร้านของคุณขายดีจนสต็อกแทบไม่พอ และสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้ลูกค้า จนอยากกลับมาซื้อซ้ำ! ไม่เพียงแต่ในช่วงปีใหม่เท่านั้น แต่ยังได้ผลดีในทุกเทศกาลสำคัญตลอดทั้งปี เช่น วันวาเลนไทน์ เทศกาลสงกรานต์ หรือแม้กระทั่งวันแม่ ลองคิดดูสิคะ… ถ้าลูกค้าเลื่อนดูร้านของคุณแล้วเจอสินค้าแบบเซ็ตที่จัดมาให้ครบ ใช้ง่าย คุ้มค่า และเหมาะกับโอกาสพิเศษ จะมีเหตุผลอะไรที่พวกเขาจะไม่กด “ซื้อ” ล่ะ? บทความนี้จะพาคุณมาไขความลับกับ 8 เหตุผลว่าทำไมสินค้าแบบเซ็ตถึงสร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้า และช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณได้ในพริบตา! 1. คุ้มค่าคุ้มราคา การขายแบบเซ็ตเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าและผลประโยชน์ที่ได้รับจากการซื้อในครั้งนี้ เพราะลูกค้าได้สินค้าหลายชิ้นในราคาที่ถูกกว่าซื้อแยกแต่ละชิ้น เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าโดยตรง นอกจากนี้ การขายแบบเซ็ตยังช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มที่ลังเลในการตัดสินใจซื้อ ด้วยความรู้สึกว่า “ได้ของมากกว่าในราคาที่จ่ายน้อยกว่า” การนำเสนอเซ็ตสินค้าแบบนี้ไม่เพียงแค่เพิ่มยอดขายในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูมีความใส่ใจและเข้าใจความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้ลูกค้ามองว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับการสร้างความพึงพอใจและความคุ้มค่าแก่พวกเขา การขายแบบเซ็ตยังช่วยสร้างความจงรักภักดีในระยะยาว เพราะลูกค้าจะรู้สึกประทับใจกับความคุ้มค่าที่ได้รับ ทำให้พวกเขากลับมาซื้อซ้ำหรือแนะนำแบรนด์ให้กับคนรอบข้าง นอกจากนี้ เซ็ตโปรโมชั่นพิเศษ เช่น “เซ็ตต้อนรับปีใหม่” หรือ “เซ็ตวันแม่” ยังช่วยกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกและสร้างโอกาสในการขายในช่วงเวลาสำคัญ ตัวอย่าง : […]

ทำไม Special Set ถึงขายดี? 8 เหตุผลที่คุณต้องรู้!

อยากขายดีแบบม้วนเดียวจบ? ถ้าคุณเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่อยากเพิ่มยอดขายในช่วงเทศกาลพิเศษอย่างช่วงปีใหม่ New Year ต้องไม่พลาดกับกลยุทธ์สุดปังนี้!นั่นก็คือการจัด “Special Set” ไม่ใช่แค่การนำของมารวมกันธรรมดาๆ แต่มันคือ “ศาสตร์และศิลป์” ที่ช่วยทำให้สินค้าในร้านของคุณขายดีจนสต็อกแทบไม่พอ และสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้ลูกค้า จนอยากกลับมาซื้อซ้ำ! ไม่เพียงแต่ในช่วงปีใหม่เท่านั้น แต่ยังได้ผลดีในทุกเทศกาลสำคัญตลอดทั้งปี เช่น วันวาเลนไทน์ เทศกาลสงกรานต์ หรือแม้กระทั่งวันแม่ ลองคิดดูสิคะ… ถ้าลูกค้าเลื่อนดูร้านของคุณแล้วเจอสินค้าแบบเซ็ตที่จัดมาให้ครบ ใช้ง่าย คุ้มค่า และเหมาะกับโอกาสพิเศษ จะมีเหตุผลอะไรที่พวกเขาจะไม่กด “ซื้อ” ล่ะ? บทความนี้จะพาคุณมาไขความลับกับ 8 เหตุผลว่าทำไมสินค้าแบบเซ็ตถึงสร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้า และช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณได้ในพริบตา! 1. คุ้มค่าคุ้มราคา การขายแบบเซ็ตเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าและผลประโยชน์ที่ได้รับจากการซื้อในครั้งนี้ เพราะลูกค้าได้สินค้าหลายชิ้นในราคาที่ถูกกว่าซื้อแยกแต่ละชิ้น เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าโดยตรง นอกจากนี้ การขายแบบเซ็ตยังช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มที่ลังเลในการตัดสินใจซื้อ ด้วยความรู้สึกว่า “ได้ของมากกว่าในราคาที่จ่ายน้อยกว่า” การนำเสนอเซ็ตสินค้าแบบนี้ไม่เพียงแค่เพิ่มยอดขายในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูมีความใส่ใจและเข้าใจความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้ลูกค้ามองว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับการสร้างความพึงพอใจและความคุ้มค่าแก่พวกเขา การขายแบบเซ็ตยังช่วยสร้างความจงรักภักดีในระยะยาว เพราะลูกค้าจะรู้สึกประทับใจกับความคุ้มค่าที่ได้รับ ทำให้พวกเขากลับมาซื้อซ้ำหรือแนะนำแบรนด์ให้กับคนรอบข้าง นอกจากนี้ เซ็ตโปรโมชั่นพิเศษ เช่น “เซ็ตต้อนรับปีใหม่” หรือ “เซ็ตวันแม่” ยังช่วยกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกและสร้างโอกาสในการขายในช่วงเวลาสำคัญ ตัวอย่าง : […]