Knowledge Center

ถอนเงินจาก TikTok Shop สำหรับแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

แม่ค้าออนไลน์มือใหม่

การถอนเงินจาก TikTok Shop เป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้ขายออนไลน์มือใหม่ต้องทำความเข้าใจ เนื่องจาก TikTok Shop คือแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการขายสินค้าออนไลน์ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งผ่านโซเชียลมีเดีย การเข้าใจระบบการถอนเงินจะช่วยให้ TikTok Shop Seller สามารถบริหารจัดการรายได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำเงินไปใช้ในการลงทุนต่อยอดธุรกิจได้ทันที นอกจากนี้ การทำความเข้าใจเรื่องรอบการถอนเงิน เงื่อนไขการถอน และเอกสารที่จำเป็น จะช่วยให้การทำธุรกิจบน TikTok Shop ราบรื่นและประสบความสำเร็จในระยะยาว มาเรียนรู้ขั้นตอนการถอนเงินที่ถูกต้องกัน เพื่อให้การขายสินค้าออนไลน์ของคุณเป็นไปอย่างมืออาชีพ  

ถอนเงินจาก TikTok ทำได้อย่างไรบ้าง

ขั้นตอนการถอนเงินจาก TikTok สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้  

1. ถอนเงินด้วยตัวเอง

วิธีการถอนเงินจาก TikTok ด้วยตัวเองนั้น สามารถที่จะทำได้ง่าย ๆ ผ่านการตั้งค่าบนเว็บไซต์ TikTok Shop Seller Center และแอปพลิเคชัน Seller Center โดยสามารถทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ได้ ดังนี้ 

  1. ไปที่ตั้งค่า และเลือกเมนู ‘การเงิน’ จากนั้นคลิกปุ่ม ‘ถอน’
  2. หากคุณยังไม่มีข้อมูลบัญชีธนาคาร ให้คลิกที่ ‘เพิ่มบัญชีธนาคาร’ จากนั้นกรอกข้อมูลและรายละเอียดบัญชีที่จะรับเงินจาก TikTok Shop ให้เรียบร้อย โดยในขั้นตอนนี้จะสามารถเพิ่มบัญชีได้สูงสุด 5 บัญชี ตั้งค่ารหัส 6 หลัก เพื่อยืนยันการทำธุรกรรมให้เรียบร้อย
  3. กรอกรหัสถอนเงิน 6 หลัก และเลือกวิธีการจ่าย
  4. จากนั้นให้คลิกที่ ‘ดำเนินการต่อ’ หรือหากทำการถอนเงินบนแอปพลิเคชันให้คลิกที่ ‘ถอนตอนนี้’ 
  5. ระบุจำนวนเงินที่ต้องการจะถอน หลังจากที่กดถอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระบบจะทำการประมาณ 1 – 3 วันทำการ เงินก็จะเข้าไปยังบัญชีธนาคารที่คุณเลือกไว้    

2. ถอนเงินอัตโนมัติ

มาต่อกันที่วิธีการถอนเงินจาก TikTok อัตโนมัติ สามารถทำตามขั้นตอนได้ง่าย ๆ ได้ ดังนี้

  1. ไปที่ TikTok Shop Seller Center และไปที่เมนู ‘การเงิน’ และคลิกที่ปุ่ม ‘การถอนเงิน’ 
  2. คลิกที่เมนู ‘ตั้งค่าการถอนอัตโนมัติ’ 
  3. ในขั้นตอนนี้ หากคุณยังไม่ได้เพิ่มบัญชีธนาคาร สามารถคลิกที่เมนู ‘เพิ่มบัญชีธนาคาร’ กรอกข้อมูลรายละเอียดบัญชีให้เรียบร้อย และตั้งค่ารหัส 6 หลัก เพื่อยืนยันการทำธุรกรรมให้เรียบร้อย 
  4. จากนั้นระบุจำนวนเงินที่ต้องการจะให้ถอน และยืนยันด้วยรหัส 6 หลักอีกครั้ง เพียงเท่านี้ระบบก็จะทำการถอนเงินให้อัตโนมัติแล้ว 

ถอนเงินจาก TikTok ไม่ได้ ทำอย่างไรดี

การถอนเงินจาก TikTok ไม่ได้เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยสำหรับผู้ขายมือใหม่ ทั้งนี้ สาเหตุหลัก ๆ มักเกิดจากการตั้งค่าบัญชีที่ไม่สมบูรณ์ ยืนยันตัวตนที่ยังไม่ครบถ้วนหรือการกรอกข้อมูลบัญชีธนาคารที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น ควรตรวจสอบว่าได้ทำการยืนยันตัวตนและกรอกข้อมูลทางการเงินถูกต้องและครบถ้วนแล้ว รวมถึงตรวจสอบว่าบัญชีธนาคารที่ใช้ถอนเงินเป็นบัญชีที่มีชื่อตรงกับผู้ลงทะเบียนขายหรือไม่ นอกจากนี้ ควรรอให้พ้นระยะเวลาถอนเงินตามที่ TikTok Shop กำหนด หากทำตามคำแนะนำข้างต้นไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถถอนเงินได้ สามารถติดต่อศูนย์ช่วยเหลือของทาง TikTok เพื่อขอความช่วยเหลือได้โดยตรง 

แก้ไขปัญหาถอนเงินจาก TikTok ไม่ได้

ถอนเงินจาก TikTok กี่วันถึงจะได้เงิน 

ระยะเวลาในการถอนเงินจาก TikTok จะใช้เวลาประมาณ 1 – 3 วันทำการ นับจากวันที่ทำรายการถอนเงิน โดยระยะเวลาการรับเงินจะขึ้นอยู่กับธนาคารที่คุณได้เลือกไว้ ทั้งนี้ ผู้ขายควรวางแผนการถอนเงินล่วงหน้า เพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ร้านค้าจะต้องจัดการออเดอร์และจัดส่งให้ทันตามรอบเวลาที่กำหนด เพราะหากจัดการออเดอร์ล่าช้า จะส่งผลให้การรับเงินถูกเลื่อนออกไป ซึ่งอาจกระทบต่อเงินทุนหมุนเวียนในการบริหารธุรกิจ ด้วยบริการของ MyCloud ที่มีระบบ Order Management System จัดการออเดอร์แบบครบวงจร ตั้งแต่การหยิบสินค้า แพ็คสินค้าและจัดส่ง พร้อมทั้งยังมีฟีเจอร์ช่วยส่งเสริมการขายอย่าง MyCloud Sale Page เป็นเว็บไซต์หน้าการขายที่ร้านค้าสามารถสร้างได้ง่าย ๆ ผ่านระบบ MyCloud OMS ซึ่งข้อดีของฟีเจอร์นี้ ร้านค้าสามารถรับเงินและถอนเงินได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องรอระยะเวลาการโอนแบบที่ขายกับทาง TikTok Shop เพียงแค่ร้านค้านำลิงก์ Sale Page ที่สร้างนำไปโพสต์โปรโมต ให้ลูกค้ากดซื้อสินค้าผ่านลิงก์นี้แล้วชำระเงิน ระบบก็จะทำการประมวลผลให้อัตโนมัติ และยอดเงินที่โอนก็จะสามารถเช็กได้ทันที หลังจากนั้นคำสั่งซื่อที่เกิดขึ้นก็จะถูกส่งไปยังระบบคลังสินค้าของ MyCloud เพื่อทำการแพ็ก ส่ง โดยที่ร้านค้าไม่ต้องมาคอยคีย์ออเดอร์ย้อนหลังอีกด้วย       

ถ้าบัญชี TikTok Shop ถูกระงับการใช้งาน ยังสามารถถอนเงินได้อยู่หรือไม่

หากบัญชี TikTok Shop ของคุณถูกระงับการใช้งาน อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป ยอดเงินที่ยังคงเหลืออยู่ในระบบจะยังสามารถถอนออกได้ โดยสามารถเข้าสู่ระบบบนเว็บไซต์ TikTok Shop Seller Center และสามารถดำเนินการถอนเงินออกมาได้เลย เพียงแต่ช่องที่ถูกระงับการใช้งานอาจจะยังไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ โดยในขั้นตอนนี้ผู้ขายต้องแสดงหลักฐานยืนยันตัวตนและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาในการได้รับเงินอาจใช้เวลานานกว่าปกติ เนื่องจากต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบเพิ่มเติม  

ได้รับเงินจาก TikTok หลังเปิดร้านออนไลน์

สรุปบทความ

การถอนเงินจาก TikTok Shop เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ขายมือใหม่ต้องเรียนรู้ เพื่อให้สามารถบริหารรายได้และต่อยอดธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขายสามารถเลือกถอนเงินได้ 2 วิธี คือการถอนเงินด้วยตนเองผ่าน TikTok Shop Seller Center และแอปพลิเคชัน Seller Center หรือเลือกตั้งค่าการถอนเงินอัตโนมัติตามรอบที่กำหนด โดยทั่วไปการถอนเงินจะใช้เวลาประมาณ 1 – 3 วันทำการ นับจากวันที่ทำการถอนและขึ้นอยู่กับธนาคารที่ใช้บริการ อย่างไรก็ตาม การจะได้รับเงินตรงตามกำหนด ร้านค้าจำเป็นต้องจัดการออเดอร์และจัดส่งให้ทันตาม SLA ที่ TikTok Shop กำหนด ซึ่ง MyCloud พร้อมช่วยให้การจัดการออเดอร์ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยระบบคลังสินค้าที่ครบวงจร ทั้งการรับเข้าสินค้า จัดเก็บ หยิบสินค้า แพ็คและจัดส่ง พร้อมทั้งฟีเจอร์การขายอย่าง Sale Page ที่ช่วยเพิ่มช่องทางการขายให้กับร้านค้า และช่วยให้ร้านค้าบริหารจัดการการชำระเงินและการโอนเงินได้สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้สามารถนำเงินมาหมุนเวียนในธุรกิจได้ง่ายขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Omni Channel คืออะไร ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจในยุค Disruption ?

ความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าถือเป็นเป้าหมายสำคัญของธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องงัดเอากลยุทธ์ต่าง ๆ มาเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า และหัวใจสำคัญที่อยู่ในทุกขั้นตอนของการขาย ตั้งแต่เริ่มต้นทำความรู้จักลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ ไปจนถึงการบริการหลังการขายนั่นก็คือ การติดต่อสื่อสาร ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคคาดหวังการให้บริการแบบเรียลไทม์ ผ่านช่องทางที่หลากหลาย  ดังนั้นการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าทั้งออนไลน์ และการขายหน้าร้าน หรือที่เรียกว่าออฟไลน์นั้น จึงมีความสำคัญไม่แพ้กัน นี่จึงทำให้เกิดการตลาดแบบผสมผสานที่เรียกว่า Omni Channel Marketing ที่เป็นการผสมผสานทั้งสองช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อให้เกิดการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการบันทึกข้อมูลลูกค้าไว้ที่ระบบกลางเพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายต่อไป  แล้ว Omni Channel คืออะไร? Omni มาจากรากศัพท์ลาตินว่า Omnibus ซึ่งหมายถึง For All หรือ ทั้งหมด ในแง่ของ E-commerce คำว่า “Omni Channel” คือช่องทางการสื่อสารและบริการลูกค้าที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดเอาไว้ เพื่อทำให้การเข้าถึงข้อมูลลูกค้าเป็นไปได้ง่าย รวดเร็วและไร้รอยต่อ เรียกได้ว่าเป็นการรวมการตลาดจากทุกช่องทาง ช่วยดึงลูกค้าจากร้านค้าไปปิดการขายในช่องทางออนไลน์ หรือลูกค้าจากหน้าร้านให้ไปทำการซื้อ-ขายกันในช่องทางออนไลน์ได้เช่นกัน  ถือเป็นการหยิบยื่นประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพิ่มความสะดวกให้สามารถเข้าถึงการซื้อขายได้อย่างครอบคลุม โดยในปัจจุบันช่องทางการสื่อสารออนไลน์ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Email Direct Marketing, Website, […]

Marketplace ดังอย่าง lazada shopee ไม่แสดงข้อมูลผู้ซื้อ ใครเสียประโยชน์?

ผู้ขายหลาย ๆ คนคงจะงงกันไปตาม ๆ กันแน่นอนใช่ไหมล่ะคะ ก็อยู่ ๆ เบอร์โทร กับข้อมูลลูกค้าของเราจากบนแพลตฟอร์ม Marketplace ที่ขายของกันอยู่หายไป! วันนี้ MyCloud ขอนำ feedback จากทั้งฝั่งผู้ขาย และแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Lazada หรือ Shopee ก็ตามมาวิเคราะห์ให้อ่านกันค่ะ

มาดู! บูธแถวไหน ตำแหน่งไหน เป็นทำเลทอง – MyCloudFulfillment

นอกจากสถานที่จัดงานที่ต้องเดินทางสะดวกแล้ว ตำแหน่งที่ตั้งในการออกบูธก็สำคัญไม่แพ้กัน! 🎪 เพราะหลังจากที่ MyCloudFulfillment ไป Set up บูธให้ลูกค้าบ่อยๆ เราก็แอบสังเกตและเก็บข้อมูลมาฝากเพื่อนๆ โดยเฉพาะร้านค้าออนไลน์ที่อยากมีหน้าร้าน ก็ลองมาออกบูธดูก่อนก็ได้นะ ซ้อมไว้ๆ 😊 และที่สำคัญต้องแย่งชิงตำแหน่งทำเลทองให้ทัน จะมีโลเคชั่นไหนปังๆ บ้าง ไปดูกันเลย! 1.บูธแถวทางเข้าประตู จะมีตำแหน่งไหนเด่นกว่านี้อีก‼ เข้างานมาก็เจอร้านของคุณบูธแรกเลย แล้วถ้าจัดร้านสวยๆ ก็ยิ่งโดดเด่น เรียกความสนใจ ดึงดูดสายตาได้ดีเลยล่ะ และส่วนใหญ่บูธแถวๆทางเข้าประตู ก็จะโดนจับจองไปเร็วมากกกกก และอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าหน่อย 2.บูธแถวหัวมุม บูธหัวมุมก็จะแพงกว่าล็อคอื่นเช่นกัน แต่มันมีข้อดีตรงไหนรู้ไหม? เราจะได้พื้นที่ในการขายของที่ดีกว่า เพราะสามารถจัดวางสินค้าได้ถึง 2 ฝั่ง ดังนั้น เราควรจัดหน้าร้านให้เห็นหลายๆ ด้าน ไม่ใช่แค่ด้านหน้าด้านเดียว จัดเต็มแน่นๆ จุกๆ 3.บูธโซนกลาง ปกติแล้วเวลาเราเดินดูของ เราก็จะเลือกเดินแถวกลางจริงไหม? เพราะคิดว่าโซนริมๆ ไม่น่าสนใจ โซนกลางน่าจะมีแต่ร้านดังๆ มากกว่า ถ้าเพื่อนๆ เลือกได้ โซนนี้ก็น่าสนใจ คนจะเดินเข้ามาเยอะเป็นพิเศษ ไม่ต้องพูดเรียกลูกค้าให้เหนื่อยด้วย 😁 MyCloudFulfillment […]

Omni Channel คืออะไร ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจในยุค Disruption ?

ความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าถือเป็นเป้าหมายสำคัญของธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องงัดเอากลยุทธ์ต่าง ๆ มาเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า และหัวใจสำคัญที่อยู่ในทุกขั้นตอนของการขาย ตั้งแต่เริ่มต้นทำความรู้จักลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ ไปจนถึงการบริการหลังการขายนั่นก็คือ การติดต่อสื่อสาร ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคคาดหวังการให้บริการแบบเรียลไทม์ ผ่านช่องทางที่หลากหลาย  ดังนั้นการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าทั้งออนไลน์ และการขายหน้าร้าน หรือที่เรียกว่าออฟไลน์นั้น จึงมีความสำคัญไม่แพ้กัน นี่จึงทำให้เกิดการตลาดแบบผสมผสานที่เรียกว่า Omni Channel Marketing ที่เป็นการผสมผสานทั้งสองช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อให้เกิดการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการบันทึกข้อมูลลูกค้าไว้ที่ระบบกลางเพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายต่อไป  แล้ว Omni Channel คืออะไร? Omni มาจากรากศัพท์ลาตินว่า Omnibus ซึ่งหมายถึง For All หรือ ทั้งหมด ในแง่ของ E-commerce คำว่า “Omni Channel” คือช่องทางการสื่อสารและบริการลูกค้าที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดเอาไว้ เพื่อทำให้การเข้าถึงข้อมูลลูกค้าเป็นไปได้ง่าย รวดเร็วและไร้รอยต่อ เรียกได้ว่าเป็นการรวมการตลาดจากทุกช่องทาง ช่วยดึงลูกค้าจากร้านค้าไปปิดการขายในช่องทางออนไลน์ หรือลูกค้าจากหน้าร้านให้ไปทำการซื้อ-ขายกันในช่องทางออนไลน์ได้เช่นกัน  ถือเป็นการหยิบยื่นประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพิ่มความสะดวกให้สามารถเข้าถึงการซื้อขายได้อย่างครอบคลุม โดยในปัจจุบันช่องทางการสื่อสารออนไลน์ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Email Direct Marketing, Website, […]

Marketplace ดังอย่าง lazada shopee ไม่แสดงข้อมูลผู้ซื้อ ใครเสียประโยชน์?

ผู้ขายหลาย ๆ คนคงจะงงกันไปตาม ๆ กันแน่นอนใช่ไหมล่ะคะ ก็อยู่ ๆ เบอร์โทร กับข้อมูลลูกค้าของเราจากบนแพลตฟอร์ม Marketplace ที่ขายของกันอยู่หายไป! วันนี้ MyCloud ขอนำ feedback จากทั้งฝั่งผู้ขาย และแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Lazada หรือ Shopee ก็ตามมาวิเคราะห์ให้อ่านกันค่ะ

มาดู! บูธแถวไหน ตำแหน่งไหน เป็นทำเลทอง – MyCloudFulfillment

นอกจากสถานที่จัดงานที่ต้องเดินทางสะดวกแล้ว ตำแหน่งที่ตั้งในการออกบูธก็สำคัญไม่แพ้กัน! 🎪 เพราะหลังจากที่ MyCloudFulfillment ไป Set up บูธให้ลูกค้าบ่อยๆ เราก็แอบสังเกตและเก็บข้อมูลมาฝากเพื่อนๆ โดยเฉพาะร้านค้าออนไลน์ที่อยากมีหน้าร้าน ก็ลองมาออกบูธดูก่อนก็ได้นะ ซ้อมไว้ๆ 😊 และที่สำคัญต้องแย่งชิงตำแหน่งทำเลทองให้ทัน จะมีโลเคชั่นไหนปังๆ บ้าง ไปดูกันเลย! 1.บูธแถวทางเข้าประตู จะมีตำแหน่งไหนเด่นกว่านี้อีก‼ เข้างานมาก็เจอร้านของคุณบูธแรกเลย แล้วถ้าจัดร้านสวยๆ ก็ยิ่งโดดเด่น เรียกความสนใจ ดึงดูดสายตาได้ดีเลยล่ะ และส่วนใหญ่บูธแถวๆทางเข้าประตู ก็จะโดนจับจองไปเร็วมากกกกก และอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าหน่อย 2.บูธแถวหัวมุม บูธหัวมุมก็จะแพงกว่าล็อคอื่นเช่นกัน แต่มันมีข้อดีตรงไหนรู้ไหม? เราจะได้พื้นที่ในการขายของที่ดีกว่า เพราะสามารถจัดวางสินค้าได้ถึง 2 ฝั่ง ดังนั้น เราควรจัดหน้าร้านให้เห็นหลายๆ ด้าน ไม่ใช่แค่ด้านหน้าด้านเดียว จัดเต็มแน่นๆ จุกๆ 3.บูธโซนกลาง ปกติแล้วเวลาเราเดินดูของ เราก็จะเลือกเดินแถวกลางจริงไหม? เพราะคิดว่าโซนริมๆ ไม่น่าสนใจ โซนกลางน่าจะมีแต่ร้านดังๆ มากกว่า ถ้าเพื่อนๆ เลือกได้ โซนนี้ก็น่าสนใจ คนจะเดินเข้ามาเยอะเป็นพิเศษ ไม่ต้องพูดเรียกลูกค้าให้เหนื่อยด้วย 😁 MyCloudFulfillment […]