Knowledge Center

เลือก Fulfillment เจ้าไหนดี เทคนิคการเลือกใช้บริการในไทยให้คุณคุ้มค่าที่สุด!

เลือก Fulfillment เจ้าไหนดี

ปัจจุบันธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว การมีระบบจัดการคลังสินค้าและการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการลดภาระในการแพ็คของ ส่งของและบริหารสต๊อกสินค้า Fulfillment จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น 

แต่ด้วยจำนวนผู้ให้บริการ Fulfillment ที่มีอยู่มากมายในตลาด การเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากคุณกำลังมองหาบริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าออนไลน์ที่ช่วยแก้ปัญหาหลังบ้านให้กับธุรกิจ E-Commerce ของคุณแต่ยังลังเลว่าเจ้าไหนดี บทความนี้มีคำตอบค่ะ! 

วิธีเลือก Fulfillment เจ้าไหนดี ต้องดูอะไรบ้าง

อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็ว การเลือกผู้ให้บริการ Fulfillment ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถช่วยให้การจัดเก็บ แพ็คและจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น ลดต้นทุนและภาระงานของเจ้าของธุรกิจได้อย่างมาก แต่ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่มากมาย มาดูกันควรใช้เกณฑ์อะไรในการเลือก Fulfillment ให้ตอบโจทย์ธุรกิจของเรา? มาดูปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณากัน!

1. บริการ Fulfillment ที่ดีต้อง “ยืดหยุ่น” 

เพราะบริการ Fulfillment คือบริการ เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้าออนไลน์คือบริการที่ช่วยแก้ปัญหาหลังบ้านเหล่านี้ให้กับธุรกิจ E-Commerce และผู้ประกอบการรายย่อย ดังนั้นจึงต้องมีความยืดหยุ่นและ Customize ในทุกขั้นตอนการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบริการเองก็ดี หรือราคาก็ดี

ใครที่กำลังมองหาคลังสินค้าที่ใหญ่พอในการเช่าพื้นที่เก็บของ แต่ต้องมาติดปัญหาเงื่อนไขสัญญารายปี ช่วงไหนที่ไม่ได้ใช้พื้นที่เก็บเยอะก็ต้องจ่ายเท่าเดิมเราแนะนำ MyCloud Fulfillment ที่ยืดหยุ่นตามที่คุณต้องการแบบ Pay As You Go ใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้นค่ะ อยากขยายพื้นที่ตอนที่ธุรกิจเติบโตไปได้ดี เราก็มีพื้นที่ให้คุณมากพอโดยไม่ต้องทำสัญญาผูกมัด พร้อมกับเรทราคาพิเศษ สำหรับลูกค้าองค์กร หรือ B2B Rate อีกด้วย นอกจากนี้บริการของเราถือเป็นบริการที่มีความยืดหยุ่น เพราะร้านค้าสามารถจ่ายค่าบริการ การจัดการออเดอร์ตามจำนวนออเดอร์ที่เกิดขึ้นจริง และเมื่อมีจำนวนออเดอร์ที่เพิ่มมาขึ้น คลังสินค้า MyCloud ก็มีพื้นที่ในการรองรับ โดยที่ร้านค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในส่วนของพื้นที่ การบริการที่ยืดหยุ่นช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างไม่มีสะดุดและบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด   

2. ไม่เลือกจากราคา “ถูก” ที่สุด แต่ให้เลือก “คุ้มค่า” ที่สุด 

แน่นอนค่ะว่าถูกที่สุดไม่ใช่ดีที่สุด แต่ถูก ๆ ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ดี แต่การเลือกพาร์ทเนอร์เพื่อมาช่วยให้ธุรกิจที่คุณทุ่มเททั้งกายและใจสร้างขึ้นมา และเสียเงินลงทุนไปแล้วนั้น ต้องเลือกที่คุ้มค่ามากที่สุดจะดีกว่าค่ะ ซึ่งคำว่าคุ้มก็คือมีผลงานที่สามารถมัดใจลูกค้า หรือสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ได้จนทำให้เกิดความประทับใจและมีลูกค้าประจำได้ เพราะรู้หรือไม่คะ? ลูกค้ามักจะประทับใจมาก หากได้รับมากกว่าที่คาดหวัง นอกจากสินค้าและบริการจะมีคุณภาพ ตรงปกตามที่ต้องการแล้ว การแพ็ค หรือการมัดใจลูกค้าด้วยบริการหลังบ้านนี้เองก็มีความสำคัญมากในปัจจุบัน หรือที่เรียกกันว่า “เทคนิคจีบลูกค้า” นั่นเองค่ะปรับแต่งบริการให้เหมาะกับธุรกิจของคุณที่สุดกับ MyCloud Fulfillment คลังสินค้าออนไลน์ที่ให้คุณมากกว่าการเก็บ แพ็ก ส่งสินค้า ด้วยระบบการเชื่อมต่อการขายและยังมีฟีเจอร์ช่วยส่งเสริมการขายที่ช่วยให้คุณเติบโตได้เหนือกว่าคู่แข่ง ไ่ม่ว่าเป็น Promotion Automation ช่วยให้คุณทำโปรโมชันของแถมได้อย่างหลากหลาย Sale Page ขยายช่องมทางการขาย ช่วยเพิ่มกำไร และลดต้นทุนค่าธรรมเนียมให้ถูกลง Virtual Bundle จัดเซ็ตพิเศษเอาใจลูกค้าสายคุ้ม โดยที่ร้านค้าไม่ต้องจัดเซ็ตแยกหรือเช่าพื้นที่จัดเก็บเพิ่ม และยังมี Dashboard สรุปข้อมูลร้านค้าเพื่อนำไปวิเคราะห์ในการบริการจัดการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เรียกว่าครบวงจรและคุ้มค่ามาก ๆ ถ้าหากต้องเลือกพาร์ทเนอร์ให้กับธุรกิจของคุณ สามารถคลิกที่นี่ เพื่อปรึกษาด้านการขายของออนไลน์​และการจัดการร้านค้าออนไลน์ได้เลย

เทคนิคการเลือกใช้บริการ Fulfillment

3. เลือกบริการ Fulfillment ที่ดูแลสินค้า ได้ดีเท่ากับเจ้าของธุรกิจดูแลเอง 

ข้อนี้สำคัญไม่แพ้กันเลยนะคะ เพราะเจ้าของธุรกิจเองก็คงอดเป็นห่วงคุณภาพสินค้าของตัวเองไม่ได้ว่า เมื่อสินค้าส่งตรงจากโรงงานเพื่อไปเก็บที่คลังสินค้า ปกติแล้วเจ้าของจะต้องเป็นคนตรวจเช็คสินค้าเองใช่ไหมล่ะคะ? ดังนั้นจึงมีความกังวลว่าสินค้าจะไม่ได้รับการ QC แบบเจ้าของหรือเปล่า ไม่มีใครอยากให้ลูกค้าได้รับสินค้าหลุด QC แน่นอน

MyCloud Fulfillment เราตอบโจทย์ข้อนี้ด้วยบริการ QC เช็กสินค้าได้แบบละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจนับสินค้า ชั่งน้ำหนักสินค้า วัดไซส์สินค้า QC สินค้าจากโรงงานให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ติดสติ๊กเกอร์ สคบ. และบาร์โค้ด เปลี่ยน Packaging สินค้าให้อยู่ในแพ็คเกจแบรนด์เพื่อสร้างแบรนด์ เปลี่ยนอะไหล่ประกอบสินค้า จัดเซ็ตสินค้าก่อนจัดเก็บ QC สินค้าก่อนแพ็ค ตัดด้าย ทำความสะอาด ประกอบสินค้าก่อนแพ็ค เปลี่ยนอะไหล่ก่อนแพ็คหรือเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้ง ใส่กระเป๋าหรือถุงของแบรนด์ เราก็ทำได้ทั้งนั้น

บริการ Fulfillment ครบวงจร

4. บริการที่ครบจบที่เดียว 

เมื่อมองหาผู้ช่วยแล้ว ก็ควรต้องครบ จบในที่เดียว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หรือ ข้อจำกัดได้ในอนาคต ดังนั้นผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหลายช่องทางจะต้องมีระบบที่ช่วยให้ทุกช่องทางการขายนั้นเชื่อมต่อกันได้อย่างไม่มีสะดุด เพื่อที่จะได้ดูแลทุกออเดอร์ได้อย่างทั่วถึง ไม่มีตกหล่น ทำให้ร้านค้าไม่พลาดโอกาสในการทำยอดขายในทุกแพลตฟอร์ม 

MyCloud Fulfillment ที่นี่ที่เดียวจบ เริ่มต้นด้วยระบบที่สามารถเชื่อมต่อกับทุกช่องทางการขาย ช่วยให้ ช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบันที่ขายหลายช่องทาง (Omni-Channel) ไม่ว่าจะเป็น Lazada, Shopee, TikTok Shop หรือเว็บไซต์ส่วนตัว (Sale Pages) ขายได้อย่างสบายใจ ไม่ติดปัญหาด้วยการใช้สต๊อกเดียวเชื่อมต่อทุกช่องทางการขาย ทำให้ประหยัดค่าพื้นที่และสามารถบริหารจัดการสต๊อกได้ในระบบเดียว และสามารถจัดการออเดอร์ แพ็ค และส่งสินค้าได้อย่างครบทุกขั้นตอน ที่สำคัญที่สุดทุกออเดอร์จะถูกจัดการได้อย่างรวดเร็วและส่งถึงมือลูกค้าปลายทางได้อย่างไร้กังวล ช่วยให้ร้านค้ามีคะแนนร้านค้าในเกณฑ์ที่ดี ส่งผลต่อการเข้าร่วมแคมเปญและการเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการตรวจนับสต๊อก และจัดการสต๊อกอย่างเป็นระบบ พร้อม Support ร้านค้าด้านข้อมูลเชิงลึก เพื่อวางแผนสต๊อกสินค้า ซึ่งมีผลต่อการบริหารจัดการและการขยายธุรกิจต่อไป รวมถึงการจัดส่งไปยังศูนย์กระจายสินค้า หรือ ช็อปสาขาต่าง ๆ เพื่อวางขายหน้าร้านแบบออฟไลน์ได้แบบครบวงจรอีกด้วย

5. เลือกผู้ให้บริการ Fulfillment ที่พร้อมแนะนำ สนับสนุน และให้คำปรึกษา 

การขายหลายที่ ทำหลายโปรโมชั่น จัดการสต๊อกและออเดอร์ก็เป็นเรื่องยากมากสำหรับธุรกิจที่ไม่มีระบบ หรือผู้ช่วยที่มีความเชี่ยวชาญ ดังนั้นมองหาผู้ช่วยทั้งที่ก็เลือกผู้เชี่ยวชาญไปเลยสิคะ อะไรที่ไม่ถนัดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนถนัด แล้วเอาเวลาอันมีค่าของคุณไปพัฒนาธุรกิจ หรือเพิ่มยอดขายดีกว่าค่ะ

MyCloud Fulfillment เราเข้าใจคุณเป็นอย่างดี เราจึงมีบริการที่ตอบโจทย์ธุรกิจออนไลน์มากที่สุด ด้วยการพัฒนาระบบการจัดการร้านค้าออนไลน์อัตโนมัติช่วยให้การทำงานและบริหารจัดการทุกอย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยระบบของเราสามารถเชื่อมต่อกับช่องทางการขายได้ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Lazada, Shopee, TikTok Shop เว็บไซต์ธุรกิจหรือการขายทาง Social media อย่าง Line OA, Facebook, Instargram ยิ่งไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ หากคุณต้องการขายผ่านทาง Social Commerce ทุกการขายผ่านทางแชท ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านลิงก์ Chat Commerce ที่ร้านค้าส่งให้และทุกออเดอร์จะถูกจัดการได้ง่าย ครบ จบทีเดียวเลยค่ะ นอกจากนี้ MyCloud ยังให้บริการร้านค้าตลอด 365 วัน เพื่อสนับสนุนการเติบโตของร้านค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมจัดการออเดอร์ที่เข้ามาได้ตลอด 24 ชั่วโมงในทุกช่วงเวลา สามารถเพิ่มกำลังคนในการจัดการออเดอร์ได้ทันทีในช่วงแคมเปญ ด้วยพนักงานมากกว่า 1,200 คน 

นอกจาก นี้ยังมีทีมงาน Customer Service คอยให้การซัพพอร์ตเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ตลอดการใช้บริการ และมีทีม Client Relations ที่คอยให้คำปรึกษาร้านค้า พร้อมสรุปข้อมูลการขายและภาพรวมร้านค้า เพื่อนำไปวิเคราะห์ทำการตลาดและพัฒนาธุรกิจต่อไปได้ 

สรุปบทความ 

หากคุณกำลังมองหาบริการ Fulfillment ที่ช่วยให้ธุรกิจ E-Commerce ของคุณเติบโตได้อย่างราบรื่น บทความนี้ได้รวบรวมปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกผู้ให้บริการที่ตอบโจทย์ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความ ยืดหยุ่น ของบริการที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับธุรกิจได้ การเลือกบริการที่คุ้มค่ามากกว่าการมองแค่ราคาถูกที่สุด คุณภาพการดูแลสินค้าที่เปรียบเสมือนเจ้าของธุรกิจดูแลเอง รวมถึงการมีบริการครบวงจรที่ช่วยให้การจัดเก็บ แพ็ค ส่ง และบริหารสต๊อกสินค้ามีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ผู้ให้บริการที่ดีควรมีระบบ สนับสนุนและให้คำปรึกษา อย่างมืออาชีพ เพื่อช่วยให้คุณโฟกัสกับการพัฒนาธุรกิจและเพิ่มยอดขายได้อย่างเต็มที่ หากต้องการระบบจัดการหลังบ้านที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง

          MyCloud Fulfillment มีทีม support ที่จะช่วยรับเรื่องและแก้ไขปัญหา อย่างทีม Customer Service  ที่ช่วยแก้ไขปัญหาให้ร้านค้าและสามารถปิดเคส ได้กว่า 90 % นอกจากนี้เรายังมีทีม Client Relation ที่จะช่วยสรุปและวิเคราะห์ข้อมูลภาพรวมการขายของร้านค้า พร้อมอัปเดตเทรนด์การขายใหม่ ๆ หรือการทำโปรโมชันที่เหมาะสม รวมถึงอัปเดตในส่วนของฟีเจอร์ส่งเสริมการขายที่ช่วยให้ธุรกิจแข่งขันได้กับคู่แข่งได้ดียิ่งขึ้น

          สุดท้ายนี้การเลือกผู้ช่วยหลังบ้าน เพื่อเข้าไปดูแลงาน เก็บ แพ็ค ส่ง ต้องเลือกผู้ให้บริการ Fulfillment ที่ให้บริการอย่างยืดหยุ่น ใส่ใจ ดูแลสินค้าของคุณตั้งแต่ต้นจนจบส่งมอบให้กับลูกค้าปลายทาง ให้เกิดความประทับใจ จนนำไปสู่การซื้อซ้ำและบอกต่อ โดยไม่กังวลเรื่องราคาจนเกินไป เพราะเชื่อเถอะค่ะว่า ทำเองกับจ้างผู้เชี่ยวชาญ ผลลัพธ์ต่างกันมาก เผลอ ๆ ค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็น (Hidden Cost) เยอะกว่าด้วยค่ะ 

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com 

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร: 092-472-7742, 098-278-6500

อีเมล: [email protected] 

line: @mycloudgroup

MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก

บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

คู่มือสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ขายของออนไลน์ ต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง 

หากพูดถึงการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ก็คงเป็นเรื่องที่ดูจะง่ายดายใช่ไหมล่ะ แต่จริง ๆ แล้วหลายคนอาจไม่ทราบว่าการขายของออนไลน์นั้นต้องมีการจดทะเบียนตามกฎหมายเช่นเดียวกับการเปิดร้านค้าแบบมีหน้าร้าน เพราะการจดทะเบียนนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอีกด้วย ในบทความนี้ MyCloud จะพาคุณไปดูว่า การจดทะเบียนขายของออนไลน์ ตั้งแต่การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไปจนถึงการจดทะเบียนรับรองคุณภาพสินค้า พร้อมเอกสารที่จำเป็นทั้งสำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล มีอะไรและมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง     ขายของออนไลน์ ต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง การขายของออนไลน์ในปัจจุบันนั้นมีขั้นตอนทางกฎหมายที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการเพื่อให้ธุรกิจเป็นไปอย่างถูกต้อง ซึ่งหลัก ๆ แล้ว ต้องจดทะเบียนทั้ง 3 อย่าง ดังนี้  1. จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD) สำหรับผู้ขายออนไลน์ที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ถือว่าเป็นวิธีที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณได้ เนื่องจากการขายสินค้าออนไลน์ก็เปรียบเสมือนการมีหน้าร้าน จึงต้องมีการจดทะเบียนเช่นเดียวกับร้านค้าทั่วไป แต่จะแตกต่างตรงที่เป็นการจดทะเบียนพาณิชย์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันตัวตนของผู้ประกอบการและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าธุรกิจของคุณมีตัวตนที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น  2. จดภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่มียอดขายเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่กฎหมายกำหนด หากธุรกิจของคุณยังไม่ถึงเกณฑ์นี้แต่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต การขยายช่องทางการขายเพิ่มเติมถือเป็นทางเลือกที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปถึงยอดขายตามเงื่อนไขได้ ซึ่งปกติธุรกิจส่วนใหญ่ก็มักขายผ่าน Marketplace ต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada, TikTok Shop หรือ […]

เทคนิคการจัดโปรโมชั่นอย่างไรให้ปัง ฉบับขายของออนไลน์ 2025 ทำครั้งเดียว ยอดขายพุ่งทั้งเดือน

ยุคนี้ใคร ๆ ก็ขายของออนไลน์กันทั้งนั้นใช่ไหม การแข่งขันในตลาดก็สูงปรี๊ดชนิดที่ว่าถ้าไม่ปรับตัวก็อยู่ยาก หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้ร้านของคุณโดดเด่นและมัดใจลูกค้าได้อยู่หมัด ก็คือการจัดโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจนั่นเอง วันนี้ MyCloud ขอแชร์เทคนิคจัดโปรโมชั่นให้ปังแบบฉบับร้านค้าออนไลน์ปี 2025 ที่รับรองว่าทำครั้งเดียว ยอดขายพุ่งทั้งเดือน! การจัดโปรโมชั่น สำคัญแค่ไหนในยุคขายของออนไลน์ ลองสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ดูสิ พวกเขาไม่ได้แค่มองหาสินค้าดีมีคุณภาพอย่างเดียวแล้ว แต่ยังฉลาดเลือกและเปรียบเทียบราคาเก่งขึ้นมาก พวกเขามักจะมองหาดีลพิเศษ คูปองส่วนลดหรืออะไรก็ตามที่ทำให้รู้สึกว่า “คุ้มค่า” ที่สุดก่อนตัดสินใจซื้อ ยิ่งในยุคที่ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงง่ายแค่ปลายนิ้ว การเข้าถึงโปรโมชั่นก็ง่ายขึ้นตามไปด้วย นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมการจัดโปรโมชั่นถึงสำคัญมาก ๆ เพราะมันคือเครื่องมือชั้นดีที่จะดึงดูดลูกค้าใหม่ให้เข้ามา และยังช่วยรักษาฐานลูกค้าเก่าให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ด้วย  ทำไมร้านค้าออนไลน์ควรใส่ใจการจัดโปรโมชั่นมากกว่าเดิม  จากที่บอกไปว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเยอะมาก ทุกวันนี้แค่มีสินค้าดีอย่างเดียวไม่พอแล้ว ร้านค้าออนไลน์ต้องคิดหาวิธีดึงดูดความสนใจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งโปรโมชั่นก็คือหนึ่งในวิธีที่ได้ผลดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงเวลาที่ต้องการ ระบายสต๊อกสินค้าเก่า สร้างการรับรู้แบรนด์หรือแม้แต่สร้างความภักดีของลูกค้า การจัดโปรโมชั่นที่เหมาะสมจะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดเลย  แชร์ 6 เทคนิคการจัดโปรโมชั่นให้ปังในปี 2025  1. โปรแฟลชเซลล์ (Flash Sale) สร้างแรงดึงดูดทันที โปรโมชั่นสุดฮิตที่ใคร ๆ ก็ชอบ! การจัด Flash Sale คือการลดราคาสินค้าแบบจัดหนักจัดเต็มในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น […]

รู้จัก Red Ocean คืออะไร ต่างจาก Blue Ocean อย่างไรบ้าง

          สงสัยกันไหมคะว่า Red Ocean และ Blue Ocean Strategy นั้นคืออะไร? แม้ว่าจะเคยได้ยินกันบ่อย ๆ แต่ก็ดูเป็นเรื่องไกลตัวใช่ไหมล่ะคะ สักทีวันนี้ MyCloud จะพาผู้อ่านทุกคนไปรู้จักกับ กลยุทธ์ Red Ocean และ Blue Ocean รวมถึงมองภาพรวมทั้งสองกลยุทธ์บนตลาดออนไลน์ของไทย อย่าง Marketplace ชื่อดังอย่าง Lazada และ Shopee รวมถึงช่องทางการขายออนไลน์อื่น ๆ อีกด้วย  Red Ocean Strategy (กลยุทธ์น่านน้ำสีแดง) คืออะไร  Red Ocean Strategy คือคำนิยามของกลยุทธ์ทางการตลาดที่เข้มข้น เปรียบเสมือนกับสีแดง เนื่องมาจากการแข่งขันทางการตลาดสูง และมีคู่แข่งที่มีธุรกิจลักษณะคล้ายกันจำนวนมาก ไม่โดดเด่น ทำให้ต้องแข่งขันกันที่ด้านอื่น ๆ เพื่อดึงดูดผู้บริโภค โดยมักจะแข่งขันกันจนเป็นสงครามราคา หรือการทำโปรโมชันลดราคา เพื่อเอาชนะคู่แข่ง จาก […]

คู่มือสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ขายของออนไลน์ ต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง 

หากพูดถึงการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ก็คงเป็นเรื่องที่ดูจะง่ายดายใช่ไหมล่ะ แต่จริง ๆ แล้วหลายคนอาจไม่ทราบว่าการขายของออนไลน์นั้นต้องมีการจดทะเบียนตามกฎหมายเช่นเดียวกับการเปิดร้านค้าแบบมีหน้าร้าน เพราะการจดทะเบียนนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอีกด้วย ในบทความนี้ MyCloud จะพาคุณไปดูว่า การจดทะเบียนขายของออนไลน์ ตั้งแต่การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไปจนถึงการจดทะเบียนรับรองคุณภาพสินค้า พร้อมเอกสารที่จำเป็นทั้งสำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล มีอะไรและมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง     ขายของออนไลน์ ต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง การขายของออนไลน์ในปัจจุบันนั้นมีขั้นตอนทางกฎหมายที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการเพื่อให้ธุรกิจเป็นไปอย่างถูกต้อง ซึ่งหลัก ๆ แล้ว ต้องจดทะเบียนทั้ง 3 อย่าง ดังนี้  1. จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD) สำหรับผู้ขายออนไลน์ที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ถือว่าเป็นวิธีที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณได้ เนื่องจากการขายสินค้าออนไลน์ก็เปรียบเสมือนการมีหน้าร้าน จึงต้องมีการจดทะเบียนเช่นเดียวกับร้านค้าทั่วไป แต่จะแตกต่างตรงที่เป็นการจดทะเบียนพาณิชย์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันตัวตนของผู้ประกอบการและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าธุรกิจของคุณมีตัวตนที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น  2. จดภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่มียอดขายเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่กฎหมายกำหนด หากธุรกิจของคุณยังไม่ถึงเกณฑ์นี้แต่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต การขยายช่องทางการขายเพิ่มเติมถือเป็นทางเลือกที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปถึงยอดขายตามเงื่อนไขได้ ซึ่งปกติธุรกิจส่วนใหญ่ก็มักขายผ่าน Marketplace ต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada, TikTok Shop หรือ […]

เทคนิคการจัดโปรโมชั่นอย่างไรให้ปัง ฉบับขายของออนไลน์ 2025 ทำครั้งเดียว ยอดขายพุ่งทั้งเดือน

ยุคนี้ใคร ๆ ก็ขายของออนไลน์กันทั้งนั้นใช่ไหม การแข่งขันในตลาดก็สูงปรี๊ดชนิดที่ว่าถ้าไม่ปรับตัวก็อยู่ยาก หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้ร้านของคุณโดดเด่นและมัดใจลูกค้าได้อยู่หมัด ก็คือการจัดโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจนั่นเอง วันนี้ MyCloud ขอแชร์เทคนิคจัดโปรโมชั่นให้ปังแบบฉบับร้านค้าออนไลน์ปี 2025 ที่รับรองว่าทำครั้งเดียว ยอดขายพุ่งทั้งเดือน! การจัดโปรโมชั่น สำคัญแค่ไหนในยุคขายของออนไลน์ ลองสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ดูสิ พวกเขาไม่ได้แค่มองหาสินค้าดีมีคุณภาพอย่างเดียวแล้ว แต่ยังฉลาดเลือกและเปรียบเทียบราคาเก่งขึ้นมาก พวกเขามักจะมองหาดีลพิเศษ คูปองส่วนลดหรืออะไรก็ตามที่ทำให้รู้สึกว่า “คุ้มค่า” ที่สุดก่อนตัดสินใจซื้อ ยิ่งในยุคที่ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงง่ายแค่ปลายนิ้ว การเข้าถึงโปรโมชั่นก็ง่ายขึ้นตามไปด้วย นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมการจัดโปรโมชั่นถึงสำคัญมาก ๆ เพราะมันคือเครื่องมือชั้นดีที่จะดึงดูดลูกค้าใหม่ให้เข้ามา และยังช่วยรักษาฐานลูกค้าเก่าให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ด้วย  ทำไมร้านค้าออนไลน์ควรใส่ใจการจัดโปรโมชั่นมากกว่าเดิม  จากที่บอกไปว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเยอะมาก ทุกวันนี้แค่มีสินค้าดีอย่างเดียวไม่พอแล้ว ร้านค้าออนไลน์ต้องคิดหาวิธีดึงดูดความสนใจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งโปรโมชั่นก็คือหนึ่งในวิธีที่ได้ผลดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงเวลาที่ต้องการ ระบายสต๊อกสินค้าเก่า สร้างการรับรู้แบรนด์หรือแม้แต่สร้างความภักดีของลูกค้า การจัดโปรโมชั่นที่เหมาะสมจะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดเลย  แชร์ 6 เทคนิคการจัดโปรโมชั่นให้ปังในปี 2025  1. โปรแฟลชเซลล์ (Flash Sale) สร้างแรงดึงดูดทันที โปรโมชั่นสุดฮิตที่ใคร ๆ ก็ชอบ! การจัด Flash Sale คือการลดราคาสินค้าแบบจัดหนักจัดเต็มในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น […]

รู้จัก Red Ocean คืออะไร ต่างจาก Blue Ocean อย่างไรบ้าง

          สงสัยกันไหมคะว่า Red Ocean และ Blue Ocean Strategy นั้นคืออะไร? แม้ว่าจะเคยได้ยินกันบ่อย ๆ แต่ก็ดูเป็นเรื่องไกลตัวใช่ไหมล่ะคะ สักทีวันนี้ MyCloud จะพาผู้อ่านทุกคนไปรู้จักกับ กลยุทธ์ Red Ocean และ Blue Ocean รวมถึงมองภาพรวมทั้งสองกลยุทธ์บนตลาดออนไลน์ของไทย อย่าง Marketplace ชื่อดังอย่าง Lazada และ Shopee รวมถึงช่องทางการขายออนไลน์อื่น ๆ อีกด้วย  Red Ocean Strategy (กลยุทธ์น่านน้ำสีแดง) คืออะไร  Red Ocean Strategy คือคำนิยามของกลยุทธ์ทางการตลาดที่เข้มข้น เปรียบเสมือนกับสีแดง เนื่องมาจากการแข่งขันทางการตลาดสูง และมีคู่แข่งที่มีธุรกิจลักษณะคล้ายกันจำนวนมาก ไม่โดดเด่น ทำให้ต้องแข่งขันกันที่ด้านอื่น ๆ เพื่อดึงดูดผู้บริโภค โดยมักจะแข่งขันกันจนเป็นสงครามราคา หรือการทำโปรโมชันลดราคา เพื่อเอาชนะคู่แข่ง จาก […]