Knowledge Center

แม่ค้าออนไลน์ต้องรู้! ขายของใน tiktok ส่งของยังไง ทำตามได้ง่าย ๆ

ขายของใน tiktok ส่งของยังไง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า TikTok Shop กลายเป็นช่องทาง Marketplace ที่สำคัญของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ยุคนี้ ด้วยฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่และฟีเจอร์ที่เอื้อต่อการขาย แต่พอออเดอร์เข้ามา คำถามยอดฮิตที่ตามมาติด ๆ ก็คือขายของใน TikTok ส่งของยังไง ทำอย่างไรให้ลูกค้าประทับใจและร้านค้าไม่สะดุด เพราะการจัดการเรื่องการจัดส่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ของลูกค้าและความน่าเชื่อถือของร้านค้า บทความนี้ MyCloud Fulfillment จะพาไปเจาะลึกทุกขั้นตอนการส่งของใน TikTok Shop พร้อมเคล็ดลับให้การจัดการออเดอร์ของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุดกัน! 

ขายของใน TikTok ส่งของยังไง

เมื่อได้รับคำสั่งซื้อที่ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจัดส่งสินค้า ซึ่งคำถามว่า ขายของใน TikTok ส่งของยังไงนั้น มีคำตอบหลัก ๆ อยู่ 2 วิธีตามที่ TikTok Shop กำหนดไว้ให้ผู้ขายเลือกใช้ตามความสะดวกและลักษณะของร้านค้า ได้แก่ การจัดส่งผ่านแพลตฟอร์ม (Ship via Platform) และการจัดส่งโดยผู้ขาย (Ship by Seller) ซึ่งแต่ละวิธีก็มีรายละเอียดและขั้นตอนแตกต่างกันไป มาดูกันดีกว่าว่า ร้านค้าของคุณเหมาะกับวิธีไหน ดังนี้  

จัดส่งผ่านแพลตฟอร์ม 

สำหรับการจัดส่งผ่านแพลตฟอร์มนั้น ร้านค้าที่เลือกขั้นตอนการจัดส่งผ่านแพลตฟอร์ม ก็สามารถสร้างใบปะหน้าและติดตามสถานะทำได้ง่ายผ่าน Seller Center โดยตรง เหมาะสำหรับร้านค้าทั่วไปที่ขายสินค้าขนาดมาตรฐาน หรือแม้แต่ร้านที่อาจมีสินค้าขนาดใหญ่ หากเปิดตัวเลือกขนส่ง Bulky ไว้ 

ขั้นตอนการจัดส่งผ่านแพลตฟอร์ม

  1. ตั้งค่าเริ่มต้น (ครั้งแรก/เมื่อต้องการเปลี่ยน) ใน Seller Center เข้าไปที่การตั้งค่าการดำเนินการตามคำสั่งซื้อ เพื่อเลือกว่าจะให้ขนส่งมารับ (Pickup) หรือนำไปส่งที่จุดบริการ (Drop-off) รวมถึงตั้งค่าที่อยู่คลังสินค้าให้ถูกต้อง
  2. ตรวจสอบการตั้งค่า เช็กว่าได้เปิดตัวเลือกการจัดส่งแบบ Standard และ Bulky หรือไม่ แต่จะแนะนำให้เปิดทั้งคู่ และที่สำคัญคือกรอกน้ำหนักและขนาดพัสดุให้ถูกต้องพร้อมหน่วย เพื่อป้องกันค่าส่งที่คลาดเคลื่อน
  3. จัดการคำสั่งซื้อ เมื่อมีออเดอร์เข้ามาในสถานะ “ที่จะจัดส่ง” ให้เข้าไปที่ จัดการคำสั่งซื้อ
  4. เลือกและนัดหมาย เลือกคำสั่งซื้อที่ต้องการ โดยให้เลือกทีละรายการหรือเลือกทั้งหมดสูงสุด 600 รายการ โดยต้องกด “เลือกคำสั่งซื้อทั้งหมด XXX รายการ” แล้วคลิกนัดหมายการจัดส่ง
  5. พิมพ์ใบปะหน้าพัสดุ ระบบจะสร้างฉลากการจัดส่งและเอกสารอื่น ๆ ให้ เลือกขนาดและรูปแบบที่ต้องการ แล้วพิมพ์ออกมาแปะหน้ากล่อง แต่แนะนำให้ดาวน์โหลดไฟล์เก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย 
  6. ส่งมอบพัสดุ นำพัสดุไปส่งที่จุด Drop-off หรือรอขนส่งเข้ามารับตามที่ตั้งค่าไว้ เมื่อขนส่งสแกนพัสดุ สถานะจะอัปเดตเป็น “เข้ารับพัสดุแล้ว” อัตโนมัติ

สำหรับวิธีการจัดส่งนี้ ทางร้านค้าจำเป็นต้องดำเนินการนัดหมายและส่งมอบให้ขนส่งภายในเวลาที่ทางแพลตฟอร์มกำหนด เพื่อเพิ่มคะแนน Fast Fulfillment Rate (FFR) ตามข้อกำหนด SLA ที่ทาง TikTok Shop กำหนดไว้ และเพื่อเพิ่มการมองเห็นให้ร้านของคุณด้วยเช่นกัน

แพ็คสินค้า

จัดส่งโดยผู้ขาย 

วิธีนี้เหมาะสำหรับ TikTok Shop Seller ที่ต้องการจัดการเรื่องขนส่งเองทั้งหมด อาจมีดีลพิเศษกับขนส่งเจ้าประจำหรือขายสินค้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ แต่ก็ต้องรับผิดชอบในการอัปเดตข้อมูลเข้าระบบ Seller Center ด้วยตนเอง

ขั้นตอนการจัดส่งโดยผู้ขาย 

  1. ดาวน์โหลดข้อมูลคำสั่งซื้อ ใน Seller Center ไปที่ จัดการคำสั่งซื้อ > เตรียมจัดส่ง > ส่งออกคำสั่งซื้อ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ Excel ที่มีรายละเอียดออเดอร์และข้อมูลลูกค้า
  2. แพ็คและจัดส่งเอง จัดเตรียมสินค้า แพ็คลงกล่องและติดต่อประสานงานกับบริษัทขนส่งที่เลือกใช้เอง เพื่อนัดหมายเข้ารับหรือนำไปส่ง
  3. อัปโหลดข้อมูลการติดตาม ขั้นตอนนี้สำคัญมาก! โดยหลังจากส่งสินค้าแล้ว ต้องกลับมาที่ Seller Center เพื่อกรอกข้อมูลการจัดส่ง โดยสามารถทำได้ 2 แบบ ดังนี้
    • อัปโหลดเป็นชุด ดาวน์โหลดเทมเพลต กรอกข้อมูล “ชื่อผู้ให้บริการขนส่ง” และ “หมายเลขการติดตาม” ให้ครบถ้วน แล้วอัปโหลดไฟล์เข้าระบบ
    • อัปโหลดทีละรายการ เลือกคำสั่งซื้อ แล้วคลิก “เพิ่มข้อมูลการติดตามพัสดุ” เพื่อกรอกข้อมูลโดยตรง จากนั้นกดยืนยัน “ส่งพัสดุ
  4. อัปเดตสถานะการจัดส่ง ขั้นตอนนี้ก็สำคัญมากเช่นกัน เมื่อทราบว่าสินค้าส่งถึงลูกค้าแล้ว หรือส่งไม่สำเร็จ ต้องเข้ามาอัปเดตสถานะใน Seller Center อีกครั้ง สามารถทำได้ทั้งแบบอัปโหลดเป็นชุด (ใช้เทมเพลตสถานะการส่งมอบ) หรืออัปเดตทีละรายการ โดยเลือกสถานะและแนบหลักฐาน (ถ้ามี) แล้วกดยืนยัน

ปัญหาที่อาจพบได้ในการจัดส่งสินค้าถึงลูกค้าปลายทาง มีอะไรบ้าง

ไม่ว่าจะส่งของด้วยวิธีไหนก็ตาม ปัญหาในการจัดส่งก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งความพึงพอใจของลูกค้าและชื่อเสียงของร้านค้า ปัญหาที่พบบ่อย ได้แก่

  • การจัดส่งล่าช้า เกิดจากการจัดการออเดอร์ไม่ทันตามกำหนด SLA ปัญหาภายในของขนส่งหรือการแพ็คสินค้าไม่ทันจนทำให้ลูกค้าปลายทางไม่ได้รับสินค้าตามเวลาที่ระบุไว้ 
  • สินค้าเสียหายระหว่างขนส่ง บรรจุภัณฑ์ไม่แข็งแรงพอ การแพ็คไม่แน่นหนาพอที่จะปกป้องสินค้าได้
  • สินค้าสูญหาย อาจเกิดจากความผิดพลาดของขนส่ง หรือข้อมูลที่อยู่ไม่ชัดเจน
  • ข้อมูล Tracking ไม่อัปเดต โดยเฉพาะกับการจัดส่งโดยผู้ขาย หากร้านค้าลืมหรืออัปเดตข้อมูลเข้าระบบล่าช้า ลูกค้าจะไม่สามารถติดตามสถานะได้ ทำให้เกิดความกังวลขึ้นได้ 
  • ที่อยู่ไม่ถูกต้อง/ติดต่อผู้รับไม่ได้ ทำให้ขนส่งไม่สามารถนำส่งพัสดุได้
  • การจัดการสต๊อกผิดพลาด สินค้าหมดสต๊อกแต่ยังเปิดขาย ทำให้ไม่สามารถจัดส่งได้ตามคำสั่งซื้อ
  • ความยุ่งยากในการจัดการออเดอร์จำนวนมาก เมื่อร้านเติบโต การแพ็คและส่งของเองกลายเป็นเรื่องที่ใช้เวลาและแรงงานมหาศาล เพิ่มโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดได้ 

ทั้งนี้ การเผชิญกับปัญหาเหล่านี้บ่อยครั้งอาจทำให้ร้านค้าเสียคะแนน หรือขาดความเชื่อมั่นจากลูกค้าได้ แต่หากคุณใช้บริการ Fulfillment Service จาก MyCloud ปัญหาเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องง่าย หมดกังวลเรื่องการจัดการหลังบ้านไปได้เลย เราสามารถจัดการออเดอร์ให้จัดส่งภายใน 24 ชม. การันตีจัดส่งทัน 99.5% ด้วยระบบ OMS (Order Management System) ที่ช่วยจัดการได้อย่างครอบคลุมตั้งแต่ลูกค้ากดสั่งซื้อสินค้าเข้ามาและระบบจะดึงออเดอร์ทุก ๆ 3 นาที อัปเดตไปยังคลังสินค้าเพื่อทำการแพ็ก หมดปัญหาเรื่องส่งสินค้าผิดให้ลูกค้า เพราะที่ MyCloud เราใช้ระบบ Barcode ให้การทำงานทุก ๆ ขั้นตอน สแกนสินค้าทุกชิ้นตามคำสั่งซื้อ หมดกังวลเรื่องส่งสินค้าไม่ครบได้อีกเช่นกัน และเพิ่มความมั่นใจได้อีกขั้น ด้วยระบบกล้องวงจรปิด CCTV ที่จะบันทึกการทำงานตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการแพ็คสินค้า หากเกิดปัญหาลูกค้าปลายทางได้รับสินค้าไม่ครบ หรือส่งสินค้าผิด ร้านค้าก็สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ทีละออเดอร์ ผ่านคลิปหลักฐานวิดีโอการแพ็คได้ รับรองว่าสินค้าจะถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัยและยังมีทีมงานหลังบ้านคอยซัพพอร์ตร้านค้าออนไลน์จากทีม Customer Service และทีม IT Support พร้อมดูแลคุณตลอด 365 วัน เพื่อให้ออเดอร์ที่เกิดขึ้นถูกจัดการได้อย่างราบรื่นและจัดส่งได้ทันตามเกณฑ์ SLA อย่างแน่นอน

MyCloud Fulfillment ช่วยจัดการออเดอร์จำนวนมาก 

สรุปบทความ 

คำถามที่ว่า ขายของใน tiktok ส่งของยังไง นั้นมี 2 วิธีหลัก คือจัดส่งผ่านแพลตฟอร์ม ที่สะดวกสบายเพราะเชื่อมต่อกับระบบขนส่งของ TikTok Shop และจัดส่งโดยผู้ขาย ที่ให้อิสระในการจัดการขนส่งเอง แต่ต้องรับผิดชอบในการอัปเดตข้อมูลเข้าระบบ การเลือกวิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับขนาด ลักษณะของสินค้าและความพร้อมของแต่ละร้านค้า สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจขั้นตอนและจัดการออเดอร์ให้ทันตามกำหนดเวลา เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และหากคุณต้องการยกระดับการจัดการออเดอร์ให้เป็นมืออาชีพ ลดปัญหาการจัดส่ง และมีเวลาไปพัฒนาธุรกิจมากขึ้น การเลือกใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ Fulfillment อย่าง MyCloud Fulfillment ก็เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ ช่วยให้การขายของใน TikTok Shop ของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน 

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Inbound และ Outbound คืออะไร ช่วยจัดการสต๊อกให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ยอดขายกำลังเติบโต การจัดการสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งออเดอร์เยอะขึ้น ความท้าทายในการบริหารจัดการก็ยิ่งเพิ่มตามไปด้วย หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อย คือสต๊อกไม่ตรง สินค้าขาดเกินหรือหาของไม่เจอ อาจจะทำให้ส่งของผิดให้ลูกค้า หรือลูกค้าไม่ได้รับสินค้าตามที่สั่งไป ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือและโอกาสในการขาย หลายคนอาจเริ่มมองหาตัวช่วยอย่างบริการ Fulfillment หรือคลังสินค้าออนไลน์ และมักจะได้ยินคำว่า Inbound และ Outbound อยู่บ่อยครั้ง แล้วเคยสงสัยไหมว่า Inbound และ Outbound คืออะไร และมันเกี่ยวข้องกับการจัดการสต๊อกให้แม่นยำได้อย่างไร? บทความนี้จาก MyCloud Fulfillment มีคำตอบ พร้อมไขข้อข้องใจเพื่อให้คุณบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น   Inbound คืออะไร Inbound (อินบาวด์) ในบริบทของ Fulfillment หรือคลังสินค้าออนไลน์ หมายถึงกระบวนการรับสินค้าเข้าคลัง หรือโลจิสติกส์ขาเข้านั่นเอง โดยจะเริ่มต้นหลังจากที่คุณตกลงใช้บริการ Fulfillment และทำการนัดหมายเพื่อส่งสินค้ามายังคลังสินค้า โดยทั่วไปขั้นตอนของ Inbound จะครอบคลุมตั้งแต่ อย่างไรก็ตาม กระบวนการ Inbound ที่ดีและมีระบบ คือจุดเริ่มต้นของการมีสต๊อกที่แม่นยำ เพราะข้อมูลสินค้าจะถูกบันทึกเข้าระบบอย่างถูกต้องตั้งแต่แรก ทำให้คุณทราบจำนวนสินค้าคงคลังที่แท้จริงได้แบบเรียลไทม์ ทุก ๆ 5 นาที   […]

Shoppertainment คืออะไร ทำไมถึงกลายมาเป็นเทรนด์ที่มาแรงในปัจจุบัน

ทุกวันนี้การขายของออนไลน์แบบเดิม ๆ อาจไม่เพียงพอที่จะดึงดูดใจลูกค้าได้อีกต่อไป เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดเทรนด์การตลาดใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ Shoppertainment ซึ่งเป็นการผสานโลกของการช้อปปิ้งและความบันเทิงเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว แต่ Shoppertainment คืออะไรกันแน่ และทำไมมันถึงกลายเป็นกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์น้อยใหญ่ต่างให้ความสำคัญและมาแรงแซงโค้งในปัจจุบัน บทความนี้จาก MyCloud Fulfillment มีคำตอบมาให้คุณ!   Shoppertainment คืออะไร  Shoppertainment คือมาจากคำว่า Shopping และ Entertainment รวมเข้าด้วยกัน ซึ่งหมายถึงกลยุทธ์การตลาดและการขายที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่สนุกสนาน น่าดึงดูดและน่าจดจำให้กับผู้บริโภคในระหว่างกระบวนการเลือกซื้อสินค้า แทนที่จะเน้นการนำเสนอสินค้าหรือโปรโมชั่นเพียงอย่างเดียว โดย Shoppertainment จะเน้นใช้ความคิดสร้างสรรค์และความบันเทิงเข้ามาเป็นตัวนำ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม ทำให้ลูกค้ารู้สึกเพลิดเพลิน ผ่อนคลายและทำให้ใกล้ชิดกับแบรนด์ได้มากยิ่งขึ้น จนนำไปสู่การตัดสินใจซื้อในที่สุด  รูปแบบของ Shoppertainment ที่นิยมในปัจจุบัน Shoppertainment สามารถนำเสนอผ่านรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อสร้างความบันเทิงและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ โดยรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน ได้แก่   Live Commerce เริ่มต้นกันที่การ Live ขายของผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหรือช่องทาง Marketplace ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้า พูดคุย โต้ตอบกับลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ มีการสาธิตสินค้า ตอบคำถามสด ๆ […]

ส่งของผิดให้ลูกค้า ทำอย่างไรดี มีวิธีการป้องกันอย่างไรบ้าง

สำหรับคนทำธุรกิจออนไลน์แล้ว การจัดการออเดอร์ให้ถูกต้องแม่นยำคือหัวใจสำคัญ แต่บางครั้งข้อผิดพลาดก็อาจเกิดขึ้นได้ ปัญหาการขายของออนไลน์ โดยเฉพาะปัญหาส่งของผิดให้ลูกค้า ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความรู้สึกของลูกค้า ความน่าเชื่อถือของแบรนด์และอาจทำให้ร้านค้าต้องเสียทั้งเวลาและต้นทุนในการแก้ไข MyCloud Fulfillment เราเข้าใจปัญหานี้ดี ในบทความนี้จึงได้รวบรวมแนวทางรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การบริหารจัดการร้านค้าของคุณราบรื่น ไร้กังวลเรื่องการจัดส่ง   ส่งของผิดให้ลูกค้า ทำอย่างไรดี หากพบว่าเกิดปัญหาส่งของผิดให้ลูกค้าขึ้น สิ่งแรกที่ควรทำคือตั้งสติและดำเนินการแก้ไขอย่างรวดเร็วที่สุด การจัดการสถานการณ์อย่างมืออาชีพและใส่ใจ ไม่เพียงช่วยคลี่คลายปัญหา แต่ยังสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการสร้างความประทับใจและความไว้วางใจจากลูกค้าได้อีกด้วย มาดูกันว่าควรรับมืออย่างไร เพื่อรักษาความพึงพอใจและความเชื่อมั่นจากลูกค้าไว้ได้อย่างมืออาชีพ ขอโทษลูกค้าอย่างจริงใจ เพราะการสื่อสารคือสิ่งสำคัญที่สุด รีบติดต่อลูกค้าผ่านช่องทางที่สะดวกที่สุด ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ อีเมลหรือผ่านช่องทาง Chat Commerce ต่าง ๆ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงข้อผิดพลาดและกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ แสดงความเข้าใจถึงความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นกับลูกค้า การแสดงความเห็นอกเห็นใจและยอมรับผิดอย่างตรงไปตรงมาจะช่วยลดความไม่พอใจของลูกค้าลงได้ แม้จะต้องเผชิญกับกรณีที่ลูกค้าไม่ส่งคืน สินค้าที่ส่งผิดไปก็ตาม การเริ่มต้นด้วยความจริงใจคือสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ   ตรวจสอบรายละเอียดในการจัดส่งอีกครั้ง หลังจากที่ได้ขอโทษลูกค้าแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือการกลับมาตรวจสอบข้อมูลภายในระบบของร้านค้าอย่างละเอียดทันที เช็กตั้งแต่รายละเอียดคำสั่งซื้อ (SKU สินค้า, จำนวน, รุ่น, สี, ขนาด) ที่อยู่จัดส่ง ข้อมูลการแพ็กสินค้า เทียบกับสิ่งที่ส่งออกไปจริง เพื่อหาสาเหตุของข้อผิดพลาดว่าเกิดจากขั้นตอนใด การทำความเข้าใจต้นตอของปัญหาส่งของผิดให้ลูกค้า […]

Inbound และ Outbound คืออะไร ช่วยจัดการสต๊อกให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ยอดขายกำลังเติบโต การจัดการสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งออเดอร์เยอะขึ้น ความท้าทายในการบริหารจัดการก็ยิ่งเพิ่มตามไปด้วย หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อย คือสต๊อกไม่ตรง สินค้าขาดเกินหรือหาของไม่เจอ อาจจะทำให้ส่งของผิดให้ลูกค้า หรือลูกค้าไม่ได้รับสินค้าตามที่สั่งไป ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือและโอกาสในการขาย หลายคนอาจเริ่มมองหาตัวช่วยอย่างบริการ Fulfillment หรือคลังสินค้าออนไลน์ และมักจะได้ยินคำว่า Inbound และ Outbound อยู่บ่อยครั้ง แล้วเคยสงสัยไหมว่า Inbound และ Outbound คืออะไร และมันเกี่ยวข้องกับการจัดการสต๊อกให้แม่นยำได้อย่างไร? บทความนี้จาก MyCloud Fulfillment มีคำตอบ พร้อมไขข้อข้องใจเพื่อให้คุณบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น   Inbound คืออะไร Inbound (อินบาวด์) ในบริบทของ Fulfillment หรือคลังสินค้าออนไลน์ หมายถึงกระบวนการรับสินค้าเข้าคลัง หรือโลจิสติกส์ขาเข้านั่นเอง โดยจะเริ่มต้นหลังจากที่คุณตกลงใช้บริการ Fulfillment และทำการนัดหมายเพื่อส่งสินค้ามายังคลังสินค้า โดยทั่วไปขั้นตอนของ Inbound จะครอบคลุมตั้งแต่ อย่างไรก็ตาม กระบวนการ Inbound ที่ดีและมีระบบ คือจุดเริ่มต้นของการมีสต๊อกที่แม่นยำ เพราะข้อมูลสินค้าจะถูกบันทึกเข้าระบบอย่างถูกต้องตั้งแต่แรก ทำให้คุณทราบจำนวนสินค้าคงคลังที่แท้จริงได้แบบเรียลไทม์ ทุก ๆ 5 นาที   […]

Shoppertainment คืออะไร ทำไมถึงกลายมาเป็นเทรนด์ที่มาแรงในปัจจุบัน

ทุกวันนี้การขายของออนไลน์แบบเดิม ๆ อาจไม่เพียงพอที่จะดึงดูดใจลูกค้าได้อีกต่อไป เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดเทรนด์การตลาดใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ Shoppertainment ซึ่งเป็นการผสานโลกของการช้อปปิ้งและความบันเทิงเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว แต่ Shoppertainment คืออะไรกันแน่ และทำไมมันถึงกลายเป็นกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์น้อยใหญ่ต่างให้ความสำคัญและมาแรงแซงโค้งในปัจจุบัน บทความนี้จาก MyCloud Fulfillment มีคำตอบมาให้คุณ!   Shoppertainment คืออะไร  Shoppertainment คือมาจากคำว่า Shopping และ Entertainment รวมเข้าด้วยกัน ซึ่งหมายถึงกลยุทธ์การตลาดและการขายที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่สนุกสนาน น่าดึงดูดและน่าจดจำให้กับผู้บริโภคในระหว่างกระบวนการเลือกซื้อสินค้า แทนที่จะเน้นการนำเสนอสินค้าหรือโปรโมชั่นเพียงอย่างเดียว โดย Shoppertainment จะเน้นใช้ความคิดสร้างสรรค์และความบันเทิงเข้ามาเป็นตัวนำ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม ทำให้ลูกค้ารู้สึกเพลิดเพลิน ผ่อนคลายและทำให้ใกล้ชิดกับแบรนด์ได้มากยิ่งขึ้น จนนำไปสู่การตัดสินใจซื้อในที่สุด  รูปแบบของ Shoppertainment ที่นิยมในปัจจุบัน Shoppertainment สามารถนำเสนอผ่านรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อสร้างความบันเทิงและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ โดยรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน ได้แก่   Live Commerce เริ่มต้นกันที่การ Live ขายของผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหรือช่องทาง Marketplace ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้า พูดคุย โต้ตอบกับลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ มีการสาธิตสินค้า ตอบคำถามสด ๆ […]

ส่งของผิดให้ลูกค้า ทำอย่างไรดี มีวิธีการป้องกันอย่างไรบ้าง

สำหรับคนทำธุรกิจออนไลน์แล้ว การจัดการออเดอร์ให้ถูกต้องแม่นยำคือหัวใจสำคัญ แต่บางครั้งข้อผิดพลาดก็อาจเกิดขึ้นได้ ปัญหาการขายของออนไลน์ โดยเฉพาะปัญหาส่งของผิดให้ลูกค้า ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความรู้สึกของลูกค้า ความน่าเชื่อถือของแบรนด์และอาจทำให้ร้านค้าต้องเสียทั้งเวลาและต้นทุนในการแก้ไข MyCloud Fulfillment เราเข้าใจปัญหานี้ดี ในบทความนี้จึงได้รวบรวมแนวทางรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การบริหารจัดการร้านค้าของคุณราบรื่น ไร้กังวลเรื่องการจัดส่ง   ส่งของผิดให้ลูกค้า ทำอย่างไรดี หากพบว่าเกิดปัญหาส่งของผิดให้ลูกค้าขึ้น สิ่งแรกที่ควรทำคือตั้งสติและดำเนินการแก้ไขอย่างรวดเร็วที่สุด การจัดการสถานการณ์อย่างมืออาชีพและใส่ใจ ไม่เพียงช่วยคลี่คลายปัญหา แต่ยังสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการสร้างความประทับใจและความไว้วางใจจากลูกค้าได้อีกด้วย มาดูกันว่าควรรับมืออย่างไร เพื่อรักษาความพึงพอใจและความเชื่อมั่นจากลูกค้าไว้ได้อย่างมืออาชีพ ขอโทษลูกค้าอย่างจริงใจ เพราะการสื่อสารคือสิ่งสำคัญที่สุด รีบติดต่อลูกค้าผ่านช่องทางที่สะดวกที่สุด ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ อีเมลหรือผ่านช่องทาง Chat Commerce ต่าง ๆ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงข้อผิดพลาดและกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ แสดงความเข้าใจถึงความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นกับลูกค้า การแสดงความเห็นอกเห็นใจและยอมรับผิดอย่างตรงไปตรงมาจะช่วยลดความไม่พอใจของลูกค้าลงได้ แม้จะต้องเผชิญกับกรณีที่ลูกค้าไม่ส่งคืน สินค้าที่ส่งผิดไปก็ตาม การเริ่มต้นด้วยความจริงใจคือสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ   ตรวจสอบรายละเอียดในการจัดส่งอีกครั้ง หลังจากที่ได้ขอโทษลูกค้าแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือการกลับมาตรวจสอบข้อมูลภายในระบบของร้านค้าอย่างละเอียดทันที เช็กตั้งแต่รายละเอียดคำสั่งซื้อ (SKU สินค้า, จำนวน, รุ่น, สี, ขนาด) ที่อยู่จัดส่ง ข้อมูลการแพ็กสินค้า เทียบกับสิ่งที่ส่งออกไปจริง เพื่อหาสาเหตุของข้อผิดพลาดว่าเกิดจากขั้นตอนใด การทำความเข้าใจต้นตอของปัญหาส่งของผิดให้ลูกค้า […]