Knowledge Center

เจ้าของธุรกิจออนไลน์ควรรู้! เปิดร้านขายของใน Shopee เสียค่าอะไรบ้าง?

เปิดร้านใน Shopee

ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กำลังเฟื่องฟู Shopee กลายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมที่ผู้ประกอบการหลายคนเลือกเป็นช่องทางในการขายสินค้า แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าการขายของใน Shopee มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ผู้ขายต้องจ่ายเมื่อเปิดร้านบน Shopee เพื่อให้คุณสามารถวางแผนธุรกิจและคำนวณต้นทุนได้อย่างแม่นยำ พร้อมแล้วมาดูกันว่าขายของใน Shopee เสียค่าอะไรบ้าง  

ขายของใน shopee เสียค่าอะไรบ้าง

ก่อนที่จะเริ่มขายสินค้าบน Shopee ผู้ขายควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่จะต้องจ่าย เพื่อให้สามารถตั้งราคาสินค้าได้อย่างเหมาะสมและทำกำไรได้ตามเป้าหมาย มาดูกันว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง  

1. ค่าธรรมเนียมจากการขาย

การขายของใน Shopee มีค่าธรรมเนียมการขายที่แตกต่างกันตามประเภทของร้านค้าและหมวดหมู่สินค้า ซึ่งทางช้อปปี้จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้จากทั้ง Shopee Seller ที่ลงขายแบบ Mall Sellers และ Non-Mall Sellers นั้น ทางช้อปปี้จะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมเมื่อได้รับคำสั่งซื้อและจัดการคำสั่งซื้อจนเสร็จ ซึ่งจะเก็บค่าธรรมเนียมตามประเภทของสินค้า ดังนี้

หมวดหมู่สินค้า
Shopee Mall Seller 
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
Non-Mall Seller
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์9% – 11%8%
สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ กล้อง, เลนส์กล้อง, โดรน, คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ, Laptop,อุปกรณ์คอมพิวเตอร์, หน้าจอคอมพิวเตอร์, เครื่องเกม, โทรศัพท์มือถือ, Tablet, เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่, ทีวีและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง5% – 11%5%
สินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) สินค้าแฟชัน สินค้าสกินแคร์ อาหารเสริมและหมวดหมู่อื่น ๆ 
11.77% 

8.56%
สินค้าในหมวดหมู่แฟชัน ได้แก่ แหวน กำไลข้อมือ สร้อยและต่างหู แพลทตินั่มและทอง
11.77% 

8.03%  

2. ค่าธรรมเนียมในการธุรกรรมผ่านบัญชีธนาคาร

เมื่อลูกค้าเลือกชำระเงินผ่านการโอนเงินหรืออินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง Shopee จะคิดค่าธรรมเนียมจากผู้ขาย 3.21% (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ของยอดรวมทั้งหมด ซึ่งรวมถึงค่าขนส่งและหลังหักส่วนลดต่าง ๆ รวมถึง Shopee Coin ด้วย ค่าธรรมเนียมนี้ครอบคลุมการทำธุรกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นผ่านระบบธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินแบบปกติหรือการชำระผ่านระบบออนไลน์ ผู้ขายควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายส่วนนี้เมื่อตั้งราคาสินค้า  

3. ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต แบบผ่อนชำระ

สำหรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต Shopee มีการคิดค่าธรรมเนียมจากผู้ขาย โดยคำนวณจากยอดชำระ หลังหักส่วนลดและ Shopee Coin แล้ว ในกรณีที่ลูกค้าเลือกผ่อนชำระ ร้านค้าจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ดังนี้ 

  • ระยะเวลาผ่อน 3 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 4.28% (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 
  • ระยะเวลาผ่อน 6 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 5.89% (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • ระยะเวลาผ่อน 10 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 6.42% (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)   
ลูกค้าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต

4. ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่าน AirPay Wallet

เมื่อลูกค้าชำระเงินผ่าน AirPay Wallet ไม่ว่าจะซื้อผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน Shopee จะคิดค่าธรรมเนียม 2% จากผู้ขาย โดยคำนวณจากยอดรวมทั้งหมดที่ลูกค้าชำระ ซึ่งรวมค่าขนส่ง และคำนวณหลังจากหักส่วนลดต่าง ๆ และ Shopee Coin แล้ว วิธีการชำระเงินนี้เป็นที่นิยมเพราะสะดวกสำหรับผู้ซื้อ แม้จะมีค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ขายก็ตาม  

5. ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่าน SpayLater 

SpayLater เป็นบริการผ่อนชำระที่ทาง Shopee ได้นำเสนอให้กับลูกค้า โดยมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันตามระยะเวลาการผ่อนชำระ สำหรับร้านที่มีเลือกอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าก็ถูกหักค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ 3% 

นอกจากนี้ ยังมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่าน Special SpayLater อีกด้วย โดยค่าธรรมเนียมที่ทางร้านค้าจะต้องเสียจะแบ่งออกไปตามระยะเวลาในการผ่อนชำระสินค้า ดังนี้  

  • ระยะเวลาผ่อน 1 – 2 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 3% 
  • ระยะเวลาผ่อน 3 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 4%
  • ระยะเวลาผ่อน 5 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 5.5% 
  • ระยะเวลาผ่อน 12 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 6% 

6. ค่าธรรมเนียมสำหรับการทำธุรกรรมแบบชำระเงินปลายทาง 

สำหรับการชำระเงินปลายทางหรือ COD (Cash on Delivery) Shopee จะคิดค่าธรรมเนียม 2% จากผู้ขาย โดยคำนวณจากยอดรวมทั้งหมดที่รวมค่าขนส่งและหลังหักส่วนลดต่าง ๆ รวมถึง Shopee Coin การชำระเงินปลายทางเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อ แต่ผู้ขายควรคำนึงถึงค่าธรรมเนียมนี้ในการคำนวณต้นทุน 

ชำระเงินปลายทาง (COD)

สรุปบทความ 

ขายของใน shopee เสียค่าอะไรบ้าง การขายของใน Shopee มีค่าธรรมเนียมหลายประเภทที่ผู้ขายต้องทำความเข้าใจ ตั้งแต่ค่าธรรมเนียมการขายที่แตกต่างกันตามประเภทสินค้า ไปจนถึงค่าธรรมเนียมการชำระเงินในรูปแบบต่าง ๆ ดังนั้น หากผู้ขายรู้และเข้าใจค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ก็จะช่วยให้ผู้ขายสามารถวางแผนธุรกิจ ตั้งราคาสินค้าและคำนวณกำไรได้อย่างแม่นยำทำให้ธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จได้ 

สำหรับใครที่ต้องการจะเปิดร้านค้าบน Shopee นอกจากต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเรื่องค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับแพลตฟอร์มแล้ว ในส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น การจัดการออเดอร์ และการสต๊อกสินค้าก็จำเป็นต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านี้มีผลด่อเรื่องต้นทุนและกำไร ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องคลังสินค้าออนไลน์ MyCloud Fulfillment เราพร้อมเป็นผู้ช่วยให้คุณบริหารจัดการเรื่องออเดอร์และสต๊อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยบริการที่ครบวงจรตั้งแต่การเก็บ แพ็กและส่งสินค้า ระบบเชื่อมต่อช่องทางการขาย Omnichannel Management ระบบจัดการออเดอร์ ระบบจัดการคลังสินค้าใช้สต๊อกตัวเดียวเชื่อมต่อได้ทุกช่องทางการขาย และทีมงานมืออาชีพกว่า 1,200 คน ที่พร้อมจัดการออเดอร์ให้คุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาจัดการเรื่องหลังบ้าน ไม่ต้องเสียค่าจ้างพนักงานเพิ่ม อีกทั้งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องของระบบการจัดการออเดอร์ ระบบจัดการคลังสินค้าที่อาจจะต้องลงทุนซื้อระบบในส่วนนี้เพิ่ม เราช่วยให้คุณมีเวลาไปโฟกัสกับการขายและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้มากขึ้น และที่สำคัญที่สุด เราช่วยควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจออนไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด    

หากสนใจ Fulfillment โซลูชันที่ครบวงจรแบบนี้ สามารถติดต่อเราได้ที่ https://www.mycloudfulfillment.com/quotation 

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Omni Channel คืออะไร ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจในยุค Disruption ?

ความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าถือเป็นเป้าหมายสำคัญของธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องงัดเอากลยุทธ์ต่าง ๆ มาเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า และหัวใจสำคัญที่อยู่ในทุกขั้นตอนของการขาย ตั้งแต่เริ่มต้นทำความรู้จักลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ ไปจนถึงการบริการหลังการขายนั่นก็คือ การติดต่อสื่อสาร ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคคาดหวังการให้บริการแบบเรียลไทม์ ผ่านช่องทางที่หลากหลาย  ดังนั้นการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าทั้งออนไลน์ และการขายหน้าร้าน หรือที่เรียกว่าออฟไลน์นั้น จึงมีความสำคัญไม่แพ้กัน นี่จึงทำให้เกิดการตลาดแบบผสมผสานที่เรียกว่า Omni Channel Marketing ที่เป็นการผสมผสานทั้งสองช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อให้เกิดการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการบันทึกข้อมูลลูกค้าไว้ที่ระบบกลางเพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายต่อไป  แล้ว Omni Channel คืออะไร? Omni มาจากรากศัพท์ลาตินว่า Omnibus ซึ่งหมายถึง For All หรือ ทั้งหมด ในแง่ของ E-commerce คำว่า “Omni Channel” คือช่องทางการสื่อสารและบริการลูกค้าที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดเอาไว้ เพื่อทำให้การเข้าถึงข้อมูลลูกค้าเป็นไปได้ง่าย รวดเร็วและไร้รอยต่อ เรียกได้ว่าเป็นการรวมการตลาดจากทุกช่องทาง ช่วยดึงลูกค้าจากร้านค้าไปปิดการขายในช่องทางออนไลน์ หรือลูกค้าจากหน้าร้านให้ไปทำการซื้อ-ขายกันในช่องทางออนไลน์ได้เช่นกัน  ถือเป็นการหยิบยื่นประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพิ่มความสะดวกให้สามารถเข้าถึงการซื้อขายได้อย่างครอบคลุม โดยในปัจจุบันช่องทางการสื่อสารออนไลน์ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Email Direct Marketing, Website, […]

Mid Month Sale เจาะลึก insight ที่คนขายออนไลน์ต้องรู้ !

แม้ว่าแคมเปญ Double Day อย่าง 2.2, 3.3 หรือ 4.4 จะเป็นช่วงเวลาทองของเหล่านักช้อปออนไลน์ที่หลายคนรู้จักดี แต่ยังมีอีกหนึ่งช่วงเวลาที่มักถูกมองข้ามไป นั่นคือ “Mid Month Sale” หรือแคมเปญกลางเดือน โดยเฉพาะวันที่ 15 ที่หลายแพลตฟอร์มยังคงเดินหน้าจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นยอดขาย แต่คำถามสำคัญก็คือ… แคมเปญ Mid Month ยังเวิร์กอยู่ไหม? ผู้บริโภคยังช้อปกันเยอะอยู่หรือเปล่า? แล้วร้านค้าออนไลน์ควรให้ความสำคัญกับช่วงนี้แค่ไหน?บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกเทรนด์นักช้อปช่วงกลางเดือน พร้อมเปิดสถิติเปอร์เซ็นต์ออเดอร์จริงจากระบบหลังบ้านของคลังสินค้าออนไลน์ รวมถึงกลยุทธ์เด็ดในการเพิ่มยอดขายช่วง Mid Month ที่ร้านค้าออนไลน์ไม่ควรพลาดถ้าอยากโกยกำไรให้ได้มากที่สุดในช่วงกลางเดือนนี้! Mid Month Sale คืออะไร? แคมเปญลดราคาช่วงกลางเดือนที่จัดขึ้นโดยแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Lazada, Shopee หรือแม้แต่แบรนด์ออนไลน์เอง เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงที่คนมักใช้จ่ายน้อยหลังต้นเดือน โดยมักมีโปรโมชั่นแรง เช่น โค้ดลดเพิ่ม, Flash Sale, ส่งฟรี หรือของแถม เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาช้อปอีกครั้งก่อนสิ้นเดือน และช่วยให้ร้านค้าเคลียร์สต๊อกหรือเร่งยอดได้ในช่วงเวลากลางเดือนที่มักเงียบกว่าช่วง Double Day นั่นเอง รู้ลึก! จากออเดอร์จริงช่วง […]

โลจิสติกส์กุญแจสู่ความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ (Logistics & Online Business)

โลจิสติกส์สำหรับธุรกิจออนไลน์           โลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานมีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจออนไลน์เป็นอย่างมากในยุคที่เทคโนโลยี disrupt ให้พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ธุรกิจต่าง ๆ ต้องมีการปรับตัวอย่างมาก และต้องมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจอยู่เสมอ มีการใช้เทคโนโลยี และการจัดการโลจิสติกส์ ห่วงโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรให้สามารถเเข่งขัน หรืออยู่เหนือคู่แข่งทางธุรกิจ เพื่อเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในอดีตและปัจจุบัน           อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปพร้อม ๆ กับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ ในยุคที่มี Technology มา disrupt ทำให้ธุรกิจออฟไลน์ เปลี่ยนมาลงทุนและแข่งขันบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น กลายเป็น ธุรกิจ E-Commerce ดังนั้นอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์จึงมีการพัฒนาตามไปด้วยอยู่เสมอ เมื่อตลาด E-Commerce เติบโตขึ้น ธุรกิจโลจิสติกส์ต่างแข่งขันกันพัฒนา ด้วยการเพิ่มบริการที่เข้าไปช่วยธุรกิจได้มากขึ้น ทั้งการนำข้อมูลด้านโลจิสติกส์และ supply chain เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาบริการ อาทิ การวางแผนเส้นทางการเดินรถ การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านขนส่ง กระจายสินค้า การใช้ GPS การปรับราคาบริการเพื่อลดต้นทุนให้ธุรกิจได้มากที่สุด หรือจุดเด่นด้านการขนส่ง จึงเน้นความเร็วเป็นหลักอีกด้วย […]

Omni Channel คืออะไร ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจในยุค Disruption ?

ความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าถือเป็นเป้าหมายสำคัญของธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องงัดเอากลยุทธ์ต่าง ๆ มาเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า และหัวใจสำคัญที่อยู่ในทุกขั้นตอนของการขาย ตั้งแต่เริ่มต้นทำความรู้จักลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ ไปจนถึงการบริการหลังการขายนั่นก็คือ การติดต่อสื่อสาร ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคคาดหวังการให้บริการแบบเรียลไทม์ ผ่านช่องทางที่หลากหลาย  ดังนั้นการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าทั้งออนไลน์ และการขายหน้าร้าน หรือที่เรียกว่าออฟไลน์นั้น จึงมีความสำคัญไม่แพ้กัน นี่จึงทำให้เกิดการตลาดแบบผสมผสานที่เรียกว่า Omni Channel Marketing ที่เป็นการผสมผสานทั้งสองช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อให้เกิดการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการบันทึกข้อมูลลูกค้าไว้ที่ระบบกลางเพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายต่อไป  แล้ว Omni Channel คืออะไร? Omni มาจากรากศัพท์ลาตินว่า Omnibus ซึ่งหมายถึง For All หรือ ทั้งหมด ในแง่ของ E-commerce คำว่า “Omni Channel” คือช่องทางการสื่อสารและบริการลูกค้าที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดเอาไว้ เพื่อทำให้การเข้าถึงข้อมูลลูกค้าเป็นไปได้ง่าย รวดเร็วและไร้รอยต่อ เรียกได้ว่าเป็นการรวมการตลาดจากทุกช่องทาง ช่วยดึงลูกค้าจากร้านค้าไปปิดการขายในช่องทางออนไลน์ หรือลูกค้าจากหน้าร้านให้ไปทำการซื้อ-ขายกันในช่องทางออนไลน์ได้เช่นกัน  ถือเป็นการหยิบยื่นประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพิ่มความสะดวกให้สามารถเข้าถึงการซื้อขายได้อย่างครอบคลุม โดยในปัจจุบันช่องทางการสื่อสารออนไลน์ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Email Direct Marketing, Website, […]

Mid Month Sale เจาะลึก insight ที่คนขายออนไลน์ต้องรู้ !

แม้ว่าแคมเปญ Double Day อย่าง 2.2, 3.3 หรือ 4.4 จะเป็นช่วงเวลาทองของเหล่านักช้อปออนไลน์ที่หลายคนรู้จักดี แต่ยังมีอีกหนึ่งช่วงเวลาที่มักถูกมองข้ามไป นั่นคือ “Mid Month Sale” หรือแคมเปญกลางเดือน โดยเฉพาะวันที่ 15 ที่หลายแพลตฟอร์มยังคงเดินหน้าจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นยอดขาย แต่คำถามสำคัญก็คือ… แคมเปญ Mid Month ยังเวิร์กอยู่ไหม? ผู้บริโภคยังช้อปกันเยอะอยู่หรือเปล่า? แล้วร้านค้าออนไลน์ควรให้ความสำคัญกับช่วงนี้แค่ไหน?บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกเทรนด์นักช้อปช่วงกลางเดือน พร้อมเปิดสถิติเปอร์เซ็นต์ออเดอร์จริงจากระบบหลังบ้านของคลังสินค้าออนไลน์ รวมถึงกลยุทธ์เด็ดในการเพิ่มยอดขายช่วง Mid Month ที่ร้านค้าออนไลน์ไม่ควรพลาดถ้าอยากโกยกำไรให้ได้มากที่สุดในช่วงกลางเดือนนี้! Mid Month Sale คืออะไร? แคมเปญลดราคาช่วงกลางเดือนที่จัดขึ้นโดยแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Lazada, Shopee หรือแม้แต่แบรนด์ออนไลน์เอง เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงที่คนมักใช้จ่ายน้อยหลังต้นเดือน โดยมักมีโปรโมชั่นแรง เช่น โค้ดลดเพิ่ม, Flash Sale, ส่งฟรี หรือของแถม เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาช้อปอีกครั้งก่อนสิ้นเดือน และช่วยให้ร้านค้าเคลียร์สต๊อกหรือเร่งยอดได้ในช่วงเวลากลางเดือนที่มักเงียบกว่าช่วง Double Day นั่นเอง รู้ลึก! จากออเดอร์จริงช่วง […]

โลจิสติกส์กุญแจสู่ความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ (Logistics & Online Business)

โลจิสติกส์สำหรับธุรกิจออนไลน์           โลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานมีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจออนไลน์เป็นอย่างมากในยุคที่เทคโนโลยี disrupt ให้พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ธุรกิจต่าง ๆ ต้องมีการปรับตัวอย่างมาก และต้องมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจอยู่เสมอ มีการใช้เทคโนโลยี และการจัดการโลจิสติกส์ ห่วงโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรให้สามารถเเข่งขัน หรืออยู่เหนือคู่แข่งทางธุรกิจ เพื่อเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในอดีตและปัจจุบัน           อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปพร้อม ๆ กับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ ในยุคที่มี Technology มา disrupt ทำให้ธุรกิจออฟไลน์ เปลี่ยนมาลงทุนและแข่งขันบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น กลายเป็น ธุรกิจ E-Commerce ดังนั้นอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์จึงมีการพัฒนาตามไปด้วยอยู่เสมอ เมื่อตลาด E-Commerce เติบโตขึ้น ธุรกิจโลจิสติกส์ต่างแข่งขันกันพัฒนา ด้วยการเพิ่มบริการที่เข้าไปช่วยธุรกิจได้มากขึ้น ทั้งการนำข้อมูลด้านโลจิสติกส์และ supply chain เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาบริการ อาทิ การวางแผนเส้นทางการเดินรถ การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านขนส่ง กระจายสินค้า การใช้ GPS การปรับราคาบริการเพื่อลดต้นทุนให้ธุรกิจได้มากที่สุด หรือจุดเด่นด้านการขนส่ง จึงเน้นความเร็วเป็นหลักอีกด้วย […]