Knowledge Center

เทียบชัด ๆ บริการที่ Fulfillment ทั่วไปทำได้ VS บริการจาก MyCloud

ไม่ใช่แค่เก็บ แพ็ค ส่ง MyCloud ทำอะไรได้มากกว่า…

          บริการ Fulfillment คือบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจที่ขายผ่านช่องทางออนไลน์ ในด้านของการจัดเก็บสินค้า เพื่อให้มีสต๊อกสินค้าพร้อมขาย แพ็คสินค้า ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในด้านของแรงงานและอุปกรณ์แพ็ค รวมไปถึงการส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าปลายทางด้วยความรวดเร็ว ยิ่งในขณะที่ธุรกิจ E-Commerce และตลาดออนไลน์กำลังเติบโตมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะโตขึ้นอีกหากมีอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้น ดังนั้นหลาย ๆ ธุรกิจจึงหันมาใช้บริการ Fulfillment จากผู้ให้บริการที่น่าไว้วางใจ เผื่อให้มาดูแลงานหลังบ้านที่จะส่งผลต่อแบรนด์ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพด้าน Fulfillment คุณภาพ ภาพลักษณ์ และความพึงพอใจของลูกค้าโดยตรง

          หากธุรกิจของคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการ เก็บ แพ็ค ส่ง เกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสินใจเลือกคืออะไร? บริษัทที่ให้ราคาที่ถูกที่สุด เจ้าดังที่สุด หรือใหญ่ที่สุด? ในปัจจุบันมีหลายธุรกิจ Fulfillment เกิดขึ้นใหม่มากมาย MyCloudFulfillment ในฐานะผู้ให้บริการ Fulfillment รายแรก ๆ ในประเทศที่มีประสบการณ์ด้านคลังสินค้ากว่า 30 ปี และทีมงานที่ชำนาญด้านการแพ็คและระบบ รวมถึงพาร์ทเนอร์ด้านการขนส่งที่หลากหลายเราอาจไม่ใช่ผู้ให้บริการที่ถูกที่สุด แต่เราให้บริการที่คุ้มค่าและช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปได้อย่างยั่งยืนต่อไป หาคำตอบว่าเราทำอะไรได้มากกว่าแค่ เก็บ แพ็ค ส่งได้ที่นี่…

บริการที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจคุณมากที่สุด (Customization)

          ในทุก ๆ ขั้นตอน Fulfillment สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับสินค้าของคุณได้มากที่สุด เพื่อให้ได้บริการที่เกิดขึ้นเพื่อธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ ตั้งแต่ขั้นตอนของการรับเข้า ร้านค้าสามารถส่งสินค้าเข้าคลังได้โดยไม่ต้องมาด้วยตนเอง เพียงแค่แจ้งเราล่วงหน้าแค่วันเดียว เพื่อให้เราจัดเตรียมพื้นที่เฉพาะที่เหมาะสมกับสินค้าของคุณ

ขั้นตอนการจัดเก็บ (Storing)

          ที่ MyCloud มีพื้นที่คลังสินค้ามาตราฐานรองรับสินค้าได้ทุกประเภท และมีห้องเย็นที่อุณหภูมิคงที่ 24 องศาตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับสินค้าที่ต้องการรักษาอุณหภูมิอย่าง เครื่องสำอาง สกินแคร์ หรืออาหารเสริม เป็นต้น นอกจากนี้เราจัดวางและเก็บสินค้าตาม SKUs (Stock Keeping Units) ที่แยกตาม รุ่น สี ไซส์โดยละเอียด พร้อมควบคุม ทุกการเข้าออกของสินค้าด้วยระบบ WMS (Warehouse Management System) ทำให้การจัดการสต็อกมีประสิทธิภาพ มั่นใจได้ว่าสินค้าจะพร้อมขายอยู่เสมอ รวมถึงเราให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเลือกเก็บสินค้า วางแผนการเก็บสินค้า เพื่อป้องกันเงินจม และสร้างโอกาสในการขายได้อีกด้วย

ขั้นตอนการแพ็คสินค้า (Packing)

          ด้วยบริการที่ปรับแต่งได้ตามใจคุณ ไม่ว่าร้านค้ามีไอเดียในการแพ็ค หรือจัดทำโปรโมชั่น แคมเปญ และต้องการแพ็คแบบไหน MyCloud ก็จัดการให้ได้ทั้งหมด ซึ่งการแพ็คของเราสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์โดยตรงอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การผูกโบว์ ติดสติ๊กเกอร์ ห่อของขวัญ ห่อบับเบิ้ลพิเศษ หรือการทำการตลาดด้วยการแถมคูปอง โบรชัวร์ ต่าง ๆ ก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งการแพ็คจะเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการหยิบตามระบบบาร์โค้ดทำให้หมดปัญหาหยิบแพ็คผิดพลาด หรือการแพ็คสินค้าผิด สามารถตรวจสอบคุณภาพพัสดุทุกกล่องได้จากกล้อง CCTV ที่ติดตั้งอยู่ในทุก ๆ โต๊ะแพ็คได้

ระบบที่เชื่อมต่อได้หลากหลาย (Connectivity)

เชื่อมต่อ API เพื่อรับคำสั่งซื้อครอบคลุมทุกช่องทางการขาย

          เชื่อมต่อร้านค้าของคุณเข้ากับระบบการจัดการคลังสินค้า และระบบการจัดการออเดอร์ที่มาพร้อมกับบริการ Fulfillment จาก MyCloud รวมถึงเชื่อมต่อ API กับระบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Marketplace E-Commerce Website ของธุรกิจเอง เพื่อรับข้อมูลคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางการขายมารวมกันที่ MyCloud เพื่อการจัดการสต็อกอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดค่าพื้นที่ และลดโอกาสที่จะผิดพลาดหรือตกหล่น รวมถึงอัพเดตสต็อกกลับไปที่ระบบแบบ Real-time เพื่อให้การขายออนไลน์ของคุณง่ายขึ้น

เชื่อมต่อ API เข้ากับผู้ให้บริการขนส่ง

          นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับพาร์ทเนอร์ด้านการขนส่งโลจิสติกส์ เพื่อลดึความวุ่นวายและยกระดับการติดตามพัสดุ หรือเเจ้ง Tracking number ได้อย่างมืออาชีพมากขึ้น ผ่าน 3 ช่องทางคือ 1. SMS ไปที่มือถือของลูกค้า 2. รับ Link bitly เพื่อตรวจสอบสถานะระหว่างการจัดส่ง 3. Export Tracking number เป็นไฟล์ Excel เพื่อให้ร้านค้าสามารถนำ Tracking number ไปแจ้งลูกค้าด้วยตนเอง รวมถึงโอกาสเข้าถึงราคาค่าขนส่งในราคาพิเศษอีกด้วย

เชื่อมต่อ API เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำ Payment

           สำหรับร้านค้าที่ติดปัญหาเรื่องช่องทางการจ่ายเงิน เราสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Payment (API Payment gateway)ที่เจ้าของร้านได้ยอดชำระจากลูกค้าได้โดยตรง ทำให้สะดวกสบายมากขึ้น ที่สำคัญก็คือเราสามารถ เริ่มต้น หยิบสินค้าเพื่อไปแพ็ค และส่งได้ในทันที

บริการที่ยืดหยุ่นพร้อมรับมือกับออเดอร์ที่ไม่แน่นอน (Flexibility)

          แม้จะมีออเดอร์ไม่แน่นอน เช่น มีคำสั่งซื้อจำนวนมากในช่วงที่ทำแคมเปญ และยอดน้อยลงอย่างรวดเร็วในวันปกติ ทำให้ธุรกิจต้องเผชิญกับปัญหาการจัดการเวลา และการจัดการพนักงาน เนื่องจากออเดอร์ที่เพิ่มขึ้น ต้องการกำลังในแพ็คเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าหากจ้างพนักงานจำนวนมากแล้วในวันที่ไม่มีออเดอร์เข้ามา คุณองก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก ที่ MyCloud มีทีมแพ็คที่ชำนาญ และเพียงพอต่อความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะมีออเดอร์มากแค่ไหน เราทำให้เสร็จได้ พร้อมจัดส่งให้ถึงมือลูกค้าภายในวันเดียวกัน เพราะเราเข้าใจ ใช้บริการมากก็จ่ายมาก ใช้น้อยก็จ่ายน้อยตามจริงจึงเป็นจุดเด่นของบริการของเราด้านความยืดหยุ่น (Flexibility) รองรับออเดอร์ที่ไม่แน่นอนของธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ

การจัดส่งหลายช่องทาง ดูแลครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์

          หนึ่งในจุดเด่นของบริการจาก MyCloud ก็คือการขนส่งที่หลากหลาย ด้วยพาร์ทเนอร์ด้านโลจิสติกส์ของเรา ลดข้อผิดพลาดของปัญหาสินค้า หรือพัสดุตกหล่น เรามีระบบการจัดการเข้ามาช่วยและรถขนส่งสินค้ามารับพัสดุเองจากคลังทำให้มั่นใจได้มากกว่า รวมถึงการติดตามพัสดุ และแจ้ง tracking number ที่เราอัพเดทให้คุณเร็วที่สุดผ่านช่องทางที่คุณเลือกได้เอง หรือแม้กระทั่งให้เราอัพเดตไปที่ SMS ให้ลูกค้าปลายทางของคุณก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีบริการสำหรับช่องทางออฟไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับร้านค้า ในการเติมของตามหน้าร้าน หรือนำของขึ้นห้าง จัดบูธสินค้า หรือนำสินค้าของคุณที่เก็บในคลังของเราไปจัดแสดงในงานอีเวนต์ เพื่อจัดการให้คุณได้ประหยัด มีประสิทธิภาพ และสะดวกมากที่สุด โดยคิดค่าบริการตามจริง 

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742, 02-138-9920
อีเมล: [email protected]
line: @mycloudgroup
MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก
บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

WMS คืออะไร แก้ปัญหาคลังสินค้าด้วย ระบบบริหารจัดการคลังสินค้า 

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้นเรื่อยๆ การบริหารจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ต้องรับมือกับความท้าทายในการจัดการสต็อกสินค้า การรับเข้า-จ่ายออก และการจัดส่งที่รวดเร็วตรงเวลา ระบบ WMS หรือ Warehouse Management System จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความผิดพลาด และยกระดับการให้บริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น  WMS คืออะไร  Warehouse Management System หรือ WMS คือระบบซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคลังสินค้าแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การรับสินค้าเข้าคลัง การจัดเก็บ การควบคุมสต็อก ไปจนถึงการเบิกจ่ายและจัดส่งสินค้า ระบบนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถติดตามสถานะสินค้าได้แบบเรียลไทม์ ลดความผิดพลาดในการทำงาน และช่วยให้การบริหารพื้นที่คลังสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานผ่านการเพิ่มความแม่นยำในการจัดการสต็อกและลดการสูญเสียจากสินค้าหมดอายุหรือเสื่อมสภาพ  หลักการทำงานของระบบ Warehouse Management มีอะไรบ้าง  การทำงานของระบบ WMS แบ่งออกเป็น 3 กระบวนการหลักที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การบริหารจัดการคลังสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำสูงสุด โดยแต่ละกระบวนการมีความสำคัญและบทบาทที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้  1. การรับสินค้า กระบวนการรับสินค้าถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการบริหารคลังสินค้า WMS คือระบบที่ช่วยให้การรับสินค้าเป็นไปอย่างมีระบบและแม่นยำ โดยเริ่มจากการตรวจสอบคุณภาพสินค้าเบื้องต้น (Quality Control) เปรียบเทียบกับใบสั่งซื้อสินค้า เพื่อจัดเก็บข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ เช่น […]

เจาะลึกโมเดลธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า (Dropship) คืออะไร  

ปัจจุบันใคร ๆ ก็ยึดอาชีพการขายของออนไลน์เป็นหลักกันทั้งนั้น เพราะสามารถทำได้ค่อนข้างง่าย โดยเฉพาะ รูปแบบการทำธุรกิจแบบเป็นตัวแทนจําหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dropship ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะเป็นโมเดลธุรกิจที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง ไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการสินค้าคงคลังและมีความยืดหยุ่นสูง แต่ถึงแม้จะสามารถทำได้ง่าย แต่ถ้าขาดระบบการจัดการหลังบ้านที่ดีก็อาจจะทำให้การขายนั้นยากขึ้นได้ ในวันนี้ MyCloud จะพาไปทำความรู้จักกับการเป็นตัวแทนจําหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้า ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการบริหารจัดการระบบตัวแทนจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพกัน   ตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า คืออะไร ตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้าหรือ Dropship เป็นรูปแบบธุรกิจที่ตัวแทนจำหน่ายไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้ามาเก็บไว้เองล่วงหน้า ไม่ต้องลงทุนในการสต๊อกสินค้าและไม่ต้องจัดส่งสินค้าเอง ซึ่งหน้าที่หลัก ๆ ตัวแทนจำหน่ายนั้น คือการนำข้อมูลสินค้า รูปภาพและรายละเอียดต่าง ๆ ไปทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อหาลูกค้าให้กับร้านค้า เมื่อมีลูกค้าสนใจและตกลงซื้อสินค้า ตัวแทนจำหน่ายจะแจ้งคำสั่งซื้อไปยังเจ้าของสินค้า จากนั้นเจ้าของสินค้าจะเป็นผู้จัดส่งสินค้าจากคลังไปยังลูกค้าโดยตรง การเปิดขายของออนไลน์ด้วยรูปแบบนี้ ช่วยให้ผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจแต่มีทุนน้อย หรือผู้ที่ไม่ต้องการรับภาระในการจัดการสินค้าคงคลัง สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย เพียงแค่มีทักษะด้านการตลาดและการขายเพื่อนำเสนอสินค้าให้ถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ เท่านี้ก็สามารถหารายได้จากช่องทางนี้ได้แล้ว    ข้อดีของการเป็นตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า  การเป็นตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้ามีข้อดีมากมายทั้งสำหรับตัวแทนจำหน่ายเองและเจ้าของสินค้า มาดูกันว่ามีข้อดีอะไรบ้าง    ขายสินค้าได้หลากหลายอย่างพร้อมกัน สำหรับเจ้าของแบรนด์ การกระจายสินค้าให้หลากหลายและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้ การมีสินค้าเพียงประเภทเดียวอาจไม่เพียงพอในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงเร็ว ดังนั้น การเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่หรือเปิดรับตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้า (Dropship) […]

Late Shipment Rate คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรต่อการขายของออนไลน์ 

“สินค้าจะมาถึงเมื่อไหร่คะ?” “ทำไมส่งช้าจัง” “ขอยกเลิกออเดอร์ดีกว่า” คำบ่นเหล่านี้คงเป็นฝันร้ายของผู้ขายออนไลน์หลายคน ยิ่งในยุคที่ลูกค้าต้องการความรวดเร็ว การจัดส่งล่าช้าเพียงไม่กี่ออเดอร์ก็อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของร้านค้าได้ Late Shipment Rate จึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ผู้ขายออนไลน์ต้องจับตามอง เพราะไม่เพียงกระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้า แต่ยังส่งผลต่อยอดขายและการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว มาทำความรู้จักกับอัตราการจัดส่งสินค้าล่าช้าให้มากขึ้น ในบทความนี้กัน Late Shipment Rate คืออะไร  Late Shipment Rate หรือ LSR คือเกณฑ์กำหนดบน Shopee ที่แสดงถึงจำนวนออเดอร์ที่มีการจัดส่งล่าช้า เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนออเดอร์ทั้งหมดในช่วงเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปจะวัดผลในช่วง 7 วันย้อนหลัง ซึ่งการจัดส่งล่าช้าในที่นี้ หมายถึงการที่ผู้ขายไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด (Delivery Time Standard หรือ DTS) ซึ่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ จะมีการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานเพื่อควบคุมคุณภาพการให้บริการและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับระบบ  อัตราการจัดส่งสินค้าล่าช้า มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง  สาเหตุของการ Late Shipment Rate มักเกิดจากหลายปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ วิธีการคำนวณอัตรา Late Shipment Rate  Late Shipment Rate […]

WMS คืออะไร แก้ปัญหาคลังสินค้าด้วย ระบบบริหารจัดการคลังสินค้า 

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้นเรื่อยๆ การบริหารจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ต้องรับมือกับความท้าทายในการจัดการสต็อกสินค้า การรับเข้า-จ่ายออก และการจัดส่งที่รวดเร็วตรงเวลา ระบบ WMS หรือ Warehouse Management System จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความผิดพลาด และยกระดับการให้บริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น  WMS คืออะไร  Warehouse Management System หรือ WMS คือระบบซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคลังสินค้าแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การรับสินค้าเข้าคลัง การจัดเก็บ การควบคุมสต็อก ไปจนถึงการเบิกจ่ายและจัดส่งสินค้า ระบบนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถติดตามสถานะสินค้าได้แบบเรียลไทม์ ลดความผิดพลาดในการทำงาน และช่วยให้การบริหารพื้นที่คลังสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานผ่านการเพิ่มความแม่นยำในการจัดการสต็อกและลดการสูญเสียจากสินค้าหมดอายุหรือเสื่อมสภาพ  หลักการทำงานของระบบ Warehouse Management มีอะไรบ้าง  การทำงานของระบบ WMS แบ่งออกเป็น 3 กระบวนการหลักที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การบริหารจัดการคลังสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำสูงสุด โดยแต่ละกระบวนการมีความสำคัญและบทบาทที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้  1. การรับสินค้า กระบวนการรับสินค้าถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการบริหารคลังสินค้า WMS คือระบบที่ช่วยให้การรับสินค้าเป็นไปอย่างมีระบบและแม่นยำ โดยเริ่มจากการตรวจสอบคุณภาพสินค้าเบื้องต้น (Quality Control) เปรียบเทียบกับใบสั่งซื้อสินค้า เพื่อจัดเก็บข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ เช่น […]

เจาะลึกโมเดลธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า (Dropship) คืออะไร  

ปัจจุบันใคร ๆ ก็ยึดอาชีพการขายของออนไลน์เป็นหลักกันทั้งนั้น เพราะสามารถทำได้ค่อนข้างง่าย โดยเฉพาะ รูปแบบการทำธุรกิจแบบเป็นตัวแทนจําหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dropship ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะเป็นโมเดลธุรกิจที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง ไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการสินค้าคงคลังและมีความยืดหยุ่นสูง แต่ถึงแม้จะสามารถทำได้ง่าย แต่ถ้าขาดระบบการจัดการหลังบ้านที่ดีก็อาจจะทำให้การขายนั้นยากขึ้นได้ ในวันนี้ MyCloud จะพาไปทำความรู้จักกับการเป็นตัวแทนจําหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้า ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการบริหารจัดการระบบตัวแทนจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพกัน   ตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า คืออะไร ตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้าหรือ Dropship เป็นรูปแบบธุรกิจที่ตัวแทนจำหน่ายไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้ามาเก็บไว้เองล่วงหน้า ไม่ต้องลงทุนในการสต๊อกสินค้าและไม่ต้องจัดส่งสินค้าเอง ซึ่งหน้าที่หลัก ๆ ตัวแทนจำหน่ายนั้น คือการนำข้อมูลสินค้า รูปภาพและรายละเอียดต่าง ๆ ไปทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อหาลูกค้าให้กับร้านค้า เมื่อมีลูกค้าสนใจและตกลงซื้อสินค้า ตัวแทนจำหน่ายจะแจ้งคำสั่งซื้อไปยังเจ้าของสินค้า จากนั้นเจ้าของสินค้าจะเป็นผู้จัดส่งสินค้าจากคลังไปยังลูกค้าโดยตรง การเปิดขายของออนไลน์ด้วยรูปแบบนี้ ช่วยให้ผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจแต่มีทุนน้อย หรือผู้ที่ไม่ต้องการรับภาระในการจัดการสินค้าคงคลัง สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย เพียงแค่มีทักษะด้านการตลาดและการขายเพื่อนำเสนอสินค้าให้ถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ เท่านี้ก็สามารถหารายได้จากช่องทางนี้ได้แล้ว    ข้อดีของการเป็นตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า  การเป็นตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้ามีข้อดีมากมายทั้งสำหรับตัวแทนจำหน่ายเองและเจ้าของสินค้า มาดูกันว่ามีข้อดีอะไรบ้าง    ขายสินค้าได้หลากหลายอย่างพร้อมกัน สำหรับเจ้าของแบรนด์ การกระจายสินค้าให้หลากหลายและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้ การมีสินค้าเพียงประเภทเดียวอาจไม่เพียงพอในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงเร็ว ดังนั้น การเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่หรือเปิดรับตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้า (Dropship) […]

Late Shipment Rate คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรต่อการขายของออนไลน์ 

“สินค้าจะมาถึงเมื่อไหร่คะ?” “ทำไมส่งช้าจัง” “ขอยกเลิกออเดอร์ดีกว่า” คำบ่นเหล่านี้คงเป็นฝันร้ายของผู้ขายออนไลน์หลายคน ยิ่งในยุคที่ลูกค้าต้องการความรวดเร็ว การจัดส่งล่าช้าเพียงไม่กี่ออเดอร์ก็อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของร้านค้าได้ Late Shipment Rate จึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ผู้ขายออนไลน์ต้องจับตามอง เพราะไม่เพียงกระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้า แต่ยังส่งผลต่อยอดขายและการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว มาทำความรู้จักกับอัตราการจัดส่งสินค้าล่าช้าให้มากขึ้น ในบทความนี้กัน Late Shipment Rate คืออะไร  Late Shipment Rate หรือ LSR คือเกณฑ์กำหนดบน Shopee ที่แสดงถึงจำนวนออเดอร์ที่มีการจัดส่งล่าช้า เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนออเดอร์ทั้งหมดในช่วงเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปจะวัดผลในช่วง 7 วันย้อนหลัง ซึ่งการจัดส่งล่าช้าในที่นี้ หมายถึงการที่ผู้ขายไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด (Delivery Time Standard หรือ DTS) ซึ่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ จะมีการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานเพื่อควบคุมคุณภาพการให้บริการและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับระบบ  อัตราการจัดส่งสินค้าล่าช้า มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง  สาเหตุของการ Late Shipment Rate มักเกิดจากหลายปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ วิธีการคำนวณอัตรา Late Shipment Rate  Late Shipment Rate […]