Knowledge Center

เตือนก่อนพัง! 8 Red Flags ปัญหาการขายของออนไลน์ 2025 รู้ก่อน แก้ไขทัน!

ปัญหาการขายของออนไลน์

ในยุคที่ใคร ๆ ก็พูดถึงการขายของออนไลน์ว่า “ทำง่าย รวยเร็ว” แต่ในความเป็นจริงแล้ว ข้อเสียของการขายของออนไลน์ หรือปัญหาการขายของออนไลน์ที่ผู้ประกอบการต้องเจอมีมากมายกว่าที่คิด! ปี 2025 นี้ เทรนด์การค้าขายออนไลน์ยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น การแข่งขันสูงขึ้นและความคาดหวังของลูกค้าก็สูงขึ้นตามไปด้วย หากคุณกำลังเผชิญกับสัญญาณอันตราย (Red Flags) เหล่านี้ ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องรีบแก้ก่อนที่ธุรกิจของคุณจะไปไม่รอด! 

ทำไมการขายของออนไลน์ถึงไม่ง่ายอย่างที่คิด?

หลายคนอาจจะมองว่า การขายของออนไลน์เป็นเรื่องง่ายแค่มีสินค้า มีเพจก็ขายได้แล้ว แต่ความจริงไม่ใช่เลย! เบื้องหลังความสำเร็จของร้านค้าออนไลน์ที่เห็นกันอยู่ มีอะไรซับซ้อนกว่านั้นเยอะ ทั้งการจัดการสต๊อก การตลาด การตอบลูกค้า การแพ็คสินค้า การส่งของ และที่สำคัญคือการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ลองคิดดูสิว่า ถ้าคุณต้องมานั่งจัดการทุกอย่างเองหมด เวลาพักผ่อนของคุณจะเหลือเหรอ? นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของข้อเสียของการขายของออนไลน์ที่หลายคนมองข้ามไป

8 ปัญหาขายของออนไลน์ที่คุณต้องเจอ! 

มาดูกันดีกว่าว่า ปัญหาการขายของออนไลน์ไหนบ้างที่กำลังเป็น Red Flags ในธุรกิจของคุณ และต้องรีบแก้ไขก่อนจะสายเกินไป 

แพ็คสินค้า

1. สต๊อกล้นหรือสินค้าขาดบ่อย 

Red Flag ธงแรกที่เห็นได้ชัดเจน คือคุณมีสต๊อกสินค้าเยอะเกินไปจนทำให้เงินทุนจม หรือสินค้าขาดสต๊อกบ่อยจนทำให้ลูกค้าต้องรอนาน นั่นหมายความว่า คุณกำลังมีข้อเสียของการขายของออนไลน์ ในเรื่องการบริหารจัดการสต๊อกที่ไม่มีประสิทธิภาพ อาจเกิดจากการคาดการณ์ยอดขายผิดพลาด หรือระบบจัดการสต๊อกไม่ดีพอ

2. ขายดีแต่ขาดทุน 

หลายคนอาจจะดีใจที่ยอดขายปัง ๆ แต่กลับต้องเจอกับปัญหาการขายของออนไลน์ที่หนักใจกว่า คือขายดีแต่ทำไมเงินไม่เหลือ? สัญญาณนี้บ่งบอกว่า คุณอาจจะกำลังมีปัญหาเรื่องต้นทุน ตั้งราคา จัดการค่าใช้จ่ายแฝงต่าง ๆ เช่น ค่าการตลาด ค่าแพ็คกิ้ง ค่าขนส่งที่อาจจะสูงกว่าที่คิดไว้ ทำให้ธุรกิจไม่ทำกำไรอย่างที่ควรจะเป็น 

สำหรับการใช้บริการด้าน Fulfillment หรือคลังสินค้าออนไลน์ สามารถช่วยลดต้นทุนส่วนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ Fulfillment จะช่วยบริหารจัดการสต็อกสินค้า แพ็กของ และจัดส่งด้วยระบบที่มาตรฐานและประหยัดเวลา อีกทั้งยังช่วยลดข้อผิดพลาดและต้นทุนจากการจัดการด้วยตัวเอง ทำให้คุณควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น และทำกำไรจากยอดขายได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มราคา ระบบ Fulfillment ที่ดีจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจคุณขายดีและมีกำไรอย่างยั่งยืน

3. โดนเท ไม่โอน CF No CC

CF แล้วหาย” หรือ “ไม่โอน ไม่รับสาย” อีกปัญหาการขายของออนไลน์ สุดคลาสสิกที่ร้านค้าต้องเจออยู่บ่อย ๆ นั่นอาจเป็นเพราะระบบการยืนยันคำสั่งซื้อไม่รัดกุม ลูกค้ามีทางเลือกเยอะขึ้นหรือการสื่อสารกับลูกค้ายังไม่ชัดเจนพอ ทำให้ลูกค้ายกเลิกคำสั่งซื้อกลางคัน หรือไม่ชำระเงินตามกำหนด

4. การจัดส่งล่าช้า 

ลูกค้าในยุค 2025 คาดหวังการจัดส่งที่รวดเร็วทันใจ หากจัดส่งพัสดุล่าช้า ส่งผิด พัสดุเสียหายหรือไม่มีระบบติดตามสถานะพัสดุที่ดีพอ นี่คืออีกหนึ่ง Red Flag ตัวใหญ่ที่ทำให้ลูกค้าไม่กลับมาซื้อซ้ำอย่างแน่นอน

5. ทำการตลาดไม่ตรงกลุ่ม ยิงแอดหมดเป็นหมื่นไม่มียอด

ยิงแอดไปเท่าไหร่ก็เหมือนเอาเงินไปทิ้งทะเล ปัญหาการขายของออนไลน์ที่น่ากลุ้มใจที่สุดสำหรับหลาย ๆ คน นั่นอาจเป็นเพราะคุณยังไม่เข้าใจกลุ่มเป้าหมายดีพอ หรือยังไม่มีกลยุทธ์การตลาดที่แม่นยำ ทำให้งบการตลาดที่ลงทุนไปไม่เกิดผลลัพธ์ที่ดีพอ 

เพื่อช่วยให้คุณบริหารจัดการสินค้าและยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมี Sale Dashboard จึงเป็นตัวช่วยสำคัญ ที่จะทำให้คุณเห็นภาพรวมของสต็อกสินค้า ยอดขายและพฤติกรรมของลูกค้าผ่านการซื้อสินค้า พร้อมกับข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึกที่ช่วยให้คุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายและวางแผนทางการตลาดได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น

เพียงแค่มีข้อมูลจาก Dashboard คุณจะรู้ทันทีว่าสินค้าไหนขายดี กลุ่มลูกค้าใดสนใจสินค้าใด ทำให้การยิงแอดไม่ใช่แค่การลองผิดลองถูก แต่เป็นการลงทุนที่ตรงจุด ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายจริง ๆ และเพิ่มโอกาสให้ยอดขายพุ่งขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

6. ลูกค้าไม่กลับมาซื้อซ้ำ 

ถ้าคุณมีลูกค้าใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ แต่ลูกค้าเก่ากลับหายไปหมด นี่คือ Red Flag ที่บ่งบอกว่าธุรกิจของคุณอาจจะกำลังมีปัญหา ทั้งในเรื่องของการรักษาฐานลูกค้า อาจเป็นเพราะประสบการณ์การซื้อที่ไม่ดี สินค้าไม่ตอบโจทย์ หรือไม่มีกลยุทธ์ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

7. ระบบหลังบ้านที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ

ระบบหลังบ้านถือเป็นหัวใจสำคัญของการขายออนไลน์ เพราะเป็นส่วนที่ช่วยบริหารจัดการคำสั่งซื้อ สต็อกสินค้า แพ็คสินค้าและการจัดส่ง หากระบบหลังบ้านไม่มีประสิทธิภาพ ก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสบการณ์ของลูกค้า เช่น การจัดส่งล่าช้า ข้อมูลสต็อกไม่ตรงกับจริง หรือการตอบกลับคำสั่งซื้อที่ช้า นอกจากนี้ ยังอาจทำให้คุณเสียเวลามากขึ้น ต้องคอยแก้ไขปัญหาซ้ำ ๆ จนต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้นและทำให้พลาดโอกาสในการขยายธุรกิจอีกด้วย 

เพื่อแก้ไขปัญหานี้ MyCloud เราได้ให้บริการ Fulfillment Service หรือระบบจัดการคลังสินค้าออนไลน์ที่ทันสมัยและครบวงจร ช่วยลดภาระงานหลังบ้านทั้งหมดให้กับคุณ ตั้งแต่ขั้นตอนการรับเข้าสินค้า (Inbound) สินค้า การเก็บสินค้า และการแพ็กสินค้าไปจนถึงการส่งมอบพัสดุให้กับขนส่ง เพื่อจัดส่งให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยจะเชื่อมต่อกับช่องทางขายต่าง ๆ ผ่านระบบ API ทำให้ข้อมูลคำสั่งซื้อและสต๊อกสินค้าอัปเดตแบบเรียลไทม์ทุก ๆ 5 นาที ช่วยให้คุณบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น ประหยัดเวลาและโฟกัสกับการตลาดเพื่อขยายธุรกิจได้อย่างเต็มที่ 

8. แพลตฟอร์มเปลี่ยนอัลกอริธึม แต่ร้านไม่ปรับตัว 

โลกออนไลน์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น FacebookInstagramTikTok หรือ ShopeeLazada มักมีการปรับเปลี่ยนอัลกอริธึมอยู่เสมอ ถ้าธุรกิจของคุณไม่ปรับตัวตาม ไม่เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และยังใช้วิธีเดิม ๆ อยู่ นั่นหมายความว่าคุณกำลังเจอกับปัญหาในการขายของออนไลน์ที่ร้ายแรงที่สุด และอาจจะถูกคู่แข่งทิ้งห่างไปอย่างรวดเร็ว 

MyCloud Fulfillment ผู้ช่วยแก้ปัญหาให้ธุรกิจของคุณ

ถ้าคุณกำลังเจอ Red Flags เหล่านี้อยู่ ไม่ต้องกังวลไปครับ! MyCloud Fulfillment เราคือผู้ช่วยที่จะเข้ามาแก้ไข ปัญหาการขายของออนไลน์ เหล่านี้ให้ธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราเข้าใจถึงข้อเสียของการขายของออนไลน์ที่ผู้ประกอบการต้องเจอ และพร้อมนำเสนอโซลูชันที่ครบวงจร ตั้งแต่การเก็บสินค้า แพ็กสินค้า และเตรียมจัดส่งสินค้า ครอบคลุมทั้งระบบหลังบ้าน และคลังสินค้าที่ได้มาตรฐาน มีระบบจัดการสต๊อกที่แม่นยำ พร้อมทีมงานมืออาชีพที่จะช่วยดูแลทุกขั้นตอนแทนคุณ ทำให้คุณมีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างสรรค์สินค้า และการตลาดได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จุกจิกอีกต่อไป

ใช้ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี

สรุปบทความ

ปัญหาการขายของออนไลน์ และข้อเสียของการขายของออนไลน์ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สามารถป้องกันและแก้ไขได้ หากคุณรู้เท่าทันสัญญาณอันตราย (Red Flags) เหล่านี้ การมีตัวช่วยที่ดีอย่าง MyCloud Fulfillment จะทำให้ธุรกิจของคุณแข็งแกร่งขึ้น จัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระบบ ลดภาระงานหลังบ้าน และเพิ่มโอกาสในการเติบโตในโลกอีคอมเมิร์ซปี 2025 ได้อย่างยั่งยืน อย่าปล่อยให้ปัญหาการขายของออนไลน์ เหล่านี้มาฉุดรั้งธุรกิจของคุณอีกต่อไปนะครับ! 

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

การใช้บริการ Fulfillment คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่? 

คุ้มค่ามาก! การใช้บริการ Fulfillment ช่วยลดปัญหาการขายของออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสต๊อกและจัดส่ง ช่วยลดต้นทุนแฝง เช่น ค่าเช่าคลัง ค่าจ้างพนักงานแพ็คของ ค่าขนส่งที่แพงเมื่อส่งน้อย ทำให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น และคุณมีเวลาไปขยายธุรกิจได้เต็มที่ 

ธุรกิจขนาดเล็กควรใช้บริการ Fulfillment เลยหรือไม่?

ไม่จำเป็นต้องรอให้ธุรกิจใหญ่ก่อน! ธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถใช้บริการ Fulfillment ได้เลย เพื่อป้องกัน ปัญหาการขายของออนไลน์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การจัดการออเดอร์ที่ไม่ทัน การจัดส่งล่าช้า ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดีครับ เพราะจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคงและเป็นระบบ 

จะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาที่ต้องใช้บริการ Fulfillment? 

หากคุณกำลังเจอกับ Red Flags ที่กล่าวมาข้างต้น เช่น สต๊อกล้นบ่อย จัดส่งล่าช้า ไม่มีเวลาจัดการออเดอร์ หรือรู้สึกเหนื่อยกับการทำงานหลังบ้านมากเกินไป นั่นเป็นสัญญาณชัดเจนว่าถึงเวลาที่คุณควรพิจารณาใช้บริการ Fulfillment เพื่อแก้ไขปัญหาการขายของออนไลน์ เหล่านี้แล้ว 

MyCloud Fulfillment แตกต่างจากผู้ให้บริการ Fulfillment รายอื่นอย่างไร?

MyCloud Fulfillment โดดเด่นด้วยระบบจัดการออเดอร์และคลังสินค้าที่ทันสมัย ครบวงจร พร้อมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ เราให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้าและการแก้ไขปัญหาการขายของออนไลน์ของลูกค้าเป็นอันดับแรก นอกจากนี้เรายังมีบริการเสริมที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน ทำให้คุณหมดกังวลเรื่องข้อเสียของการขายของออนไลน์ไปได้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

CRM คืออะไร ช่วยรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างไรบ้าง

ขายของยุคนี้ ไม่ใช่แค่ซื้อมาแล้วขายไป เพราะการขายสินค้าไปได้ครั้งเดียว แล้วต้องหาลูกค้าใหม่เรื่อย ๆ อยู่ตลอด มันเหนื่อยเกินไปครับ และอาจได้ไม่คุ้มเสียอีกด้วย เพราะจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น เพื่อใช้ในการดึงดูดลูกค้าใหม่ เพราะงั้นสิ่งที่สำคัญในการตลาดยุคใหม่จึงเน้นใส่ใจประสบการณ์ของผู้บริโภคเป็นหลัก และหันมาทำ CRM เพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ให้ผู้ซื้อเกิดความประทับใจจนนำไปสู่การซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง และรักษาฐานลูกค้า เพื่อให้มีการบอกต่อหรือแนะนำคนใกล้ตัวของเขาให้มาซื้อสินค้าหรือใช้บริการเราได้ในอนาคตครับ CRM คืออะไร ? Customer Relationship Management (CRM) คือการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งหมายถึงวิธีการที่เราจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มยอดขายและ เก็บข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อรักษาและขยายฐานลูกค้าในระยะยาว การทำ CRM จะช่วยสร้างทัศนคติที่ดีให้กับลูกค้า ให้มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ ต่อสินค้าหรือบริการ   ประเภทของ CRM มีอะไรบ้าง หลังจากที่ทำความรู้จักกันไปแล้วว่า CRM คืออะไร มาดูกันดีกว่าครับว่า CRM หรือการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า มีกี่ประเภท อะไรบ้าง   Operational CRM บริหารจัดการ Operational CRM คือระบบที่ช่วยจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า เช่น ข้อมูลการติดต่อกับลูกค้า ข้อมูลการบริการ ใบเสนอราคา หรือข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า […]

5 ข้อดีของการเปิดหน้าร้าน – MyCloudFulfillment

ในยุคที่ใครๆ ก็ขายของออนไลน์ การมีหน้าร้าน ยังจำเป็นอยู่ไหม? ถ้าเปิดแล้วจะช่วยให้ขายดีขึ้นหรือเปล่า? คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า… ลูกค้าจะมาจากหน้าร้านมากน้อยแค่ไหน? แล้วแบรนด์คุณจำเป็นต้องมีหน้าร้านไหม? ถ้าจำเป็น… ก็เปิด ถ้ายังไม่จำเป็น… ก็อย่าเพิ่งเปิดครับ แต่ถ้าถามผมว่า มีหน้าร้านแล้วมันดีไหม? แน่นอนมันต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่แล้ว ถ้าตัดเรื่องค่าเช่าที่ หรือค่าจ้างพนักงานออกไป ก็มีข้อดีเยอะแยะเลยครับ เท่าที่ผมคิดออกมี 5 ข้อ ลองอ่านแล้วเอาไปตัดสินใจกันดูนะครับ 1.ลูกค้ากล้าซื้อ มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นจุดแข็งของออฟไลน์ที่ร้านค้าออนไลน์ก็ยังทดแทนตรงนี้ไม่ได้การขายของแบบไม่เห็นหน้ากันมันจะมีความไม่สบายใจลูกค้าก็จะมีคำถามในใจว่า “จะโดนโกงไหมนะ” ฝั่งพ่อค้าแม่ค้าก็จะหงุดหงิดว่า “เมื่อไหร่จะโอน” แต่ถ้าเรามีหน้าร้าน ก็ตัดปัญหาตรงนี้ไปได้เลยครับลูกค้าจะรู้สึกว่า สามารถติดต่อเราได้ตลอดเวลาเราจะไม่หนีหายไป เพราะเราสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ลูกค้าสามารถติดต่อเราได้ทุกที่ทุกเวลา  2.ได้ลองสินค้าจริง ตัดสินใจซื้อง่าย ผู้บริโภคยังมีความคิดที่ว่า ไม่เห็นไม่ซื้อถึงแม้จะเห็นรูปสินค้าออนไลน์อยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังต้องการประสบการณ์ตรงกับตัวสินค้า เช่น สัมผัส มองเห็น ดมกลิ่น ได้ทดลองสินค้าจริงๆ ถ้าคุณขายของประเภทเสื้อผ้า หรือความสวยความงาม เช่น เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว น้ำหอม ฯลฯ การเปิดหน้าร้านก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เร็วขึ้นด้วยนะครับ คุณอาจจะโปรโมทจากช่องทางออนไลน์ของร้านคุณว่ามีโปรโมชั่นนี้ที่หน้าร้าน เพื่อดึงดูดให้คนมาที่ร้านก็ได้ก็เป็นการเชื่อมออฟไลน์กับออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน 3.รู้ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า […]

CRM คืออะไร ช่วยรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างไรบ้าง

ขายของยุคนี้ ไม่ใช่แค่ซื้อมาแล้วขายไป เพราะการขายสินค้าไปได้ครั้งเดียว แล้วต้องหาลูกค้าใหม่เรื่อย ๆ อยู่ตลอด มันเหนื่อยเกินไปครับ และอาจได้ไม่คุ้มเสียอีกด้วย เพราะจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น เพื่อใช้ในการดึงดูดลูกค้าใหม่ เพราะงั้นสิ่งที่สำคัญในการตลาดยุคใหม่จึงเน้นใส่ใจประสบการณ์ของผู้บริโภคเป็นหลัก และหันมาทำ CRM เพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ให้ผู้ซื้อเกิดความประทับใจจนนำไปสู่การซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง และรักษาฐานลูกค้า เพื่อให้มีการบอกต่อหรือแนะนำคนใกล้ตัวของเขาให้มาซื้อสินค้าหรือใช้บริการเราได้ในอนาคตครับ CRM คืออะไร ? Customer Relationship Management (CRM) คือการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งหมายถึงวิธีการที่เราจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มยอดขายและ เก็บข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อรักษาและขยายฐานลูกค้าในระยะยาว การทำ CRM จะช่วยสร้างทัศนคติที่ดีให้กับลูกค้า ให้มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ ต่อสินค้าหรือบริการ   ประเภทของ CRM มีอะไรบ้าง หลังจากที่ทำความรู้จักกันไปแล้วว่า CRM คืออะไร มาดูกันดีกว่าครับว่า CRM หรือการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า มีกี่ประเภท อะไรบ้าง   Operational CRM บริหารจัดการ Operational CRM คือระบบที่ช่วยจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า เช่น ข้อมูลการติดต่อกับลูกค้า ข้อมูลการบริการ ใบเสนอราคา หรือข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า […]

5 ข้อดีของการเปิดหน้าร้าน – MyCloudFulfillment

ในยุคที่ใครๆ ก็ขายของออนไลน์ การมีหน้าร้าน ยังจำเป็นอยู่ไหม? ถ้าเปิดแล้วจะช่วยให้ขายดีขึ้นหรือเปล่า? คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า… ลูกค้าจะมาจากหน้าร้านมากน้อยแค่ไหน? แล้วแบรนด์คุณจำเป็นต้องมีหน้าร้านไหม? ถ้าจำเป็น… ก็เปิด ถ้ายังไม่จำเป็น… ก็อย่าเพิ่งเปิดครับ แต่ถ้าถามผมว่า มีหน้าร้านแล้วมันดีไหม? แน่นอนมันต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่แล้ว ถ้าตัดเรื่องค่าเช่าที่ หรือค่าจ้างพนักงานออกไป ก็มีข้อดีเยอะแยะเลยครับ เท่าที่ผมคิดออกมี 5 ข้อ ลองอ่านแล้วเอาไปตัดสินใจกันดูนะครับ 1.ลูกค้ากล้าซื้อ มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นจุดแข็งของออฟไลน์ที่ร้านค้าออนไลน์ก็ยังทดแทนตรงนี้ไม่ได้การขายของแบบไม่เห็นหน้ากันมันจะมีความไม่สบายใจลูกค้าก็จะมีคำถามในใจว่า “จะโดนโกงไหมนะ” ฝั่งพ่อค้าแม่ค้าก็จะหงุดหงิดว่า “เมื่อไหร่จะโอน” แต่ถ้าเรามีหน้าร้าน ก็ตัดปัญหาตรงนี้ไปได้เลยครับลูกค้าจะรู้สึกว่า สามารถติดต่อเราได้ตลอดเวลาเราจะไม่หนีหายไป เพราะเราสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ลูกค้าสามารถติดต่อเราได้ทุกที่ทุกเวลา  2.ได้ลองสินค้าจริง ตัดสินใจซื้อง่าย ผู้บริโภคยังมีความคิดที่ว่า ไม่เห็นไม่ซื้อถึงแม้จะเห็นรูปสินค้าออนไลน์อยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังต้องการประสบการณ์ตรงกับตัวสินค้า เช่น สัมผัส มองเห็น ดมกลิ่น ได้ทดลองสินค้าจริงๆ ถ้าคุณขายของประเภทเสื้อผ้า หรือความสวยความงาม เช่น เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว น้ำหอม ฯลฯ การเปิดหน้าร้านก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เร็วขึ้นด้วยนะครับ คุณอาจจะโปรโมทจากช่องทางออนไลน์ของร้านคุณว่ามีโปรโมชั่นนี้ที่หน้าร้าน เพื่อดึงดูดให้คนมาที่ร้านก็ได้ก็เป็นการเชื่อมออฟไลน์กับออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน 3.รู้ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า […]