Knowledge Center

Fast Fulfillment Rate คืออะไร จัดการได้ทันทุกออเดอร์ กระตุ้นยอดขายได้มากขึ้น! 

สินค้าเตรียมจัดส่ง

การจัดการออเดอร์ที่ล่าช้าไม่เพียงสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้า แต่ยังส่งผลกระทบต่อยอดขายและภาพลักษณ์ของร้านค้าในระยะยาว นั่นคือเหตุผลที่แพลตฟอร์ม E-commerce นั้นค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญกับ Fast Fulfillment Rate เพราะเป็นมาตรวัดประสิทธิภาพในการจัดการคำสั่งซื้อภายใน 24 ชั่วโมง ทั้งนี้การรักษาระดับ FFR ให้ดีไม่เพียงช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า แต่ยังเพิ่มโอกาสในการขายและการเติบโตของร้านค้าบนแพลตฟอร์มอีกด้วย วันนี้ MyCloud จะพาคุณมาทำความเข้าใจกับ Fast Fulfillment Rate คืออะไร และวิธีการจัดการออเดอร์สินค้าให้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จไปด้วยกัน 

Fast Fulfillment Rate คืออะไร 

Fast Fulfillment Rate หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า FFR คือ SLA หรือเกณฑ์ชี้วัดประสิทธิภาพในการจัดการคำสั่งซื้อบนแพลตฟอร์ม Lazada โดยจะวัดจากความสามารถของร้านค้าในการจัดการออเดอร์ให้พร้อมจัดส่งภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับคำสั่งซื้อ หากร้านค้าสามารถเตรียมสินค้าเพื่อส่งมอบให้แก่บริษัทขนส่ง และขึ้นสถานะ Ready to Ship (RTS) และส่งมอบสินค้าได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด (TTS) ก็จะส่งผลโดยตรงต่อคะแนน FFR ของร้านค้า ดังนั้น FFR จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ Lazada ใช้พิจารณาในการให้สิทธิประโยชน์และโอกาสทางการตลาดต่าง ๆ แก่ผู้ขายด้วย 

ข้อกำหนดของเกณฑ์ Fast Fulfillment Rate 

เนื่องจาก Fast Fulfillment Rate คือเกณฑ์ที่ร้านค้าจำเป็นจะต้องส่งสินค้าในทันภายในระยะเวลา 24 ชม. จึงมีข้อกำหนดของ FFR เช่นกัน ดังนี้

  • คำสั่งซื้อที่มีการเข้ารับโดนขนส่ง (Pick Up) ต้องกดให้คำสั่งซื้อนี้ขึ้นสถานะ Ready to Ship (RTS) ภายใน 24 ชม. และส่งมอบสินค้าให้กับขนส่ง (TTS) ภายใน 48 ชั่วโมง หลังจากได้รับคำสั่งซื้อ 
  • คำสั่งซื้อที่ร้านค้านำไปส่งที่จุดรับสินค้า (Drop-off) ร้านค้าต้องส่งมอบสินค้าให้กับขนส่ง (TTS) ที่จุด Drop-off ภายใน 48 ชม. หลังจากได้รับคำสั่งซื้อ  
หนักงานแพ็คสินค้า

เกณฑ์การจัดส่งสินค้าเร็ว (Fast Fulfillment Rate) สำหรับร้านค้าบน Lazada

ทำความรู้จักกับ Fast Fulfillment Rate กันไปพอสังเขปแล้ว หลาย ๆ คนก็อาจจะสงสัยกันใช่ไหม ว่าแล้วแบบไหนถึงจะทำให้ร้านค้าของเราอยู่ในเกณฑ์ FFR ที่ดีบ้าง วันนี้เราได้ยกตัวอย่างสถานการณ์มาให้ดูกัน!

สำหรับร้านค้าที่มีการเข้ารับสินค้าโดยขนส่ง (Pick-up)

สำหรับคำสั่งซื้อที่มีการเข้ารับโดนขนส่ง (Pick Up) หากต้องการจะผ่านเกณฑ์ Fast Fulfillment Rate เพื่อรักษาเกณฑ์คะแนนที่ดีของร้านค้าบน Lazada ได้นั้น อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นว่าจำเป็นจะต้องแพ็คสินค้าและกดขึ้นสถานะ Ready to Ship (RTS) ภายใน 24 ชม. และส่งมอบสินค้าให้กับขนส่ง (TTS) ภายใน 48 ชั่วโมง หลังจากได้รับคำสั่งซื้อ ทั้งนี้ หากในกรณีที่

  1. มีการเข้ารับสินค้าไม่สำเร็จภายใน 24 ชม. ตามเวลา RTS ที่กำหนดไม่สำเร็จ แต่สามารถส่งมอบสินค้าให้แก่ขนส่ง (TTS) ได้ ภายใน 48 ชม. จะถือว่าผ่านเกณฑ์ในการจัดส่งสินค้าเร็วอยู่
  2. มีการเข้ารับสินค้าไม่สำเร็จภายใน 24 ชม. ตามเวลา RTS ที่กำหนดไม่สำเร็จ แต่มีสาเหตุมาจากขนส่ง เช่น ไม่มีการเข้ารับสินค้า รถรับสินค้าไม่เพียงพอหรือไม่สามารถเข้ารับได้ แต่สามารถส่งมอบสินค้าให้แก่ขนส่ง (TTS) ได้ ภายใน 48 ชม. จะถือว่าผ่านเกณฑ์ในการจัดส่งสินค้าเร็วอยู่เช่นกัน 

สำหรับ ร้านค้าที่ไม่ผ่าน FFR นั้น ส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจากการเข้ารับสินค้าที่ไม่สำเร็จ รวมไปถึงการเข้ารับสินค้าที่ไม่สำเร็จ เนื่องจากเป็นความผิดของร้านค้า เช่น พัสดุไม่พร้อมส่ง ไม่สามารถติดต่อร้านค้าได้ ร้านค้าปิดบริการ สินค้าต้องห้าม ปัญหาจากใบนำส่งสินค้า ปัญหาจากแพ็คเกจหรือแพ็คสินค้าไม่เหมาะสม สินค้ามีขนาดใหญ่ ร้านค้าขอยกเลิกคำสั่งซื้อ ที่อยู่ไม่ถูกต้องและที่อยู่สำหรับเข้ารับสินค้าไม่ถูกต้อง แล้วยังไม่สามารถส่งมอบสินค้าให้แก่ขนส่ง (TTS) ได้ภายใน 48 ชม. อีก อาจทำให้ไม่ผ่านเกณฑ์การจัดส่งสินค้าเร็วได้ 

สำหรับร้านค้าที่มีการเข้ารับสินค้าแบบ Drop-off

สำหรับร้านค้าที่เลือกบริการการจัดส่งแบบส่งมอบสินค้าที่จุดบริการนั้น สามารถทำตามเงื่อนไขและข้อกำหนดได้ง่าย ๆ เพื่อให้เกณฑ์ Fast Fulfillment Rate ของเราดีขึ้น หากคุณได้รับคำสั่งซื้อมาแล้ว และสามารถแพ็คสินค้า พร้อมนำไปที่จุด Drop-off ได้ภายใน 48 ชม. จะถือว่าร้านค้าของคุณผ่านเกณฑ์การจัดส่งสินค้าเร็ว

หากคุณไม่สามารถทำได้ทันระยะเวลาการส่งมอบสินค้าที่จุดบริการได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด กล่าวง่าย ๆ คือส่งมอบสินค้าเกิน 48 ชม. จะถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์การจัดส่งสินค้าเร็ว 

ข้อดีของการจัดการคำสั่งซื้อได้ทันตามระยะเวลาที่กำหนด  

การรักษาระดับ Fast Fulfillment Rate ให้สูงมีข้อดีมากมายต่อธุรกิจ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า แต่ยังส่งผลดีต่อการเติบโตของร้านค้าในระยะยาว ดังนี้  

  • เพิ่มโอกาสในการเข้าร่วมแคมเปญพิเศษของ Lazada หากร้านค้าของคุณสามารถรักษาระดับ FFR ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีได้ ก็จะมีโอกาสได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น 
  • ได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหา ร้านค้าของคุณจะอยู่บนหน้าค้นหาแรก เพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าของคุณได้มากยิ่งขึ้น 
  • สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ การที่ร้านค้าของคุณมีเกณฑ์ FFR ที่ดี นั่นหมายถึงคุณสามารถจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกค้าหลาย ๆ คนไว้วางใจที่จะซื้อสินค้าของคุณ 
  • เพิ่มโอกาสในการขายและการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้า บริการที่ดีก็ทำให้ลูกค้าเกิด Brand Loyalty มีการบอกต่อและกลับมาใช้บริการอีกครั้งแน่นอน 

สรุปบทความ 

Fast Fulfillment Rate เป็นมากกว่าแค่ตัวเลขหรือเกณฑ์การวัดผล แต่เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการจัดการธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณ ทั้งนี้การรักษาระดับ FFR อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ แต่ยังส่งผลดีต่อความพึงพอใจของลูกค้าและการเติบโตของแบรนด์ในระยะยาว การให้ความสำคัญกับการจัดการออเดอร์อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการขายอีกด้วย 

ระบบจัดการออเดอร์ที่มีประสิทธิภาพ

เพื่อให้คุณสามารถรักษาเกณฑ์การจัดส่งสินค้าเร็ว (Fast Fullfillment Rate) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องมานั่งกังวลว่า ควรจะต้องจัดการกับออเดอร์ไหนก่อน และเพื่อให้สามารถแพ็คสินค้าได้ทันเวลา MyCloud เรามีตัวช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณ ค้าขายได้สะดวกมากยิ่งขึ้นกับ Order Management System (OMS) ตัวช่วยจัดการคำสั่งซื้อผ่านระบบ API ที่เชื่อมต่อทุกช่องทางการขาย ตั้งแต่รับคำสั่งซื้อของลูกค้าเข้ามาไปจนถึงการแพ็คสินค้า MyCloud มีพนักงานที่พร้อมคอยช่วยจัดการออเดอร์อยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในวันปกติและวันที่มีแคมเปญการขายใหญ่ เช่น ช่วงวัน Pay Day, Double Day ต่าง ๆ ไม่ว่าออเดอร์จะเข้ามาเยอะแค่ไหนก็หายห่วง MyCloud รองรับการขยายและเพิ่มกำลังคนในการจัดการออเดอร์ได้ถึง 3.5 เท่า พร้อมพื้นที่คลังสินค้าขนาดใหญ่ถึง 10,000 ตร.ม. ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะมีออเดอร์ไหนตกหล่นไป นอกจากนี้เรายังมีทีมงานหลังบ้านคอยซัพพอร์ตร้านค้าออนไลน์ตั้งแต่ช่วยวางแผนก่อนเริ่มแคมเปญจากทีม Customer Service และทีม IT Support เพื่อให้ออเดอร์ที่เกิดขึ้นช่วงระหว่างแคมเปญถูกจัดการได้อย่างราบรื่น ให้ร้านค้าของคุณไม่พลาดโอกาสส่งมอบสินค้าตาม SLA ที่กำหนด ออเดอร์จะเข้ามาเยอะแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะจัดการไม่ทัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

ร้านค้าที่มีออเดอร์เยอะ ๆ เขามีระบบจัดการหลังบ้านอะไรมาช่วย ?

ขายของดี ออเดอร์เยอะ แต่จัดการไม่ไหว ทำไงดี ? เคยสงสัยกันไหมครับว่าร้านดัง ๆ ออเดอร์เยอะ ๆ เขาจัดการกันยังไง ให้ส่งของถึงลูกค้าทุกคนโดยไม่ผิดพลาดและไม่ตกหล่น แน่นอนครับว่าหากใช้แรงงานคนในการทำงาน ย่อมมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ครับ อาจเพราะหลงลืม หรือเพราะการติดต่อสื่อสารที่คลาดเคลื่อนต่าง ๆ วันนี้ผมมีเทคนิคที่องค์กรส่วนใหญ่ใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาจัดการออเดอร์ไม่ไหว มาบอกเพื่อน ๆ นักธุรกิจครับ Order Management คืออะไร Order Management คือ การบริหารจัดการการสั่งซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งครอบคลุมทุกขั้นตอนในการสั่งซื้อ ตั้งแต่ลูกค้ากดสั่งสินค้า จนไปถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการส่งของให้ถึงมือลูกค้า ซึ่งมีความซับซ้อนมาก เพราะในแต่ละขั้นตอนก็มีรายละเอียดและปัญหาแตกต่างกัน กระบวนการทำงานของแต่ละองค์กร อาจจะแตกต่างกัน โดยกระบวนการจัดการคำสั่งซื้อประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ๆ ได้แก่           1. Placement           2. Fulfillment         […]

5G กับการยกระดับอุตสาหกรรม Logistics จาก MyCloud

          ยังจำกันได้ไหมคะสำหรับเทรนด์เทคโนโลยีในอนาคตของธุรกิจ E-Commerce และ Logistics ที่เราเคยพูดถึงไปใน Technology & Trends ที่น่าลงทุนสำหรับธุรกิจ logistics เพื่อเป็นแนวทางในการลงทุนให้กับธุรกิจ แน่นอนค่ะว่ามันใกล้เข้ามาทุกที และจะเป็นจริงในปีนี้ หรือไม่ก็ปีหน้าแล้วค่ะ ด้วยเทคโนโลยี 5G ที่จะเข้ามาเติมเต็มและยกระดับวงการ Logistics การขนส่งสินค้าทั่วโลกให้เติบโตขึ้นไปอีกขั้นค่ะ 5G กับอุตสาหกรรม Logistics            แน่นอนค่ะว่าเมื่อมี 5G เข้ามาอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็จะได้รับประโยชน์จากความเร็วของสัญญาณ ช่วยให้สะดวกสบายในการดำเนินงานมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าวงการที่จะได้รับประโยชน์เป็นอันดับต้น ๆ จากเทคโนโลยี 5G นี้คงจะเป็นวงการ Logistics และ E-Commerce นี่แหล่ะค่ะ เพราะการเชื่อมต่อที่ง่ายขึ้น และรวดเร็ว ทำให้เราสามารถขยายพื้นที่การเชื่อมต่อไปในที่ไกล ๆ ได้ครอบคลุมมากขึ้น ส่งผลให้การส่งสินค้าและบริการสะดวกขึ้นตามไปด้วย รวมถึงการตรวจสอบ ติดตามพัสดุที่เรียกได้ว่ามาได้ถูกจังหวะ พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ัหันมาซื้อของออนไลน์กันมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมานี้เลยล่ะค่ะ   […]

ร้านค้าที่มีออเดอร์เยอะ ๆ เขามีระบบจัดการหลังบ้านอะไรมาช่วย ?

ขายของดี ออเดอร์เยอะ แต่จัดการไม่ไหว ทำไงดี ? เคยสงสัยกันไหมครับว่าร้านดัง ๆ ออเดอร์เยอะ ๆ เขาจัดการกันยังไง ให้ส่งของถึงลูกค้าทุกคนโดยไม่ผิดพลาดและไม่ตกหล่น แน่นอนครับว่าหากใช้แรงงานคนในการทำงาน ย่อมมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ครับ อาจเพราะหลงลืม หรือเพราะการติดต่อสื่อสารที่คลาดเคลื่อนต่าง ๆ วันนี้ผมมีเทคนิคที่องค์กรส่วนใหญ่ใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาจัดการออเดอร์ไม่ไหว มาบอกเพื่อน ๆ นักธุรกิจครับ Order Management คืออะไร Order Management คือ การบริหารจัดการการสั่งซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งครอบคลุมทุกขั้นตอนในการสั่งซื้อ ตั้งแต่ลูกค้ากดสั่งสินค้า จนไปถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการส่งของให้ถึงมือลูกค้า ซึ่งมีความซับซ้อนมาก เพราะในแต่ละขั้นตอนก็มีรายละเอียดและปัญหาแตกต่างกัน กระบวนการทำงานของแต่ละองค์กร อาจจะแตกต่างกัน โดยกระบวนการจัดการคำสั่งซื้อประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ๆ ได้แก่           1. Placement           2. Fulfillment         […]

5G กับการยกระดับอุตสาหกรรม Logistics จาก MyCloud

          ยังจำกันได้ไหมคะสำหรับเทรนด์เทคโนโลยีในอนาคตของธุรกิจ E-Commerce และ Logistics ที่เราเคยพูดถึงไปใน Technology & Trends ที่น่าลงทุนสำหรับธุรกิจ logistics เพื่อเป็นแนวทางในการลงทุนให้กับธุรกิจ แน่นอนค่ะว่ามันใกล้เข้ามาทุกที และจะเป็นจริงในปีนี้ หรือไม่ก็ปีหน้าแล้วค่ะ ด้วยเทคโนโลยี 5G ที่จะเข้ามาเติมเต็มและยกระดับวงการ Logistics การขนส่งสินค้าทั่วโลกให้เติบโตขึ้นไปอีกขั้นค่ะ 5G กับอุตสาหกรรม Logistics            แน่นอนค่ะว่าเมื่อมี 5G เข้ามาอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็จะได้รับประโยชน์จากความเร็วของสัญญาณ ช่วยให้สะดวกสบายในการดำเนินงานมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าวงการที่จะได้รับประโยชน์เป็นอันดับต้น ๆ จากเทคโนโลยี 5G นี้คงจะเป็นวงการ Logistics และ E-Commerce นี่แหล่ะค่ะ เพราะการเชื่อมต่อที่ง่ายขึ้น และรวดเร็ว ทำให้เราสามารถขยายพื้นที่การเชื่อมต่อไปในที่ไกล ๆ ได้ครอบคลุมมากขึ้น ส่งผลให้การส่งสินค้าและบริการสะดวกขึ้นตามไปด้วย รวมถึงการตรวจสอบ ติดตามพัสดุที่เรียกได้ว่ามาได้ถูกจังหวะ พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ัหันมาซื้อของออนไลน์กันมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมานี้เลยล่ะค่ะ   […]