Knowledge Center

FIFO, LIFO, FEFO คืออะไร การการหยิบสินค้าแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร

จริง ๆ แล้วทุกขั้นตอนของการบริการ fulfillment มีความสำคัญทั้งหมดเลยครับ แต่บางคนอาจจะให้ความสำคัญไปที่ขั้นตอนการเก็บ การเเพ็ค และส่งมากกว่า จนลืมไปว่าหากขั้นตอนการหยิบสินค้าก่อนแพ็คผิดผลาดก็อาจเกิดปัญหาในขั้นตอนถัด ๆ มาได้ครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ใน ขั้นตอนการหยิบสินค้า (Picking) ในคลังสินค้า ผมได้ยกตัวอย่างวิธีการหยิบสินค้า ที่คลังสินค้าต่าง ๆ มักใช้กันไปแล้วนะครับ blog นี้ผมจึงอยากให้ทุกคนรู้จักรูปแบบการหยิบสินค้ากันบ้างครับ 

FIFO คืออะไร 

FIFO หรือ First-In First-Out คือระบบการจัดการสินค้าตามลำดับเข้าก่อน-ออกก่อน โดยการหยิบสินค้าที่เข้าคลังก่อน ออกไปแพ็กและจัดส่งก่อนเสมอ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดปัญหาสินค้าเสื่อมสภาพจากการเก็บไว้นาน หรือสินค้าประเภทอื่น ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวน เปลี่ยนราคาอยู่บ่อย ๆ  และยังทำให้การหมุนเวียนสินค้าในคลังเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างสินค้าเช่น เสื้อผ้า รองเท้า รวมถึงสินค้าที่มีหลายชนิดและมีการเปลี่ยนแปลงสต๊อกบ่อยครั้ง อย่างอุปกรณ์แฟชัน ของตกแต่งหรือเครื่องใช้ต่าง ๆ เป็นต้น 

นอกจากนี้ การใช้ระบบ FIFO ยังช่วยให้สินค้าที่อยู่ในคลังเป็นล็อตล่าสุดอยู่เสมอ ช่วยให้การบริหารสต๊อกง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงของสินค้าค้างสต๊อกได้ครับ

ประโยชน์ของการหยิบสินค้าแบบ FIFO 

  • เป็นการเช็คคุณภาพของสินค้าที่จะส่งให้ลูกค้า ว่าสินค้าของคุณจะไม่หมดอายุก่อนที่จะส่งถึงมือลูกค้า และมั่นใจได้ว่าสินค้าที่คงอยู่ในคลังเป็นสินค้าใหม่
  • ช่วยให้การทำบัญชีง่ายขึ้น เพราะสามารถวัดมูลค่าของสินค้าคงคลัง หรือ มูลค่าผันแปรต่อเดือนได้ โดยคิดง่าย ๆ ครับว่า เงินที่ถูกหักออกไปจากสินค้าคงคลังผันแปรเท่ากับเงินที่เข้ามาในบัญชีรายรับ
  • ทำให้การเก็บและหยิบสินค้ามีระบบมากขึ้น และเป็นระบบที่ยอมรับอย่างกว้างขว้างโดยสากล 

FEFO คืออะไร 

FEFO หรือ First Expire date First Out คือหลักการบริหารคลังสินค้าโดยเน้นการจ่ายสินค้าที่ใกล้หมดอายุก่อน ซึ่งต่างจากระบบ FIFO ที่เน้นลำดับเวลาการเข้าคลัง FEFO จะเน้นวันหมดอายุ (Expiry Date) เป็นหลักในการจัดเรียงและหยิบสินค้า โดยระบบนี้ Lot Number และวันหมดอายุของสินค้า จะถูกบันทึกตั้งแต่ขั้นตอนการรับสินค้าเข้าคลัง (Inbound) เพื่อให้สามารถตรวจสอบและหยิบสินค้าได้อย่างถูกต้องในลำดับที่ใกล้หมดอายุก่อนทุกครั้งที่มีการแพ็กหรือจัดส่ง 

โดยการจัดเก็บแบบ FEFO จะช่วยลดความผิดพลาด เช่น การหยิบสินค้าที่หมดอายุไปส่งให้ลูกค้า และช่วยให้สามารถควบคุมคุณภาพของสินค้าได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับสินค้าในกลุ่มที่มีอายุการใช้งานจำกัด เช่น อาหารเสริม สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม และเวชภัณฑ์หรือสินค้าเภสัชกรรม เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ก่อนจัดเก็บสินค้าเข้าคลัง ควรมีการแยกและติดป้ายวันที่หมดอายุให้ชัดเจน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถหยิบสินค้าตามลำดับวันหมดอายุได้อย่างสะดวกและรวดเร็วครับ 

ประโยชน์ของการหยิบสินค้าแบบ FEFO

  • ลดความเสียหายจากการหมดอายุของสินค้า
  • สามารถตรวจสอบอายุการเก็บรักษาของสินค้าที่เหลืออยู่ในคลัง และจัดการระบายสินค้าออกก่อนวันหมดอายุได้
  • เป็นการบริหารสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพและสามารถทำได้ง่าย

LIFO คืออะไร 

LIFO หรือ Last In First Out เหมาะสำหรับสินค้าประเภทที่มีอายุจำกัด เช่น พวกสารเคมีต่าง ๆ โดยมีหลักการหยิบ คือหยิบสินค้าที่เข้ามาล่าสุดเสมอ ตามหลักของระบบการเข้าหลังออกก่อน แม้ว่าจะทำได้ยากเนื่องจากต้องบันทึกข้อมูลสินค้าเยอะกว่า แต่ก็ยังเป็นที่นิยมเพราะ การหยิบและบริหารคลังสินค้าแบบ LIFO ช่วยอำนวยเรื่องกำไรและภาษีครับ

ประโยชน์ของการหยิบสินค้าแบบ LIFO 

  • ทำให้คิดต้นทุนสินค้าได้ง่ายกว่า โดยต้นทุนสินค้ามีราคาใกล้กับราคาตลาดในปัจจุบันมากที่สุด เพราะเป็นสินค้าที่เข้ามาล่าสุด
  • เมื่อราคาของสินค้าในตลาดเพิ่มขึ้น ราคาของสินค้าจะกลายเป็นกำไรทันทีเมื่อขายออกไป
  • ใช้เพื่อลดกำไรสุทธิ เมื่อสินค้าที่เข้ามาล่าสุดออกไปก่อนดังนั้นเมื่อองค์กรมีอัตราภาษีสูงขึ้น จึงใช้การหยิบเเละบริหารคลังแบบ LIFO
FIFO และ FEFO

ความแตกต่างระหว่าง FIFO และ FEFO  

แม้ทั้ง FIFO และ FEFO จะเป็นระบบการบริหารจัดการสต็อกที่เน้นความเป็นระเบียบและลดของเสีย แต่ก็มีหลักการที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพื่อให้เห็นภาพง่ายขึ้น ผมสรุปเปรียบเทียบไว้ดังนี้ครับ  

  1. FIFO (First-In, First-Out) เป็นวิธีการหยิบสินค้าตามลำดับที่รับเข้าคลัง หมายความว่าสินค้าที่เข้าคลังก่อน จะถูกหยิบออกไปก่อน เหมาะกับสินค้าที่มีวันหมดอายุ เช่น อาหาร เครื่องดื่มหรือสินค้าแฟชั่นที่เปลี่ยนซีซันเร็ว
  2. FEFO (First-Expired, First-Out) เป็นการหยิบสินค้าตามวันหมดอายุ โดยสินค้าที่ใกล้หมดอายุก่อน จะถูกหยิบออกไปก่อน ไม่ว่าสินค้าล็อตนั้นจะเข้าคลังก่อนหรือหลัง เหมาะสำหรับสินค้าที่มีอายุการใช้งานแน่นอน เช่น ยา เวชภัณฑ์ หรือเครื่องสำอาง 
การหยิบสินค้า

สรุปบทความ 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกใช้ FIFO หรือ FEFO ระบบการเก็บสินค้าที่ดีมีส่วนสำคัญมากครับ ควรจัดวางสินค้าให้เป็นระเบียบ มีป้ายแสดงข้อมูลชัดเจน เช่น วันที่รับเข้าและวันหมดอายุ เพื่อช่วยให้หยิบสินค้าได้แม่นยำ รวดเร็ว และลดการผิดพลาดเวลาจัดส่งให้ลูกค้า สำหรับที่ MyCloud Fulfillment เราให้ความสำคัญกับความถูกต้องเป็นอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะในการบริหารจัดการคลังสินค้าของเราค่อนข้างมีความยืดหยุ่น ซึ่งจะใช้ระบบหยิบสินค้าแบบ Barcode Scan ที่มีความแม่นยำสูง ลดข้อผิดพลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับทั้งการจัดเก็บและหยิบสินค้าทั้งแบบ FIFO, FEFO และ LIFO ตามลักษณะของสินค้าและความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย 

ซึ่งโดยปกติแล้วการหยิบสำหรับสินค้าทั่วไป เช่น เสื้อผ้าหรือของใช้ที่ไม่มีวันหมดอายุชัดเจนเราจะใช้การหยิบแบบแบบ FIFO เป็นพื้นฐาน แต่สำหรับสินค้าที่มีวันหมดอายุชัดเจน เช่นพวก สกินแคร์ เครื่องสำเอง อาหารเสริม อาหารแห้งต่าง ๆ เราจะใช้การหยิบแบบ FEFO เพื่อความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้าทุกชิ้น อย่างไรก็ตามลูกค้าสามารถระบุมาในระบบได้ว่าจะใช้ Exp. อะไรในระบบ ซึ่งเราเก็บได้ทั้ง Lot. และ Exp. ครับ

นอกจากการจัดการคลังที่ยืดหยุ่น ยังสามารถทำงานควบคู่ไปกับระบบการจัดการคลังสินค้าออนไลน์ โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบ WMS และระบบ OMS เชื่อมต่อผ่าน API ช่วยให้แบรนด์จัดการคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางได้ในระบบเดียว นอกจากนี้ ยังรองรับการขาย Omni Channel ทั้ง ShopeeLazadaTikTok หรือ Line OA ไม่ว่าออเดอร์จะเข้ามามากแค่ไหนก็ไม่ว่าปริมาณออเดอร์จะมากแค่ไหนก็สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ MyCloud เราสามารถเพิ่มกำลังคนจัดการออเดอร์และรองรับการขยายได้ถึง 3.5 เท่า ด้วยพื้นที่คลังสินค้าขนาดใหญ่กว่า 10,000 ตร.ม.

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742, 02-138-9920
อีเมล: [email protected]
line: @mycloudgroup
MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก
บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

8 แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ขายที่ไหนดีที่สุด?

จะเห็นได้ว่าหลายคนเริ่มหันมาช้อปปิ้งออนไลน์แทนการไปหยิบจับของเองที่หน้าร้านแล้ว ซึ่งสิ่งนี้นี่แหละที่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการจำนวนมากหันมาให้ความสนใจกับการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น แต่ท่ามกลางตัวเลือกที่หลากหลาย หลายคนก็อาจสงสัยว่าควรเลือกขายบนแพลตฟอร์มไหนดี วันนี้ MyCloud จะพาคุณไปรู้จักกับ 8 แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ยอดนิยมที่น่าสนใจ พร้อมแนะนำวิธีการจัดการร้านค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุดกัน    แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ คืออะไร แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ คือพื้นที่กลางที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถนำเสนอสินค้าสู่ผู้บริโภคได้โดยตรง เปรียบเสมือนตลาดดิจิทัลที่เชื่อมโยงผู้ขายและผู้ซื้อเข้าด้วยกัน จึงทำให้การซื้อขายเกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไร้ข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา แพลตฟอร์มขายของออนไลน์เหล่านี้ จึงมาพร้อมระบบจัดการร้านค้าที่ครบครัน ตั้งแต่การจัดการสินค้า ระบบชำระเงิน การจัดการคำสั่งซื้อไปจนถึงระบบขนส่ง ทำให้ผู้ขายสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง นอกจากนี้ ยังมีฐานลูกค้าที่พร้อมจะเข้าถึงสินค้าของคุณอยู่แล้วอีกด้วย   8 อันดับแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่นิยมในไทย มาดูกันว่าแพลตฟอร์มไหนที่น่าสนใจสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ของคุณบ้าง ดังนี้    1. TikTok Shop ม้ามืดแซงทุกแพลตฟอร์มในตอนนี้ TikTok Shop คือพื้นที่ที่กำลังมาแรงในวงการอีคอมเมิร์ซ ด้วยจุดเด่นของการผสมผสานความบันเทิงเข้าในรูปแบบคลิปวิดีโอสั้นพร้อมกับสามารถช้อปปิ้งซื้อ-ขายสินค้าได้ภายในแอปพลิเคชันเดียว ทำให้ผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้าที่สร้างสรรค์และน่าสนใจ เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานรุ่นใหม่ได้อย่างตรงเป้า โดยการขายสินค้าผ่านติ๊กต๊อกนั้น ระบบจะเชื่อมต่อกับคอนเทนต์วิดีโอโดยตรง ผู้ซื้อสามารถเห็นการสาธิตสินค้าผ่านคลิปวิดีโอ หรือ Live ขายของและกดซื้อสินค้าผ่านได้ทันที โดยไม่ต้องออกจากแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ TikTok Live ที่ช่วยให้ผู้ขายสามารถไลฟ์สดขายสินค้าและโต้ตอบกับลูกค้าได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย   2. […]

4 กลยุทธ์พลิกโฉม E-Commerce ที่ธุรกิจออนไลน์ห้ามพลาด

แบรนด์ทุกแบรนด์ หรือธุรกิจต่าง ๆ มีโมเดลที่แตกต่างกัน แต่เมื่อพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปทุกวัน แบรนด์ก็ต้องต้องเต็มใจที่จะปรับตัวหรือกล้าเสี่ยงอะไรใหม่ ๆ ดังนั้นหากคุณพร้อมที่จะพลิกโฉมธุรกิจ E-Commerce ของคุณ วันนี้ MyCloud นำ 4 กลยุทธ์ที่จะช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้กับคุณ แบรนด์ของคุณ และลูกค้าของคุณมาให้อ่านกันค่ะ

8 แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ขายที่ไหนดีที่สุด?

จะเห็นได้ว่าหลายคนเริ่มหันมาช้อปปิ้งออนไลน์แทนการไปหยิบจับของเองที่หน้าร้านแล้ว ซึ่งสิ่งนี้นี่แหละที่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการจำนวนมากหันมาให้ความสนใจกับการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น แต่ท่ามกลางตัวเลือกที่หลากหลาย หลายคนก็อาจสงสัยว่าควรเลือกขายบนแพลตฟอร์มไหนดี วันนี้ MyCloud จะพาคุณไปรู้จักกับ 8 แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ยอดนิยมที่น่าสนใจ พร้อมแนะนำวิธีการจัดการร้านค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุดกัน    แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ คืออะไร แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ คือพื้นที่กลางที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถนำเสนอสินค้าสู่ผู้บริโภคได้โดยตรง เปรียบเสมือนตลาดดิจิทัลที่เชื่อมโยงผู้ขายและผู้ซื้อเข้าด้วยกัน จึงทำให้การซื้อขายเกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไร้ข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา แพลตฟอร์มขายของออนไลน์เหล่านี้ จึงมาพร้อมระบบจัดการร้านค้าที่ครบครัน ตั้งแต่การจัดการสินค้า ระบบชำระเงิน การจัดการคำสั่งซื้อไปจนถึงระบบขนส่ง ทำให้ผู้ขายสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง นอกจากนี้ ยังมีฐานลูกค้าที่พร้อมจะเข้าถึงสินค้าของคุณอยู่แล้วอีกด้วย   8 อันดับแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่นิยมในไทย มาดูกันว่าแพลตฟอร์มไหนที่น่าสนใจสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ของคุณบ้าง ดังนี้    1. TikTok Shop ม้ามืดแซงทุกแพลตฟอร์มในตอนนี้ TikTok Shop คือพื้นที่ที่กำลังมาแรงในวงการอีคอมเมิร์ซ ด้วยจุดเด่นของการผสมผสานความบันเทิงเข้าในรูปแบบคลิปวิดีโอสั้นพร้อมกับสามารถช้อปปิ้งซื้อ-ขายสินค้าได้ภายในแอปพลิเคชันเดียว ทำให้ผู้ขายสามารถนำเสนอสินค้าที่สร้างสรรค์และน่าสนใจ เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานรุ่นใหม่ได้อย่างตรงเป้า โดยการขายสินค้าผ่านติ๊กต๊อกนั้น ระบบจะเชื่อมต่อกับคอนเทนต์วิดีโอโดยตรง ผู้ซื้อสามารถเห็นการสาธิตสินค้าผ่านคลิปวิดีโอ หรือ Live ขายของและกดซื้อสินค้าผ่านได้ทันที โดยไม่ต้องออกจากแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ TikTok Live ที่ช่วยให้ผู้ขายสามารถไลฟ์สดขายสินค้าและโต้ตอบกับลูกค้าได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย   2. […]

4 กลยุทธ์พลิกโฉม E-Commerce ที่ธุรกิจออนไลน์ห้ามพลาด

แบรนด์ทุกแบรนด์ หรือธุรกิจต่าง ๆ มีโมเดลที่แตกต่างกัน แต่เมื่อพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปทุกวัน แบรนด์ก็ต้องต้องเต็มใจที่จะปรับตัวหรือกล้าเสี่ยงอะไรใหม่ ๆ ดังนั้นหากคุณพร้อมที่จะพลิกโฉมธุรกิจ E-Commerce ของคุณ วันนี้ MyCloud นำ 4 กลยุทธ์ที่จะช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้กับคุณ แบรนด์ของคุณ และลูกค้าของคุณมาให้อ่านกันค่ะ