Knowledge Center

ทำความรู้จักกับอัตรา Fast Handover Rate คืออะไร เปิดร้านบน Shopee ต้องรู้ไว้! 

ผู้ขายส่งมองพัสดุได้ทันตามระยะเวลาที่กำหนด

การขายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ อย่าง Shopee การจัดการคำสั่งซื้อให้มีประสิทธิภาพถือเป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะ Fast Handover Rate หรืออัตราการจัดส่งเร็วเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่ผู้ขายทุกคนควรต้องให้ความสนใจ เพราะไม่เพียงแต่จะสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการจัดส่งสินค้าเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้าและอันดับร้านค้าบนแพลตฟอร์ม วันนี้ MyCloud จะพาคุณไปทำความรู้จักว่า อัตราการจัดส่งเร็ว คืออะไร ในบทความนี้กัน! 

อัตราการจัดส่งเร็ว (Fast Handover Rate) คืออะไร 

Fast Handover Rate (FHR) คืออัตราการส่งมอบสินค้าสำหรับคำสั่งซื้อที่ได้รับการยืนยันสถานะที่ต้องจัดส่งและสามารถมอบพัสดุให้กับบริษัทขนส่งภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยจะมีการคำนวณอัตรานี้ จากคำสั่งซื้อทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงระยะ 30 วันย้อนหลังที่มีคำสั่งซื้อ 

ทั้งนี้ ยังมีเกณฑ์การคำนวณอัตราการจัดส่งเร็วได้จากเวลาตัดรอบ เพื่อทำการส่องมอบพัสดุในกับบริษัทขนส่ง ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ได้แก่

  1. คำสั่งซื้อที่ได้รับการยืนยัน ก่อนเวลา 12:00 น. ผู้ขายต้องส่งมอบพัสดุในกับบริษัทขนส่งภายในเวลา 23:59 น. ของวันที่คำสั่งซื้อได้รับการยืนยัน 
  2. คำสั่งซื้อที่ได้รับการยืนยัน หลังเวลา 12:00 น. ผู้ขายต้องส่งมอบพัสดุในกับบริษัทขนส่งภายในเวลา 23:59 น. ของวันถัดไปที่คำสั่งซื้อได้รับการยืนยัน 

วิธีการคำนวณอัตรา Fast Handover Rate 

การคำนวณ Fast Handover Rate ค่อนข้างจะมีความซับซ้อนและแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาที่คำสั่งซื้อได้รับการยืนยัน โดยระบบจะพิจารณาจากระยะเวลาตั้งแต่ได้รับออเดอร์จนถึงการส่งมอบให้บริษัทขนส่ง ซึ่งมีการกำหนดเงื่อนไขและมาตรฐานเวลาที่แตกต่างกันในแต่ละกรณี ดังนี้ 

1. กรณีได้รับคำสั่งซื้อภายในวันทำการปกติ 

สำหรับคำสั่งซื้อที่เข้ามาในวันทำการปกติ หากได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาก่อนเวลา 12:00 น. ร้านค้าจะต้องดำเนินการจัดส่งสินค้าให้กับบริษัทขนส่งภายในวันเดียวกันก่อนเวลา 23:59 น. หากได้รับคำสั่งซื้อหลัง 12:00 น. ระบบจะให้เวลาถึงวันทำการถัดไป โดยผู้ขายจะต้องทำการส่งมอบพัสดุให้กับขนส่งภายในเวลา 23:59 น. ของวันถัดไปนั่นเอง  

2. กรณีได้รับคำสั่งซื้อภายในวันที่วันถัดไปเป็นวันหยุด 

เมื่อได้รับคำสั่งซื้อในวันก่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ ระบบจะมีการปรับเกณฑ์การคำนวณ Fast Handover Rate ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยร้านค้าจะได้รับการขยายเวลาในการจัดส่งไปจนถึงวันทำการถัดไป โดยไม่นับรวมวันหยุด เช่น

  • ผู้ขายได้รับคำสั่งซื้อก่อนเวลา 12:00 น. ต้องส่งมอบพัสดุภายในวันเดียวกับที่ได้รับคำสั่งซื้อ ภายในเวลา 23:59 น.
  • หากผู้ขายได้รับคำสั่งซื้อหลังเวลา 12:00 น. และวันถัดไปเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้ขายจะต้องทำการส่งมอบพัสดุในแก่บริษัทขนส่งในวันที่ 3 นับจากวันที่ได้รับคำสั่งซื้อ และส่งมอบภายใน เวลา 23:59 น. ของวันนั้น 

3. กรณีได้รับคำสั่งซื้อในวันหยุด 

สำหรับคำสั่งซื้อที่เข้ามาในวันหยุด ระบบจะเริ่มนับระยะเวลาในการจัดส่งตั้งแต่วันทำการถัดไป โดยในกรณีนี้ คำสั่งซื้อที่ได้รับการยืนยัน ทั้งก่อนเวลา 12:00 น. และหลังเวลา 12:00 น. ของวันที่ 1 จะได้รับการขยายเวลาในการจัดส่งออกไป 1 วัน ควรส่งมอบพัสดุภายในเวลา 23:59 น. ของวันที่ 3 ที่ได้รับคำสั่งซื้อให้แก่ขนส่ง อย่างไรก็ตาม ร้านค้าที่สามารถจัดการและจัดส่งสินค้าได้แม้จะเป็นวันหยุดก็จะได้เปรียบในแง่ของความพึงพอใจของลูกค้า และอาจส่งผลดีต่อยอดขายในระยะยาวอีกด้วย  

ลูกค้าได้รับสินค้าตามระยะเวลาที่กำหนด

Fast Handover Rate มีประโยชน์อย่างไรต่อร้านค้าบน Shopee 

ค่า FHR ไม่เพียงแต่เป็น SLA หรือตัวชี้วัดประสิทธิภาพการจัดส่งเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการขายสินค้าบน Shopee ซึ่งร้านค้าที่มีอัตรา Fast Handover Rate สูง สามารถส่งสินค้าได้ถึงมือลูกค้าปลายทางได้อย่างรวดเร็วก็จะช่วยสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ซื้อได้มากยิ่งขึ้น ถือเป็นการมอบประสบการณ์การช้อปที่ดีให้แก่ลูกค้า ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้น เพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำและได้ฐานลูกค้าประจำ ยิ่งไปกว่านั้น ยังส่งผลให้มีโอกาสได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และมีผลต่อการจัดอันดับร้านค้าในระบบ Shopee ทำให้ร้านค้ามีโอกาสปรากฏในผลการค้นหามากขึ้น โดยถือว่าเกณฑ์ FHR เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการพิจารณา เพื่อคัดเลือกร้านให้เข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ ในอนาคต เช่น ร้านค้าแนะนำหรือกลายเป็นร้านค้าทางการบน Shopee Mall ได้อีกด้วย   

ข้อควรระวังสำหรับการคำนวณ FHR  

อย่างไรก็ตาม สำหรับขายของออนไลน์บน Shopee ก็ยังมีข้อควรระวังเช่นกัน ทั้งนี้ ควรรักษาระดับอัตรา Fast Handover Rate ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยต้องอาศัยความระมัดระวังในหลายด้าน ร้านค้าที่ดีควรหลีกเลี่ยงการรับคำสั่งซื้อเกินกำลังการจัดส่ง และควรต้องมีการบริหารจัดการสต๊อกที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งวางแผนสำรองสำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น ปัญหาการแพ็คสินค้าไม่ทัน ปัญหาด้านการขนส่งหรือสินค้าขาดสต๊อก หากผู้ขายละเลยปัญหาการขายของออนไลน์เหล่านี้ไป อาจทำให้อัตรา FHR ลดลงได้ ซึ่งอาจทำให้ยอดขายตกและส่งผลต่อภาพลักษณ์ของร้านค้าได้  

คำถามที่พบบ่อย  

คำสั่งซื้อที่ต้องจัดส่งสามารถคิดอัตรา Fast Handover Rate ได้อย่างไร 

อัตราการจัดส่งเร็วนั้นจะพิจารณาเฉพาะคำสั่งซื้อที่ได้รับการยืนยันและต้องจัดส่งเท่านั้น โดยระบบจะติดตามระยะเวลาตั้งแต่ที่ผู้ขายได้รับคำสั่งซื้อจนถึงการส่งมอบพัสดุให้กับบริษัทขนส่ง อย่างไรก็ตาม คำสั่งซื้อที่ถูกยกเลิกหรือมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการจัดส่งนั้น จะไม่ถูกนำมาคำนวณ เพื่อรักษาระดับ FHR ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ร้านค้าควรติดตามและจัดการคำสั่งซื้อทุกรายการอย่างเป็นระเบียบและรวดเร็วภายในระยะเวลาที่กำหนด 

สินค้าที่ใช้เวลาในการจัดส่งนานกว่าปกติ (Pre-order) มีการคำนวณอัตรา Fast Handover Rate ไหม? 

สินค้า Pre-order หรือสินค้าที่ใช้เวลาเตรียมจัดส่งนานกว่าปกติ จะมีจะมีการ FHR แยกต่างหาก โดยจะพิจารณาจากระยะเวลาที่ร้านค้าระบุไว้ในตอนลงขายสินค้า เพื่อให้การคำนวณ Fast Handover Rate เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ร้านค้าควรระบุระยะเวลาการจัดส่งที่สามารถทำได้จริง หากระบุระยะเวลาไม่ตรงกับความเป็นจริงอาจส่งผลเสียต่อเกณฑ์การคำนวณได้ 

หากไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ตามอัตรา Fast Handover Rate ที่กำหนด ทำอย่างไรได้บ้าง? 

กรณีที่ผู้ขายไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ตามกำหนด ควรดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยอาจเริ่มจากการปรับปรุงเรื่องงานระบบหลังบ้านในส่วนงาน Operation ต่าง ๆ ให้ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบจัดการออเดอร์หรือพนักงานแพ็คสินค้า หากพบว่ามีปัญหาติดขัดตรงไหนก็จะช่วยดำเนินการในจัดการออเดอร์แต่ละครั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน MyCloud Fulfillment สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างตรงจุดและสามารถจัดการออเดอร์ให้จัดส่งภายใน 24 ชม. การันตีจัดส่งทัน 99.5%  ด้วยระบบจัดการออเดอร์ OMS (Order Management System) ที่ช่วยจัดการครอบคลุมตั้งแต่ลูกค้ากดสั่งซื้อสินค้าเข้ามา และระบบจะดึงออเดอร์ทุกๆ 3 นาที อัปเดตไปยังคลังสินค้าเพื่อทำการแพ็ค 

อีกทั้งยังมีพนักงานที่พร้อมจัดการออเดอร์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในวันปกติและวันที่มีแคมเปญการขายใหญ่ ๆ อย่างในช่วง Double Day หากร้านค้าไหนที่มีจำนวนออเดอร์เยอะ ๆ เข้ามากะทันหันก็หมดห่วงในเรื่องนี้ไปได้เลย เพราะ MyCloud เราสามารถเพิ่มกำลังคนจัดการออเดอร์และรองรับการขยายได้ถึง 3.5 เท่า ด้วยพื้นที่คลังสินค้าขนาดใหญ่กว่า 12,000 ตร.ม. และมีทีมงานหลังบ้านคอยซัพพอร์ตร้านค้าออนไลน์ ตั้งแต่ช่วยวางแผนก่อนเริ่มแคมเปญจากทีม Customer Service และทีม IT Support เพื่อให้ออเดอร์ที่เกิดขึ้นช่วงระหว่างแคมเปญถูกจัดการได้อย่างราบรื่นและจัดส่งได้ทันตามเกณฑ์ SLA อย่างแน่นอน 

พนักงานเช็กสต็อกสินค้า

สรุปบทความ 

Fast Handover Rate ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่สะท้อนประสิทธิภาพการจัดการคำสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าของร้านค้าบน Shopee ดังนั้น การเข้าใจถึงวิธีการคำนวณ พร้อมทั้งการบริหารจัดการที่ดีก็จะช่วยให้ร้านค้าของคุณสามารถรักษาระดับ FHR ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีได้ ซึ่งจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของร้านค้าและความพึงพอใจของลูกค้า ทั้งนี้ ก็จำเป็นต้องอาศัยระบบการจัดการที่ อย่างระบบ Order Management System จาก MyCloud Fulfillment โดยสามารถช่วยยกระดับการจัดการคำสั่งซื้อและการจัดส่งของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น ช่วยให้คุณสามารถส่งมอบพัสดุให้กับบริษัทขนส่งไปภายในเวลาที่กำหนด นำไปสู่การเติบโตของยอดขายและความสำเร็จในการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์ม Shopee ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Fast Dispatch Rate คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรสำหรับผู้ค้าบน TikTok Shop  

ท่ามกลางแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมากมาย TikTok Shop กำลังเป็นที่จับตามองและได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ด้วยจุดเด่นที่เชื่อมโยงการช้อปปิ้งเข้ากับคอนเทนต์วิดีโอสั้นได้อย่างลงตัว แต่การที่จะประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มนี้ได้นั้น ผู้ขายก็จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วและตรงเวลา Fast Dispatch Rate หรือ FDR จึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ TikTok Shop นำมาใช้วัดประสิทธิภาพการจัดส่งสินค้าของร้านค้า ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการเข้าถึงสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ ที่จะช่วยผลักดันให้ร้านค้าเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดอีกด้วย   Fast Dispatch Rate คืออะไร  Fast Dispatch Rate หรือเรียกย่อว่า FDR คือ SLA ตัวชี้วัดประสิทธิภาพในการจัดส่งสินค้าของร้านค้าบน TikTok Shop โดยคำนวณจากสัดส่วนของคำสั่งซื้อที่ร้านค้าสามารถจัดส่งให้กับบริษัทขนส่งได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด เทียบกับจำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดในช่วง 30 วันที่ผ่านมา โดย TikTok Shop ได้กำหนดมาตรฐานการจัดส่งที่แตกต่างกันตามช่วงเวลาที่ได้รับคำสั่งซื้อ เพื่อให้ผู้ขายสามารถบริหารจัดการการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า  วิธีการคำนวณ Fast Dispatch Rate  การคำนวณ Fast Dispatch Rate นั้นไม่ซับซ้อน แต่ผู้ขายจำเป็นต้องเข้าใจหลักเกณฑ์การจัดส่งที่ถือว่า “เร็ว” ตามมาตรฐานของ […]

Inventory Management คืออะไร มีประเภท มีประโยชน์อย่างไรบ้าง 

การบริหารจัดการสินค้าในคลังเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะธุรกิจ E-commerce ที่ต้องการความแม่นยำและรวดเร็วในการจัดการสต็อกสินค้า Inventory Management คือระบบที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตาม วางแผนและควบคุมสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่ามีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ขณะเดียวกันก็ไม่มีสินค้าค้างสต็อกมากเกินไปจนกระทบต่อต้นทุน บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับระบบ Inventory Management กันว่าคืออะไร มีกี่ประเภทและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง    Inventory Management คืออะไร Inventory Management คือกระบวนการบริหารจัดการคลังสินค้าแบบครบวงจร ที่ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนสต็อกสินค้า การติดตามการไหลเวียนของสินค้าตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการจัดเก็บและการขาย โดยจะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการสินค้าให้มีปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา ลดภาระในการเก็บสินค้ามากเกินความจำเป็น และช่วยให้มีสินค้าพร้อมจำหน่ายได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด นอกจากนี้ Inventory Management ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน  ประเภทของสินค้าคงคลัง การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management) ที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากความเข้าใจในประเภทของสินค้าที่จัดเก็บ เพราะสินค้าแต่ละประเภทต้องการการดูแลและจัดการที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะ Inventory Management คือระบบที่ต้องรองรับการจัดการสินค้าทุกประเภทอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถแยกออกได้ 4 ประเภท ดังนี้    สินค้าพร้อมขาย  สินค้าที่เตรียมพร้อมสำหรับการจัดส่งให้ลูกค้าทันทีที่มีคำสั่งซื้อเข้ามา ดังนั้น การบริหารสินค้าคงคลังหรือ Inventory Management คือตัวช่วยหลังบ้านที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้ร้านค้าสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และจัดส่งสินค้าตามระยะเวลา (SLA) ได้ตาามกำหนด […]

Big Data คืออะไร ขุมทรัพย์แห่งธุรกิจ E-Commerce & Logistics นำมาปรับใช้ได้อย่างไรบ้าง

         ต่อเนื่องกันกับเทคโนโลยีที่จะสามารถเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจแบบเดิม ๆ ที่เราได้พูดถึงใน Technology & Trends ที่น่าลงทุนสำหรับธุรกิจ logistic ก็ยังมีอีกหลาย ๆ เทคโนโลยีที่ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มนำเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจมากขึ้นในปัจจุบันนี้ค่ะ เพื่อที่จะนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาจัดการกับ “Big Data” วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก Big Data ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาของเทคโนโลยีในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีมากมายมหาศาลในปัจจุบัน และความสำคัญของ Big Data ในธุรกิจ E-Commerce และ Logistics กันค่ะ อีกทั้ง Big Data ยังถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจปรับตัวเข้าสู่ยุค Digital Disruption หรือ ที่เรียกว่า Digital Transformation นั่นเองค่ะ  Big Data คืออะไร? Big Data คือข้อมูลตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ทางคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในรูปแบบสัญญาณไฟฟ้า ในด้าน E-Commerce และ Logistics ข้อมูลถูกสร้างขึ้นใหม่อยู่เสมอโดยเทคโนโลยีดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น […]

Fast Dispatch Rate คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรสำหรับผู้ค้าบน TikTok Shop  

ท่ามกลางแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมากมาย TikTok Shop กำลังเป็นที่จับตามองและได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ด้วยจุดเด่นที่เชื่อมโยงการช้อปปิ้งเข้ากับคอนเทนต์วิดีโอสั้นได้อย่างลงตัว แต่การที่จะประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มนี้ได้นั้น ผู้ขายก็จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วและตรงเวลา Fast Dispatch Rate หรือ FDR จึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ TikTok Shop นำมาใช้วัดประสิทธิภาพการจัดส่งสินค้าของร้านค้า ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการเข้าถึงสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ ที่จะช่วยผลักดันให้ร้านค้าเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดอีกด้วย   Fast Dispatch Rate คืออะไร  Fast Dispatch Rate หรือเรียกย่อว่า FDR คือ SLA ตัวชี้วัดประสิทธิภาพในการจัดส่งสินค้าของร้านค้าบน TikTok Shop โดยคำนวณจากสัดส่วนของคำสั่งซื้อที่ร้านค้าสามารถจัดส่งให้กับบริษัทขนส่งได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด เทียบกับจำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดในช่วง 30 วันที่ผ่านมา โดย TikTok Shop ได้กำหนดมาตรฐานการจัดส่งที่แตกต่างกันตามช่วงเวลาที่ได้รับคำสั่งซื้อ เพื่อให้ผู้ขายสามารถบริหารจัดการการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า  วิธีการคำนวณ Fast Dispatch Rate  การคำนวณ Fast Dispatch Rate นั้นไม่ซับซ้อน แต่ผู้ขายจำเป็นต้องเข้าใจหลักเกณฑ์การจัดส่งที่ถือว่า “เร็ว” ตามมาตรฐานของ […]

Inventory Management คืออะไร มีประเภท มีประโยชน์อย่างไรบ้าง 

การบริหารจัดการสินค้าในคลังเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะธุรกิจ E-commerce ที่ต้องการความแม่นยำและรวดเร็วในการจัดการสต็อกสินค้า Inventory Management คือระบบที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตาม วางแผนและควบคุมสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่ามีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ขณะเดียวกันก็ไม่มีสินค้าค้างสต็อกมากเกินไปจนกระทบต่อต้นทุน บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับระบบ Inventory Management กันว่าคืออะไร มีกี่ประเภทและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง    Inventory Management คืออะไร Inventory Management คือกระบวนการบริหารจัดการคลังสินค้าแบบครบวงจร ที่ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนสต็อกสินค้า การติดตามการไหลเวียนของสินค้าตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการจัดเก็บและการขาย โดยจะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการสินค้าให้มีปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา ลดภาระในการเก็บสินค้ามากเกินความจำเป็น และช่วยให้มีสินค้าพร้อมจำหน่ายได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด นอกจากนี้ Inventory Management ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน  ประเภทของสินค้าคงคลัง การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management) ที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากความเข้าใจในประเภทของสินค้าที่จัดเก็บ เพราะสินค้าแต่ละประเภทต้องการการดูแลและจัดการที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะ Inventory Management คือระบบที่ต้องรองรับการจัดการสินค้าทุกประเภทอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถแยกออกได้ 4 ประเภท ดังนี้    สินค้าพร้อมขาย  สินค้าที่เตรียมพร้อมสำหรับการจัดส่งให้ลูกค้าทันทีที่มีคำสั่งซื้อเข้ามา ดังนั้น การบริหารสินค้าคงคลังหรือ Inventory Management คือตัวช่วยหลังบ้านที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้ร้านค้าสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และจัดส่งสินค้าตามระยะเวลา (SLA) ได้ตาามกำหนด […]

Big Data คืออะไร ขุมทรัพย์แห่งธุรกิจ E-Commerce & Logistics นำมาปรับใช้ได้อย่างไรบ้าง

         ต่อเนื่องกันกับเทคโนโลยีที่จะสามารถเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจแบบเดิม ๆ ที่เราได้พูดถึงใน Technology & Trends ที่น่าลงทุนสำหรับธุรกิจ logistic ก็ยังมีอีกหลาย ๆ เทคโนโลยีที่ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มนำเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจมากขึ้นในปัจจุบันนี้ค่ะ เพื่อที่จะนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาจัดการกับ “Big Data” วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก Big Data ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาของเทคโนโลยีในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีมากมายมหาศาลในปัจจุบัน และความสำคัญของ Big Data ในธุรกิจ E-Commerce และ Logistics กันค่ะ อีกทั้ง Big Data ยังถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจปรับตัวเข้าสู่ยุค Digital Disruption หรือ ที่เรียกว่า Digital Transformation นั่นเองค่ะ  Big Data คืออะไร? Big Data คือข้อมูลตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ทางคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในรูปแบบสัญญาณไฟฟ้า ในด้าน E-Commerce และ Logistics ข้อมูลถูกสร้างขึ้นใหม่อยู่เสมอโดยเทคโนโลยีดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น […]